ขอบคุณภาษาจีน ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมาก ขอบใจ รวมคำขอบคุณภาษาจีน
ประโยคขอบคุณภาษาจีนที่ใช้กันทั่วไป คือ
谢谢
(xiè xiè)
เซี่ย เซี่ย
ขอบคุณ
กรณีที่คุณไม่ใช้เจ้าของภาษา หรือเพิ่งเริ่มเรียนภาษาจีน นอกจากการเรียนคำนามภาษาจีนง่ายๆ และตัวเลขภาษาจีนแล้ว คำนี้อาจเป็นคำขอบคุณคำเดียวที่คุณรู้ แต่หากคุณอยากจะพูดภาษาจีนให้ได้เหมือนคนจีน คุณก็ต้องมาดูว่าปกติแล้วคนจีนเค้าพูด “ขอบคุณ” เป็นภาษาจีน อย่างไรบ้าง
วิธีกล่าวขอบคุณภาษาจีนแบบคนจีน
ต่อไปนี้คือคำกล่าวขอบคุณภาษาจีนแบบต่างๆ กันไป ให้คุณได้นำไปใช้ให้เหมาะสมกับผู้ฟังและสถานการณ์
ขอบคุณค่ะ/ครับ ภาษาจีน
谢谢
(xiè xiè)
เซี่ย เซี่ย
ขอบคุณ
สำนวนนี้เป็นสำนวนพื้นฐานของวิธีพูดขอบคุณเมื่อได้รับของกำนัลหรือระหว่างการพบปะสังสรรค์อื่นๆ
ขอบใจภาษาจีน
谢了
(xièle)
เซี่ย เลอ
ขอบใจ
นี่เป็นวิธีแสดงความขอบคุณระหว่างเพื่อนๆ อย่างรวดเร็วและไม่เป็นทางการ มักใช้ในการส่งข้อความซึ่งนิยมใช้คำและวลีสั้นๆ
ขอบใจมาก ภาษาจีน
多谢
(duōxiè)
เดา เซี่ย
ขอบใจมาก
多 (duō) แปลตรงตัวว่า “มาก” ดังนั้น 多谢 (duōxiè) จึงเป็นการกล่าวขอบคุณสั้นๆ และไม่เป็นทางการว่า “ขอบคุณมาก” หรือ “ขอบใจมาก” ในภาษาจีน เป็นคำพูดขอบคุณที่เหมาะสำหรับบทสนทนาที่ไม่เป็นกิจลักษณะทั่วๆไป เช่น เมื่อกล่าวขอบคุณเพื่อน หรือเพื่อนที่ทำงาน เป็นต้น
ขอบคุณมาก ภาษาจีน
感谢
(gǎn xiè)
ก่าน เซี่ย
ขอบคุณมาก
หรือ
非常感谢你
(fēi cháng gǎn xiè nǐ)
เฟย ฉาง ก่าน เซี่ย หนี่
ขอบพระคุณมาก
ประโยคนี้จะใช้สำหรับสถานการณ์ที่จริงจัง ใช้เมื่อรู้สึกว่าตนเป็นหนี้บุญคุณกับใคร
สำนวนนี้ยังเหมาะสำหรับหลายสถานการณ์ที่เป็นแบบกึ่งทางการด้วย เช่น ถ้าเพื่อนร่วมชั้นช่วยคุณทำโครงงานขนาดใหญ่ของโรงเรียนหรือ เพื่อนร่วมงานช่วยปกป้องคุณในที่ทำงานโดยที่คุณไม่ได้คาดคิดมาก่อน สำนวน 感谢 (gǎn xiè) หรือ 非常感谢你 (fēi cháng gǎn xiè nǐ) เป็นสำนวนที่สมควรใช้ในสถานการณ์ดังกล่าว
ขอโทษที่รบกวน ภาษาจีน
麻烦你了
(má fan nǐ le)
หมา ฟาน หนี่ เลอ
ขอโทษที่รบกวน
ประโยคนี้นี้โดยทั่วไปจะใช้ในที่ทำงานหรือแวดวงธุรกิจ แปลว่า ”ขอโทษที่ทำให้ลำบาก” หรือ ”ขอโทษที่รบกวน” ซึ่งฟังดูจะขัดแย้งกันอยู่สักหน่อย แต่จริงๆแล้ววัตถุประสงค์ในการพูดคือ เพื่อเป็นคำขอบคุณนั่นเอง
เป็นสำนวนที่ดีที่ใช้สำหรับขอบคุณผู้อื่นที่มีความพยายามจะช่วยหรือทำงานให้กับคุณ แต่เป็นคำขอโทษที่ไม่ค่อยเป็นทางการเท่าไหร่นัก
แม้ว่ามีใครมาช่วยเหลือคุณโดยที่คุณไม่ได้ร้องขอหรือถ้าพวกเขาทำงานให้คุณโดยไม่ได้ยากลำบากอะไรก็สามารถใช้สำนวน 麻烦你了 (má fan nǐ le) ได้เช่นกัน เป็นคำขอบคุณที่เพิ่มความชอบให้กับผู้ฟังได้
คุณดีที่สุดเลย ภาษาจีน
你太好啦
(nǐ tài hǎo la)
หนี่ ไท่ เห่า ลา
คุณดีที่สุดเลย
เป็นสำนวนที่ใช้เหมาะกับการใช้ในครอบครัว เพื่อนฝูงหรือคนที่รู้จักกันดีในที่ทำงานหรือโรงเรียน เปรียบเหมือนกับประโยคภาษาไทยที่ว่า “คุณน่ารักที่สุดเลย” หรือ “คุณเป็นคนดีที่สุดเลย” เวลาเราต้องการชมเพื่อนหรือคนในครอบครัวแบบน่ารักๆ และยังเปรียบเทียบกับการขอบคุณภาษาอังกฤษด้วยคำว่า “You’re the best!” อีกด้วย
ประโยค 你太好啦 (nǐ tài hǎo la) ใช้ขอบคุณด้วยการพยายามยกย่องคนที่คุณขอบคุณ แน่นอนว่าเราอาจจะได้รับการตอบกลับอย่างตื่นเต้นหรือเขินอายของอีกฝ่ายว่า 不,不 (bù, bù) หรือ ”ไม่เป็นไร” ก็ได้
ไม่ต้องกังวลหากเพื่อนคนจีนทำท่าทางบ่ายเบี่ยงหรือไม่ยอมรับคำชม เพราะนั่นเป็นการแสดงความถ่อมตนของพวกเขา แต่จริงๆ แล้วเขาเข้าใจว่าเขาควรได้รับคำชม และรู้สึกดีที่ได้รับคำชมและคำขอบคุณแน่นอน
อย่างไรก็ตามประโยค 你太好啦 (nǐ tài hǎo la) ไม่ควรนำมาใช้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ หรือกับคนที่คุณไม่รู้จักกันดีหรือหัวหน้า เก็บไว้ใช้กับเพื่อนของคุณหรือครอบครัวจะดีกว่า
ขอบคุณทุกคน ภาษาจีน
谢谢大家…
(xiè xiè dà jiā…)
เซี่ย เซี่ย ต้า เจีย
ขอบคุณทุกคน…
เมื่อเราต้องกล่าวคำขอบคุณกลุ่มคนหลายคน เช่น การดื่มอวยพรในงานเลี้ยงสังสรรค์, การประชุมธุรกิจ, งานแต่งงานหรือสถานการณ์ที่มีคนกลุ่มใหญ่ที่ค่อนข้างเป็นทางการ ประโยคนี้สามารถใช้ได้ และใช้เป็นส่วนแรกของประโยคด้วย
ส่วนที่สองของประโยคควรจะระบุเฉพาะเจาะจงลงไป เราควรเติมไปว่า
- …的关注。
(…de ɡuān zhù.)
…เตอ กวาน จู้
“…สำหรับการให้ความสนใจ” - …的来临。
(…de lái lín.)
…เตอ ไหล หลิน
สำหรับการมาในครั้งนี้
ยกตัวอย่างเช่น
- 谢谢大家的关注。
(xiè xiè dà jiā de ɡuān zhù.)
เซี่ย เซี่ย ต้า เจีย กวาน จู้
ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ - 谢谢大家的来临。
(xiè xiè dà jiā de lái lín.)
ขอบคุณทุกท่านที่มา
ขอบคุณผู้ใหญ่/ขอบคุณคุณครู ภาษาจีน
谢谢您,(老师)。
Xièxiè nín, (lǎoshī)
เซี่ย เซี่ย หนิน (เหล่าซือ)
ขอบคุณครับ/ค่ะ (คุณครู)
ประโยค 谢谢您 (Xièxiè nín) แปลว่า “ขอบคุณ” แต่ให้ความสำคัญกับบุคคลที่ถูกขอบคุณมากขึ้น ด้วยการระบุคำว่า “คุณ” ส่วนใหญ่จะใช้เมื่อมีคนช่วยเหลือคุณ หรือเมื่อคุณต้องการแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจและเป็นส่วนตัวมากขึ้นเล็กน้อย
คำว่า 您 (nín) เป็นการเขียนแบบภาษาจีนตัวย่อ (เป็นการขอบคุณแบบจีนแผ่นดินใหญ่และสิงคโปร์) เพื่อทำให้สำนวนดูมีความเคารพมากขึ้น เช่น กล่าวขอบคุณผู้อาวุโสหรือครู หากต้องการเขียนแบบภาษาจีนตัวเต็ม (เป็นการขอบคุณแบบฮ่องกงและไต้หวัน) ให้เขียนแบบ 你 (nǐ) กลายเป็น
谢谢你。
(Xièxiè nǐ)
เซี่ย เซี่ย หนี่
ขอบคุณครับ/ค่ะ
ตัวอย่างการบอกขอบคุณคุณครูภาษาจีนเพราะๆ ให้คุณครูคนจีนของคุณประทับใจ
- 老师谢谢您教我。我真的很尊敬您。
(Lǎoshī xièxiè nín jiào wǒ. Wǒ zhēn de hěn zūnjìng nín.)
ขอบคุณครูที่สอนหนู/ผม หนู/ผมนับถือคุณครูจริงๆ ค่ะ/ครับ - 人人都说老师像蜡烛,燃烧了自己,照亮了别人;老师像园丁,每天辛辛苦苦、勤勤恳恳地培育幼苗。
(Rén rén dōu shuō lǎoshī xiàng làzhú, ránshāole zìjǐ, zhào liàngle biérén; lǎoshī xiàng yuándīng, měitiān xīn xīnkǔ kǔ, qín qínkěn kěn de péiyù yòumiáo.)
ทุกคนบอกว่าครูเป็นเหมือนเทียนที่จุดไฟให้ตัวเองและให้แสงสว่างแก่ผู้อื่น ครูเป็นเหมือนชาวสวนที่ทำงานหนักและขยันหมั่นเพียรในการเพาะกล้าไม้ทุกวัน - 祝您工作顺利,身体健康,桃李满天下。
(Zhù nín gōngzuò shùnlì, shēntǐ jiànkāng, táolǐ mǎn tiānxià.)
ขอให้งานราบรื่น สุขภาพแข็งแรง มีลูกพีชและลูกพลัม(บ๊วย)เยอะๆ ทั่วโลกนะคะ - 非常感谢老师的教导,我会继续加油不辜负老师的栽培。
(Fēicháng gǎnxiè lǎoshī de jiàodǎo, wǒ huì jìxù jiāyóu bù gūfù lǎoshī de zāipéi.)
ขอบคุณคุณครูมากสำหรับการสอนของครูนะคะ/ครับ และหนู/ผมจะฝึกฝนอย่างหนักต่อไป เพื่อดำเนินชีวิตตามการฝึกฝนของครู - 谢谢您,老师。感谢您对我的耐心教导,我受益良多。
(Xièxiè nín, lǎoshī. Gǎnxiè nín duì wǒ de nàixīn jiàodǎo, wǒ shòuyì liáng duō.)
ขอบคุณคุณครูค่ะ/ครับ ขอบคุณสำหรับความอดทนในการสอนหนู/ผม หนู/ผมได้รับประโยชน์มากมายเลย
ในธรรมเนียมจีน ลูกพีชถือเป็นผลไม้มงคลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอายุยืนและเป็นอมตะ และผลบ๊วยเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์
วิธีตอบรับคำขอบคุณภาษาจีน
ต่อไปนี้คุณจะได้เรียนรู้วิธีตอบกลับ เมื่อมีคนกล่าวแสดงความขอบคุณแก่คุณ มาดูกันว่าเมื่อเรากล่าว “ขอบคุณ” แล้ว คนจึนเจ้าของภาษาเขาพูดอะไรกลับมา
ไม่เป็นไรภาษาจีน
不,不
(bù, bù)
ปู้ ปู้
ไม่เป็นไร
คำว่า 不 (bù) แปลว่า “ไม่” การใช้คำว่า 不, 不 (bù, bù) ซ้ำกัน 2 คำ เป็นการตอบรับคำขอบคุณแบบเดียวกับการตอบรับคำขอบคุณภาษาญี่ปุ่น ซึ่งมีความหมายเหมือนการบอกว่า “ไม่เป็นไร” ในภาษาไทย คำๆ นี้เป็นการปฏิเสธ หรือไม่ขอรับคำชมภาษาจีน การปฏิเสธคำชมเป็นวัฒนธรรมของคนจีนที่ทำกันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการชมเรื่องอะไร หรือคำชมแบบไหนที่ได้รับก็มักจะต้องปฎิเสธคำชมไว้ก่อนเสมอ เพราะถือว่าเป็นการแสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน
การรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นเรื่องสำคัญของวัฒนธรรมชาวจีน และเป็นสิ่งที่ทำให้ดูน่ารักน่าชื่นชม เช่นเดียวกับสังคมไทย ที่เรามักจะพูดว่า ”ไม่มีปัญหา” หรือ “ไม่เป็นไร”
แม้ผู้ชมและคุณต่างก็รู้ว่าคุณสมควรที่จะได้รับคำชมนั้น แต่เมื่อคุณปฏิเสธคำชมด้วยคำว่า 不, 不 (bù, bù) ในวัฒนธรรมจีนจะมองว่าคุณควรได้รับคำชมและยังมีความถ่อมตนอีกด้วย ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของคุณดูดีกว่าเดิม
ชมกันเกินไปแล้ว ภาษาจีน
哪里哪里
(nǎ li nǎ li)
หนาหลี่ หนาหลี่
ชมกันเกินไปแล้ว
เป็นสำนวนน่ารักๆ คล้ายกับจะบอกว่า ”ชมเกินไป เขินนะ” ให้ความรู้สึกแบบกรุ้มกริ่ม เขินอาย แต่ก็สามารถใช้ในสถานการณ์ที่ไม่โรแมนติกได้เช่นกัน
ประโยคนี้แปลได้ว่า ”คุณใจดีเกินไปแล้ว” และเราจจะใช้เมื่อเรากำลังได้รับคำชมใดๆ กับเรา
ไม่ว่าจะเป็นคำชมหวานๆที่ได้รับจากคนที่แอบชอบอยู่หรือคำชมจากหัวหน้าสำหรับการทำงานอย่างหนักของคุณในช่วงนี้ก็สามารถใช้สำนวน 哪里哪里 (nǎ li nǎ li) ได้เช่นกัน
25 คำทักทายภาษาจีน สวัสดีทุกคน ทักทายวัยรุ่น บทสนทนาภาษาจีน
คำทักทายภาษาจีนที่คนไทยเรารู้จักดีที่สุดคงเป็นคำว่า
你好
nǐ hǎo
(หนีห่าว)
สวัสดี
แต่จริงๆ แล้วคนจีนไม่ค่อยใช้คำนี้ทักทายกัน และคำทักทายภาษาจีนก็มีอีกหลายคำที่คนจีนใช้กัน เหมือนคำทักทายภาษาอังกฤษและคำทักทายภาษาญี่ปุ่นที่นอกจาก “สวัสดี!” ก็ยังมี “สวัสดีตอนเช้า!” หรือ “สวัสดีตอนกลางวัน!” อีกด้วย บทความนี้จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้เริ่มเรียนภาษาจีนให้ได้ฝึกใช้คำกล่าวทักทายได้เหมือนคนจีน ที่ครูภาษาจีนของเราคัดมาแล้วว่าง่ายและนำไปใช้ได้จริงแน่นอน
- 你好
nǐ hǎo
(หนี ห่าว)
สวัสดี - 您好
nín hǎo
(หนิน ห่าว)
สวัสดี - 你吃了吗
Nǐ chīle ma?
