15 สูตรชีสเค้ก ชีสพาย อร่อยเพลินหลากสไตล์ เนื้อเนียนครีมชีสฉ่ำ
เมนูชีสเค้ก สูตรขนมหวานง่าย ๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากหัดทำขนม มีให้เลือกทั้งแบบอบและไม่อบ ขั้นตอนเป๊ะ ๆ น่าลองทำอย่างสุดพลัง
ชีสเค้ก ขนมหวานเนื้อละมุน อัดแน่นด้วยครีมชีส หน้าตาสวยงาม แถมวิธีทำก็ง่าย ดังนั้นเหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากหัดทำเบเกอรี่มาก ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 15 สูตรชีสเค้ก ที่มีให้เลือก 2 แบบ แบบแรกคือ ชีสพายแบบไม่อบ มีส่วนผสมเจลาตินเป็นหลัก ทำให้เนื้อเบา กินง่าย มีความชุ่มฉ่ำของชีส แต่ต้องเก็บไว้ในตู้เย็นตลอดเวลา และควรทานขณะเย็น และชีสเค้กแบบอบ มีเนื้อสัมผัสแน่นเนียน และมีความฟู เพราะมีส่วนผสมของแป้งเป็นหลัก เก็บไว้แบบไม่ต้องแช่เย็นก็ได้ ชอบแบบไหนสไตล์ไหนก็เลือกทำได้ตามชอบเลยค่ะ
1. ชีสพายสูตรพื้นฐาน
ชีสพายสูตรพื้นฐาน เนื้อครีมชีสออกรสเปรี้ยวนิด ๆ ผสมผสานกับฐานแป้งพายกรุบกรอบ ไม่ต้องราดหน้าด้วยอะไรทั้งสิ้น ขอแนะนำให้ลองทำไว้กินเป็นขนมหวานในวันว่าง ๆ จิบกับน้ำชายามบ่าย แล้วฟังดนตรีไพเราะ ๆ นี่แหละคือการพักผ่อนที่หลายคนใฝ่ฝันเชียวล่ะ
ส่วนผสม ฐานพาย
• ขนมปังกรอบ (หรือคุกกี้ตามชอบ) บดละเอียด 1+1/2 ถ้วย
• น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
• เนยสดชนิดจืดละลาย 1 ถ้วย
ส่วนผสม ครีมชีส
• เจลาติน 2 แผ่น
• น้ำเย็น (สำหรับแช่เจลาติน)
• น้ำอุ่น (สำหรับตุ๋นเจลาติน)
• ครีมชีส 100 กรัม (พักไว้ที่อุณหภูมิห้องให้คลายความเย็น)
• วิปครีมชนิดจืด 75 กรัม
• นมสด 25 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ผสมขนมปังกรอบบด น้ำตาลไอซิ่ง และเนยผสมรวมกัน เสร็จแล้วนำไปกรุลงพิมพ์ให้มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร นำไปแช่ตู้เย็น เตรียมไว้
2. นำเจลาตินไปแช่น้ำเย็นจนนิ่ม จากนั้นนำไปตุ๋นในน้ำอุ่นจนละลาย เตรียมไว้
3. นำวิปปิ้งครีมมาตีกับนมสดจนตั้งยอดอ่อน เตรียมไว้
4. นำครีมชีสกับน้ำตาลไอซิ่งผสมให้เข้ากัน ใส่ลงในหม้อตุ๋นคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน ยกลงใส่น้ำมะนาวผสมพอเข้ากัน ใส่ส่วนผสมวิปครีมและเจลาตินลงไป คนให้เข้ากัน
5. เทส่วนผสมครีมชีสลงในพิมพ์ที่กรุด้วยแป้งพาย จากนั้นนำเข้าแช่ตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนแข็งตัว พร้อมเสิร์ฟ
สตรอว์เบอร์รีชีสพาย สูตรขนมง่าย ๆ ทำมอบให้เป็นของขวัญแทนใจก็ได้ หรือจะทำกินเองก็อร่อย เนื้อนุ่มกินราดซอสสตรอว์เบอร์รี แถมยังท็อปปิ้งด้วยสตรอว์เบอร์รีสดอีกด้วย ว้าว... สีสันสวยงามมาก ๆ เหมาะมอบให้สำหรับคนพิเศษจริงเชียว
