วิธีเร่งการเจ็บท้องคลอด
มีคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ที่สามารถช่วยเร่งให้คุณแม่เจ็บท้องคลอดได้เร็วขึ้นนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ การออกกำลังกายเบาๆ หรือ การดื่มชาใบราสเบอร์รี่ ทั้งหมดนี้สามารถกระตุ้นร่างกายคุณทั้งในแง่กายภาพและในแง่ฮอร์โมน เพื่อช่วยเร่งการเจ็บท้องคลอดให้เกิดขึ้น แต่คุณแม่ต้องจำไว้ว่า คุณสามารถลองเทคนิคเหล่านี้ได้ก็ต่อเมื่อลูกในครรภ์เกินกำหนดคลอดแล้วเท่านั้น
พยายามเคลื่อนไหวร่างกาย
- การเดินเล่นจะช่วยให้คุณแม่เจ็บท้องคลอดเร็วขึ้น เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายของคุณแม่จะเป็นการทำให้ตำแหน่งของทารกเคลื่อนต่ำลงมาอยู่ในตำแหน่งการคลอดโดยมีศีรษะเป็นส่วนนำ คุณแม่ควรเดินช้าๆ อย่างผ่อนคลาย และควรมีใครเดินเล่นเป็นเพื่อนหรือเดินเล่นบริเวณรอบๆ บ้านเผื่อในกรณีฉุกเฉิน
ลูกบอลขนาดใหญ่สำหรับผ่อนคลาย
- คุณแม่อาจหาซื้อลูกบอลขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับผ่อนคลายเวลาเจ็บท้องคลอดเอาไว้ ลูกบอลนี้มีราคาไม่แพงและมีประโยชน์มากทั้งในช่วงตั้งครรภ์และในเวลาเจ็บท้องคลอด เพราะสามารถรองรับร่างกายคุณแม่ได้อย่างอ่อนโยน
- ขอให้คุณแม่นั่งบนลูกบอลนี้และโยกตัวไปมา การทำเช่นนี้จะช่วยเร่งให้ทารกในครรภ์ที่เกินกำหนดมีการเคลื่อนไหว และการแกว่งร่างกายช่วงล่างอย่างเป็นธรรมชาติ ก็จะช่วยกระตุ้นให้ทารกเคลื่อนมาสู่ตำแหน่งการคลอดด้วย
มีสัมพันธ์รักอย่างอ่อนโยน
- การมีเพศสัมพันธ์กับคนรัก เป็นเทคนิคเก่าแก่ที่บอกต่อกันว่าสามารถช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ใกล้คลอด เจ็บท้องคลอดเร็วขึ้นได้ แต่อย่าลืมว่าถ้าคุณมีน้ำเดินแล้ว ห้ามมีเพศสัมพันธ์เป็นอันขาด เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงของการติดเชื้อได้
- สาเหตุที่การมีสัมพันธ์รักกันสามารถช่วยกระตุ้นการเจ็บท้องคลอดให้เร็วขึ้น ก็เพราะเป็นการกระตุ้นการบีบรัดตัวของมดลูก
- สำหรับท่วงท่าที่เหมาะสมในช่วงที่คุณแม่ท้องแก่ คือท่าตะแคง โดยทั้งคุณและคู่รักนอนตะแคงข้าง และคู่ของคุณกอดประชิดทางด้านหลัง หากคู่ของคุณถึงจุดสุดยอดด้วยก็จะเป็นเรื่องดี เพราะในน้ำอสุจินั้นมีฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน ที่ช่วยให้ปากมดลูกอ่อนนุ่มลงและขยายกว้างขึ้น
นวดเต้านมเบาๆ
- การนวดเต้านมอย่างแผ่วเบา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหัวนมจะกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนออกซีโตซิน
- คุณแม่ควรใช้ฝ่ามือนวดบริเวณลานนมอย่างอ่อนโยนสัก 15-20 นาทีทุกๆ ชั่วโมง วันละหลายๆ ครั้งเพื่อให้มีการหลั่งฮอร์โมนออกซีโตซินซึ่งมีผลต่อการเร่งการเจ็บท้องคลอดของครรภ์ที่เกินกำหนด