(หนี่ ชื้อ เหลอะ มะ?)
กินอะไรมาหรือยัง - 你吃过饭了没有
Nǐ chīguò fànle méiyǒu?
(หนี่ ชื้อ กั้ว ฟ่าน เหลอะ เหมย โหย่ว?)
กินข้าวหรือยัง - 大家好
dàjiā hǎo
(ต้า เจี๊ย ห่าว)
สวัสดีทุกคน - 你们好
nǐmen hǎo
(หนี่ เมิน ห่าว)
สวัสดีทุกคน - 久仰
jiǔ yǎng
(จิ๋ว เหยี่ยง)
ยินที่ได้รู้จัก - 久仰大名
yǎng dà míng
(เหยี่ยง ต้า หมิง)
ยินดีที่ได้รู้จัก - 幸会
xìng huì
(ซิ่ง ฮุ่ย)
ยินดีที่ได้รู้จัก - 喂
wéi
(เหวย)
ฮัลโหล - 怎么了
zěnmeliǎo / zěnmele
(เจิ่น เมอะ เหลี่ยว / เจิ่น เมอะ เหลอะ)
ว่าไง, เป็นไงบ้าง - 哈罗
hā luō
(ฮา ลัว)
ฮัลโหล - 嗨
hāi
(ไฮ)
สวัสดี - 嘿
hēi
(เฮย)
หวัดดี - 出去玩吗?
Chūqù wán ma?
(ชู ชวี่ หวาน มะ?)
สวัสดี, จะไปไหนล่ะ - 去哪?
Qù nǎ?
(ชวี่ หน่า?)
คุณจะไปไหน - 你好吗
Nǐ hǎo ma?
(หนี่ ห่าว มะ?)
เป็นอย่างไรบ้าง - 好久不见
Hǎojiǔ bùjiàn
(หาว จิ่ว ปู้ เจี้ยน)
ไม่เจอกันนานเลยนะ - 最近好吗?
Zuìjìn hǎo ma?
(จุ้ย จิ้น ห่าว มะ?)
ช่วงนี้คุณสบายดีไหม, ช่วงนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง - 早上好
zǎoshang hǎo
(จ่าว ซาง ห่าว)
อรุณสวัสดิ์ - 早!
Zǎo!
(จ่าว)
หวัดดีตอนเช้า - 上午好
shàngwǔ hǎo
(ซ่างหวู ห่าว)
สวัสดีตอนสายๆ - 下午好
xiàwǔ hǎo
(เซี่ยหวู ห่าว)
สวัสดีตอนบ่าย - 晚上好
wǎnshàng hǎo
(หว่านซ่าง ห่าว)
สวัสดีตอนเย็น - 再见
zàijiàn
(ไจ้เจี้ยน)
ลาก่อน - 拜拜
bàibài
(ป้ายป้าย)
บ๊ายบาย
จากนี้เรามาดูความหมายและวิธีใช้ประโยคทักทายภาษาจีนแต่ละประโยคกันเลย
1. 你好 (nǐ hǎo) – “สวัสดี”
สำหรับผู้ที่เรียนภาษาจีนทุกคน คำว่า
你好 (nǐ hǎo) — สวัสดี
เป็นหนึ่งในคำแรกๆที่เราจะได้เจอในบทเรียน หากแปลตามตัวอักษร คำว่า 你 (nǐ) หมายถึง “คุณ” และคำว่า 好 (hǎo) หมายถึง ”ดี” เมื่อรวมกันแล้วแปลว่า ”สวัสดี”
你好 (nǐ hǎo) เป็นคำทักทายทั่วไปในภาษาจีน ไม่มีอะไรผิดถ้าจะพูดคำว่า nǐ hǎo แต่เราจะไม่ค่อยได้ยินคนจีนเจ้าของภาษาเองใช้คำนี้มากนัก คล้ายๆกับคำว่า “ทักทาย“ ในภาษาไทยที่คนไทยเราจะไม่เดินเข้าไปหาคนรู้จัก แล้วบอกว่า “ทักทายนะจ๊ะ” กันหรอก แม้คนจีนไม่ค่อยใช้คำนี้ แต่หากได้ยินก็พอใจและเข้าใจได้
2. 您好 (nín hǎo) – “สวัสดี”
您好 (nín hǎo) เป็นคำทักทายอย่างสุภาพในภาษาจีน คำว่า 您 (nín) แปลว่า “ท่าน” ในภาษาไทย ใช้พูดกับผู้อาวุโสหรือบุคคลที่เราเคารพ คนจีนที่อายุมากๆหรือคนจีนดั้งเดิมจะถูกใจมากกว่าถ้าได้ยินคำว่า 您 (nín)
3. 你吃了吗? (Nǐ chīle ma?) – “กินอะไรมาหรือยัง”
ประโยค 你吃了吗? (Nǐ chīle ma?) นอกจากความหมายตรงตัวที่แปลว่า ”กินอะไรมาหรือยัง” ยังเป็นวิธีพูดทักทายอีกแบบหนึ่งในภาษาจีนอีกด้วย บางครั้งพวกเขาอาจจะตั้งใจถามจริงๆ ว่าคุณกินข้าวมาแล้วหรือยัง แต่โดยทั่วไปมักใช้พูดเพื่อทักทายตามมารยาทเท่านั้น และเราสามารถตอบกลับสั้นๆไปได้เลยว่า
吃了 (chīle) — “กินมาแล้ว”
ไม่ว่าเราจะกินหรือยังไม่ได้กินข้าวมาก็ตาม ซึ่งเป็นการตอบตามมารยาทเท่านั้น แต่ถ้ามีความสนิทสนมกับคนที่เราสนทนาด้วย เราก็สามารถตอบกลับตามความจริงได้เลย หากยังไม่ได้กินอะไรมา ก็บอกว่า
没有 (méiyǒu) — “ยังไม่ได้กิน”
เพื่อบอกให้พวกเขารู้ว่าคุณหิวและอยากจะกินอะไรสักหน่อย
4. 你吃过饭了没有? (Nǐ chīguò fànle méiyǒu?) – “กินข้าวหรือยัง”
ประโยคนี้มีความหมายเดียวกันกับประโยคก่อน เพียงแต่พูดยาวกว่า คำว่า 饭 ในภาษาจีน หมายถึง ”ข้าว” หรือ ”อาหาร” ดังนั้น ประโยค 你吃过饭了没有? (Nǐ chīguò fànle méiyǒu?) จึงมีความหมายตรงตัวว่า “คุณกินข้าวหรือยัง” หรือ “คุณกินอาหารหรือยัง” นอกจากนี้ยังเป็นประโยคทักทายตามมารยาทในภาษาจีนอีกด้วย
ประโยคนี้ก็มีความหมายเหมือนกับว่า “สวัสดี สบายดีมั้ย” นั่นเอง เพียงแต่ชาวจีนมักมีสำนวนการพูดที่เกี่ยวข้องกับอาหาร วัฒนธรรมและความสัมพันธ์ต่างๆ มักผูกโยงกับอาหารอย่างแยกไม่ออก ต้องจำไว้เสมอว่า คำถามนี้เป็นเพียงคำทักทายตามมารยาท ไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องการทานอาหารของคุณจริงๆ ดังนั้นเพียงตอบกลับไปสั้นๆว่า
吃了 (chīle)
吃过了 (chīguòle)
ที่แปลว่า “กินแล้ว”หรือ ”กินข้าวมาแล้ว” เป็นการตอบกลับตามมารยาทที่เหมาะสมและเพียงพอ
5. 大家好 (dàjiā hǎo) – สวัสดีทุกคน
เราใช้คำว่า 大家好 (dàjiā hǎo) เมื่อต้องการทักทายคนกลุ่มใหญ่ คำว่า 大家 แปลตรงตัวว่า “ทุกคน” และคำว่า 好 หมายถึง ”ดี” เมื่อรวมแล้วมีความหมายว่า “ทุกคนสบายดีมั้ย” ใช้เป็นคำทักทายแทนคำว่า 你好 (nǐ hǎo) ได้เลย ประโยคนี้จะฟังดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดเมื่อใช้ทักทายคนมากกว่า 2 คนขึ้นไป
6. 你们好 (nǐmen hǎo) – สวัสดีทุกคน
你们好 (nǐmen hǎo) เป็นประโยคทักทายคนกลุ่มใหญ่เช่นเดียวกับประโยคก่อนหน้านี้ แปลตรงตามตัวอักษรว่า ”ทุกคนสบายดีมั้ย” เหมือนกัน แต่คำว่า 你们好 (nǐmen hǎo) ใช้ทักทายคน 2 คนเท่านั้น มันไม่ผิดถ้าจะใช้กับคนกลุ่มใหญ่ แต่อาจจะมีคนเฒ่าคนแก่บางคนอาจช่วยแก้ไขคำพูดของคุณบ้าง หากใช้คำนี้พูดกับคนมากกว่าสองคนขึ้นไป เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คุณอาจจะได้ยิน 大家好 (dàjiā hǎo) มากกว่า เพราะประโยคนี้ดูไม่ค่อยเป็นทางการเท่าไหรนัก
7. 久仰 (jiǔyǎng) หรือ 久仰大名 (jǐu yǎng dà míng) – สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จัก
ประโยคนี้เป็นการทักทายในภาษาจีนที่ค่อนข้างสุภาพมากๆ
久仰 (jiǔyǎng)
久仰大名 (jǐu yǎng dà míng)
หมายความว่า “ฉันรอคอยที่จะพบคุณมานานแล้ว”
เราจะใช้ประโยคนี้ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องสำรวมหรือใช้วาจาสุภาพจริงๆเท่านั้น ไม่ใช้พูดทักทายกับเพื่อนฝูงหรือคนทั่วไป หากคุณกำลังเรียนภาษาจีนอยู่ อาจจะไม่ได้ใช้ประโยคนี้เลย หรือแม้แต่การใช้ภาษาจีนในชีวิตประจำวันก็ตาม เว้นเสียแต่ว่าจะได้เข้าพบบุคคลที่มีชื่อเสียงชาวจีนจึงใช้ประโยคนี้
8. 幸会 (xìng huì) – ยินดีที่ได้รู้จัก
幸会 (xìng huì) เป็นภาษาพูดและใช้กล่าวทักทายกันทั่วไป ในหมู่เพื่อนฝูง คนที่อายุเท่าๆกัน หรือตำแหน่งใกล้เคียงกัน มีความหมายว่า “ยินดีที่ได้รู้จัก” ใช้พูดเมื่อเจอกันครั้งแรกพร้อมกับการจับมือเชคแฮนด์ นอกจากนี้ยังสามารถพูดคำนี้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า, ครูอาจารย์ หรือผู้ปกครองของเพื่อนก็ไม่ผิดแต่ประการใด
9. 喂 (wéi) – ฮัลโหล
喂 (wéi) ในภาษาจีน แปลว่า “ฮัลโหล” หรือ “สวัสดี” นิยมใช้พูดตอนรับโทรศัพท์ คำนี้สามารถพูดได้สองโทนเสียง
喂 wéi (เหวย) — ฮัลโหลว
喂 wèi (เว่ย) — เฮ้
ทั้งสองโทนเสียงใช้ตอนรับโทรศัทพ์เหมือนกัน เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือทำให้ใครขุ่นเคือง ควรออกเสียงว่า wéi (เหวย) จะดีกว่า
10. 怎么了 (zěnmeliǎo หรือ zěnmele) – ว่าไง, เป็นไงบ้าง
ประโยคนี้นิยมในหมู่วัยรุ่นสำหรับทักทายเพื่อนฝูง มีความหมายว่า “ว่าไง” ”เป็นไงบ้าง” เราจะไม่ใช้ 怎么了 (zěnmeliǎo หรือ zěnmele) กับคนที่อายุมากกว่าหรือผู้อาวุโส เพราะพวกเขาอาจจะไม่เข้าใจหรือทำให้เกิดความไม่พอใจได้ คำว่า “怎么“ ในภาษาจีน หากแปลตาม จะแปลว่า “อย่างไร” ”ยังไง” ส่วน 了 เป็นคำอนุภาค ที่ใช้ระบุว่าการกระทำนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว เช่น
你吃了吗?
กินข้าวแล้วหรือยัง
ซึ่งเป็นการถามในอดีต ไม่ได้ถามว่าตอนนี้คุณกินอยู่หรือไม่ เมื่อรวมกัน จึงมีความหมายว่า “เป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
11. 哈罗 (hā luō) – ฮัลโหล
哈罗 (hā luō) เป็นคำเลียนเสียงคำว่า hello ในภาษาอังกฤษนั่นเอง คนจีนนิยมใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ เหมือนที่คนไทยเขียนทับศัพท์เป็นคำว่า “ฮัลโหล” นั่นเอง ดังนั้นยังมีคำอื่นอีกมากมายที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษ เราอาจจะไม่ค่อยเห็นคนอายุมากใช้คำนี้กันสักเท่าไหร่ แต่สำหรับวัยรุ่นรู้จักคำนี้ชัวร์แน่นอนร้อยเปอร์เซนต์
12. 嗨 (hāi) – สวัสดี
เช่นเดียวกับคำว่า 哈罗 (hā luō) คำว่า 嗨 (hāi) ก็เป็นคำทักทายในภาษาจีนที่มีที่มาจากคำในภาษาอังกฤษ อักษรคำว่า 嗨 (hāi) ก็ไม่มีความหมายพิเศษ เป็นการเลียนเสียงคำว่า “hi” หรือการกล่าวสวัสดีสั้นๆ เหมือนกับคำว่า “หวัดดีจ๊ะ” ในภาษาไทย
13. 嘿 (hēi) – เฮ้
嘿 (hēi) เป็นอีกคำทักทายในภาษาจีนที่เป็นคำทับศัพท์ในภาษาอังกฤษ มีที่มาจากคำว่า “Hey” หากเปรียบเทียบกับภาษาไทยก็อาจตรงกับการใช้คำว่า “เฮ้ย, เฮ้” ในประโยคภาษาไทยเช่น “เฮ้ย ไม่ได้เจอกันนานเลย เป็นไงบ้าง”
14. 出去玩吗? (Chūqù wán ma?) – สวัสดี จะไปไหนล่ะ?