ส่วนผสม สตรอว์เบอร์รีชีสพาย
• สตรอว์เบอร์รีสด หั่นชิ้น 150 กรัม
• น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
• บิสกิตบดละเอียด 75 กรัม
• เนยจืด 25 กรัม
• ครีมชีส 250 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
• โยเกิร์ตสูตรไขมันต่ำ 140 กรัม
วิธีทำสตรอว์เบอร์รีชีสพาย
1. ใส่สตรอว์เบอร์รีลงในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวจนกลายเป็นซอสสตรอว์เบอร์รี ยกลง เตรียมไว้
2. ใส่เนยละลายลงไปในบิสกิตแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ลงในแก้ว ประมาณ 1/2 แก้ว กดให้แน่น นำไปแช่เย็นประมาณ 30 นาที
3. ตีผสมครีมชีสกับกลิ่นวานิลลา น้ำตาลไอซิ่ง และโยเกิร์ตให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ตักส่วนผสมครีมชีสใส่ลงในแก้วบิสกิต ประมาณ 1/2 แก้ว ตักซอสสตรอว์เบอร์รีใส่ทับลงไป แต่งหน้าด้วยสตรอว์เบอร์รีสด พร้อมเสิร์ฟ
บลูเบอร์รีชีสพาย เป็นหนึ่งในเมนูขนมหวานที่สาว ๆ ชอบทาน ด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวานของซอสบลูเบอร์รี ตัดกับครีมชีสรสหวานเนียนนุ่มหอม ผสมผสานเข้ากับความกรุบกรอบของฐานพายกรอบทำให้อร่อยลงตัวสุด ๆ ถ้าได้ลองทำเองกินเองแล้วจะฟินสุด ๆ
ส่วนผสม บลูเบอร์รีชีสพาย
• ขนมปังกรอบ บดละเอียด 1 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
• เนยสดชนิดจืดละลาย 1 ถ้วย
• เจลาติน 2 แผ่น
• น้ำเย็น (สำหรับแช่เจลาติน)
• น้ำอุ่น (สำหรับตุ๋นเจลาติน)
• วิปครีม ชนิดจืด 75 กรัม
• นมสด 25 กรัม
• ครีมชีส 100 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
• บลูเบอร์รีกวนสำเร็จรูป สำหรับราดหน้า
วิธีทำ บลูเบอร์รีชีสพาย
1. ใส่ขนมปังกรอบ น้ำตาลไอซิ่ง และเนยผสมรวมกัน เสร็จแล้วนำไปกรุลงพิมพ์ให้มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร นำแช่ตู้เย็น เตรียมไว้
2. นำเจลาตินไปแช่น้ำเย็นจนนิ่ม นำไปตุ๋นในน้ำอุ่นจนละลาย เตรียมไว้
3. นำวิปครีมมาตีกับนมสดจนตั้งยอดอ่อน เตรียมไว้
4. นำครีมชีสกับน้ำตาลไอซิ่งผสมให้เข้ากัน ใส่ลงในหม้อตุ๋นคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน ยกลงใส่น้ำมะนาวผสมพอเข้ากัน จากนั้นใส่ส่วนผสมวิปครีมและเจลาตินลงไป คนให้เข้ากัน
5. เทส่วนผสมครีมชีสลงในพิมพ์ที่กรุด้วยแป้งพาย นำเข้าแช่ตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนแข็งตัว
6. ราดหน้าด้วยบลูเบอร์รีกวน พร้อมเสิร์ฟ
5. ราสป์เบอร์รีชีสพาย
