tag:blogger.com,1999:blog-2607956776384828731.post2675219132197181540..comments2024-03-26T16:45:49.634+07:00Comments on Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์: ล่าม :: Interpreterprinkotakoon.blogspot.comhttp://www.blogger.com/profile/14705723465727610769noreply@blogger.comBlogger4125tag:blogger.com,1999:blog-2607956776384828731.post-89004851029534110642013-06-16T03:47:26.416+07:002013-06-16T03:47:26.416+07:00จรรยาบรรณของล่าม
จรรยาบรรณสำหรับผู้ปร...จรรยาบรรณของล่าม<br /><br /> จรรยาบรรณสำหรับผู้ประกอบอาชีพล่าม<br /><br />๑. รักษาต้นฉบับ คือต้องแปลให้ตรงกับที่ผู้นำเสนอพูด ไม่มีสิทธิสอดแทรก โดยเฉพาะไม่เพิ่มเติมจนเป็นการอวดรู้กว่าผู้นำเสนอซึ่งเป็นการทำเกินหน้าลูกค้า<br /><br />๒. ไม่เปลี่ยนความหมายของต้นฉบับ ไม่ใส่อารมณ์ หรือการวินิจฉัยส่วนตัวลงไป แต่สามารถตกแต่งภาษาต้นฉบับได้บ้างถ้าบกพร่อง ทั้งนี้ต้องดูว่าผู้ฟังคือใครด้วย<br /><br />๓. รักษาความลับของลูกค้า<br /><br />๔. เคารพคนฟัง เช่น ใช้ภาษาให้เหมาะสมแก่สถานภาพของผู้ฟัง<br /><br />๕. ต้องตรงต่อเวลา ควรไปถึงงานอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง หรือไม่น้อยกว่า ๓๐ นาที เพื่อตรวจสอบเครื่องมือต่าง ๆ เช่น ไมโครโฟน หูฟัง และมีเวลาอ่านต้นฉบับซึ่งอาจได้รับก่อนเวลาเล็กน้อยได้<br /><br />๖. รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาในการเจรจา ถ้าแปลผิดต้องขอโทษได้<br /><br />๗. ไม่บิดเบือนข้อความที่ต้องแปลเพื่อประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่ามการค้าและล่ามในศาล<br /><br />สิ่งที่ต้องปฏิบัติ<br /><br />๑. ผู้ที่ติดต่อประสานงานจนได้งานมาถือว่าเป็นล่ามคนที่หนึ่ง ต้องแจ้งให้เพื่อนล่ามที่จะทำงานร่วมกันทราบถึงงานที่จะทำ ดูแลเพื่อนร่วมงานและอธิบายงานให้ฟังเป็นสังเขป<br /><br />๒. ขอเอกสารที่ผู้นำเสนอใช้ประกอบการนำเสนอมาล่วงหน้า เพื่อจะได้ศึกษาเป็นข้อมูลก่อนเข้าทำล่าม<br /><br />๓. เมื่อไปถึงงานก่อนเวลาแล้ว ควรใช้เวลาช่วงนั้นตรวจสอบอุปกรณ์ในการทำล่ามของตนให้เรียบร้อย หากมีปัญหาต้องรีบแจ้งช่างเทคนิค<br /><br />๔. ควรแบ่งการทำล่ามออกเป็นช่วง ๆ และนัดแนะกันว่าใครจะทำช่วงใด<br /><br />สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ<br /><br />๑. ไม่ทำล่ามคนเดียวเพราะจะเหนื่อยมากจนเป็นผลเสียในการทำงาน<br /><br />๒. ล่ามไม่พูดคุยกันเองในขณะที่ยังเปิดไมค์อยู่ ถ้าจำเป็นต้องกด MUTE เสียก่อน<br /><br />๓. ไม่ทำลายสมาธิเพื่อนล่าม เช่น ค้นหาของวุ่นวาย เคาะปากกา ไอหรือจาม<br /><br />๔. ไม่กระซิบเมื่อเพื่อนล่ามแปลผิด ถ้าจำเป็นเนื่องจากเพื่อนล่ามมีปัญหาให้เปลี่ยนไมค์มาที่ตนและทำล่ามต่อไปจนกว่าเพื่อนล่ามจะพร้อมที่จะทำต่อไปได้ หรือเขียนข้อความที่ถูกต้องใส่กระดาษส่งให้<br /><br />๕. ไม่จับผิด ต้องมีมรรยาทที่จะไม่อวดเด่นอวดดังข่มเพื่อนล่าม<br /><br />๖. ไม่รับประทานอาหารที่จะทำให้ท้องขึ้นหรือท้องเสีย<br /><br /><br /><br /><br />ที่มา :: http://www.michibee.