ประโยคนี้มีความหมายตรงตามตัวอักษรว่า
出去玩吗? (Chūqù wán ma?) — “คุณต้องการออกไปเล่นข้างนอกไหม”
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนถามคุณด้วยประโยคนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะพวกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะชวนคุณออกไปข้างนอกจริงๆ แต่ถามเพื่อจะดูว่าคุณกำลังออกไปที่ไหนมากกว่า เหมือนการถามในภาษาไทยว่า “จะไปไหนจ๊ะ”
การถามเช่นนี้ในภาษาจีนอาจสื่อได้ว่าพวกเขาอยากทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคุณ หรืออาจจะเป็นแค่การทักทายตามมารยาทเท่านั้นก็ได้ การตอบกลับตามมารยาทเฉยๆ สามารถตอบกลับได้ว่า
嗨 (hāi) – เฉยๆ
หรือหากคุณอยากชวนเขาไปด้วยแบบจริงจังก็สามาถรพูดได้ว่า
我要和朋友出去玩, 加入我们 (Wǒ yào hé péngyǒu chūqù wán, jiārù wǒmen) — “ฉันกำลังไปกับเพื่อน ไปด้วยกันเลยสิ”
ซึ่งเป็นการชวนว่า “อยากไปด้วยกันมั้ย” นั่นเอง
15. 去哪? (Qù nǎ?) – คุณจะไปไหน
เหมือนการถามในภาษาไทยว่า “คุณจะไปไหนล่ะ” ซึ่งเป็นประโยคกล่าวทักทายธรรมดาทั่วไป และเหมือนกับภาษาไทยที่คนถามอาจหวังให้คุณบอกเขาจริงๆ ว่าคุณกำลังจะไปไหนยกตัวอย่างเช่น หากคุณเจอใครบนท้องถนนตอนบ่าย แล้วเขาทักคุณด้วยประโยคนี้ คุณอาจจะตอบกลับไปว่า
从学校接回孩子 (Cóng xuéxiào jiē huí háizi) — กำลังรับลูกๆที่โรงเรียน”
16. 你好吗 (Nǐ hǎo ma?) – สบายดีไหม
เป็นวิธีทักทายในภาษาจีนอีกแบบหนึ่ง ที่แปลตรงตัวว่า “คุณสบายดีมั้ย” คำทักทายในภาษาจีนส่วนใหญ่ มักมีคำว่า 好 อยู่ด้วย คล้ายๆกับคำว่า “สวัสดี” ในภาษาไทย โดยทั่วไป หากต้องการถามว่า ”พวกเขาเป็นอย่างไร” ในภาษาจีน เราจะใช้ประโยค 你好吗 (Nǐ hǎo ma?)
17. 好久不见 (Hǎojiǔ bùjiàn)- ไม่เจอกันนานเลยนะ
เช่นเดียวกับภาษาไทย เราจะทักทายประโยคนี้กับเพื่อนเก่าหรือคนที่เราไม่ได้เจอกันมานาน หลังจากพูดว่า 好久不见 แล้ว เราจะพูดต่อว่า
最近好吗? (Zuìjìn hǎo ma?) — “ช่วงนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง”
ตามหลังโดยไม่ต้องรอได้เลย
18. 最近好吗? (Zuìjìn hǎo ma?) – ช่วงนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง, ช่วงนี้คุณสบายดีมั้ย
最近 (zuìjìn) หมายถึง ช่วงนี้, เร็วๆนี้ เราจะใช้ประโยค 最近好吗? (Zuìjìn hǎo ma?) ในกรณีที่เราไม่ได้เจอกับคนๆนั้นมาเป็นเวลาสักพักแล้ว โดยทั่วไปแล้วควรจะไม่เจอกันนานกว่าสัปดาห์หรือมากกว่านั้นก็ได้
19. 早上好 (zǎoshang hǎo)- อรุณสวัสดิ์
เป็นวิธีทักทายตรงไปตรงมาในภาษาจีนว่า “สวัสดีตอนเช้า” หรือ “อรุณสวัสดิ์” เนื่องจากคำว่า 早上 (zǎoshang) แปลว่า ตอนเช้า และคำว่า 好 (Hǎo) แปลว่า ”ดี” ประโยคนี้มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า “อรุณสวัสดิ์” ในภาษาไทยเลย และยังวางคำบอกเวลา (อรุณ, สายัน ฯลฯ) ไว้ข้างหน้าคำว่า “สวัสดิ์” หรือคำว่า 好 (Hǎo) ในภาษาจีน และเราจะใช้ประโยคสวัสดีตอนเช้านี้ในช่วงเวลาประมาณแปดโมงถึงสิบโมงเช้าเท่านั้น
20. 早! (Zǎo!) – หวัดดีตอนเช้า
เป็นประโยคอย่างย่อของ 早上好 (zǎoshang hǎo) ที่ฟังดูสบายๆกว่า คำว่า 早 (Zǎo) แปลตรงตัวว่า ”ตอนเช้า” นั่นเอง
21. 上午好 (shàngwǔ hǎo) – สวัสดีตอนสายๆ
เมื่อเราจะพูดว่าสวัสดีตอนเช้าหรือตอนสายๆ จะต้องคำนึงถึงช่วงเวลาขณะพูดด้วย เพราะมีคำบอกเวลาที่แตกต่างกันเหมือนในภาษาไทย
上午 (shàngwǔ) — ตอนสายๆ
早上 (zǎoshang) — ช่วงเวลาเช้าตรู่
ดังนั้นคำว่า 上午好 (shàngwǔ hǎo) จะพูดในช่วงเวลาสิบโมงเช้าถึงเที่ยงเท่านั้น
22. 下午好 (xiàwǔ hǎo) – สวัสดีตอนบ่าย
เป็นวิธีทักทายที่ใช้กันทั่วไป เมื่อต้องการบอกว่า “สวัสดีตอนบ่าย”
下午 (xiàwǔ) — ช่วงเวลาหลังเที่ยงไปจนถึงก่อนอาหารมื้อเย็น
แต่โดยปกติเราจะไม่ยินคำว่า 下午好 (xiàwǔ hǎo) หลังหกโมงเย็น ดังนั้นเราจะใช้ประโยคนี้ในช่วงเวลา 12.00 น.- 18.00 น.
23. 晚上好 (wǎnshàng hǎo) – สวัสดีตอนเย็น
晚上好 (wǎnshàng hǎo) หมายถึง “สวัสดีตอนเย็น” ในภาษาจีน ประโยคนี้ใช้ส่วนใหญ่มักใช้พูดหลังหกโมงเย็นเป็นต้นไป
24. 再见(zàijiàn) – ลาก่อน
คำว่า 再见(zàijiàn) มีความหมายตรงตัวว่า “พบกันใหม่” หากใครก็ตามที่กำลังเริ่มเรียนภาษาจีน เราจะได้เรียนรู้วิธีกล่าวคำอำลาด้วย 再见(zàijiàn) เป็นคำแรกๆ เป็นคำอำลาที่พบบ่อยและใช้กันอย่างแพร่หลาย เราสามารถใช้คำนี้ได้แม้ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอกันอีกหรือไม่
25. 拜拜 (bàibài) – บ๊ายบาย
คำว่า 拜拜 (bàibài) เป็นการเลียนเสียงมาจากภาษาอังกฤษ คำว่า Bye bye เหมือนภาษาไทยที่เลียนออกมาว่า “บ๊าย บาย” นั่นเอง คำนี้นิยมใช้กันมากในประเทศไต้หวัน ซึ่งในหมู่วัยรุ่น คนหนุ่มสาวแทบจะไม่ได้ใช้คำว่า 再见(zàijiàn) กันแล้ว อย่าลืมว่าเราจะต้องพูด 拜 ซ้ำกันสองครั้ง คือ 拜拜 (bàibài) เพราะคำว่า 拜 คำเดียวแปลว่า เคารพหรือสักการะ ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นหนึ่งในคำทักทายได้เช่นเดียวกัน แต่หากพูดว่า 拜拜 (bàibài) ก็จะดูเหมือนเจ้าของภาษามากกว่า
ที่รักภาษาจีนพูดว่าอะไร ใช้คำไหนได้บ้าง
คำว่า “ที่รัก” ภาษาจีนที่ใช้บ่อยที่สุด คือ
亲爱的 (Qīn’ài de)
คำๆ นี้แปลได้ตรงๆ ว่า ที่รักในภาษาจีน และมีความหมายเหมือนกับคำว่าที่รักภาษาอังกฤษและที่รักภาษาญี่ปุ่น แต่ถ้าคุณมีโอกาสไปประเทศจีน คุณจะสังเกตว่าผู้คนจะเรียกแฟนหรือคนที่รักด้วยชื่อเล่นน่ารักๆ อีกหลายแบบ และไม่ใช่แค่แฟนเท่านั้นที่คนจีนจะตั้งชื่อเล่นไว้เรียกได้ บทความนี้ครูภาษาจีนของเราจะมาอธิบายให้เข้าใจว่าคนจีนเรียกแฟนหรือเพื่อนสนิทว่าอย่างไรกันบ้าง คนทั่วไปมีชื่อเล่นที่ไว้เรียกกันเพื่อความสนิทสนมหรือเปล่า แล้วรูปแบบจะเป็นอย่างไร
ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับคนสำคัญของคุณ
สำหรับประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นภรรยา สามี หรือคู่รักส่วนใหญ่มักจะมีชื่อเล่นน่ารักๆไว้เรียกกัน บางคู่ก็เรียกชื่อเล่นกันตลกๆ บางคู่ก็เรียกกันด้วยความรักความเอ็นดู ต่อไปนี้เป็นชื่อเล่นกลางๆที่ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยในภาษาจีน สามารถนำไปเรียกคนสำคัญของคุณพร้อมกับประโยคบอกรักภาษาจีนซึ้งๆ ได้เลย
| ภาษาจีน | พินอิน | คำอ่าน | คำแปลภาษาไทย |
|---|---|---|---|
| 亲爱的 | Qīn’ài de | ชิน อ้าย เตอ | ที่รัก |
| 宝贝 | Bǎo bèi | เป่า เป้ย | เบบี๋ |
| 亲 | Qīn | ชิน | บี๋, ดาร์หลิง |
| 亲亲 | Qīn qīn | ชิน ชิน | ที่รักจ๋า, จูบ |
| 老相好 | Lǎo xiàng hǎo | เหล่า เซี่ยง ห่าว | คนดี, ที่รัก |
亲爱的 (Qīn’ài de)
亲爱的 (Qīn’ài de) เป็นหนึ่งในชื่อเล่นของคู่รักชาวจีนที่ใช้กันทั่วไป สำหรับใช้เรียกคนสำคัญของกันและกัน ความหมายใกล้เคียงกับคำว่า Darling ในภาษาอังกฤษและคำว่า ”ที่รัก” ในภาษาไทย จะใช้เรียกผู้ชายก็ได้ เรียกผู้หญิงก็ดี และไม่จำกัดว่าต้องใช้เรียกคู่รักที่เป็นสามีภรรยากันแล้วเท่านั้น คู่ที่ยังไม่แต่งงานก็สามารถใช้คำนี้ได้ด้วย
宝贝 (Bǎo bèi)
ความหมายตรงตัวของคำว่า 宝贝 (Bǎo bèi) คือ ”ของมีค่า” หรือ ”ทรัพย์สมบัติ” เมื่อเรียกคู่รักของตัวเองด้วยคำนี้จึงเป็นการแสดงออกให้รู้ว่าพวกเขามีค่าและมีความหมายกับคุณมากแค่ไหน ด้วยนำ้เสียงและบริบททางวัฒนธรรมของจีน คำว่า 宝贝 (Bǎo bèi) จะฟังดูน่ารักๆ กว่าคำว่า 亲爱的 (qīn’ài de) การเรียกคนรักด้วยคำนี้น่าจะใกล้เคียงกับความหมายของคำว่า “เบบี๋” ที่คนไทยใช้เรียกกัน
亲 (Qīn)
亲 (Qīn) เป็นชื่อเล่นที่เรียกกันย่อๆ มาจากคำว่า 亲爱的 (qīn’ài de) เป็นคำที่คู่รักนิยมใช้เรียกกันและกัน โดยเฉพาะในโลกโซเชียล และมีความเป็นคำแสลงอยู่นิดๆ ความหมายประมาณคำว่า “ดาร์หลิง” หรือ “บี๋” ที่ย่อมาจากเบบี๋นั่นเอง
亲亲 (Qīn qīn)
คำว่า 亲亲 (Qīn qīn) เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของคำว่า 亲爱的 (Qīn’ài de) แปลว่า ”ที่รัก” แต่ชื่อเล่นนี้ฟังดูน่ารักเป็นพิเศษ เพราะคำนี้หมายถึง ”จูบ” ในภาษาจีนได้อีกด้วย คู่รักวัยรุ่นจะชอบใช้คำนี้กันมาก และในบางครั้งคู่รักสูงวัยก็ใช้ด้วยเช่นกัน เพราะคำนี้ให้ความรู้สึกขี้เล่นและเจ้าชู้นิดๆ ได้ยินแล้วก็ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเหมือนได้ย้อนกลับไปในวัยเยาว์
老相好 (Lǎo xiàng hǎo)
ประโยค 老相好 (Lǎo xiàng hǎo) เป็นชื่อเล่นที่ใช้เรียกกันอยู่บ่อยๆระหว่างคู่รัก โดยเฉพาะคู่รักวัยเก๋า และบางครั้งคู่รักอายุน้อยๆก็ใช้คำนี้ด้วยเช่นกัน แต่ในบริบทที่ต้องการจะประชดประชันหรือขำขันเหน็บแนมกันมากกว่า คำนี้มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า ”คนดี” หรือ ”ที่รัก”
ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับแฟนหนุ่ม
ในภาษาจีนมีชื่อเล่นน่ารักๆที่ใช้เรียกแฟนผู้ชายหรือสามีมากมาย แม้ว่าภายนอกพวกเขาจะดูเข้มแข็ง กล้าหาญ ยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่หากได้ยินคนรักเรียกพวกเขาด้วยคำหวานๆ แสดงถึงความรักความเอาใจใส่แล้วล่ะก็ หัวใจของพวกเขาก็คงจะอ่อนยวบลงไปอย่างแน่นอน
| ภาษาจีน | พินอิน | คำอ่าน | คำแปลภาษาไทย |
|---|---|---|---|
| 先生 | Xiān shēng | เซียน เซิง | คุณคะ, คุณผู้ชาย |
| 哥哥 | Gēgē | เกอ เกอ | พี่ชาย |
| 男神 | Nán shén | หนาน เสิน | ขั้นเทพ, เทพเจ้า |
| 老公 | Lǎo gōng | เหล่า กง | คุณสามี |
| 大野猪 | Dà yězhū | ต้า เหย่ จู้ | เจ้าหมูป่าอ้วน |
先生 (Xiān shēng)
ในภาษาจีนคำว่า 先生 (Xiān shēng) ถือเป็นคำค่อนข้างสุภาพและเป็นคำเรียกที่ฟังดูสบายๆในคราวเดียวกันอีกด้วย ความหมายของคำนี้ใกล้เคียงกับคำว่า “คุณคะ” หรือ ”คุณผู้ชาย” ในภาษาไทย ถึงแม้ว่าจะเป็นคำที่มีความเป็นทางการ ฟังดูเหมือนไม่ค่อยอ่อนโยนเท่าไหร่ แต่ผู้หญิงชาวจีนมักจะเรียกแฟนของพวกเธอด้วยคำนี้กันมาก เพราะดูสง่างามและใช้ได้อย่างเหมาะสมในที่ทำงานหรือสถานการณ์ที่เป็นทางการ
哥哥 (Gēgē)