เมนูราสป์เบอร์รีชีสพาย เอาใจสาวชอบชีสพายรสเปรี้ยว รสชาติครีมชีสเนื้อเนียนกับวุ้นเคลือบด้านบนเข้ากันดีกับราสป์เบอร์รีสด ๆ รับรองถ้าหากได้ลองหม่ำช่วงบ่ายจะรู้สึกหายง่วงเชียวค่ะ ถ้าใครสนใจก็ลองมาดูส่วนผสมกันเลย [สูตรจาก คุณนางสาวเซาะกราว สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ราสป์เบอร์รีชีสพาย
• แครกเกอร์ บดละเอียด 250 กรัม
• เนยสดชนิดจืด 100 กรัม
• ครีมชีส 200 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
• ซาวร์ครีม 270 กรัม
• วิปปิ้งครีมสด 270 กรัม
ส่วนผสม วุ้นสำหรับเคลือบ
• ผงวุ้นสำเร็จรูป กลิ่นราสป์เบอร์รี 125 กรัม
• น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
ท็อปปิ้ง
• ราสป์เบอร์รี หรือผลไม้อื่น ปริมาณตามชอบ
วิธีทำราสป์เบอร์รีชีสพาย
1. อุ่นเนยให้ละลาย เทลงผสมกับแครกเกอร์ คนผสมให้เข้ากันดี กรุลงในพิมพ์ ใช้ช้อนกดให้แน่น เสร็จแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นให้เซตตัว
2. ใส่ครีมชีส น้ำตาลไอซิ่ง และซาวร์ครีมลงในอ่างผสม ตีผสมรวมกันจนขึ้นฟู แล้วนำไปแช่ตู้เย็น
3. ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู จากนั้นค่อย ๆ ใส่ลงในส่วนผสมครีมชีส คนผสมเบา ๆ (ถ้าต้องการให้ครีมชีสอยู่ตัวให้ใส่เจลาตินที่แช่น้ำจนนิ่มแล้ว 3 แผ่น ลงไปตีรวมกับครีมชีส)
4. ใส่ผงวุ้นสำเร็จรูปต้มกับน้ำเปล่าจนเดือด จากนั้นพักไว้จนวุ้นเย็นลง
5. เทส่วนผสมครีมชีสลงไปในพิมพ์ที่กรุด้วยแป้งพาย ปาดให้เรียบ
6. ใส่ราสป์เบอร์รี หรือผลไม้ที่ชอบด้านบน
7. เทส่วนผสมวุ้นลงไปบนชีสเค้ก นำไปแช่เย็น ประมาณ 2 ชั่วโมงหรือจนกว่าจะเซตตัว พร้อมเสิร์ฟ
เพื่อน ๆ ที่ชอบกินอะโวคาโด ผลไม้ที่ควักเนื้อกินเพียว ๆ หรือเอามาใส่จานสลัด วันนี้ได้กลายร่างเป็นอะโวคาโดชีสเค้ก ขนมหวานแบบเฮลธ์ตี้แล้วค่ะ เพียงแค่ใส่อะโวคาโดเข้าไปผสมกับครีมชีส ถั่ว และน้ำผึ้ง ส่วนผสมไม่กี่อย่างเท่านั้น แถมยังได้รสชาติแปลกใหม่แต่อร่อยสุดพลังด้วย [สูตรจาก คุณ taraenjoy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ชีสเค้กอะโวคาโด
• ถั่ววอลนัท ทุบละเอียด (หรือถั่วพีแคน) 100 กรัม
• บิสกิต ทุบละเอียด (หรือขนมปังกรอบ) 55 กรัม
• ช็อกโกแลตนูเทลล่า 35 กรัม
• อินทผาลัม หั่นชิ้นเล็ก 50 กรัม
• อะโวคาโด 55 กรัม
• มะนาว 2 ลูก
• น้ำผึ้ง 70 กรัม
• ครีมชีส 1 ก้อน (วางพักไว้ให้นิ่มที่อุณหภูมิห้อง)
วิธีทำชีสเค้กอะโวคาโด
1. นำบิสกิตและถั่ววอลนัทใส่ลงในชามคลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ใส่เนื้ออินทผาลัมและช็อกโกแลตนูเทลล่าลงไปผสมให้เข้ากัน
3. นำส่วนผสมไปกรุพื้นของถาดหรือถ้วยที่เตรียมไว้ โดยกดให้รอบพื้นอย่างเบามือจนส่วนผสมเรียบและเสมอกัน (แบ่งส่วนผสมบิสกิตไว้สำหรับโรยตกแต่งหน้าขนมด้วย) เมื่อกดจนสวยงามแล้วก็พักไว้ก่อน โดยการนำไปแช่เย็นเพื่อให้ส่วนผสมแข็งตัว ประมาณ 30 นาที