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&No=353994<br /><br /><br /><br />prinkotakoon.blogspot.comhttps://www.blogger.com/profile/14705723465727610769noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2607956776384828731.post-14137639012638699602013-06-16T03:46:38.591+07:002013-06-16T03:46:38.591+07:00คุณสมบัติของล่าม
คุณสมบัติ ๑๐ ประการข...คุณสมบัติของล่าม<br /><br /> คุณสมบัติ ๑๐ ประการของล่ามที่ประสบความสำเร็จ มีดังนี้<br /><br />๑. ต้องมีสมาธิสูง ความจำดี จับประเด็นได้คล่องแคล่ว<br /><br />๒. ต้องมีภาษาดี ความรู้อีกภาษาหนึ่งต้องดีเท่าภาษาแม่หรือต่ำกว่าไม่เกิน ๑๐% การรู้ภาษาที่สามจะช่วยให้สะดวกในการทำงาน ต้องรู้จักใช้ระดับภาษา น้ำเสียง และลีลาการพูดให้ผู้ฟังรู้สึกเสมือนฟังผู้นำเสนอพูดเอง ไม่ใช่ฟังล่าม ต้องครอบคลุมเนื้อหาได้ไม่น้อยกว่า ๘๐% และหมั่นฝึกฝนภาษาทั้งสองอย่างสม่ำเสมอ<br /><br />๓. หาโอกาสสร้างความคุ้นเคยกับสำเนียงภาษาของผู้ที่มิใช่เจ้าของภาษาอังกฤษ เช่น อินเดีย จีน ญี่ปุ่น อาหรับ<br /><br />๔. ล่ามไม่มีสถานภาพ เป็นเสมือนเครื่องจักรที่ใช้หู สมอง ใจ ปาก เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ต้องฝึกพูดและใช้เสียงให้คล่อง ล่ามที่ดีไม่ควรติดคำพูดที่แสดงความไม่มั่นใจ ไร้ความหมาย และสิ้นเปลืองเวลา เช่น เอ่อ อื้อ เอ้อ อ้า ต้องคิดเร็ว พูดเร็ว ฉับไว ไหวทัน และแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที<br /><br />๕. ควรมีความรู้ระดับปริญญาตรีเป็นอย่างน้อย เพื่อให้มีความรู้สาขาใดสาขาหนึ่งอย่างดีเป็นพื้น ถ้างานตรงสาขาก็ง่ายขึ้น<br /><br />๖. ต้องมีความรู้รอบตัวในเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง แรงงาน สิทธิมนุษยชน ฯลฯ เพราะงานที่จะต้องทำเป็นงานหลากหลายสาขา<br /><br />๗. ต้องคอยติดตามความรู้และคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพื่อสะดวกในการแปลคำศัพท์เฉพาะ ไม่มองข้ามคำศัพท์ที่สงสัย ต้องค้นคว้า และตรวจสอบตลอดเวลา<br /><br />๘. ต้องมีอารมณ์ร่วมกับผู้นำเสนอ มีความอดทน ไม่อารมณ์เสียง่าย<br /><br />๙. สุขภาพต้องดีเพราะงานล่ามเป็นงานหนัก<br /><br />๑๐.มีความมั่นใจ บุคลิกภาพดี สุภาพ แต่งกายสะอาดเรียบสมสถานภาพของตน<br /><br /><br /><br /><br />...prinkotakoon.blogspot.comhttps://www.blogger.com/profile/14705723465727610769noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2607956776384828731.post-25600361237881392732013-06-16T03:46:10.236+07:002013-06-16T03:46:10.236+07:00/ล่าม /ล่าม //ล่าม //ล่าม /