ในวัฒนธรรมตะวันตก การยกคู่เดตของเราให้เป็นเหมือนกับ ”พี่ชาย” หรือ 哥哥 (gēgē) อาจจะไม่คุ้นเคยหรืออึดอัดใจกันอยู่บ้าง แต่ในประเทศจีน เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจีนจะเรียกแฟนของตนเองว่า 哥哥 (gēgē) คำนี้จึงเป็นชื่อเล่นทั่วไปที่ใช้เรียกแฟนผู้ชาย และด้วยบริบททางวัฒนธรรม ชาวจีนจะเรียกแฟนของตนเองด้วยคำที่บรรยายถึงความสนิทสนมเหมือนคนในครอบครัว เมื่อคิดแบบนี้แล้วคำว่า 哥哥 (gēgē) จึงฟังดูหวานเจี๊ยบเลยทีเดียว
ถึงแม้จะฟังดูดีเมื่อผู้หญิงเรียกแฟนที่มีอายุมากกว่าด้วย คำว่า 哥哥 (gēgē) แต่ในทางกลับกัน ถ้าผู้หญิงเรียกแฟนที่อายุน้อยกว่าตนเองด้วยคำว่า 弟弟 (dìdi) กลับฟังดูแปลกและรู้สึกเคอะเขินมากกว่า
男神 (Nán shén)
คำว่า 男神 (Nán shén) ประกอบด้วยตัวอักษร 男 ที่แปลว่า “ผู้ชาย” และ 神 แปลว่า ”พระเจ้า” เมื่อผู้หญิงเรียกแฟนของตัวเองด้วยคำที่มีความหมายว่า ”ผู้ชายและเทพเจ้า” พวกเธอกำลังล้อแฟนตัวเองขำๆและชมเชยพวกเขาไปด้วยพร้อมๆกัน ยกตัวอย่างเช่น หากแฟนของคุณกำลังเล่นวิดิโอเกมอยู่และได้ชัยชนะขาดลอย แม้คุณจะไม่ได้สนใจการเล่นเกมของพวกเขาแต่ก็อยากร่วมยินดีในความสำเร็จด้วย คุณอาจจะพูดว่า ”ว้าว! เทพเจ้าชัดๆ ไม่มีใครน่ากลัวเท่าคุณอีกแล้วล่ะ”
老公 (Lǎo gōng)
สำหรับประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ การเรียกแฟนหนุ่มที่ยังไม่แต่งงานกันด้วยคำว่า 老公 (Lǎo gōng) หรือ ”สามี” อาจจะดูเร็วไปหน่อย แต่ถ้าคบกันไปสักระยะหนึ่งและรู้จักกันดีแล้ว บางครั้งก็จะได้ยินพวกเธอเรียกแฟนตัวเองว่า ”สามี” ก่อนที่พวกเขาจะขอพวกเธอแต่งงานด้วยซ้ำ
大野猪 (Dà yězhū)
ไม่ใช่ว่าชื่อเล่นสำหรับเรียกคู่รักในภาษาจีนทั้งหมดจะฟังดูชื่นชมและยกยอแฟนตัวเองไปเสียหมด ยกตัวอย่างคำนี้ 大野猪 (Dà yězhū) ที่แปลว่า ”เจ้าหมูป่าอ้วน” ฟังดูแล้วเหมือนเป็นการดูหมิ่น แต่สามารถใช้เรียกแฟนหนุ่มด้วยความรักได้เช่นกัน หมูป่าเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ แข็งแรง บุ่มบ่ามและหุนหันพลันแล่น การเรียกแฟนหนุ่มตัวเองว่า “เจ้าหมูป่าอ้วน” ก็เหมือนกับการบอกว่าพวกเขาคือ ”หมีใหญ่ใจดี” ถึงแม้จะเงอะงะ หรือทำผิดอยู่บ้างแต่รวมๆแล้วก็ยังน่ารักมากกว่า
ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับแฟนสาว
ชื่อเล่นสำหรับเรียกแฟนสาวในภาษาจีน มักจะมีความหมายที่แสดงถึงความรักและความชื่นชม ในขณะที่คนไทยหรือชาวตะวันตกจะเรียกกันว่า ”เบบี๋” หรือ “Babe” แต่ในภาษาจีนถ้าแปลตรงตัวคำว่า “Baby” และใช้เรียกแฟนสาวชาวจีน อาจจะฟังดูแปลกและถึงขนาดทำให้พวกเธอโกรธได้เลย ต่อไปนี้คือชื่อเล่นสำหรับเรียกแฟนสาวที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับคุณอย่างแน่นอน
| ภาษาจีน | พินอิน | คำอ่าน | คำแปลภาษาไทย |
|---|---|---|---|
| 太太 | Tàitài | ไท่ ไท่ | คุณภรรยา |
| 妹妹 | Mèimei | เม่ย เมย | น้องสาว |
| 小公举 | Xiǎo gōng jǔ | เสี่ยว กง จวี่ | เจ้าหญิงน้อย |
| 老婆 | Lǎo pó | เหล่า ผอ | คุณภรรยา |
| 妞妞 | Niū niū | นิว นิว | สาวน้อย |
太太 (Tàitài)
คำว่า 太太 (Tàitài) หมายถึง ”ภรรยา” เมื่อเรียกใครบางคนด้วยชื่อของเธอตามด้วยคำว่า 太太 ถือเป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน สามารถใช้เรียกคู่รัก แฟนสาวหรือภรรยาที่แต่งงานแล้ว แต่อาจจะฟังดูแปลกนิดหน่อยหากใช้คำนี้เรียกแฟนสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ เว้นเสียแต่ว่าจะเรียกกันตลกๆขำๆได้
妹妹 (Mèimei)
เช่นเดียวกับที่ผู้หญิงเรียกแฟนหนุ่มที่อายุมากกว่าของพวกเธอว่า 哥哥 (gēgē) ผู้ชายจีนก็เรียนแฟนสาวของตนเองกลับว่า 妹妹 (Mèimei) หรือ ”น้องสาว” เช่นกัน คำนี้สื่อความหมายถึงความใกล้ชิดสนิทสนมเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน มีความผูกพันกันเหมือนพี่ชายและน้องสาว ซึ่งเป็นค่านิยมของสังคมตามลัทธิขงจื๊อที่มีมาแต่โบราณ
小公举 (Xiǎo gōng jǔ)
แม้ว่าตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ในประเทศจีนจะไม่มีระบอบจักรพรรดิ์หรือราชวงศ์แล้ว แต่ชายชาวจีนหลายคนยังเรียกแฟนสาวตนเองว่า 小公举 (xiǎo gōng jǔ) หรือ ”เจ้าหญิงน้อย” กันอยู่ ชื่อเล่นนี้บ่งบอกว่าไม่มีใครสง่างามเท่ากับผู้หญิงของพวกเขาอีกแล้ว ในบรรดาชื่อเล่นสำหรับเรียกแฟนสาว คำนี้ให้ความรู้สึกถึงความรักความชื่นชมมากกว่าคำอื่นๆ แต่บางครั้งก็สามารถใช้ในสถานการณ์แบบหยอกล้อกันก็ได้ เช่น เมื่อแฟนสาวขอร้องให้คุณทำอะไร คุณก็อาจจะตอบกลับไปว่า ”ได้ขอรับ เจ้าหญิงน้อยของผม”
老婆 (Lǎo pó)
ในภาษาจีนกลาง เมื่อผู้หญิงเรียกแฟนหนุ่มหรือสามีว่า 老公 (lǎo gōng) ผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะเรียกแฟนสาวหรือภรรยาตนเองว่า 老婆 (lǎo pó) คำนี้แปลตรงตัวว่า ”สาวแก่” แต่ก็ใช้เรียกภรรยาหรือแฟนสาวโดยไม่ได้คำนึงว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ บางครั้งคู่รักที่ยังไม่แต่งงานก็สามารถใช้คำนี้ได้ และคำนี้มีความหมายเทียบเคียงกับคำว่า “คุณภรรยา” ในภาษาไทย
妞妞 (Niū niū)
คำว่า 妞妞 (Niū niū) เป็นหนึ่งในชื่อเล่นน่ารักๆในภาษาจีนที่สื่อความหมายถึงอายุที่ยังน้อยและความไร้เดียงสาของแฟนสาว คำว่า 妞妞 (Niū niū) แปลว่า ”สาวน้อย” คำนี้ใช้เหมือนกับคำว่า ”babe” หรือ ”เบบี๋” ในภาษาไทยหรือที่ชาวตะวันตกใช้เรียกกัน ในวัฒนธรรมตะวันตกถ้าเรียกแฟนสาวที่มีอายุมากกว่าว่า ”Babe” อาจจะฟังดูน่าขนลุกเล็กน้อย แต่ในประเทศจีนสามารถทำได้ ดูน่ารักและไม่แปลกเลย
ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับเพื่อนสนิท
วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนภาษาจีนคือเรียนรู้ผ่านบทสนทนาและฝึกฝนกับเพื่อนสนิท ชาวจีนทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะเรียกกันด้วยชื่อเล่นที่แสดงถึงความสนิทสนมและบ่งบอกถึงสายสัมพันธ์อันดีของพวกเขา ต่อไปนี้คือชื่อเล่นที่ใช้เรียกแทนชื่อเต็มของเพื่อนสนิทคนสำคัญที่นิยมใช้ในภาษาจีน
| ภาษาจีน | คำอ่าน | พินอิน | คำแปลภาษาไทย |
|---|---|---|---|
| 阿 | Ā | อา | อา (ชื่อจริง) |
| 小 | Xiǎo | เสี่ยว | น้อย |
| 大 | Dà | ต้า | ใหญ่ |
| 胖 | Pàng | พั่ง | อ้วน |
| 傻瓜 | Shǎguā | ฉ่า กวา | เจ้าโง่ |
阿 (Ā)
การรวมตัวอักษร 阿 (ā) เข้ากับชื่อของเพื่อนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้เรียกกันระหว่างเพื่อนสนิท ยกตัวอย่างเช่น หากเพื่อนของคุณชื่อ 李明 (Lǐ Míng) เราจะเรียกเขาว่า 阿明 (Ā Ming)ก็ได้ คำนี้ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่เป็นการเรียกชื่อเล่นที่ฟังดูน่ารัก สำหรับใช้เรียกสมาชิกในครอบครัวหรือเรียกกันในหมู่เพื่อนฝูง นิยมใช้กันมาก โดยเฉพาะหากชื่อบุคคลนั้นเป็นชื่อสั้นๆ
小 (Xiǎo)
คำว่า 小 (Xiǎo) ในภาษาจีน หมายถึง ”เล็ก” เมื่อใช้ร่วมกับชื่อของใครจะมีความหมายคล้ายกับคำว่า ”Little” ในภาษาอังกฤษ หรือคำว่า ”น้อย” ในภาษาไทย โดยทั่วไปจะใช้คำนี้กับคนสองคนที่มีชื่อเหมือนกัน เช่น หากมีเพื่อนชื่อ 明 (Míng) สองคนในกลุ่ม คนที่อายุน้อยกว่าหรือตัวเล็กกว่า เพื่อนๆจะเรียกว่า 小明 (Xiǎo Míng) เพื่อระบุชื่อให้ต่างจากอีกคนหนึ่ง
大 (Dà)
เพื่อนซี้ของคำว่า 小 (xiǎo) คงหนีไม่พ้นคำว่า 大 (dà) ที่หมายถึง ”ใหญ่” ในภาษาจีน เราจะใช้คำนี้ร่วมกับชื่อจริงของเพื่อน โดยละชื่อสกุลเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น หากมีเพื่อนในกลุ่มชื่อ 小明 (Xiǎo Míng) อีกคนจะก็จะชื่อ 大明 (Dà Míng) เป็นต้น หรือใช้เรียกเพื่อนในกรณีที่เพื่อนของคุณมีรูปร่างใหญ่โต คุณอาจจะเติมคำว่า 大 (dà) ท้ายชื่อจริงของพวกเขา เพื่อสื่อความหมายถึงรูปร่าางสูงใหญ่ของพวกเขานั่นเอง
胖 (Pàng)
ในประเทศฝั่งตะวันตก การถูกเรียกว่า ”อ้วน“ ไม่ใช่คำชื่นชมอย่างแน่นอน ถือเป็นคำดูถูกและมองว่าไม่สุภาพมาก แต่ในประเทศจีน การถูกเรียกว่า ”อ้วน“ จากเพื่อนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัว ชาวจีนกลับมองว่าเป็นการเรียกด้วยความรักใคร่มากกว่า คนจีนสมัยก่อนมีค่านิยมว่า ”ความอ้วน” ถือเป็นสิ่งที่ดีเพราะแสดงว่าคุณมีกินมีใช้อย่างเพียงพอและบ่งบอกว่าสุขภาพดี แม้ปัจจุบันค่านิยมความงามก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่การเรียกคนอื่นว่า ”อ้วน” หรือ 胖 (Pàng) ในภาษาจีนก็ยังไม่ได้ถือว่าหยาบคายแต่อย่างใด ถือเป็นการเรียกเพราะความรักใคร่มากกว่า
傻瓜 (Shǎguā)
คำว่า 傻瓜 (Shǎguā) ในภาษาจีน แปลว่า ”ไอ้แตงโง่” อาจจะฟังดูรุนแรง แต่สำหรับประเทศจีน ในหมู่เพื่อนสนิทมักจะเรียกกันด้วยคำดูถูกหรือคำด่าเพื่อแสดงความสนิทสนม เหมือนกับที่คู่รักมักเรียกกันว่า 笨蛋 (bèndàn) หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า ”เจ้าไข่โง่”
แนวคิดสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ไม่ว่าคุณจะพูดถึงกันและกันได้แย่ขนาดไหน แต่พวกคุณก็รู้ว่าเป็นเรื่องไร้สาระและถือเป็นเรื่องหยอกล้อกันสนุกๆไม่ได้ทำร้ายใครระหว่างเพื่อนฝูง ในภาษาไทยน่าจะเทียบเคียงได้กับคำว่า ”เจ้าโง่” หรือ ”เจ้าเด็กโง่” ซึ่งใช้เรียกเพื่อน เมื่อเพื่อนทำอะไรพลาดหรือทำตัวโง่ๆ นั่นเอง
ชื่อเล่นภาษาจีนเจ๋งๆ
การพูดภาษาจีนได้ก็เรื่องหนึ่ง แต่การพูดให้เหมือนเจ้าของภาษาอย่างเป็นธรรมชาติก็เป็นอีกเรื่องที่จะทำให้คุณดูโดดเด่นท่ามกลางนักเรียนที่เรียนภาษาจีนด้วยกัน การจะพูดได้เหมือนเจ้าของภาษา จำเป็นจะต้องรู้ว่าเจ้าของภาษานั้น พวกเขาพูดอย่างไรในชีวิตประจำวัน ต่อไปนี้คือชื่อเล่นที่ทันสมัยสำหรับชาวจีนที่ใช้เรียกกันจริงๆ หากได้ลองใช้อาจจะทำให้ภาษาจีนของคุณดูเหมือนเป็นภาษาแม่เลยก็ได้
| ภาษาจีน | พินอิน | คำอ่าน | คำแปลภาษาไทย |
|---|---|---|---|
| 帅哥 | Shuàigē | สว้าย เกอ | คุณผู้ชาย |