4. บดเนื้ออะโวคาโดแบบหยาบ ๆ ฝานผิวมะนาวและคั้นน้ำมะนาว เตรียมไว้
5. ปั่นอะโวคาโด น้ำผึ้ง และน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน
6. ใส่ครีมชีสและผิวมะนาวลงไป
7. ปั่นรวมกันจนส่วนผสมเนียนจนเหมือนสมูทตี้
8. เทครีมชีสลงพิมพ์ที่กรุด้วยแป้งพาย โดยใช้พายปาดให้เรียบและเกลี่ยให้เสมอกัน จากนั้นตกแต่งด้วยบิสกิตที่แบ่งไว้ โดยโรยให้ทั่ว ๆ นำไปแช่เย็นให้เนื้อชีสเค้กเซตตัว ประมาณ 30 นาที พร้อมเสิร์ฟ
เมนูชาเขียวชีสพายสีเขียว เหมาะสำหรับคนรักชาเขียวจริง ๆ อัดผงชาเขียวเต็ม ๆ ทั้งในส่วนผสมครีมชีสและโรยหน้า ยิ่งได้กินคู่กับชาเขียวชงร้อน ๆ ยิ่งเข้ากันที่สุด ถ้าหากใครกำลังมองหาของขวัญสำหรับคนพิเศษที่ชอบชาเขียวต้องลองทำค่ะ
ส่วนผสม ชีสพายชาเขียว
• คุกกี้รสเนย บดละเอียด 175 กรัม
• เนยสดละลาย ชนิดเค็ม 40 กรัม
• เจลาติน 2+1/2 แผ่น
• วิปครีม ชนิดจืด 50 กรัม
• นมสด 45 กรัม
• ผงชาเขียว 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ครีมชีส (วางพักไว้ให้นิ่มที่อุณหภูมิห้อง) 65 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 25 กรัม
• นมข้นหวาน 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• ผงชาเขียว สำหรับโรยหน้า
วิธีทำชีสพายชาเขียว
1. นำคุกกี้และเนยสดคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน นำกรุลงในพิมพ์ให้มีความหนา ประมาณ 1/2 เซนติเมตร นำแช่ตู้เย็น เตรียมไว้
2. นำเจลาตินไปแช่น้ำเย็นจนนิ่ม นำไปตุ๋นในน้ำอุ่นจนละลาย เตรียมไว้
3. ตีวิปครีมจนตั้งยอดอ่อน เตรียมไว้
4. ต้มนมสดพอเดือด ใส่ผงชาเขียวลงไปคนให้เข้ากัน เตรียมไว้
5. ตีครีมชีส น้ำตาลไอซิ่ง และนมข้นหวานด้วยความเร็วปานกลางจนส่วนผสมข้นลดความเร็วลงต่ำ ใส่วิปครีมและเจลาตินลงไปผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
6. เทครีมชีสลงพิมพ์ที่กรุด้วยแป้งพาย นำเข้าแช่ตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนเซตตัว
7. โรยผงชาเขียวให้ทั่ว พร้อมเสิร์ฟ
หน้าร้อนแบบนี้มะม่วงราคาไม่แพงมาก ถ้าซื้อมาแล้วกินไม่หมดลองเอามาทำมะม่วงชีสพายกันเถอะ ตัวขนมอัดแน่นไปด้วยเนื้อมะม่วงสุกทุกอณูเชียวนะ รสหวานอมเปรี้ยว เวลาหม่ำเข้าไปจะได้กลิ่นหอมจากมะม่วงด้วย แถมยังมีความกรุบกรอบจากแป้งพายด้านล่าง ถ้าแช่เย็นกินแล้วจะอร่อยมากกว่าเดิม [สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ชีสพายมะม่วง
• คุกกี้เนยบดละเอียด (หรือขนมปังกรอบ) 200 กรัม
• เนยสด ชนิดเค็ม 100 กรัม
• น้ำตาลทรายป่น 30 กรัม
• เจลาตินชนิดแผ่นเล็ก 5 แผ่น (หรือเจลาตินชนิดผง 1 ช้อนโต๊ะ)
• ครีมชีส 250 กรัม