- ตามข้อเท็จจริงแล้วไม่มีหลักฐานที่บ่งบอกว่าการรับประทานอาหารรสจัด สามารถช่วยให้เจ็บท้องคลอดเร็วขึ้นได้ ที่มาของความเชื่อนี้ก็คือบริเวณคอมดลูกและระบบย่อยอาหารของคนเรามีการเชื่อมต่อกันอย่างใกล้ชิดผ่านระบบประสาท ดังนั้น การกระตุ้นระบบใดระบบหนึ่งอาจทำให้อีกระบบได้รับผลกระทบไปด้วย
หากคุณแม่ชอบทานอาหารรสจัดอยู่แล้ว จะลองใช้วิธีนี้ก็ไม่เสียหายอะไร เพียงแต่ควรระวังผลข้างเคียง เช่น อาการแสบร้อนยอดอก อาหารไม่ย่อย หรือท้องเสีย
ลองดื่มชาใบราสเบอร์รี่
- ถึงแม้จะมีคำเล่าลือว่าการดื่มชาใบราสเบอรี่มีส่วนช่วยกระตุ้นให้คุณแม่เจ็บท้องคลอดเร็วขึ้น และชาชนิดนี้มีความปลอดภัยจนคุณแม่สามารถจิบชาได้ตลอดระยะเวลาที่ตั้งครรภ์ แต่ก็ขอแนะนำให้คุณแม่รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมจะดีกว่า
- คุณแม่ไม่ควรจิบชาใบราสเบอร์รี่จนกว่าจะถึงสัปดาห์ที่ 34 ของการตั้งครรภ์ หากต้องการจะทดลองชานี้ คุณแม่อาจหาซื้อใบชามาชงดื่ม หรือใบราสเบอร์รี่ที่สกัดในรูปเม็ด ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายยาและอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ควรปรึกษาสูติแพทย์ก่อนทดลอง
- หากคุณแม่ได้รับคำแนะนำให้ผ่าตัดคลอด หรือเคยคลอดลูกก่อนกำหนด หรือถ้าคุณแม่ยังหวาดกลัวการผ่าตัดคลอดครั้งที่ผ่านมา คุณแม่ควรปรึกษากับคุณหมอก่อนดื่มหรือรับประทานชาราสเบอร์รี่
- แม้ว่าคุณแม่อาจรู้สึกอึดอัดเมื่อตั้งครรภ์เกินกำหนด แต่ก็อย่าลืมว่าลูกน้อยจะใกล้ออกมาดูโลกในไม่ช้านี้แล้ว ขอให้คุณแม่ทำใจให้สบายและออมแรงเอาไว้ให้มากที่สุดสำหรับวันสำคัญที่ใกล้จะมาถึง เรื่องนี้ ไม่ควร ใจร้อนเร่งธรรมชาติมากเกินไปนัก
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อต้องเร่งคลอด
ตามธรรมชาติแล้ว คุณแม่จะเริ่มเจ็บครรภ์เมื่อมีอายุครรภ์ระหว่าง37- 41สัปดาห์ค่ะ ดังนั้นคุณแม่จึงควรที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับ“การเร่งให้คลอด”ในกรณีที่อายุครรภ์เกินกำหนด เพราะหากได้รับรู้รายละเอียดเกี่ยวกับทางเลือกในการชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดทั้งหมดแล้ว คุณแม่จะรู้สึกสบายใจมากขึ้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเวลานั้นมาถึง และไม่ต้องวิตกกังวลนะคะ เพราะขั้นตอนในการชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดนั้นไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด แต่จะทำให้การเจ็บท้องคลอดดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
สาเหตุที่ต้องเร่งคลอด
สาเหตุที่ทำให้ต้องร่องคลอดหรือชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดมีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง เช่น
- ถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว แต่คุณแม่ยังไม่เริ่มมีอาการหดรัดตัวของมดลูก
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนในครรภ์ ของคุณแม่ และจำเป็นจะต้องทำคลอดลูกน้อยโดยเร็ว
- เกินกำหนดคลอดมานานแล้วแต่ยังไม่คลอด
ขั้นตอนในการชักนำให้เจ็บครรภ์คลอด
สูติแพทย์และพยาบาลผดุงครรภ์สามารถชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดได้หลายวิธี แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม อย่างมากที่สุด คุณแม่จะรู้สึกเจ็บ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่การฝึกหายใจก็จะช่วยให้คุณแม่ผ่านพ้นขั้นตอนนี้ไปได้ด้วยดี โปรดจำไว้ว่าเมื่อชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดแล้ว กระบวนการต่างๆ จะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงควรเตรียมตัวให้พร้อม ในทางตรงข้าม บางครั้งก็อาจใช้เวลาถึง 2-3 วัน จึงจะเริ่ม มีอาการเจ็บครรภ์คลอด ดังนั้น จึงไม่ต้องตกใจหากไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยทันที
รายการด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ที่ใช้สำหรับเร่งคลอด
การกวาดปากมดลูก (Membrane sweep)
– วิธีนี้คล้ายกับการตรวจภายในมาก สูติแพทย์จะใช้นิ้วกวาดปากมดลูกเพื่อค่อยๆ ขยายปากมดลูกและกระตุ้นให้เริ่มมีการเจ็บครรภ์ ถ้าทำสำเร็จ มักจะเริ่มมีการเจ็บครรภ์ภายใน 24-48 ชั่วโมง ( วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ผลเสมอไป จึงไม่ต้องกังวลถ้าไม่ประสบความสำเร็จ )
การเจาะถุงน้ำคร่ำ
– แพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีลักษณะเรียวยาวคล้ายเข็มถักโครเชเจาะถุงน้ำคร่ำให้แตกเพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก แต่วิธีนี้ก็ไม่สามารถรับประกันว่าจะได้ผลร้อย เปอร์เซ็นต์อีกเช่นกัน
การใช้ฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin)
– เป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ โดยอาจจะใช้ในรูปของเจลหรือยาเหน็บช่องคลอดโดยสอดเข้าไปที่บริเวณคอมดลูก
– สามารถให้ผ่านสายน้ำเกลือ ถ้าคุณแม่รับยาผ่านสายน้ำเกลือ ขอให้ใช้สายน้ำเกลือที่ค่อนข้างยาวเพื่อที่จะได้ขยับตัวไปมาระหว่างที่มีการเจ็บครรภ์ ยาเร่งคลอดอาจกระตุ้นให้มีการหดรัดตัวของมดลูกค่อนข้างแรง ดังนั้น คุณแม่จึงอาจต้องใช้การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง เพื่อระงับความเจ็บปวดด้วย วิธีนี้ มักจะใช้ร่วมกับการเจาะถุงน้ำคร่ำ
ที่มา :: http://www.dumex.co.th/
10 วิธีช่วยกระตุ้นการคลอด