| 小姐 | Xiǎojiě | เสียว เจี่ย | คุณผู้หญิง |
| 老板 | Lǎobǎn | เหลา ปั่น | เถ้าแก่, เจ้านาย |
| 师傅 | Shīfu | ซือ ฟู | ปรมาจารย์ |
| 心肝 | Xīngān | ซิน กัน | ดวงใจ |
帅哥 (Shuàigē)
คำว่า 帅哥 (Shuàigē) เป็นทั้งคำชมและชื่อเล่นที่ใช้เรียกกันทั่วไป หากแปลตรงตัวเป็นภาษาไทยคือ ”สุดหล่อ” แต่ความหมายเทียบเคียงกับคำว่า ”คุณผู้ชาย” ในภาษาไทยมากกว่า เราจะใช้เรียกคนที่คุณไม่รู้จักชื่อจริงของพวกเขาหรือสถานการณ์ไม่เหมาะสมที่จะถามชื่อจริง ยกตัวอย่างในร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟมักจะเรียกลูกค้าผู้ชายว่า 帅哥 (Shuàigē) แทนที่จะเรียกชื่อจริงของลูกค้า หรือในกรณีที่มีผู้ชายอายุน้อยกว่าทำของหรือกระเป๋าเงินตก คุณจำเป็นต้องเรียกเพื่อให้เขาหันมา ก็สามารถใช้คำว่า 帅哥 (Shuàigē) ได้เช่นกัน
小姐 (Xiǎojiě)
คำว่า 小姐 (Xiǎojiě) ใช้สำหรับเรียกคนที่เราไม่รู้จักเช่นเดียวกับคำว่า 帅哥 (Shuàigē) คำว่า 小姐 (Xiǎojiě) จริงๆแล้วแปลว่า ”สาวน้อย” แต่ไม่จำเป็นว่าคนเรียกจะอายุมากหรือน้อยก็เรียกคำนี้ได้เช่นกัน พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารสามารถเรียกลูกค้าผู้หญิงของตนเองว่า 小姐 (Xiǎojiě) ได้เพราะไม่รู้จักลูกค้าดีพอที่จะเรียกกันด้วยชื่อจริงและการเรียกด้วยชื่อเล่นนี้ยังถือเป็นการให้เกียรติแก่ลูกค้าอีกด้วย
老板 (Lǎobǎn)
คำว่า 老板 (Lǎobǎn) ในภาษาจีนหมายถึง ”เจ้านาย” หรือ ”เถ้าแก่” ชาวจีนจะใช้คำนี้เรียกเจ้านายของพวกเขาในชีวิตจริงหรือใช้เรียกคนที่พวกเขาเคารพนับถือก็ได้ เช่น บุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่หรือเจ้าของร้านค้า เป็นต้น เนื่องจากหากเรียกกันด้วยชื่อจริงของตนเอง อาจจะดูสนิทสนมมากเกินไประหว่างลูกค้ากับร้านค้า ลูกค้าจึงมักจะเรียกเจ้าของร้านว่า ”เถ้าแก่” นอกจากนี้หลายๆครั้ง เราอาจจะได้ยินบางคนเรียกสัตว์เลี้ยงของตัวเองว่า 老板 (Lǎobǎn) ได้เหมือนกัน เป็นการล้อเลียนเมื่อมันทำพฤติกรรมที่ดุดันหรือเอาแต่ใจมากจนเกินไป
师傅 (Shīfu)
คำว่า 师傅 (Shīfu) ในภาษาจีนแปลว่า ”ปรมาจารย์” มีความคล้ายคลึงกับคำว่า 老板 (Lǎobǎn) หากคุณเคยเล่นกังฟูมาก่อนอาจจะคุ้นเคยกับคำนี้ ครูฝึกกังฟูเราจะเรียกกันว่า 师傅 (Shīfu) แต่ถ้าเป็นนอกโรงฝึกแล้ว คำนี้อาจจะใช้เรียกคนขับรถแท็กซี่หรือชายชราที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณปู่หรือคุณตาของเรา แนวคิดของคำนี้คือ เป็นการเรียกเพื่อให้เกียรติว่าพวกเขาผ่านชีวิตมาอย่างยาวนาน ดังนั้นความเชี่ยวชาญหรือชาญฉลาดของพวกเขาที่สั่งสมมาเป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังจะได้เรียนรู้จากพวกเขา เหมือนพวกเขาคือ ”ปรมาจารย์” นั่นเอง
心肝 (Xīngān)
อักษรตัวแรกของคำว่า 心肝 (Xīngān) คือ 心 ที่แปลว่า ”หัวใจ” ในภาษาจีน ส่วนอีกตัวคือ 肝 ก็คือ ”ตับ” การเรียกใครว่า 心肝 (Xīngān) จึงเป็นการบ่งบอกว่าพวกเขามีความสำคัญต่อคุณมากเปรียบเสมือนอวัยวะสำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้ หากขาดอวัยวะสองชิ้นนี้ คุณก็มีชีวิตต่อไปไม่ได้ ปกติคำนี้จะถูกใช้ในบทกวี หากเอามาใช้อาจจะรู้สึกแปลกๆบ้างถ้าไม่ได้สนิทกันจริง
ชื่อเล่นภาษาจีนตลกๆ
ในประเทศจีน มีชื่อเล่นที่เรียกกันตลกๆในหมู่เพื่อนฝูง บ้างก็ล้อเลียน บ้างก็ยกเอาปมด้อยหรือจุดเด่นมาเรียกกัน หรือเปรียบเทียบเพื่อนกับบางอย่างที่รู้จักกันดีก็มี บางชื่ออาจจะฟังดูใจร้ายหรือหยาบคาย แต่จริงๆแล้วในวัฒนธรรมจีน ชื่อเล่นเหล่านี้คือสัญลักษณ์ของความรักใคร่กลมเกลียวระหว่างเพื่อนฝูงมากกว่า
| ภาษาจีน | พินอิน | คำอ่าน | คำแปลภาษาไทย |
|---|---|---|---|
| 冰美人 | Bīng měirén | ปิง เหม่ยเหริน | สวยเป็นน้ำแข็ง |
| 叶良辰 | Yè liángchén | เย่ เหลียงเฉิน | เย่ เหลียงเฉินจอมหยิ่ง |
| 爸宝 | Bà bǎo | ป้า เป่า | ลูกแหง่ |
| 独眼龙 | Dúyǎnlóng | ตู๋เหยี่ยนหลง | มังกรตาเดียว |
| 唐僧 | Tángsēng | ถังเซิง | ถังเซิงคนพูดมาก |
冰美人 (Bīng měirén)
ผู้หญิงที่สวยแต่เย็นชา มักถูกเรียกว่า 冰美人 (Bīng měirén) ซึ่งแปลว่า ”คนสวย/น้ำแข็ง” ในภาษาจีน เป็นชื่อเล่นที่พูดถึงความสวยที่เป็นต้นแบบของหญิงสาวชาวจีนแบบหนึ่ง คนที่ถูกเรียกว่า 冰美人 (Bīng měirén) มักมีความงดงามเต็มสิบแต่เมื่อมีผู้ชายชวนเธอไปออกเดต พวกเธอกลับปฏฺิเสธอย่างเย็นชา
叶良辰 (Yè liángchén)
叶良辰 (Yè liángchén) เป็นชื่อเล่นที่โด่งดังมาจากไวรัลในเว็บไซต์ Weibo ของจีนตั้งแต่ปี 2015 คำว่า 叶良辰 (Yè liángchén) เป็น Username ในรูปประกอบที่มีผู้ชายคนหนึ่งทำท่าหยิ่งผยองหลายๆครั้งต่อหน้าหญิงสาวคนหนึ่ง ภาพนี้ถูกนำมาทำเป็นมีมที่โด่งดัง จนมาถึงตอนนี้คำว่า 叶良辰 (Yè liángchén) ยังคงใช้เรียกคนที่วางท่าทางหยิ่งผยอง ใหญ่โตโอ้อวดอยู่ จนกลายเป็นแสลงประจำถิ่นบางพื้นที่ของประเทศจีนไปเลย
爸宝 (Bà bǎo)
คำว่า 爸宝 (Bà bǎo) ในภาษาจีนแปลว่า ”สมบัติของพ่อ” ใช้เรียกเด็กผู้หญิงที่มีความสนิทสนมกับพ่อมากๆ คล้ายกับคำว่า ”daddy’s girl” ในภาษาอังกฤษ แม้ว่าการใกล้ชิดกับคนในครอบครัวไม่ได้เป็นเรื่องแย่ แต่คำๆนี้มักถูกใช้ในความหมายเชิงลบ เช่น ใช้เรียกเด็กผู้หญิงที่ถูกตามใจจนเคยตัว เป็นต้น ในทางกลับกันคำว่า 妈宝 (mā bǎo) ที่แปลว่า ”สมบัติของแม่” ก็ใช้เรียกเด็กผู้ชายที่สนิทสนมกับแม่มากเกินไปด้วยเช่นกัน
独眼龙 (Dúyǎnlóng)
คำว่า 独眼龙 (Dúyǎnlóng) แปลว่า ”มังกรตาเดียว” แต่จริงๆแล้วความหมายของชื่อนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมังกรเลย แต่เป็นชื่อเล่นที่ไว้เรียกคนจีนที่ไปทำศัลยกรรมตาสองชั้นแล้วจำเป็นต้องใช้ผ้าปิดตา เพราะการทำตาสองชั้นต้องทำทีละข้าง และปิดตาไว้ข้างหนึ่ง จึงเหลือตาไว้ใช้งานเพียงข้างเดียว ปัจจุบันการทำศัลยกรรมตาสองชั้นแพร่หลายมาก เราจึงได้ยินคำนี้กันอยู่บ่อยๆ
唐僧 (Tángsēng)
คนจีนเจ้าของภาษามักจะเรียกคนที่พูดมาก พูดไม่หยุดว่า 唐僧 (tángsēng) ซึ่งเป็นชื่อของพระภิกษุที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์ถัง บ้างก็เรียกกันว่า “ซวานจาง” พระรูปนี้มีชื่อเสียงจากการเดินทางไปกลับประเทศอินเดีย และนำคำสอนในศาสนาพุทธมาบอกเล่าให้ทุกคนฟัง แม้ว่าท่านจะเป็นบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์แต่ชื่อของท่านกลับถูกนำมาใช้เรียกคนที่พูดมากจนน่ารำคาญในประเทศจีน
ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับเด็ก
เช่นเดียวกับในประเทศอื่น วิธีการตั้งชื่อลูกของชาวจีนจะบ่งบอกถึงความหวังและความฝันของพวกเขาในอนาคต ตั้งแต่ตัวอักษรในชื่อของเด็กไปจนถึงคำที่ใช้เรียกชื่อลูกจนกระทั่งเขาเติบโตขึ้น ชื่อเรียกของลูกจึงเต็มไปด้วยความหมายสำหรับครอบครัว ต่อไปนี้คือชื่อเล่นในภาษาจีนสำหรับเรียกลูกๆที่พ่อแม่ใช้เรียกพวกเขาด้วยความรัก
| ภาษาจีน | พินอิน | คำอ่าน | คำแปลภาษาไทย |
|---|---|---|---|
| 儿 | Er | เออร์ | (ชื่อจริง)เออร์ |
| 葡萄 | Pútáo | ผูเถา | เจ้าองุ่นน้อย |
| 糯米 | Nuòmǐ | นั่วหมี่ | เจ้าข้าวเหนียว |
| 笑笑 | Xiào xiào | เซี่ยวเซี่ยว | ยิ้มยิ้ม |
| 可乐 | Kělè | เข่อเล่อ | เจ้าโคลา |
儿 (Er)
วิธีหนึ่งที่พ่อแม่หรือปู่ย่าตายายใช้เรียกลูกหลานของตัวเองเพื่อแสดงความรัก ความเอ็นดู คือ การลงท้ายชื่อเรียกของพวกเขาด้วยคำว่า 儿 (Er) ยกตัวอย่างเช่น หากเด็กชื่อ 诗颖 (Shi Ying) ชื่อเล่นที่ใช้เรียกเด็กคนนี้ก็จะเป็น 诗颖儿 (Shi Ying Er) เป็นต้น โดยทั่วไปตัวอักษร 儿 (Er) ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ใช้เติมเข้าไปท้ายชื่อของเด็ก เพื่อเป็นการเรียกพวกเขาด้วยความรักใคร่เอ็นดู
葡萄 (Pútáo)
คำว่า 葡萄 (Pútáo) หรือองุ่นในภาษาจีน คือ หนึ่งในชื่อผลไม้ที่พ่อแม่นิยมตั้งให้ลูกๆ สื่อเป็นนัยยะว่าลูกๆน่ารักอ่อนหวาน ตัวอ้วนกลมเหมือนผลองุ่น ตัวอย่างชื่อผลไม้อื่นๆที่นิยมเรียกเด็กๆ ได้แก่ 苹果 píng guǒ (แอ๊ปเปิ้ล), 橙子 chéng zi (ส้ม) หรือแม้แต่ táo zi 桃子 (ลูกพีซ)
糯米 (Nuòmǐ)
บางครั้งครอบครัวคนจีนจะเรียกเด็กๆว่า 糯米 (Nuòmǐ) ซึ่งแปลว่า “ข้าวเหนียว” สื่อความหมายถึงความปรารถนาดี เพราะข้าวเหนียวเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล, สุขภาพที่แข็งแรง, รำ่รวยเงินทองและโชคลาภในประเพณีของชาวจีน ชื่อเล่นนี้ใช้เรียกเฉพาะเด็กผู้หญิงเท่านั้น และเชื่อกันว่าชื่อเรียกนี้จะช่วยปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายด้วยซึ่งฟังดูขัดกับความน่ารักของชื่ออยู่ไม่น้อย
笑笑 (Xiào xiào)
บ่อยครั้งที่ชื่อเล่นของชาวจีนมักจะใช้คำซ้ำ คำว่า 笑笑 (Xiào xiào) ก็เป็นอีกคำหนึ่งที่ใช้วิธีนี้เช่นกัน ชื่อเล่นนี้แปลเป็นไทยว่า “ยิ้มยิ้ม” หรือ ”หัวเราะหัวเราะ” เมื่อชาวจีนพูดคำซ้ำสองครั้งเพื่ออธิบายลักษณะบางสิ่งบางอย่าง เช่น 红红的 hóng hóng de (สีแดง) หรือ tián tián de 甜甜的 (หวาน) จะเป็นการเน้นย้ำถึงลักษณะที่ใช้บรรยาย สีแดงแดง หมายถึง มันแดงกว่าปกติ รสชาติหวานๆ สื่อความหมายว่าหวานกว่าปกติ ดังนั้นถ้าพ่อแม่เรียกลูกๆ ว่า 笑笑 (Xiào xiào) ก็บ่งบอกถึงความสุขและการยิ้มแย้มของเด็กๆ ที่นำความสุขมาให้กับครอบครัวอย่างมากมาย
可乐 (Kělè)
คำว่า 可乐 (Kělè) เป็นชื่อเล่นที่แปลว่า ”โคลา” ในภาษาจีน นอกจากจะสื่อความหมายถึงความอ่อนหวานเหมือนความหวานของโคลาแล้ว คำว่า 可乐 (Kělè) ประกอบด้วยอักษร 可 (kě) ที่แปลว่าน่ารัก และตัว 乐 (lè) ที่หมายถึง มีความสุข เมื่อดูความหมายทั้งสองตัวอักษรนี้ในชื่อนี้แล้ว การเรียกด้วยชื่อเล่นนี้จึงบ่งบอกให้เห็นถึงความปรารถนาดีและความหวังให้ลูกๆมีความสุขเหมือนกับชื่อที่เรียกนั่นเอง
คิดถึงภาษาจีน ฉันคิดถึงเธอ คุณคิดถึงฉันไหม คิดถึงนะ ภาษาจีน
“ฉันคิดถึงเธอ” ในภาษาจีน คือ
我想你
wǒ xiǎng nǐ
(หวอ เสียง หนี่)
ฉันคิดถึงเธอ
ส่วน “คุณคิดถึงฉันไหม” ในภาษาจีน คือ
你想我吗?
Nǐ xiǎng wǒ ma?