• น้ำตาลทราย ชนิดละเอียด 100 กรัม
• ครีมข้น หรือวิปปิ้งครีม 120 กรัม
• น้ำมะนาว หรือน้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ (แนะนำให้ใช้เลมอน)
• มะม่วงสุก หั่นชิ้นเล็ก 200 กรัม
• มะม่วงสุก หั่นเต๋าเล็ก 100 กรัม
• เนื้อมะม่วงหั่นชิ้น ซอสมะม่วง วิปปิ้งครีม หรือกะทิ สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ ชีสพายมะม่วง
1. ผสมคุกกี้บดกับเนยสด และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน กรุลงในพิมพ์ นำเข้าไปแช่ตู้เย็น
2. แช่เจลาตินแผ่นในน้ำเย็น ประมาณ 10 นาที เสร็จแล้วนำไปละลายในไมโครเวฟ 10 วินาที เตรียมไว้
3. ใส่ครีมชีสและน้ำตาลทรายลงไปตีผสมให้เข้ากัน
4. ใส่ครีมข้นตีให้เข้ากันจนเนียน บีบน้ำเลมอนลงไป
5. ใส่เนื้อมะม่วงหั่นชิ้นลงไปตีผสมจนเนียน
6. ใส่เจลาตินละลาย คนผสมให้เข้ากัน
7. ใส่เนื้อมะม่วงหั่นเต๋าลงไป ใช้พายยางคนผสมเนื้อมะม่วงกับครีมชีสให้เข้ากันดี
8. ตักครีมชีสมะม่วงใส่ลงไป (มากน้อยขึ้นอยู่กับระดับของถ้วย) ในพิมพ์กรุแป้งพาย
9. ตกแต่งด้วยเนื้อมะม่วง ซอสมะม่วง บีบวิปปิ้งครีม หรือราดด้วยกะทิข้น ๆ
สำหรับคนที่ชื่นชอบช็อกโกแลต ขอแนะนำนูเทลลาชีสเค้ก ชีสเค้กชิ้นพอดีคำชุ่มฉ่ำช็อกโกแลตนูเทลลา วางเรียงสลับกัน 3 ชั้น 3 รสชาติ ไล่จากช็อกโกแลตนูเทลลา ครีมชีส และแครกเกอร์ กินพร้อมกันฟินสุด ๆ วิธีทำไม่ยุ่งยาก อุปกรณ์น้อยชิ้นอีกด้วยค่ะ [สูตรจาก คุณ Karomo สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม นูเทลลาชีสเค้ก
• คุกกี้โอรีโอ้ 16 คู่ (เอาครีมออก)
• เนยสดละลาย 4 ช้อนโต๊ะ
• ครีมชีส 60 กรัม
• น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วยตวง
• กลิ่นวานิลลา 1-1/2 ช้อนชา
• เกลือป่น เล็กน้อย
• ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 2 ฟอง (อุณหภูมิห้อง)
• ดาร์กช็อกโกแลต 1/4 ถ้วยตวง
• ช็อกโกแลตนูเทลลา (Nutella) 3/4 ถ้วยตวง
วิธีทำ (ทำเพียงครึ่งสูตร)
• 1. แกะตัวโอรีโอ้ออกจากกันแล้วนำครีมออก จากนั้นนำใส่เครื่องปั่น ปั่นฝาโอรีโอ้ให้ละเอียด ใส่เนยละลายลงไปเคล้าให้เข้ากัน
• 2. นำส่วนผสมอัดใส่ก้นพิมพ์มัฟฟินที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วนำไปแช่เย็น
• 3. ใช้ตะกร้อมือตีครีมชีสให้เนียน จากนั้นใช้พายยางคนผสมครีมชีสให้เข้ากันดี ใส่น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลา เกลือป่น และไข่ไก่ลงไป ตีผสมให้เข้ากันจะได้ส่วนผสมชีสเค้ก (ส่วนที่ 1)
• 4. แบ่งส่วนผสมออกมาประมาณ 1/2 ถ้วย เตรียมไว้สำหรับทำเป็นหน้าขนมชั้นบนสุด (ส่วนที่ 2)
• 5. นำดาร์กช็อกโกแลตไปละลาย จากนั้นใส่นูเทลลาลงไปผสมให้เข้ากัน (ส่วนที่ 3)