1. ล่ามต.../ล่าม /ล่าม //ล่าม //ล่าม / <br /><br /> 1. ล่ามต่อเนื่อง ผู้นำเสนอหยุดเป็นช่วงเพื่อให้ล่ามแปลให้ผู้ฟังฟัง ในการทำล่ามชนิดนี้ ล่ามอาจต้องอยู่ข้างผู้นำเสนอ ใช้ในการประชุมเล็ก การบรรยาย การฝึกอบรม หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผู้นำเสนอบางคนไม่ใคร่ชอบวิธีนี้เพราะระหว่างรอให้ล่ามแปล ความคิดของเขาเสียความต่อเนื่อง อาจลืมสิ่งที่ต้องพูดต่อไป และทำให้การนำเสนอยาวเป็นสองเท่า<br /><br /> ข้อดีสำหรับผู้ทำล่ามประเภทนี้คือมีช่วงให้คิด จดโน้ตได้แต่ไม่ควรใช้ชวเลข หากไม่เข้าใจเนื้อหาส่วนใดก็ซักถามวิทยากร การแปลจึงทำให้สละสลวยได้ ไม่ควรใช้การแปลสรุป<br /><br /> ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ผู้พูดมักค้างประโยคไว้ลอย ๆ บางคนไม่เตรียมตัวมา เนื้อหาวกวน ภาษาไม่สมบูรณ์ พูดยาวเป็นย่อหน้า (ควรหยุดพูดช่วงละไม่เกิน ๒-๓ ประโยค) ทำให้ล่ามแปลลำบาก และล่ามไม่ใคร่ได้รับเอกสารล่วงหน้า<br /><br /> 2. ล่ามฉับพลัน เป็นการทำล่ามไปพร้อมกับผู้นำเสนอพูด ความเหลื่อมของภาษาที่ผู้นำเสนอพูดและภาษาของล่ามไม่ควรมากกว่า ๕ วินาที เท่ากันได้เป็นดีที่สุด การทำล่ามชนิดนี้เหมาะสมกับการประชุมระดับประเทศที่มีผู้ฟังจำนวนมาก หรือการฝึกอบรมที่ต้องการความฉับพลันในการสื่อความ ความถูกต้องสำคัญที่สุด ต้องมีอุปกรณ์ เช่น บูธสำหรับล่าม หูฟัง ไมโครโฟน และเอกสารประกอบ ซึ่งควรได้รับล่วงหน้า ปัจจุบันการทำล่ามรูปแบบนี้เป็นที่นิยมสูงสุดในประเทศไทย<br /><br /> ต้องมีล่ามอย่างน้อย ๒ คน เพราะเป็นการทำล่ามที่เหนื่อยล้า ใช้ในการประชุมที่มีผู้ฟังจำนวนมาก ถ้าแปลไม่ได้หรือไม่ทัน ใช้การแปลสรุปได้ในเรื่องที่เกี่ยวกับ กราฟ ตาราง หรือ อัตราการเจริญเติบโต นอกจากความสามารถในการรับฟัง ล่ามอาจต้องอ่านเอกสารประกอบไปพร้อมกันด้วย ดังนั้น การฝึกแปลฉับพลันโดยการอ่านในใจให้ชำนิชำนาญจึงเป็นพื้นฐานสำคัญขั้นต้นเพื่อเตรียมตัวทำล่ามฉับพลัน<br /><br /> 3.. ล่ามกระซิบ เป็นการทำล่ามเฉพาะบุคคลหรือเฉพาะกลุ่ม ใช้ในการประชุมกลุ่มย่อย หรือการฟังการพิจารณาคดีที่ศาล ล่ามต้องอยู่ข้างผู้ฟังและทำการล่ามตลอดเวลา ข้อเสียของการทำล่ามประเภทนี้คือ ถ้าล่ามใช้เสียงดังเกินไป ผู้อื่นที่อยู่ใกล้แต่ไม่ต้องการล่ามอาจรำคาญ แต่ถ้าล่ามพูดค่อย ผู้ฟังไม่ได้ยิน ต้องขอให้พูดใหม่อยู่เรื่อย ๆ ยิ่งน่ารำคาญสำหรับทุกคน การทำล่ามนั้นก็จะไม่ได้ผล อนึ่ง ตัวล่ามเองจะเหนื่อยมาก เพราะต้องระมัดระวังทั้งการออกเสียงและการสำรวมอากัปกิริยา เนื่องจากต้องปรากฏตัวต่อที่ประชุมตลอดเวลา<br /><br /><br /><br /><br />...<br /><br />prinkotakoon.blogspot.comhttps://www.blogger.com/profile/14705723465727610769noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2607956776384828731.post-47877461054311431362013-06-15T01:51:48.928+07:002013-06-15T01:51:48.928+07:00คุณสมบัติของล่ามที่ดี