(หนี่ เสียง หวอ มะ)
คุณคิดถึงฉันไหม
เช่นเดียวกับคำทักทายภาษาจีนที่มีหลายคำ และคุณควรเลือกใช้ให้ถูกต้อง การบอกว่าคิดถึงในภาษาจีนก็มีมากกว่า 1 แบบ หากคุณเรียนจีนแบบพอไปที คุณอาจจะไม่สนใจพูดภาษาจีนให้เหมือนคนจีนเท่าไหร่นัก แต่ถ้าคุณอยากจะพูดภาษาจีนให้เหมือนคนจีนล่ะก็ คุณควรรู้วิธีพูดภาษาจีนแบบเจ้าของภาษาคนจีนเอาไว้ ในบทความนี้เราจะมาสอนภาษาจีนด้วยการบอกว่าคิดถึงแบบที่คนจีนใช้กัน
1. 我想你 – Wǒ xiǎng nǐ
我想你
wǒ xiǎng nǐ
(หวอ เสียง หนี่)
ฉันคิดถึงคุณ
ประโยคนี้เป็นประโยคภาษาจีนพื้นฐานทั่วไปที่นิยมใช้มากที่สุดหากต้องการบอกว่า “ฉันคิดถึงคุณ” เป็นภาษาจีน เราสามารถใช้ประโยคนี้โดยไม่จำเป็นต้องมีคำอื่นมาเสริมก็เข้าใจได้ทันที
ประโยค 我想你 (wǒ xiǎng nǐ) นี้เหมาะกับแทบทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะใช้กับเพื่อนๆ, ครอบครัวหรือคนรัก และยังใช้ประโยคนี้ได้ทั้งในการพูดและการเขียนภาษาจีนอีกด้วย
คำว่า 想 (xiǎng) มีหลายความหมาย รวมถึงความหมายว่า “คิดถึง” และ “นึกถึง” ด้วย สำหรับในบริบทนี้ทั้งสองความหมายก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ หากคุณกำลังคิดถึงใครสักคน, นึกถึงอะไรบางอย่างหรือสถานที่บางแห่งที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับคุณ คุณกำลังคิดถึงพวกเขาอย่างแน่นอน
หากคุณกำลังจะไปจากใครสักคน หรือคนที่คุณห่วงใยกำลังจะจากไป เราจะเติมคำว่า 会 (huì) ที่แปลว่า “จะ” เข้ามาในประโยค ยกตัวอย่างเช่น หากเพื่อนของคุณกำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ เราจะพูดว่า
一路平安! 我会想你的。
Yīlù píng’ān! Wǒ huì xiǎng nǐ de.
(อีลู่ ผิงอัน! หว่อ ฮุ่ย เสียง หนี่ เตอ)
เดินทางปลอดภัยนะ แล้วฉันจะคิดถึงเธอ
2. 我想念你 – Wǒ xiǎngniàn nǐ
我想念你
Wǒ xiǎngniàn nǐ
(หวอ เสี่ยง เนี่ยน หนี่)
ฉันคิดถึงคุณ
ประโยคนี้จะค่อนข้างเป็นทางการขึ้นมาเล็กน้อย มีความหมายประมาณว่า “จำไว้ด้วยใจที่เพรียกหา” หรือ “คงอีกนานที่จะเจอกันอีก” ประโยคนี้มีความหมายแตกต่างจากประโยคธรรมดาๆอย่าง 我想你 เพราะมันบอกเป็นนัยๆว่าคุณไม่คิดว่าจะได้กลับเจอกันอีกเป็นเวลานาน ยกตัวอย่างเช่น
我们都很想念你。
Wǒmen dōu hěn xiǎngniàn nǐ.
(หว่อเมิน โต๊ว เหิน เสี่ยงเนี่ยน หนี่)
พวกเราทุกคนคงคิดถึงคุณมาก
她很想念他的家人。
Tā hěn xiǎngniàn tā de jiārén.
(ทา เหิน เสี่ยงเนี่ยน ทา เตอ เจีย เหริน)
เธอคิดถึงครอบครัวของเธอมาก
คุณอาจจะได้ยินคำว่า 想念 (xiǎngniàn) ใช้เพื่ออธิบายความรู้สึกหรือความโหยหาบ้านเกิดเมืองนอนหรือผู้คน กล่าวคือคุณจะไม่ได้กลับไปที่นั่นอีกนาน หรือบางทีคุณก็ไม่ได้กลับไปอีกเลย
侨胞想念祖国。
Qiáobāo xiǎngniàn zǔguó.
(เฉียวเปา เสี่ยงเนี่ยน จู่กั๋ว)
ชาวจีนที่อยู่ต่างบ้านต่างเมืองคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน
3. 我好想你 – Wǒ hǎo xiǎng nǐ
我好想你
Wǒ hǎo xiǎng nǐ
(หวอ หาว เสียง หนี่)
ฉันคิดถึงคุณจริงๆ
ในภาษาจีน เราใช้คำว่า 好 (hǎo) ที่หมายถึง “มาก” เติมลงไปก่อนคำว่า 想你 (xiǎng nǐ) ที่แปลว่า “คิดถึง” เมื่อรวมกันจะมีความหมายว่า “ฉันคิดถึงคุณจริงๆ” หรือ “ฉันคิดถึงคุณมาก”
สำนวน 我好想你 (Wǒ hǎo xiǎng nǐ) หรือ “ฉันคิดถึงคุณมาก” จะใช้กับคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน เช่น คู่รัก, ครอบครัว หรือเพื่อนสนิท การพูดว่า 我好想你 (Wǒ hǎo xiǎng nǐ) กับคนรักก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีสำหรับการบอกรักเป็นภาษาจีน
โดยปกติเราจะได้ยินประโยคนี้ในละครจีน เมื่อตัวละครชาย (ปกติมักจะเป็นผู้ชาย) ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขาจากมาคือคนที่เขาต้องการมาโดยตลอด ยกตัวอย่างเช่น
小林,我好想你。亲爱的, 你能原谅我吗?
Xiǎolín, wǒ hǎo xiǎng nǐ. Qīn’ài de, Nǐ néng yuánliàng wǒ ma?
(เสี่ยวหลิน, หวอ เหา เสียง หนี่. ชิน อ้าย เตอ หนี่ เหนิง หยวนเลี่ยง หว่อ มะ)
เสี่ยวหลิน, ผมคิดถึงคุณมาก ที่รัก คุณจะยกโทษให้ผมได้ไหม?
คำว่า 亲爱的 (ชิน อ้าย เตอ) แปลว่าที่รักภาษาจีน ใช้เรียก แฟนผู้หญิง ใช้เรียกได้ทั้งคนที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่งงาน
4. 我念(着)你 – Wǒ niàn(zhe) nǐ
我念(着)你
Wǒ niàn(zhe) nǐ
(หว่อน เนี่ยน (เจอ) หนี่)
ฉันคิดถึงคุณตลอดไป
เราสามารถใช้คำว่า 念 (niàn) ซึ่งตัวมันเองมีความหมายว่า “คิดถึง” หรือ “นึกถึง” อย่างไรก็ตามถึงแม้จะถูกหลักไวยากรณ์แต่ฟังแล้วไม่เป็นธรรมชาติในภาษาจีน ตัวอักษร 念 (niàn) นั้น โดยปกติมักจะต้องรวมกับตัว 着 (zhe –) ที่เป็นคำช่วยระบุกริยาที่กำลังดำเนินอยู่ เมื่อเราใช้เป็นกริยาเดี่ยวๆ จะหมายความว่า “คิดถึง” ยกตัวอย่างเช่น
我们老念着你。
Wǒmen lǎo niànzhe nǐ.
(หว่อเมิน เหล่า เนี่ยน เจอะ หนี่)
เราคิดถึงคุณมาก
他可念着他妈妈做的菜呢。
Tā kě niànzhe tā māmā zuò de cài ne.
(ทา เข่อ เนี่ยนเจอะ ทา มามา จั้ว เตอ ไช่ เนอ)
เขาคิดถึงอาหารของแม่ของเขามาก
5. 我思念你 – Wǒ sīniàn nǐ
我思念你
Wǒ sīniàn nǐ
(หว่อ ซื่อเนี่ยน หนี่)
ฉันคิดถึงคุณ
เป็นอีกสำนวนที่ค่อนข้างเป็นทางการสำหรับการบอกว่า “ฉันคิดถึงคุณ” ในภาษาจีน เราสามารถใช้ประโยค 我思念你 (wǒ sīniàn nǐ) เมื่อต้องการสื่อความหมายว่า “คุณคิดถึงใครบางคนที่อยู่ห่างไกล” หรือพูดถึงสถานที่ที่คุณไม่แน่ใจว่าจะได้กลับไปอีก
เมื่อเปรียบเทียบกับคำว่า 想念 (xiǎngniàn) คำว่า 思念 (sīniàn) ฟังแล้วจะสะเทือนอารมณ์มากกว่า เพราะว่าคำนี้มันเป็นคำแสดงความรู้สึกภาษาจีนถึงความโหยหาลึกซึ้งถึงอะไรก็ตามที่คุณคิดถึงอยู่ และรู้สึกได้ถึงความเศร้าโศกหรือตรอมใจของผู้พูดที่อยู่ห่างไกลจากคนหรือสถานที่อันเป็นที่รักอยู่ในคำนี้ด้วย
ประโยคตัวอย่างด้านล่างจะอธิบายความแตกต่างนี้ได้อย่างชัดเจน
他苦苦地思念家人。
Tā kǔkǔde sīniàn jiārén.
(ทา ขูขู่เตอ ซือเนี่ยน เจียเหริน)
เขากำลังคิดถึงครอบครัวของเขาสุดหัวใจ
搬到国外以后,我很思念老朋友。
Bān dào guówài yǐhòu, wǒ hěn sīniàn lǎopéngyǒu.
(ปาน เต้า กั๋วไว่ หยี่โฮ่ว, หวอ เหิ่น ซือเนี่ยน เหล่าเผิงโหย่ว)
ตั้งแต่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ฉันก็โหยหาเพื่อนเก่าเสมอมา
6. 我挂念你 – Wǒ guàniàn nǐ
我挂念你
Wǒ guàniàn nǐ
(หว่อ กว้านเนี่ยน หนี่)
ลองมาดูที่อักษรจีน 挂念 (guàniàn) อาจจะไม่ชัดเจนว่าจะสื่อความหมายว่า “ฉันคิดถึงคุณ” ในภาษาจีนได้อย่างไร คำว่า 挂 (guà) โดยปกติจะหมายถึง “แขวน” หรือ “วางสาย” แต่ก็หมายถึง “ความกังวลหรือเป็นห่วง” ได้ด้วย
เมื่อนำสองคำมารวมกัน 挂念 (guàniàn) จะมีความหมายตามตัวอักษรว่า “ที่น่าเป็นห่วง” อย่างไรก็ตาม เราจะใช้บ่อยเมื่อพูดว่า “ไม่ต้องกังวล” ดังตัวอย่าง
全家安好,请勿挂念。
Quánjiā ānhǎo, qǐngwù guàniàn.
(เฉวียนเจีย อันป่าว, ฉิ่งวู่ กว้านเนี่ยน)
ทุกคนที่บ้านสบายดี โปรดอย่ากังวล
หากเราต้องการแสดงความเป็นห่วงถึงคนที่อยู่ห่างไกล เราจะใช้คำว่า
我挂念你
wǒ guàniàn nǐ
(หว่อ กว้านเนี่ยน หนี่)
ฉันเป็นห่วงคุณ
อย่างไรก็ตาม คำนี้มักใช้กับบุคคลที่สามเพื่ออธิบายความรู้สึกของผู้อื่นด้วย ตามตัวอย่างดังต่อไปนี้
她很挂念亲人。
Tā hěn guàniàn qīnrén.
(ทา เหิ่น กว้านเนี่ยน ชินเหริน)
เธอคิดถึงครอบครัวของเธอจริงๆ
(หรือ เธอเป็นกังวลเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ)
14 คำอวยพรโชคดีภาษาจีน “โชคดีนะ” “เป็นกำลังใจให้นะ” และอื่นๆ
คำว่า “ขอให้โชคดี” ภาษาจีน คือ
祝你好运 / 祝你好运啊
zhù nǐ hǎo yùn / zhù nǐ hǎo yùn ‘a
(จู้หนีห่าวยวิ่น / จู้หนีห่าวยวิ่นอา)
โชคดีนะ
แม้ว่าจะเป็นการแปลว่าขอให้โชคดีภาษาจีนแบบตรงตัว แต่กลับเป็นประโยคที่คนจีนเจ้าของภาษาไม่ใช้กันสักเท่าไหร่ วันนี้ครูภาษาจีนของเราจะมาอธิบายให้ฟังว่าทำไมประโยคนี้จึงไม่เป็นที่นิยม และคนจีนเค้าใช้ประโยคแบบไหนกันบ้างในการอวยพรขอให้โชคดีภาษาจีน เป็นบทเรียนที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่สนใจอยากเรียนภาษาจีนเบื้องต้นง่ายๆ

ด้านล่างนี้เป็นประโยคอวยพรขอให้โชคดีภาษาจีนทั้งหมดที่สามารถนำไปใช้ได้
- 祝你好运 / 祝你好运啊
zhù nǐ hǎo yùn / zhù nǐ hǎo yùn ‘a
(จู้หนีห่าวยวิ่น / จู้หนีห่าวยวิ่นอา)
โชคดีนะ - 好好儿干啊
hǎo hǎor gàn ‘a
(ห่าว เฮ้า ก้าน อา)
ทำให้ดีที่สุด (สำหรับงานนี้) - 加油
jiā yóu
(เจี๊ย โหยว)
เร็วเข้า, สู้ๆ - 好好儿考啊
hǎo hǎor kǎo ‘a
(ห่าว ฮ้าว เอ้อร เข่า อา)
ทำให้ดีที่สุดนะ (สำหรับการสอบ) - 祝你成功
zhù nǐ chéng gōng
(จู้ หนี่ เฉิง กง)
ขอให้คุณประสบความสำเร็จ - 我给你加油
wǒ gěi nǐ jiā yóu
(หว่อ เก๋ย หนี่ เจี๊ย โหยว)
ฉันเป็นกำลังใจให้คุณนะ - 祝你顺利
zhù nǐ shùn lì
(จู้ หนี่ ชุ่น ลี่)
ขอให้ทุกอย่างราบรื่น - 你一定会成功的 / 你肯定会成功的
nǐ yí dìng huì chéng gōng de / nǐ kěn dìng huì chéng gōng de
(หนี่ อี๋ ฮุ่ย เฉิง กง เตอ / หนี เขิ่น ติ้ง ฮุ่ย เฉิง กง เตอ)
คุณต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน - 祝你工作顺利
zhù nǐ gōng zuò shùn lì
(จู้ หนี่ กง จั้ว ชุ่น ลี่)
ขอให้งานทุกอย่างผ่านไปด้วยดี / ขอให้โชคดีในหน้าที่การงาน - 祝你考试顺利
zhù nǐ kǎo shì shùn lì
(จู้ หนี เข่า ซื่อ ซุ่น ลี่)
ขอให้โชคดีในการสอบ - 我支持你
wǒ zhī chí nǐ
(หว่อ จือ ฉือ หนี่)
ฉันสนับสนุนคุณนะ - 我相信你
