อาการไอ ส่งสัญญาณอะไร?
อาการไอ ส่งสัญญาณอะไร? (Mother&Care)
ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา อากาศทั่วโลกต้องเรียกว่าอยู่ในขั้นปั่นป่วน ก็เพราะปรากฏการณ์ที่เรียกว่าภาวะโลกร้อน ที่ทุกคนในโลกกําลังเผชิญอยู่ คนเป็นพ่อเป็นแม่ นอกจากจะปลูกฝังจิตสํานึกในเรื่องการประหยัดพลังงานให้ลูก ๆ เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว ยังต้องคอยสังเกตอาการป่วยไข้ของลูกอยู่เสมอ ถ้าลูกแสดงอาการป่วยไข้เพียงเล็กน้อย ก็ต้องคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด จะได้แก้ไขได้ทัน ไม่ปล่อยให้เรื้อรังจนแก้ยาก เด็กเล็ก ๆ ไอกันได้ง่าย ๆ และบ่อย ๆ
ทําไมถึงไอ
โดยทั่วไป อาการไอเป็นกลไกธรรมชาติที่ช่วยปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร เพื่อช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น สังเกตจากแค่เราเจอควัน เราก็ไอออกมาแล้ว ฉะนั้นเวลาเด็ก ๆ เป็นหวัดธรรมดา แล้วไอออกมาจึงไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วง และไม่จําเป็นต้องซื้อยาแก้ไอมากิน แต่ถ้ามีอาการไอผิดปกติขึ้นมาก็ต้องมาดูถึงสาเหตุที่ทําให้เกิดอาการไอ
ลักษณะไอเบา ๆ แห้ง ๆ ไม่ได้ไอติดต่อกัน อาจเกิดจากอาการระคายคอธรรมดา ไม่ใช่อาการน่าเป็นห่วง
เด็ก ๆ ไอเพราะ...
หวัด : อาการหวัด และมีอาการไอด้วย มักมาจากการติดเชื้อไวรัสในอากาศ มักจะมีไข้ น้ำมูกไหล ระคายคอ
รักษาเบื้องต้น : ให้เด็กดื่มน้ำอุ่น ถ้ามีไข้ก็กินยาลดไข้ พักผ่อนมาก ๆ ถ้าเป็นหวัดธรรมดามักจะหายได้เองภายใน 3-5 วัน
อากาศ : ในช่วงที่อากาศหนาวและแห้ง เกิดการระคายเคืองในหลอดลม จมูกต้องปรับความชื้น เพื่อทําให้อากาศที่หายใจเข้าไปอุ่นขึ้น ดังนั้น ร่างกายจึงต้องปรับตัวให้เลือดมาเลี้ยงที่เยื่อบุจมูกมากขึ้น ทําให้เยื่อบุจมูกบวม เกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเล็ก ๆ น้อย และไอแห้ง ๆ
รักษาเบื้องต้น :ใส่เสื้อหนา ๆ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดื่มน้ำอุ่น ๆ
ส่งเสียงดัง : บางครั้งเด็ก ๆ สนุกกับการทําเสียงดัง เล่นสนุก ตะโกน ก็ทําให้ระคายคอมากขึ้น
รักษาเบื้องต้น :ให้งดใช้เสียงสักพัก ป้อนอาหารอ่อน ๆ จําพวกข้าวต้ม โจ๊ก ดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ
ภูมิแพ้ : เด็กเมืองในปัจจุบันเป็นภูมิแพ้กันมาก โดยเฉพาะภูมิแพ้อากาศ ถ้ามีน้ำมูกไหลลงไปในคอ จะทําให้คัน ระคายคอมากกว่าธรรมดา อาการไอก็ตามมา
รักษาเบื้องต้น :เด็กที่ไอเพราะอาการดังกล่าว ถ้ามีน้ำมูกก็ให้รีบกินยาลดน้ำมูก เป็นการรักษาที่ต้นเหตุ
ถ้าเกิดอาการแพ้ เป็นผลทําให้มีอาการอักเสบ หลอดลมตีบตัว ทําให้เกิดอาการไอ หรือเข้าข่ายเป็นหืด
รักษาเบื้องต้น :คุณหมอมักจะสั่งยาขยายหลอดลม
ถ้าเด็กไอนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ต้องพาไปพบคุณหมอ เพื่อตรวจดูว่าเกิดจากสาเหตุใด และถ้าไอติดกันนาน 1 เดือน จะเข้ากับคําว่า ไอเรื้อรัง ถ้าอาการไอของลูกไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น คุณแม่เองก็ต้องคอยสังเกตด้วยว่า ลูกไอช่วงไหนอย่างไร เช่น ไอเฉพาะตอนกลางคืน หรือตอนเช้า ไอเพราะควันบุหรี่ หรือทุกครั้งที่นั่งรถแล้วไอ (อาจจะเกิดจากไรฝุ่นในรถ) เพื่อจะแจ้งให้คุณหมอทราบ และหาสาเหตุที่แน่ชัดของอาการไอได้ดีขึ้น
เรื่องของยาแก้ไอ
คุณแม่หลายท่านพอเห็นว่าลูกมีอาการไอ แต่ยังแข็งแรงร่าเริงอยู่ ก็ไปซื้อยาแก้ไอละลายเสมหะ (เพราะฟังเสียงไอ แล้วเหมือนมีเสมหะปนอยู่ด้วย) ในแง่ของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ยาละลายเสมหะในกลุ่มผู้ป่วยเด็กนั้น ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า สามารถบรรเทาอาการไอได้
ดังนั้น ยาแก้ไอที่ดีที่สุด (ถ้าเกิดจากหวัด หรือการระคายเคืองธรรมดา) ก็คือ น้ำอุ่น การพักผ่อน และการรับประทานอาหารที่ไม่ทําให้ระคายเคืองคอนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น