ล่ามแต่ละประเภทจำเป็นต้องใช...คุณสมบัติของล่ามที่ดี<br /><br />ล่ามแต่ละประเภทจำเป็นต้องใช้ความสามารถในด้านต่างๆกัน ล่ามในที่ประชุม ล่ามธุรกิจ ล่ามในศาลต้องมีความสามารถทางภาษาสูงมาก แต่ล่ามมัคคุเทศก์ต้องมีความสามารถทางด้านการต้อนรับดูแลให้ผู้อื่นเกิดความรู้สึกเพลิดเพลินด้วย โดยทั่วไปคุณสมบัติของล่ามที่ดีมีดังนี้<br /><br />1.มีความสามารถในการเข้าใจภาษา ล่ามต้องเข้าใจภาษาและเนื้อหาที่กำลังพูดคุยกันอยู่ มีความรู้ทางด้านภาษาของล่ามควรอยู่ในระดับที่สามารถฟังเรื่องที่พูดด้วยความเร็วปกติได้เข้าใจ ต้องสามารถอ่านนิตยสารที่เขียนด้วยภาษานั้นได้อย่างคล่องแคล่วโดยไม่ต้องอาศัยพจนานุกรม<br /><br />2.มีความสามารถในการพูดเขียนภาษา ในการแปลแบบล่าม ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ภาษาที่เป็นทางการ ฟังเข้าใจยาก ล่ามควรมีความรู้เกี่ยวกับสำนวน สุภาษิตคำคม และควรเข้าใจเรื่องตลกได้ แต่ไม่จำเป็นต้องแปลออกมาเป็นสำนวน สุภาษิตให้ได้เสมอไป<br /><br />3.จะต้องมีสมาธิที่ดี ความจำดี จับประเด็นหลักได้เร็ว เนื่องจากล่ามจะได้ฟังคำพูดเพียงด้านเดียว และคำพูดที่พูดออกมาจะเลือนหายไป ไม่อยู่คงทนเช่น ตัวอักษร การแปลแบบล่ามต้องการความรวดเร็ว ใช้เวลาพะวงกับรูปแบบของภาษาให้น้อยที่สุด ดังนั้นล่ามต้องมีสมาธิในการฟัง จับประเด็นหลักและจำเนื้อหาที่ผู้พูดต้องการสื่อ ให้ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว<br /><br />4.เข้าใจวัฒนธรรม ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ถ้าวัฒนธรรมแตกต่างกัน ภาษาที่ใช้ก็ย่อมแตกต่างกันไปด้วย แบบแผนวิธีการของแต่ละภาษาอาจแตกต่างกัน ตั้งแต่ลำดับการพูด เช่น ในการกล่าวแนะนำตัวเองเป็นภาษาญี่ปุ่น มักจะเริ่มต้นในการบอกชื่อตัวเองว่า「ただ今ご紹介に預かりました○○です。」แต่สำหรับในภาษาไทย มักจะเริ่มต้นด้วยคำกล่าวทักทาย และตามด้วยชื่อของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องตรงตัวว่า “ตามที่ได้แนะนำ”<br /><br />ในการทักทายก็เช่นกัน ภาษาญี่ปุ่นจะเริ่มด้วยการเรียกชื่อคู่สนทนาก่อน แล้วจึงกล่าวคำทักทาย แต่ในภาษาไทยจะกล่าวคำทักทายก่อน แล้วจึงเรียกคู่สนทนา เช่น 「田中さん、おはようございます。」 ควรแปลว่า”สวัสดีค่ะคุณทานากะ”<br /><br />ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่พูดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากจะพูดออกมา ในขณะที่ชาวไทยบางส่วนจะพูดทุกอย่างตามที่คิดอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้น เมื่อต้องแปลคำพูดของคนในชาติที่มีพิธีการแสดงความคิดเห็นต่างกัน ล่ามจะต้องตระหนักถึงความแตกต่างในเรื่องวัฒนธรรมให้มาก ต้องยึดความเป็นธรรมชาติของภาษาเป้าหมาย(Target language) เป็นหลัก มิฉะนั้นอาจจะทำให้คำแปลไม่เป็นธรรมชาติ หรือเกิดปัญหาสื่อความหมายไม่ถูกต้อง<br /><br />5.