wǒ xiāng xìn nǐ
(หว่อ เซียง ซิ่น หนี่)
ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ - 没成功别回来见我
méi chéng gōng bié huí lái jiàn wǒ
(เหมย เฉิง กง เปี๋ย หุย ไหล เจี้ยน หว่อ)
ถ้าไม่สำเร็จ ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้า - 祝你马到成功
zhù nǐ mǎ dào chéng gōng
(จู้ หนี หม่า เต้า เฉิง กง)
ขอให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว
คนที่ชอบเรียนสำนวนภาษาจีน อาจสนใจดูบทความเกี่ยวกับสำนวนและคำสอนจีน ที่เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมภาษาจีนที่สื่อออกมาทางคำสอนเหล่านี้ ส่วนประโยคอวยพรหรือให้กำลังใจในบทความนี้เป็นประโยคที่ไม่ยากนัก แม้บางประโยคจะไม่สามารถแปลตรงตัวได้ แต่ก็สามารถคาดเดาความหมายได้ ต่อไปนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีใช้ประโยคให้กำลังใจเหล่านี้ในสถานการณ์ต่างๆ กัน
祝你好运 / 祝你好运啊
พินอิน : zhù nǐ hǎo yùn / zhù nǐ hǎo yùn ‘a
ความหมายตามตัวอักษร : ขอให้คุณโชคดี
ความหมายทั่วไป : โชคดี
ประโยค 祝你好运 (zhù nǐ hǎo yùn) นี้เป็นประโยคที่แปลตามตัวอักษรของประโยค “ขอให้คุณโชคดี” ในภาษาจีน อาจจะถูกต้องตามหลักภาษาแต่ฟังดูแปลกและไม่เป็นธรรมชาติ สาเหตุมาจากอวยพรในวาระโอกาสต่างๆ ของคนจึนจะคำนึงถึงสถานการณ์ เช่น อวยพรวันปีใหม่/ตรุษจีนภาษาจีนมักระบุไปเลยว่าอวยพรเรื่องอะไร ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ, เงินทอง, ครอบครัว เป็นต้น และยังต้องคำนึงถึงผู้รับคำอวยพรนั้นด้วย เช่น คำอวยพรวันเกิดภาษาจีนสำหรับผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะเน้นเรื่องสุขภาพยั่งยืนมากกว่าเรื่องอื่น
เพราะเหตุผลเช่นนี้คนจีนเจ้าของภาษาจึงนิยมใช้คำพูดอื่นในการอวยพรผู้อื่นให้โชคดีแทน
好好儿干啊
พินอิน : hǎo hǎo er gàn ‘a
ความหมายตามตัวอักษร : ทำงานได้ดี
ความหมายทั่วไป : ทำให้ดีที่สุด (สำหรับงานชิ้นนี้)
ตัวอักษร 干 (gàn) มีความหมายว่า ”ทำ” สำนวน 好好儿干 (hǎo hǎo er gàn) นี้จึงแปลว่า “ทำมันให้ดี” ใช้พูดเพื่อให้กำลังใจและส่งเสริมให้ผู้อื่นทำงานได้ดี
加油
พินอิน : jiā yóu
ความหมายตามตัวอักษร : ใส่น้ำมัน
ความหมายทั่วไป : เร็วเข้า, สู้ๆ
加油 เป็นสำนวนภาษาจีนที่รู้จักกันดี หากแปลตามตัวอักษร แปลว่า ”ใส่น้ำมัน” ซึ่งหากไม่ใช่เจ้าของภาษาก็อาจจะไม่เข้าใจ เราจึงพบประโยคลักษณะนี้บ่อยๆ ในข้อสอบ HSK เพื่อทดสอบความรู้ของผู้สอบ สำหรับการใช้งานโดยทั่วไปเราจะใช้สำนวนนี้เพื่อต้องการให้กำลังใจใครสักคนก่อนที่จะไปทำภารกิจ, กล่าวสุนทรพจน์, เข้าร่วมการแข่งขันหรือไปสอบ
好好儿考啊
พินอิน : hǎo hǎo er kǎo ‘a
ความหมายตามตัวอักษร : สอบดีๆนะ
ความหมายทั่วไป : ทำให้ดีที่สุดนะ (สำหรับการสอบ)
เช่นเดียวกับประโยค 好好儿干 (hǎo hǎo er gàn) เราใช้สำนวน 好好儿考啊 (hǎo hǎor kǎo ‘a) นี้เพื่อให้กำลังใจผู้อื่นเหมือนกัน เนื่องจากคำว่า 考 (kǎo) แปลว่า “ไปสอบ” การพูดว่า 好好儿考 (hǎo hǎo er kǎo) จึงใช้เป็นคำอวยพรผู้อื่นก่อนเข้าห้องสอบนั่นเอง
祝你成功
พินอิน : zhù nǐ chéng gōng
ความหมายทั่วไป : ขอให้คุณประสบความสำเร็จ
ประโยค 祝你成功 (zhù nǐ chéng gōng) นี้มีความหมายตามตัวอักษรในภาษาจีนว่า ”ขอให้คุณประสบความสำเร็จ” การใช้สำนวนนี้ไม่จำเป็นต้องระบุว่าประสบความสำเร็จนั้นเป็นความสำเร็จในเรื่องอะไรหรือด้านใด ดังนั้นจึงสามารถใช้ประโยคนี้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ และเป็นอีกหนึ่งวิธีอวยพรให้โชคดีในภาษาจีนด้วย
我给你加油
พินอิน : wǒ gěi nǐ jiā yóu
ความหมายตามตัวอักษร : ฉันเติมน้ำมันเพื่อคุณ
ความหมายทั่วไป : ฉันเป็นกำลังใจให้คุณนะ
นอกจากประโยค 我给你加油 (wǒ gěi nǐ jiā yóu) ที่มึความหมายว่า “ฉันเป็นกำลังใจให้” เราบอกว่าฉันเป็นกำลังใจให้นะภาษาจีนด้วยประโยคต่อไปนี้ได้
我为你加油
(Wǒ wèi nǐ jiāyóu)
ฉันเป็นกำลังใจให้นะ
祝你顺利
พินอิน : zhù nǐ shùn lì
ความหมายตามตัวอักษร : ขอให้ราบรื่น
ความหมายทั่วไป : ฉันหวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี
ในภาษาจีน คำว่า 顺利 (shùn lì) หมายถึง “ราบรื่น” เราจะพูดว่า 祝你顺利 (zhù nǐ shùn lì) เมื่อต้องการอวยพรให้ผู้อื่นผ่านทุกอย่างไปด้วยดีเป็นภาษาจีน
你一定会成功的 / 你肯定会成功的
พินอิน : nǐ yí dìng huì chéng gōng de / nǐ kěn dìng huì chéng gōng de
ความหมายตามตัวอักษร : คุณประสบความสำเร็จแน่นอน
ความหมายทั่วไป : คุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ถ้าต้องการให้ใครบางคนรู้ว่าคุณเชื่อมั่นในตัวเขาร้อยเปอร์เซนต์ คุณสามารถพูดว่า 你一定会成功的 / 你肯定会成功的 (nǐ yí dìng huì chéng gōng de / nǐ kěn dìng huì chéng gōng de) ได้ คำว่า 肯定 (Kěndìng) เป็นคำวิเศษณ์ที่ใช้เพื่อเน้นย้ำหรือยืนยันความมั่นใจ มีความหมายว่า “ไม่ต้องสงสัย”, ”แน่นอน”, ”อย่างมั่นใจ” หรือ ”ชัวร์ๆ” ก็ได้
祝你工作顺利
พินอิน : zhù nǐ gōng zuò shùn lì
ความหมายตามตัวอักษร : ขอให้คุณทำงานราบรื่น
ความหมายทั่วไป : ขอให้งานทุกอย่างผ่านไปด้วยดี / ขอให้โชคดีในหน้าที่การงาน
เราสามารถอวยพรให้ผู้อื่นโชคดีในหน้าที่การงานได้โดยใช้ประโยค 祝你工作顺利 (zhù nǐ gōng zuò shùn lì) นี้
祝你考试顺利
พินอิน : zhù nǐ kǎo shì shùn lì
ความหมายตามตัวอักษร : ขอให้คุณสอบราบรื่น
ความหมายทั่วไป : ขอให้โชคดีในการสอบ
เนื่องจากคำว่า 祝你顺利 (zhù nǐ shùn lì) นั้นไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าคุณต้องการให้เรื่องอะไรผ่านไปด้วยดี ดังนั้นเราก็สามารถระบุไปเลยว่า 祝你考试顺利 (zhù nǐ kǎo shì shùn lì) เพื่ออวยพรเป็นภาษาจีนให้ผู้อื่นโชคดีในการสอบ
我支持你
พินอิน : wǒ zhī chí nǐ
ความหมายทั่วไป : ฉันสนับสนุนคุณนะ
我支持你 สำนวนนี้สื่อความหมายตรงตัว หมายถึง คุณต้องการอยู่ข้างใครสักคนในการตัดสินใจ หรือต้องการสนับสนุนงานของเขา
我相信你
พินอิน : wǒ xiāng xìn nǐ
ความหมายตามตัวอักษร : ฉันเชื่อคุณ
ความหมายทั่วไป : ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ
ไม่มีอะไรที่ให้กำลังใจผู้อื่นได้มากกว่าประโยคธรรมดาๆอย่าง ”ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ” ในภาษาจีนเราจะพูดว่า 我相信你 (wǒ xiāng xìn nǐ) เพื่อแสดงความมั่นใจในใครสักคน
没成功别回来见我
พินอิน : méi chéng gōng bié huí lái jiàn wǒ
ความหมายตามตัวอักษร : ยังไม่สำเร็จ
ความหมายทั่วไป : ถ้าไม่สำเร็จ ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้า
เราต้องระมัดระวังในการใช้ประโยค 没成功别来见我 (méi chéng gōng bié huí lái jiàn wǒ) เราสามารถพูดประโยคนี้ได้กับคนที่เราสนิทมากๆ เท่านั้น สำนวนดังกล่าวไม่ใช่การขู่แต่เป็นการพูดเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณรู้ดีว่ามันมีความหมายมากแค่ไหนและต้องใช้เวลานานขนาดไหนกว่าจะประสบความสำเร็จ และคุณก็รู้ด้วยว่าจะได้เจอพวกเขาอีกครั้งอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาต้องประสบความสำเร็จกลับมา
祝你马到成功
พินอิน : zhù nǐ mǎ dào chéng gōng
ความหมายตามตัวอักษร : ขอให้คุณสำเร็จเหมือนม้าที่วิ่งมาถึง
ความหมายทั่วไป : ขอให้คุณประสบความสำเร็จโดยเร็ว
马到成功 (mǎ dào chéng gōng) เป็นสำนวนในภาษาจีน คำว่า 成语 (chéngyǔ) หมายถึง ”ประสบความสำเร็จในทันที” ในสมัยก่อนกองทัพของทหารจะต้องขี่ม้าไปสู้รบกับอีกฝ่าย ดังนั้นประโยค 马到成功 (mǎ dào chéng gōng) จึงสื่อความหมายเป็นนัยว่า “ทันทีที่ม้าของเราไปถึงที่นั่น เราก็จะประสบความสำเร็จ (ชัยชนะ)” นั่นเอง
วิธีถามสบายดีไหมภาษาจีน วิธีตอบ และบทสนทนาสบายดีไหมภาษาจีน
สบายดีไหมภาษาจีนคือ 你好吗? (Nǐ hǎo ma?) เป็นประโยคที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมือนกับการทักทายภาษาอังกฤษ หรือวิธีตอบคำถาม How are you ภาษาอังกฤษ และสบายดีไหมภาษาญี่ปุ่นมีวิธีพูดหลายวิธี ภาษาจีนก็มีประโยคให้เลือกใช้หลายประโยคเช่นกัน ดังนั้นครูภาษาจีนของเราจึงรวบรวมประโยคที่น่าสนใจทั้งหลายมาให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสมกันเลย
- 你怎么样?
Nǐ zěnme yàng?
(หนี เจิ่นเมอะ ย่าง)
เป็นอย่างไรบ้าง - 你好吗?
Nǐ hǎo ma?
(หนี ห่าว มะ)
คุณสบายดีไหม - 最近忙些什么
Zuìjìn máng xiē shénme?
(จุ้ยจิ้น หมาง ซีเอ เสินเมอะ)
ช่วงนี้ยุ่งๆกับอะไรอยู่เหรอ - 一切顺利吗?
Yīqiè shùnlì ma?
(อี๊เชี่ย ซุ่นลี่ มะ)
ทุกอย่างราบรื่นดีไหม - 老师好?
Lǎoshī hǎo
(เหล่าซือ ห่าว)
สวัสดีคุณครู - 身体好吗?
Shēntǐ hǎo ma?
(เซินถี ห่าว มะ)
สุขภาพดีไหม / สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง - 最近去哪儿呢?
Zuì jìn qù nǎr ne?
(จุ้ยจิ้น ชวี่ หน่า เนอะ)
ช่วงนี้คุณไปไหนมาบ้าง - 大家好
Dàjiā hǎo?
(ต้า เจีย ห่าว)
สวัสดีทุกคน - 你最近过得好吗?
Nǐ zuìjìn guòde hǎo ma?
(หนี่ จุ้ยจิ้น กั้วเตอ ห่าว มะ)
ช่วงนี้คุณใช้เวลาทำอะไรอยู่บ้าง - 什么事?
Shénme shì?
(เสินเมอะ ซื่อ)
เกิดอะไรขึ้น - 还好吗?
Hái hǎo ba?
(ไห ห่าว ป๊ะ)
คุณยังโอเคอยู่ใช่ไหม - 你不舒服吗?
Nǐ bù shūfu ma?
(หนี่ ปู้ ซูฟู มะ)
คุณไม่ค่อยสบายหรือเปล่า - 你吃了吗?
Nǐ chīle ma?
(หนี่ ชื้อเลอ มะ)
กินอะไรมาแล้วหรือยัง - 怎么了?
Zěnme le?