ทราบหรือไม่ ? ว่ามีคุณแม่เพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ คลอดตรงตามเวลาที่คุณหมอกำหนดไว้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะคลอดช้าหรือเร็วกว่ากำหนดประมาณ 1-2 สัปดาห์ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้ไปกว่านี้ แต่ถ้าหากใกล้กำหนดวันคลอดแล้ว คุณแม่ยังไม่มีวี่แววของสัญญาณอาการเจ็บท้องคลอด คุณหมออาจแนะนำให้กระตุ้นการคลอด ด้วยวิธี 10 ต่อไปนี้ค่ะ
1. กระตุ้นหัวนม: จะทำให้ร่างกายของคุณแม่ปล่อยฮอร์โมนออกซิโทซินออกมา ซึ่งมีผลให้มดลูกบีบรัดตัว แต่วิธีนี้มีข้อเสียตรงที่การบีบรัดตัวของมดลูกจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มทำ คุณควรปรึกษาคุณหมอก่อน ซึ่งคุณอาจได้รับคำแนะนำให้เริ่มด้วยการคลึงหัวนมเบาๆ เป็นเวลา 15 นาทีแล้วสลับข้างติดต่อกันนาน 1 ชั่วโมง ให้ทำวันละ 3 ครั้ง เท่านี้ คุณก็จะคลอดตรงตามเวลาที่คุณหมอได้กำหนดไว้ แต่ถ้าหากไม่มีเวลา อาจใช้เวลาช่วงอาบน้ำให้ฉีดน้ำฝักบัวไปที่หัวนม โดยจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน การกระตุ้นจึงจะเป็นผล
2. มีเซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์: เมื่อเกิดความรู้สึกทางเพศ ร่างกายของคุณจะปล่อยฮอร์โมนออกซิโทซินออกมา ซึ่งจะมีผลให้มดลูกของคุณบีบรัดตัว นอกจากนี้ ภายในน้ำเชื้ออสุจิจะมีโปรสเตแกลนดิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ถูกใช้ในการกระตุ้นให้มดลูกบีบรัดตัวเช่นกัน หลังมีเพศสัมพันธ์ให้คุณนอนนิ่งๆ สักพักเพื่อให้น้ำเชื้ออสุจิผ่านเข้าไปทางช่องคลอดได้สะดวกขึ้น ผลการกระตุ้นการคลอดจะได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
3. กินสัปปะรดสด: วิธีนี้ยังไม่มีผลงานวิจัยออกมาสนับสนุนเป็นที่แน่นอน แต่ผู้หญิงอเมริกันส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้ในการกระตุ้นการคลอดเป็นผลสำเร็จหลายราย ซึ่งในสัปประรดเองก็ไม่มีสารที่ที่เป็นผมเสียต่อการตั้งครรภ์ วิธีนี้จึงเป็นอีกวิธีที่น่าลองเช่นกัน
4.เดินเร็ว: การเดินเร็วจะทำให้เกิดแรงกดที่บริเวณช่องคลอด ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้มดลูกเกิดการบีบรัดตัว
5. ดื่มชาสมุนไพร: การดื่มชาใบคาโมไมล์ ราสเบอรี่ หรือชาคูมิน จะช่วยให้ช่องคลอดนุ่ม และหนาตัวขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะที่พร้อมสำหรับการเบ่งท้องคลอด และช่วยให้เกิดการบีบรัดตัวเช่นกัน
1. กระตุ้นหัวนม: จะทำให้ร่างกายของคุณแม่ปล่อยฮอร์โมนออกซิโทซินออกมา ซึ่งมีผลให้มดลูกบีบรัดตัว แต่วิธีนี้มีข้อเสียตรงที่การบีบรัดตัวของมดลูกจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มทำ คุณควรปรึกษาคุณหมอก่อน ซึ่งคุณอาจได้รับคำแนะนำให้เริ่มด้วยการคลึงหัวนมเบาๆ เป็นเวลา 15 นาทีแล้วสลับข้างติดต่อกันนาน 1 ชั่วโมง ให้ทำวันละ 3 ครั้ง เท่านี้ คุณก็จะคลอดตรงตามเวลาที่คุณหมอได้กำหนดไว้ แต่ถ้าหากไม่มีเวลา อาจใช้เวลาช่วงอาบน้ำให้ฉีดน้ำฝักบัวไปที่หัวนม โดยจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน การกระตุ้นจึงจะเป็นผล
2. มีเซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์: เมื่อเกิดความรู้สึกทางเพศ ร่างกายของคุณจะปล่อยฮอร์โมนออกซิโทซินออกมา ซึ่งจะมีผลให้มดลูกของคุณบีบรัดตัว นอกจากนี้ ภายในน้ำเชื้ออสุจิจะมีโปรสเตแกลนดิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ถูกใช้ในการกระตุ้นให้มดลูกบีบรัดตัวเช่นกัน หลังมีเพศสัมพันธ์ให้คุณนอนนิ่งๆ สักพักเพื่อให้น้ำเชื้ออสุจิผ่านเข้าไปทางช่องคลอดได้สะดวกขึ้น ผลการกระตุ้นการคลอดจะได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
3. กินสัปปะรดสด: วิธีนี้ยังไม่มีผลงานวิจัยออกมาสนับสนุนเป็นที่แน่นอน แต่ผู้หญิงอเมริกันส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้ในการกระตุ้นการคลอดเป็นผลสำเร็จหลายราย ซึ่งในสัปประรดเองก็ไม่มีสารที่ที่เป็นผมเสียต่อการตั้งครรภ์ วิธีนี้จึงเป็นอีกวิธีที่น่าลองเช่นกัน
4.เดินเร็ว: การเดินเร็วจะทำให้เกิดแรงกดที่บริเวณช่องคลอด ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้มดลูกเกิดการบีบรัดตัว
5. ดื่มชาสมุนไพร: การดื่มชาใบคาโมไมล์ ราสเบอรี่ หรือชาคูมิน จะช่วยให้ช่องคลอดนุ่ม และหนาตัวขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะที่พร้อมสำหรับการเบ่งท้องคลอด และช่วยให้เกิดการบีบรัดตัวเช่นกัน
6. ดื่มน้ำมากๆ: หรือกินอะไรก็ได้ ที่จะเป็นผลให้ปวดปัสสาวะเข้าห้องน้ำบ่อยๆ เช่น ผลไม้ เพราะการถ่ายปัสสาวะบ่อยๆ จะทำให้เกิดแรงบีบที่มดลูก
7. กินอีฟเว่นนิ่ง พิมโรส ออยล์: วันละ 2 แคปซูลจะช่วยให้ปากช่องคลอดนุ่ม หนา และกระตุ้นให้เกิดการคลอดขึ้นได้
8. กระตุ้นผ่านทางช่องคลอด: วิธีนี้ต้องให้คุณหมอเป็นผู้ทำให้โดยเฉพาะ โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อคุณหมอเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำการกระตุ้นให้เกิดการคลอดขึ้น คุณหมอจะสวมถุงมือและสอดนิ้วเข้าทางช่องคลอดของคุณเพื่อกระตุ้นให้มดลูกบีบรัดตัว
9. นวดกดจุด: บริเวณข้อเท้าและมือจะมีจุดที่มีเส้นประสาทเชื่อมโยงไปยังมดลูก (เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วย) คุณจึงสามารถนวดกดที่บริเวณนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหดรัดตัวที่มดลูกได้เช่นกัน
10. นวดแบบอโรมาเธอราปี: ใช้น้ำมันนวดผสมน้ำมันหอมละเหยเล็กน้อย แล้วใช้นวดเบาๆ ที่บริเวณแผ่นหลัง และท้อง เทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนออกซิโทซิน และทำให้กระแสการไหลเวียนของเลือดบริเวณมดลูกดีขึ้น
7. กินอีฟเว่นนิ่ง พิมโรส ออยล์: วันละ 2 แคปซูลจะช่วยให้ปากช่องคลอดนุ่ม หนา และกระตุ้นให้เกิดการคลอดขึ้นได้
