มหัศจรรย์ การกำเนิดชีวิต
มหัศจรรย์ การกำเนิดชีวิต (modernmom)
โดย นท.นพ.วิวัฒน์ ชินพิลาศ
กระบวนการตั้งครรภ์...เรื่องต้องรู้ของคนอยากมีลูก
กระบวนการตั้งครรภ์
ความมหัศจรรย์ของการกำเนิดชีวิต เริ่มต้นที่ตัวอสุจิของฝ่ายชายเข้าปฏิสนธิกับไข่ของฝ่ายหญิง ทำให้เกิดเซลล์ที่มีคุณสมบัติทางพันธุกรรมซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
โดยไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิเพียงหนึ่งเซลล์นี้จะแบ่งตัวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลายเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คู่สมรสส่วนใหญ่จะสามารถมีบุตรได้ภายในระยะเวลาหนึ่งปีหลังจากอยู่ร่วมกันโดยมิได้คุมกำเนิด ไข่ที่อยู่ในรังไข่ของฝ่ายหญิงก็จะอยู่กับเธอมาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่เธอเป็นทารกในครรภ์ที่มีอายุเพียงห้าเดือนด้วยซ้ำ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีไข่อยู่ในรังไข่ราวเจ็ดล้านฟอง แต่เมื่อเธอลืมตาดูโลกภายนอก จำนวนไข่ที่มีอยู่จะลดจำนวนลงเหลือประมาณสองล้านฟอง แล้วก็จะค่อยๆสลายตัว และลดจำนวนลงจนกระทั่งถึงเวลาที่จะต้องใช้ คือ ช่วงเข้าสู่วัยสาว จำนวนไข่ก็จะลดลงเหลือประมาณ สองถึงห้าแสนใบ จากจำนวนไข่ดังกล่าว แต่ตลอดช่วงระยะวัยเจริญพันธุ์ จะมีไข่เพียงสี่ถึงห้าร้อยใบเท่านั้นที่เจริญเติบโตจนกระทั่งสุกและตกออกมาจากรังไข่
ผู้หญิง : รอบการทำงานของรังไข่
เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ไข่ที่อยู่ในรังไข่จะมีวงรอบของการเจริญเติบโต จากไข่ใบเล็กจนกระทั่งสุกและตกออกมาจากผิวของรังไข่ เพื่อรอให้ตัวอสุจิเข้าปฏิสนธิในท่อนำไข่ส่วนปลาย
ทั้งนี้การเจริญดังกล่าวเกิดขึ้นจากการกระตุ้นของฮอร์โมน FSH(Follicular Stimulating Hormone) จากต่อมใต้สมอง ในช่วงระยะเริ่มต้นของการเติบโตของไข่ในรังไข่ จะมีไข่ประมาณยี่สิบถึงสามสิบใบที่เติบโตขึ้นพร้อม ๆ กัน แต่จะมีเพียงหนึ่งใบเท่านั้น หรืออาจจะสองใบในบางรอบเดือนที่สามารถเติบโตจนถึงระยะไข่สุก ส่วนไข่ใบที่เหลือก็จะฝ่อไป เมื่อไข่ตกออกจากถุงไข่แล้ว ถุงไข่จะกลายสภาพเป็น คอปัส ลูเทียม ที่มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการสนับสนุนเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อการเจริญเติบโตและฝังตัวของตัวอ่อน
หากไม่มีการปฏิสนธิระหว่างไข่และตัวอสุจิ คอปัส ลูเทียมก็จะหยุดทำงาน และมีการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกออกมาเป็นเลือดประจำเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่รอบการเจริญเติบโตของไข่ชุดใหม่จะเริ่มขึ้น
ผู้ชาย : การผลิตเชื้ออสุจิ
ตัวอสุจิถูกสร้างที่ลูกอัณฑะ การสร้างตัวอสุจินั้นเป็นกระบวนการต่อเนื่อง เริ่มต้นจากตัวอสุจิอ่อนจนเป็นตัวอสุจิที่เจริญเติบโตเต็มที่และพร้อมที่จะหลั่งออกมานอกร่างกาย กินเวลาทั้งสิ้นประมาณ 7 สัปดาห์
ลูกอัณฑะเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยท่อขนาดเล็กที่ภายในบรรจุสเปอมาโตโกเนีย(ตัวอสุจิอ่อน)ที่จะเจริญเติบโตต่อไปเป็นสเปอมาติด สเปอมาติดจะเจริญเติบโตต่อไปในขณะที่มีการเคลื่อนตัวมาตามท่อซึ่งในที่สุดจะมารวมกันที่ท่อที่เรียกว่า เอปิดิไดมิส ที่ตัวอสุจิจะเจริญเต็มที่และมีหางที่สมบูรณ์
นอกจากนี้ ลูกอัณฑะยังสร้างฮอร์โมนเพศชายที่เรียกว่า เทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายที่สำคัญที่สุดและมีพลังอำนาจมากที่สุด และจำเป็นต่อการพัฒนาลักษณะของความเป็นชายให้สมบูรณ์
กระบวนการผลิตตัวอสุจิเริ่มเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น โดยเกิดขึ้นที่ลูกอัณฑะภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเทสเตอโรนจากลูกอัณฑะ และฮอร์โมน FSH & LH จากต่อมใต้สมอง แบบเดียวกับที่กระตุ้นรังไข่ในฝ่ายหญิง การสร้างตัวอสุจิจะเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องไปตลอดอายุของฝ่ายชาย โดยพบว่าปริมาณและความเข้มข้นอาจลดลงหลังจากอายุ 40 ปีล่วงไปแล้ว
การสร้างอสุจิจะเพิ่มเมื่อมีกิจกรรมทางเพศ แต่ถ้าความถี่ของกิจกรรมดังกล่าวมีมากเกินไปก็จะทำให้ปริมาณและความเข้มข้นลดลง และเป็นสาเหตุของการมีบุตรยากได้เช่นกัน ตัวอสุจิที่โตเต็มวัย จะมีขนาดเพียงหนึ่งในยี่สิบมิลลิลิตรเท่านั้น จึงไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ประกอบไปด้วยส่วนหัว ซึ่งเป็นที่บรรจุสารพันธุกรรม ส่วนลำตัวเป็นส่วนที่มีไมโตคอนเดรียที่ให้พลังงาน และส่วนหางที่ช่วยให้ตัวอสุจิสามารถเคลื่อนไหวได้ ตัวอสุจิจะสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วประมาณ 2-3 มิลลิเมตรต่อนาที ซึ่งในสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นกรดมากจะทำให้ตัวอสุจิเคลื่อนไหวได้ช้าลง
ดังนั้นการที่ภายในช่องคลอดมีสภาพความเป็นกรดสูงกว่าภายในโพรงมดลูก จึงทำให้การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิภายในมดลูกเป็นไปได้ดีกว่า โดยพบว่าจำนวนตัวอสุจิที่หลั่งออกมาต่อครั้งประมาณ 300 ล้านตัวจะมีเหลือเพียงไม่กี่ร้อยตัวเท่านั้นที่ไปถึงไข่ เมื่อตัวอสุจิพบกับไข่และสามารถเจาะผ่านเปลือกไข่เข้าไปได้ เกิดการปฏิสนธิกันกลายเป็นไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิซึ่งจะเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนต่อไป
ตัวอ่อนดังกล่าวจะมีจำนวนโครโมโซมเท่ากับ 46 เท่ากับพวกเรา เมื่อไข่ได้รับการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนแล้ว ตัวอ่อนจะแบ่งตัวและเดินทางมาตามท่อนำไข่เพื่อกลับมาฝังตัวที่มดลูก ตัวอ่อนในระยะนี้เรียกว่า ระยะพลาสโตซิสต์ ซึ่งนับได้ประมาณ 5-7 วันหลังไข่ตก สำหรับตำแหน่งของการฝังตัวที่พบบ่อยมักอยู่ที่ด้านบนของโพรงมดลูก เมื่อการฝังตัวเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว จึงเรียกได้ว่าการตั้งครรภ์ และตัวอ่อนก็จะเจริญเป็นทารกและรกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น