• 6. นำส่วนผสมช็อกโกแลตใส่ลงในส่วนผสมชีสเค้ก (ส่วนที่ 1) คนผสมให้เข้ากันจนเนียน เตรียมไว้ (ส่วนที่ 4)
• 7. นำส่วนผสมฐานคุกกี้โอรีโอ้ออกจากตู้เย็น นำส่วนผสมส่วนที่ 4 (ช็อกโกแลตผสมครีมชีส) หยอดลงไปในพิมพ์ ประมาณ 2/3 ของพิมพ์
• 8. ใส่ส่วนผสมส่วนที่ 2 (ครีมชีสที่แบ่งครึ่งไว้) ลงไปเป็นชั้นบนสุดให้เกือบเต็มพิมพ์
• 9. ตกแต่งด้วยส่วนผสมส่วนที่ 4 (ช็อกโกแลตผสมครีมชีส) อยากได้ลายไหนก็ลองทำกันดู นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 300 องศาฟาเรนไฮต์ (หรือ 150 องศาเซลเซียส) ใช้ไฟบน-ล่าง เวลาประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วนำออกจากเตามาพักไว้
ใครที่ชอบกินเบเกอรี่รสชาติออกเปรี้ยวขอแนะนำเมนูสตรอว์เบอร์รีครัมเบิลชีสเค้ก (Strawberry Crumble Cheesecake) สูตรนี้ใช้สตรอว์เบอร์รีกวนแทนสตรอว์เบอร์รีสด ที่ทั้งประหยัดกว่า และได้รสชาติที่อร่อยกว่าอีกด้วย เนื้อครีมชีสหวานละมุน มีความกรุบกรอบของครัมเบิล และได้รสชาติเปรี้ยวอมหวานจากแยมสตรอว์เบอร์รีกวน เพื่อไม่ให้เสียเวลาเข้าครัวกันเลย
ส่วนผสม ฐานพาย
• ขนมปังกรอบบดละเอียด 150 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ขาว 1 ฟอง
• เนยสดละลาย ชนิดเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ครัมเบิล
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
• ผงวานิลลา 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 40 กรัม
• เนยสด ชนิดจืด 60 กรัม
ส่วนผสม ครีมชีส
• ผงวานิลลา 1/2 ช้อนชา
• ครีมชีส (พักไว้ให้คลายความเย็น) 450 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วย
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• สตรอว์เบอร์รีกวนสำเร็จรูป 1 ถ้วย
วิธีทำสตรอว์เบอร์รีครัมเบิลชีสเค้ก
1. ผสมขนมปังกรอบ น้ำตาลไอซิ่ง ไข่ขาวและเนยสดให้เข้ากัน เตรียมไว้
2. ทำครัมเบิลโดยร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์กับผงวานิลลาเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาลทรายคนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยเนยสด ใช้ส้อมสับส่วนผสมให้เข้ากันจนแป้งมีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ นำเข้าแช่ในตู้เย็น เตรียมไว้
3. ตีครีมชีสด้วยความเร็วต่ำจนครีมชีสอ่อนตัว ใส่น้ำตาลไอซิ่งและผงวานิลลาลงไปใช้ความเร็วปานกลางตีพอเข้ากัน เติมไข่ไก่ทีละฟองจนหมด ตีจนส่วนผสมเนียน
4. กรุแป้งพายลงในพิมพ์ที่ทาด้วยเนยขาวจนทั่ว
5. ใส่ครีมชีสลงไป ทับด้วยสตรอว์เบอร์รีกวน ปาดให้เรียบเสมอกัน
6. โรยหน้าด้วยส่วนผสมครัมเบิลจนทั่ว
7. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 50-60 นาที หรือจนสุก
8. นำออกจากเตาอบพักให้เย็นสนิท แซะออกจากพิมพ์ แล้วนำเข้าแช่เย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ขนมเซตตัว ตัดเป็นชิ้น จัดเสิร์ฟ
เอาใจคนชอบช็อกโกแลตด้วยเมนูช็อกโกแลตชีสเค้ก มีส่วนผสมของดาร์กช็อกโกแลต แถมยังแต่งหน้าด้วยช็อกโกแลตบอล ด้วย หรือถ้าอยากได้รสเปรี้ยวหน่อยก็ราดด้วยแยมบลูเบอร์รีก็ได้เหมือนกัน [สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ช็อกโกแลตชีสเค้ก
• คุกกี้ บดละเอียด (หรือแครกเกอร์) 150 กรัม
• เนยละลาย ชนิดจืด 100 กรัม
• ผงโกโก้ละลาย 1 ช้อนโต๊ะ
• ครีมชีส หั่นชิ้นเล็ก 500 กรัม (วางไว้ที่อุณหภูมิห้อง)
• น้ำตาลทราย ชนิดละเอียด 1 ถ้วย
• แป้งข้าวโพด หรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ไก่ ขนาดใหญ่ 3 ฟอง
• วิปปิ้งครีม (หรือซาวด์ครีม) 1/2 ถ้วย
• น้ำหอมกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ดาร์กช็อกโกแลตตุ๋น (ความเข้มข้น 75%) 250 กรัม
• ช็อกโกแลตบอล หรือแยมบลูเบอร์รี สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ ช็อกโกแลตชีสเค้ก
• 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่าง วางถาดใส่น้ำในเตาอบ เตรียมไว้
• 2. นำคุกกี้ผสมกับเนยและโกโก้แล้วนำมากรุลงในพิมพ์ นำแช่เย็นเพื่อให้เซตตัว หรือใส่ในเตาอบประมาณ 10 นาที นำออกมาพักให้เย็น
• 3. ใส่ครีมชีสลงในโถผสมแล้วใช้ตะกร้อตีให้ขึ้นฟู
• 4. ใส่น้ำตาลทรายและแป้งข้าวโพดลงไปตีให้เข้ากันจนเนียน
• 5. ใส่ไข่ไก่ลงไปตีให้เข้ากัน
• 6. ใส่กลิ่นวานิลลา วิปปิ้งครีม ตีผสมให้เข้ากันจนเนียนดี
• 7. ใส่ช็อกโกแลตตุ๋นลงไป คนผสมด้วยพายยางแบบเบามือ (อย่าลืมปาดก้นอ่างขึ้นมาด้วย)
• 8. ตักครีมชีสใส่พิมพ์ที่กรุแป้งพาย ประมาณ 3/4 ของพิมพ์
• 9. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส อบด้วยไฟล่างอย่างเดียว (สำหรับชีสเค้กทุกชนิด อย่าลืมถาดใส่น้ำวางไว้ในเตาอบด้วย)
• 10. นำออกจากเตาอบ ตกแต่งด้วยช็อกโกแลตบอล หรือราดแยมบลูเบอร์รี ตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีก็ได้
สำหรับสาว ๆ ที่อยากกินเนื้อช็อกโกแลตชีสเค้ก สูตรไม่ใส่กลิ่น ไม่ใส่แป้ง ต้องลองทำ ช็อกโกแลตชีสเค้กเนื้อครีมชีสรสนุ่มมีความขมของช็อกโกแลต โรยผงโกโก้เพิ่มความสวยงามก็เก๋นะคะ หรือจะกินแบบเพียว ๆ ก็อร่อยค่ะ
ส่วนผสม ช็อกโกแลตชีสเค้ก
• คุกกี้รสช็อกโกแลตบดละเอียด 100 กรัม
• ไข่ขาว 1/2 ฟอง
• เนยสด ชนิดเค็ม 20 กรัม
• ดาร์กช็อกโกแลต 100 กรัม
• ผงโกโก้ 10 กรัม
• เนยสด ชนิดเค็ม 10 กรัม
• ครีมชีส (พักไว้ให้คลายความเย็น) 225 กรัม