8. กระตุ้นผ่านทางช่องคลอด: วิธีนี้ต้องให้คุณหมอเป็นผู้ทำให้โดยเฉพาะ โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อคุณหมอเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำการกระตุ้นให้เกิดการคลอดขึ้น คุณหมอจะสวมถุงมือและสอดนิ้วเข้าทางช่องคลอดของคุณเพื่อกระตุ้นให้มดลูกบีบรัดตัว
9. นวดกดจุด: บริเวณข้อเท้าและมือจะมีจุดที่มีเส้นประสาทเชื่อมโยงไปยังมดลูก (เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วย) คุณจึงสามารถนวดกดที่บริเวณนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหดรัดตัวที่มดลูกได้เช่นกัน
10. นวดแบบอโรมาเธอราปี: ใช้น้ำมันนวดผสมน้ำมันหอมละเหยเล็กน้อย แล้วใช้นวดเบาๆ ที่บริเวณแผ่นหลัง และท้อง เทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนออกซิโทซิน และทำให้กระแสการไหลเวียนของเลือดบริเวณมดลูกดีขึ้น
ที่มา :: http://www.pregnancysquare.com/
เจ็บแบบไหนไปโรงพยาบาล
ตอบลบถ้ามีอาการเจ็บแรงๆ นานประมาณ 45 วินาทีและเจ็บถี่ทุกๆ 5 นาที ถ้ามีอาการแบบนี้ควรออกเดินทางไปโรงพยาบาลค่ะ แต่ถ้าไม่แน่ใจกลัวไปโรงพยาบาลไม่ทันจะไปพบแพทย์ก่อนเลยก็ได้คะ
ขอบอกว่าหน้าที่นี้ของคุณพ่อสำคัญและจำเป็นมาก เพราะนี่เป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตของคุณแม่ ย่อมต้องมีความรู้สึกหวาดกลัวและเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย คุณพ่อจึงเป็นคนสำคัญอันดับหนึ่งที่จะช่วยให้แม่ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยความรู้สึก
แต่ยังมีเรื่องที่คุณพ่อสามารถช่วยคุณแม่บรรเทาความเจ็บจากการเจ็บท้องคลอดได้อีกตั้งหลายเรื่อง อย่างที่เตรียมมาบอกกันหนนี้นี่แหละ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนค่ะว่า เรื่องท้อง เจ็บท้อง หรือแม้กระทั่งการคลอดลูก ไม่ใช่เรื่องของคนเป็นแม่เท่านั้น คนเป็นพ่อเองก็ต้องมีเอี่ยวด้วย ก็แหม ของอย่างนี้ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิคะ มันถึงจะถูกคุณว่ามั้ย ส่วนเรื่องที่ว่า ช่วงท้องพ่อต้องมีเอี่ยวอย่างไรคงเอาไว้พูดกันหนหน้า เพราะครั้งนี้เราจะพูดกันเฉพาะบทบาทคุณพ่อในช่วงที่คุณแม่เจ็บท้องรอเวลาคลอดกันค่ะ
...
เมื่อแม่เจ็บท้องคลอด...พ่อช่วยทำอะไรได้บ้าง
ตอบลบเพราะช่วงเวลาการเจ็บท้องคลอด กินเวลาประมาณ 12-14 ชั่วโมงก่อนคลอด (ในท้องแรก) ช่วงที่เริ่มเจ็บท้องเล็กน้อย คุณหมอจึงมักแนะนำให้พักผ่อนอยู่ที่บ้านก่อน ช่วงเวลานี้แหละที่พ่อต้องอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจไปจนถึงช่วงเวลาคลอด ซึ่งถ้าเป็นโรงพยาบาลที่อนุญาตให้คุณพ่อเข้าไปอยู่ในห้องคลอดได้ คุณพ่อก็มีโอกาสได้ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด (แต่ต้องมั่นใจนะคะว่าคุณ สามารถทนเห็นภาพการคลอด ความเจ็บปวดของคุณแม่ได้) แต่ถ้าไม่ได้เข้าไปในห้องคลอด 4-5 เรื่องแรกๆ ต่อจากนี้ก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อสามารถทำได้ในช่วงเวลาที่คุณแม่เจ็บท้องอยู่ที่บ้าน