มีความสามารถในการแสดงออกในที่สาธารณะ หน้าที่ของล่ามคือถ่ายทอดสิ่งที่ผู้พูดต้องการสื่อให้แก่ผู้ฟังให้เข้าใจได้โดยง่าย ควรเรียบเรียงคำพูดให้เข้าใจง่ายและควรคำนึงถึงลักษณะอื่นๆนอกเหนือจากตัวภาษาโดยตรง เช่น ความดังของเสียง เสียงสูงต่ำ ความเร็ว จังหวะจะโคน การแสดงสีหน้า ภาษาท่าทาง นอกจากนี้ในการแปลบรรยายแบบล่ามพูดสลับนั้น ผู้ฟังจะจับจ้องอยู่ที่ล่ามพอๆกับผู้บรรยาย ดังนั้นล่ามจึงควรมีลักษณะกล้าแสดงออกไม่ตื่นตระหนกเมื่ออยู่ต่อหน้าคนจำนวนมาก<br /><br />6.มีความรู้แสวงหาความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติม มีความรวบรู้ในหลายสาขาเพราะการฟังให้เข้าใจนั้นไม่ใช่อาศัยความสามารถทางภาษาอย่างเดียวถ้าล่ามไม่มีความรู้ในสาขานั้นอยู่บ้าง จะไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาได้อย่างถ่องแท้ และไม่สามารถถ่ายทอดได้ถูกต้อง<br /><br />7.มีจรรยาบรรณของล่าม ล่ามที่ดีต้องมีจรรยาบรรณดังต่อไปนี้<br /><br />·ล่ามอาจดัดแปลงคำพูดให้เข้าใจได้ง่ายได้ แต่ต้องแปลให้ตรงกับที่ผู้พูดต้องการสื่อให้มากที่สุด ล่ามต้องไม่บิดเบือนสิ่งที่ผู้พูดต้องการสื่อ ไม่ใส่ความคิดเห็นของตนลงไปในคำแปล ล่ามต้องสำนึกอยู่เสมอว่าตนเป็นเพียงผู้ถ่ายทอดคำพูดให้แก่บุคคลสองฝ่ายที่ไม่สามารถสื่อสารกันด้วยตนเองได้<br /><br />·การทำงาน บางครั้งล่ามจะได้ล่วงรู้ข้อมูลที่เป็นความลับ ดังนั้นล่ามจะต้องไม่แพร่งพรายสิ่งที่ได้รับรู้จากการทำงานให้บุคคลอื่นรู้<br /><br />·ล่ามต้องไม่ปรับเปลี่ยนเนื้อหาคำแปลเพื่อให้ผู้ฟังพอใจ<br /><br />8.มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น เนื่องจากงานล่ามจำเป็นต้องติดต่อกับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะล่ามอิสระ ต้องสร้างสัมพันธ์กับคนใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีมนุษย -สัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้ได้รับความร่วมมือจากผู้อื่น ทำให้ทำงานได้อย่างราบรื่น<br /><br />9.มีสุขภาพดี เนื่องจากงานล่ามอาจจะต้องทำงานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆการเจ็บป่วยจะทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานได้และถ้าหางานล่ามแทนไม่ได้ จะทำความเดือนร้อนให้กับผู้ว่าจ้างเป็นอย่างมาก<br /><br /><br />http://friendjp.blogspot.co.uk/<br /><br />prinkotakoon.blogspot.comhttps://www.blogger.com/profile/14705723465727610769noreply@blogger.com