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• ไข่ไก่ 1 1/2 ฟอง
• วิปครีม ชนิดจืด 75 กรัม
วิธีทำ ช็อกโกแลตชีสเค้ก
• 1. นำคุกกี้ ไข่ขาว และเนยสดมาผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
• 2. กรุลงในพิมพ์เค้กขนาด 2 ปอนด์ ใช้ส้อมจิ้มเพื่อไล่อากาศ
• 3. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 8 นาที หรือจนสุกเหลือง นำออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็น เตรียมไว้
• 4. นำดาร์กช็อกโกแลต ผงโกโก้ และเนยสดลงไปตุ๋นบนน้ำอุ่น คนจนส่วนผสมเข้ากัน ยกลงพักไว้
• 5. ผสมครีมชีสและน้ำตาลทรายด้วยความเร็วปานกลาง ประมาณ 5 นาที หรือจนส่วนผสมขึ้นฟู
• 6. ใส่ไข่ไก่ลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ ใส่วิปปิ้งครีมและส่วนผสมช็อกโกแลตลงไป เตรียมไว้
• 7. ตักครีมชีสใส่พิมพ์ที่กรุแป้งพาย
• 8. นำเข้าเตาอบ อบแบบรองน้ำที่อุณหภูมิ 300 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30 นาที หรือจนสุก
• 9. นำออกจากเตาอบ พักไว้สักครู่ แซะออกจากพิมพ์วางพักไว้บนตะแกรงจนเย็น โรยผงโกโก้ พร้อมเสิร์ฟ
ชีสเค้กกล้วยหอมนอกจากจะได้กินชีสเค้กเนื้อแน่นหอมกลิ่นชีสแล้ว ยังได้รสชาติหวานหอมของกล้วยหอมมาชูโรงเพิ่มความกลมกล่อมยิ่งขึ้นไปอีก ความพิเศษยังไม่หมดเพราะราดซอสคาราเมลลงไปอีกด้วย รับรองว่ากินเพลินจนลืมอ้วนไปเลยล่ะ
ส่วนผสม ชีสเค้กกล้วยหอม
• ขนมปังกรอบบดละเอียด 175 กรัม
• เนยสดละลาย ชนิดเค็ม 40 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 25 กรัม
• แป้งเค้ก 10 กรัม
• ครีมชีส (พักไว้ให้คลายความเย็น) 130 กรัม
• น้ำตาลทราย 30 กรัม
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• โยเกิร์ต รสธรรมชาติ 1/2 ถ้วย
• วิปครีม ชนิดจืด 25 กรัม
• กล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นเล็ก 1 ผล
วิธีทำชีสเค้กกล้วยหอม
• 1. นำขนมปังกรอบ เนยสด และน้ำตาลไอซิ่ง คลุกเคล้าให้เข้ากัน กรุลงในพิมพ์ให้มีความหนา ประมาณ 1 เซนติเมตร น้ำเข้าแช่ตู้เย็นให้เซตตัว เตรียมไว้
• 2. ร่อนแป้งเค้กลงอ่างผสม เตรียมไว้
• 3. ตีครีมชีสกับน้ำตาลทรายด้วยความเร็วปานกลางจนส่วนผสมขึ้นฟู
• 4. ลดความเร็วลงต่ำ ใส่ไข่ไก่ โยเกิร์ต วิปครีม กล้วยหอม และแป้งเค้กลงไปผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
• 5. ตักครีมชีสใส่พิมพ์ที่กรุแป้งพาย
• 6.นำเข้าเตาอบ อบแบบรองน้ำที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 20 นาที หรือจนสุก
• 7.นำออกจากเตา แซะออกจากพิมพ์ วางพักบนตะแกรงจนเย็นสนิท ตัดเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