* เตือนตัวเองว่าอย่าตื่นเต้น ให้พยายามคุมตัวเองให้สงบผ่อนคลาย เพื่อให้
ความรู้สึกนี้ถ่ายทอดไปยังคุณแม่
* เบนความสนใจคุณแม่ด้วยการชวนทำกิจกรรมเบาๆ ให้ลืมอาการเจ็บ เช่น
เช็คของที่จะเตรียมไปโรงพยาบาล เล่นเกม ชวนพูด คุยเรื่องที่เป็นความสุข
ชวนให้สดชื่น
* คอยชักชวนให้คุณแม่เปลี่ยนท่านอนหรือลุกเดินไปรอบๆ ห้อง และคอยเตือนให้แม่อยู่ในท่าที่ตัวตั้งฉากกับพื้นจะช่วยเร่งให้ปาก
มดลูกเปิดเร็วขึ้น
* บีบนวด สัมผัสคุณแม่อย่างนุ่มนวลและช้าๆ ให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย
* สังเกตลักษณะการหดรัดตัวของมดลูก ว่าหดรัดตัวนานเท่าไหร่ มีความถี่ห่างอย่างไร เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการคลอดเบื้องต้น
และเวลาในการออกเดินทางไปโรงพยาบาล
* เตรียมน้ำดื่มเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำที่อาจเกิดขึ้น เพราะอ่อนเพลียจากการเจ็บท้อง ถ้ารู้สึกว่าลมหายใจคุณแม่มีกลิ่น แสดงว่า
คุณแม่เริ่มขาดน้ำ ควรเตือนให้จิบน้ำหรืออมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ
* จัดบรรยากาศให้เงียบสงบผ่อนคลาย เช่น เปิดเพลงจังหวะสบายๆ คลอเบาๆ ปิดม่านเปิดไฟสลัวๆ
* คอยเตือนให้คุณแม่ผ่อนคลาย และหายใจอย่างช้าๆ โดยเฉพาะในช่วงที่คุณแม่ปวดจนมีอาการเกร็ง อาจจะพูดนำเป็นจังหวะการหายใจ
ให้คุณแม่โดยใช้เสียงสม่ำเสมอ "หายใจเข้า หายใจออก..." "ศีรษะผ่อนคลาย แขนผ่อนคลาย..."
* สรรหาถ้อยคำดีๆ มาพูดให้กำลังใจคุณแม่ เช่น "ดีมากจ้ะ แม่ทำได้ดีแล้ว" "พ่อรักแม่มากนะ"
"อีกนิดเดียว เดี๋ยวลูกเราก็ออกมาแล้ว"
* เตือนคุณแม่ให้ปัสสาวะทุก 2 ชั่วโมง เพื่อเปิดทางให้ช่องทางคลอดสะดวกโยธินมากยิ่งขึ้น
* ถ้าคุณแม่ปวดหลัง ให้คุณพ่อใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือน้ำแข็งห่อผ้าขนหนูประคบบริเวณที่ปวด หรือจะใช้วิธีนวดโดยกำมือหรือใช้สันมือ
กดนวดบริเวณที่ปวดและบริเวณใกล้เคียง
* เอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าตา ลำตัวคุณแม่เป็นระยะๆ ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่น
* อย่าน้อยใจหรือถือเป็นอารมณ์ ถ้าเวลาแบบนี้คุณแม่จะร้องเอะอะโวยวาย หรือไม่พอใจในการดูแลช่วยเหลือของคุณ เพราะอาการแบบนี้
เป็นวิธีหนึ่งที่คุณแม่ใช้ระบายความเจ็บปวด
* คอยบอกสถานการณ์ ความก้าวหน้าการคลอดให้คุณแม่รู้ เพื่อเป็นพลังในการคลอด
* อย่ามัวแต่จดจ่อกับการถ่ายวีดีโอจนลืมหน้าที่สำคัญของคุณไป
* ให้กำลังใจและชื่นชมคุณแม่เมื่อลูกคลอดแล้ว อย่าสนใจลูกมากจนลืมคุณแม่ไป
...