(เจิ่นเมอะ เลอ)
เกิดอะไรขึ้นกับคุณ
你怎么样?— เป็นอย่างไรบ้าง
ประโยคที่พูดว่า 你怎么样? (Nǐ zěnme yàng?) นับเป็นหนึ่งในประโยคทักทาย ถามสารทุกข์สุกดิบทั่วๆไปที่คนจีนเจ้าของภาษาใช้กันมากที่สุด เป็นประโยคที่ฟังดูเป็นกันเอง ไม่ประดิดประดอย และมึความเป็นธรรมชาติ หากจะเปรียบเทียบประโยคนี้กับภาษาไทยจะมีความหมายประมาณว่า ”เป็นอย่างไรบ้าง” หรือ ”เป็นไงบ้าง” ซึ่งเราสามารถใช้พูดกับเพื่อน, เพื่อนร่วมชั้น, สมาชิกในครอบครัวหรือใช้กับเพื่อนร่วมงานก็ยังได้
你好吗? – สบายดีไหม
เมื่อเริ่มเรียนภาษาจีน หากต้องการถามว่า “สบายดีไหม” ส่วนใหญ่ก็จะพูดว่า 你好吗? (Nǐ hǎo ma?) ซึ่งเป็นวิธีพูดทั่วไปที่ส่วนใหญ่สอนกันในชั้นเรียนภาษาจีน แต่ว่าประโยคนี้ถูกต้องจริงหรือไม่ ทำไมถึงไม่ค่อยได้ยินคนจีนเจ้าของภาษาเองพูดกันในชีวิตประจำวันเท่าใดนัก จริงๆแล้วการใช้ 你好吗? (Nǐ hǎo ma?) นั้นก็ไม่ผิด แต่เป็นคำทักทายที่ฟังดูเย็นชา แข็งกระด้างอยู่ซักหน่อยและเป็นทางการมากเกินไป ดังนั้นการพูดประโยคนี้ก็อาจจะฟังดูง่ายๆตรงๆ สำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาจีน แต่หากลองหยิบประโยคทักทายอื่นๆในบทความนี้มาใช้ดูก็จะทำให้ฟังดูใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้น
最近忙些什么 – ช่วงนี้ยุ่งๆกับอะไรอยู่เหรอจ๊ะ
เวลาในชีวิตของคนเราผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวัน ทุกคนก็มีเรื่องที่ต้องทำ มีที่ที่ต้องไปและมีใครบางคนที่ต้องเจอ ดังนั้นการถามเป็นภาษาจีนว่า 你最近忙什么呢? (Nǐ zuì jìn máng xiē shén me?) จึงเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เมื่อเราต้องการทราบว่าคู่สนทนาของเราช่วงนี้ยุ่งอยู่กับอะไรบ้าง เป็นคำถามที่ดีที่ใช้ถามคนที่เราไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลานาน เพราะแต่ละคนก็มีตารางเวลาที่ยุ่งเหยิง
一切顺利吗? – ทุกอย่างราบรื่นดีไหม
เราสามารถใช้ประโยค 一切顺利吗? (Yīqiè shùnlì ma?) พูดกับเพื่อนที่เพิ่งสอบสัมภาษณ์, คุยกับลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งสอบปลายภาคที่โรงเรียนหรือถามเพื่อนร่วมงานที่กลับมาจากงานประชุมสำคัญ การถามคำถามแบบนี้ จะถามเมื่อคุณต้องการคำตอบที่จริงจัง ไม่ใช่การตอบตามมารยาทหรือการตอบแบบสบายๆทั่วไป คำว่า 一切 (Yī qiè) ในภาษาจีนหมายถึง ทุกอย่าง, ทุกสิ่ง ส่วนคำว่า 顺利 (Shùn lì) แปลว่า ราบรื่น, ไม่มีปัญหา ดังนั้น 一切顺利吗 (Yī qiè shùn lì ma?) รวมกันแล้วจึงแปลว่า ”ทุกอย่างราบรื่นดีไหม”
老师好? – สวัสดีคุณครู
หากคุณเพิ่งจะเริ่มเรียนรู้วิธีพูดคำว่า ”สบายดีไหม” ในภาษาจีน มีหลายโอกาสที่จะได้พูดประโยคนี้ไม่ว่าจะตอนเพิ่งเริ่มเรียนครั้งแรกหรือจะเรียนภาษาจีนเชิงวิชาการก็ตาม คำว่า 老师 (Lǎoshī) เป็นคำในภาษาจีนที่แปลว่า “คุณครู” ดังนั้นประโยค “Lǎoshī hǎo?” (老师好?) จึงเหมาะที่จะใช้เป็นประโยคทักทายคุณครูสอนภาษาจีน และเช่นเดียวกับคำว่า 老师 (Lǎoshī) ที่ใช้พูดกับคุณครู เราสามารถใช้คำที่ระบุตัวบุคคลอื่นๆแทนได้ เพื่อให้การทักทายนั้นมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น 大卫好 (Dà wèi hǎo?) แปลว่า “สบายดีไหม เดวิด” การพูดลักษณะนี้ถือเป็นการให้เกียรติผู้อื่นและทำความเข้าใจสถานะทางสังคมของพวกเขาด้วย
身体好吗?– สุขภาพดีไหม / สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง
อักษร 身体 (shēn tǐ) ในภาษาจีนกลางมีความหมายว่า ”ร่างกาย” ดังนั้นคำถาม 身体好吗? จึงใช้ถามถึงสุขภาพหรือสภาพร่างกายของผู้อื่น สถานการณ์ที่เหมาะสมที่จะใช้ประโยคนี้ คือ เมื่อคนที่คุณเจอคือคนที่อายุมากกว่ามาก และคุณต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขายังมีสุขภาพที่ดีอยู่ และอีกสถานการณ์หนึ่ง คือ เมื่อคุยโทรศัพท์กับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันมานานก็สามารถถามไถ่ถึงสุขภาพด้วยคำถามนี้ได้ วัฒนธรรมของชาวจีนนั้น การแสดงออกถึงความเป็นห่วงหรือความกังวลเรื่องสุขภาพร่างกายของผู้อื่นนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่ได้เจอกันบ่อยๆ
最近去哪儿呢?– ช่วงนี้คุณไปไหนมาบ้าง
ประโยคนี้สำหรับชาวต่างชาติอาจจะฟังดูเหมือนสอดรู้สอดเห็นหรือถือเป็นเรื่องส่วนตัว แต่การถามว่า 最近去哪儿呢?– Zuì jìn qù nǎr ne? หรือ ”ช่วงนี้คุณไปไหนมาบ้าง” ในภาษาจีนกลางนั้น เป็นเพียงแค่คำทักทายธรรมดา ไม่ได้ต้องการคำตอบที่จริงจัง อย่างไรก็ตามความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งคือ ผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของภาษาเอง เมื่อได้ยินคำถามแบบนี้ก็มักจะตอบเป็นรายละเอียดที่มากจนเกินไป จริงๆแล้วไม่ได้สำคัญเลยว่าคุณไปที่ไหนมาบ้าง แต่การให้ข้อมูลคร่าวๆว่าทำอะไรบ้างช่วงนี้หรือใช้เวลาส่วนใหญ่ทำอะไรนั้นสำคัญกว่า
大家好 – สวัสดีทุกคน
ในขณะที่นักเรียนพูดว่า Lǎoshī hǎo? (老师好?) เพื่อทักทายคุณครู คุณครูส่วนใหญ่ก็ใช้คำว่า 大家好 (Dàjiā hǎo) ในการทักทายนักเรียนทั้งห้องก่อนเริ่มชั้นเรียนเช่นกัน เป็นประโยคกว้างๆที่เหมาะสำหรับใช้สำหรับทักทายคนจำนวนมาก กล่าวคำปราศรัยในงานประชุมหรือสำหรับกล่าวสุนทรพจน์ในภาษาจีนก็ได้
你最近过得好吗 – ช่วงนี้คุณใช้เวลาทำอะไรอยู่บ้าง
ลองนึกภาพว่าคุณไปเจอคนรู้จักที่ไม่ได้เจอกันมานาน พวกเขาอาจจะทักคุณด้วยประโยค Nǐ zuìjìn guòde hǎo ma? (你最近过得好吗) หรือมีความหมายในภาษาไทยว่า “ช่วงนี้คุณใช้เวลาทำอะไรอยู่บ้าง” ซึ่งในทำนองเดียวกับประโยค 最近去哪儿呢? (Zuì jìn qù nǎr ne?) คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายทุกรายการที่ทำจริงๆ เพียงแค่บอกสิ่งที่ทำหลักๆก็เพียงพอแล้ว การตอบคำถามประโยคนี้ก็สามารถตอบได้หลายแบบ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะบอกว่า คุณกำลังเรียนเปียโน ในภาษาจีนพูดว่า 钢琴课 (Gāngqín kè) หรือ 玩电子游戏 (Wán diànzǐ yóuxì) แปลว่าเล่นวิดิโอเกม หรือตอบว่ากำลังเริ่มเรียนภาษาจีน 学习中文 (Xuéxí zhōngwén) อยู่ก็ได้
什么事?– เกิดอะไรขึ้น
สมมติว่าคุณได้เจอกับคนรู้จัก และพวกเขาดูไม่ค่อยสบาย, ดูเหนื่อยผิดปกติ เหมือนประสบปัญหาอะไรบางอย่าง คำถามที่ว่า 什么事? (Shén me shì?) ที่แปลว่า ”เกิดอะไรขึ้น” ในภาษาไทยก็เหมาะที่จะใช้ถามพวกเขาได้ แถมยังเป็นอีกวิธีที่น่ารักในการถามว่า ”คุณสบายดีไหม” ในภาษาจีนอีกด้วย แต่ประโยคนี้หากใช้ผิดกาละเทศะ อาจจะฟังดูหยาบคายกว่า 身体好吗? (Shēn tǐ hǎo ma?) จนนำมาซึ่งความขัดแย้งได้เลย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ 什么事? กับคนที่ตำแหน่งสูงกว่า เพราะอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
还好吗?– คุณยังโอเคอยู่ใช่ไหม
เป็นอีกหนึ่งประโยคที่สามารถใช้กับสถานการณ์ได้หลากหลายและได้ยินบ่อยๆเมื่อต้องการถามว่า ”สบายดีไหม” เป็นภาษาจีนกลาง ประโยคนี้แปลตรงตัวเป็นภาษาไทยได้ว่า ”คุณยังโอเคอยู่ใช่ไหม” เราอาจจะใช้ถามเพื่อนเราที่กำลังมีความกังวลอยู่เล็กน้อยหรือคนรู้จักที่เพิ่งผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากมาไม่นาน ยกตัวอย่างเช่น หลังจากชั่วโมงเรียนภาษาจีนที่ยากและซับซ้อนจนน่าปวดหัวเพิ่งผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเห็นเพื่อนกำลังงุนงงและสับสนอยู่ ตอนท้ายคาบคุณหันไปถามเพื่อนเป็นภาษาจีนได้เลยว่า 你还好吧?” (Nǐ hái hǎo ba?)
你不舒服吗?– คุณไม่ค่อยสบายหรือเปล่า
อย่างหนึ่งที่สังเกตได้เมื่อคุณไปประเทศจีน คือ ชาวจีนใส่ใจและให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพเป็นอย่างมาก ประโยค 你不舒服吗?– Nǐ bù shūfu ma?ที่แปลว่า “คุณไม่ค่อยสบายหรือเปล่า” จึงเป็นประโยคทักทายที่ใช้กับสถานการณ์ที่เราเจอใครบางคนแล้วพวกเขาดูเหนื่อย ป่วยหรืออ่อนเพลีย และเหมือนกับสำนวนว่า 什么事? (Shén me shì?) แม้ว่าจะรู้สึกว่าดูไม่ดีเท่าไหร่ที่ไปทักถามหรือคิดไปเองว่าพวกเขาไม่สบายจากลักษณะทางภายนอก แต่สำหรับชาวจีนแล้ว เราสามารถใช้ประโยค 你不舒服吗?– Nǐ bù shūfu ma?ได้ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าคนที่เรารักนั้นไม่ได้เป็นอะไร
你吃了吗?– กินอะไรมาแล้วหรือยัง
ในอดีตเคยเกิดภาวะอดอยากครั้งใหญ่ในประเทศจีน มีผู้คนจำนวนมากไม่มีอาหารเพียงพอ และบางครั้งอาหารมื้อเดียวของวันอาจจะเป็นแค่ข้าวขาวเพียงชามเดียว การรู้ว่าใครบางคนกินข้าวมาหรือยัง ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพ, ภาวะทางการเงินและความเป็นอยู่โดยรวม แม้ว่าประเทศจีนในปัจจุบันจะไม่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนอาหารแล้วและทุกอย่างก็ดูดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังจำช่วงเวลาเหล่านั้นได้ ดังนั้นการถามว่ากินอะไรมาหรือยัง จึงเป็นวัฒนธรรมที่ฝังรากลึกและถือเป็นคำทักทายโดยทั่วไปในปัจจุบัน คำถามนี้เป็นคำทักทายที่แสดงออกถึงความรัก ความห่วงใย ถ้าได้ยินประโยคนี้จากใคร อาจจะหมายถึงการเชื้อเชิญให้ร่วมรับประทานอาหารจริงๆเลยก็เป็นได้ ถือเป็นโอกาสที่จะได้ฝึกฝนทักษะทางภาษาจีนของคุณไปเลย
怎么了? – เกิดอะไรขึ้นกับคุณ
คุณอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่หรือบางทีกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก หากคุณได้ยินคำว่า 怎么了? (Zěnme le?) ก็รู้ทันทีว่าคุณอาจจะดูไม่ค่อยดีนัก เพราะประโยคนี้แปลเป็นภาษาไทยว่า “เกิดอะไรขึ้นกับคุณ” และผู้พูดมักพูดด้วยความเป็นห่วง วัฒนธรรมชาวจีนมักมีคำถามเกี่ยวกับสุขภาพและสภาพร่างกาย ถึงแม้ว่าฟังดูเหมือนเป็นคำวิพากษ์วิจารณ์ก็ตาม แต่พวกเขาถือว่าเขาพูดด้วยความรักมากกว่า
วิธีตอบเมื่อมีคนถามว่า ”คุณสบายดีไหม” เป็นภาษาจีน
เมื่อรู้จักวิธีถาม ”คุณสบายดีไหม” เป็นภาษาจีนแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเรียนรู้วิธีตอบกลับประโยคทักทายหรือคำถามเหล่านั้นบ้าง ต่อไปนี้เป็นประโยคคำตอบอเนกประสงค์ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลายๆสถานการณ์
- 我不错
Wǒ yě bùcuò
(หวอ เหย่ ปู้ชั่ว)
ก็ไม่แย่เท่าไหร่ - 我还好
Wǒ Hái hǎo
(หว่อ ไห ห่าว)
ยังสบายดีอยู่ - 混日子吧
Hùn rìzi ba
(ฮุ่น รื่อจือ ปา)
เหมือนเดิมทุกวัน - 我最近忙…
Wǒ zuì jìn máng…
(หว่อ จุ้ยจิ้น หมัง…)
ฉันกำลังยุ่งอยู่กับ… - 别提了
Biétíle
(เปี๋ย ถี เลอ)
อย่าแม้แต่จะถาม
我不错 – ก็ไม่แย่เท่าไหร่
我不错 (Wǒ yě bùcuò) หมายถึง “ก็ไม่แย่เท่าไหร่” เมื่อมีคนถามว่าเป็นอย่างไร เราสามารถใช้คำตอบนี้เพื่อบอกว่าคุณก็ยังดีอยู่ แต่ก็ไม่ได้ดีมากขนาดนั้น
我还好,你呢?
Wǒ Hái hǎo, nǐ ne?
หว่อ ไห ห่าว, หนี่ เนอะ
ฉันยังดีอยู่ แล้วคุณล่ะ我也不错。
Wǒ yě bùcuò
หวอ เหย่ ปู้ชั่ว
ฉันก็ไม่แย่เท่าไหร่
我还好 – ยังสบายดีอยู่
Wǒ Hái hǎo (我还好) เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและใช้กันมากที่สุดเพื่อตอบคำถาม “สบายดีไหม” ในภาษาจีน แปลเป็นไทยว่า ”ยังสบายดีอยู่” เราสามารถใช้ได้ในสถานการณ์ต่อไปนี้
大卫, 你最近怎么样?
Dà wèi, nǐ zuì jìn xiē zěn me yàng?
(ต้า เว่ย, หนี่ จุ้ยจิ้น เสีย เจิ่น เมอะ ย่าง)
เดวิด, เป็นอย่างไรบ้าง我还好,你呢?
Wǒ Hái hǎo, nǐ ne?
(หว่อ ไห ห่าว, หนี่ เนอะ)
ยังสบายดีอยู่ แล้วคุณล่ะ
混日子吧 – เหมือนเดิมทุกวัน
เป็นวิธีตอบเพื่อบอกว่าทุกอย่างในชีวิตยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สม่ำเสมอเหมือนเคย ประโยค 混日子吧 แปลว่า ”เหมือนเดิมทุกวัน” เป็นประโยคง่ายๆ ใช้บอกกับใครสักคนว่าชีวิตของคุณกำลังก้าวไปอย่างมั่นคง
大卫,好久不见! 你最近过得好吗?
Dà wèi, jǎojiǔ bùjiàn! Nǐ zuìjìn guòde hǎo ma?
(ต้าเว่ย, เจ๋าจิ่ว ปู้เจี้ยน! หนี่ จุ้ยจิ้น กั้วเตอ ห่าว มะ)
เดวิด ไม่ได้เจอกันซะนาน เป็นอย่างไรบ้าง混日子吧,你呢?
Hùn rìzi ba, nǐ ne?
(ฮุ่น รื่อจือปา หนี่เนอะ)
เหมือนเดิมทุกวัน แล้วคุณล่ะ
我最近忙… – ฉันกำลังยุ่งอยู่กับ…
บอกคนอื่นว่าคุณเป็นอย่างไร ด้วยการตอบว่าคุณทำอะไรบ้าง คุณยุ่งอยู่กับอะไรอยู่ สนุกอยู่กับเพื่อนหรือเปล่า ทำงานมั้ย หรือกำลังเรียนภาษาจีน บอกให้พวกเขารู้ด้วย
你最近忙些什么?
Nǐ zuìjìn máng xiē shénme?
(หนี่ จุ้ยจิ้นหมางเสีย เสินเมอะ)
ช่วงนี้คุณยุ่งอยู่กับอะไรบ้าง我最近忙学习,功课太多了
Wǒ zuìjìn máng xuéxí, gōngkè tài duō le
(หว่อ จุ้ยจิ้น หมาง เสวสี, กงเค่อ ไท่ ตั๊ว เลอ)
ฉันเรียนหนักสุดๆ การบ้านเยอะมาก
别提了 – อย่าแม้แต่จะถาม
แม้จะหวังว่าไม่เป็นเช่นนั้น แต่เมื่อผ่านวันที่เลวร้าย คุณคงไม่อยากจะพูดถึงมันด้วยซ้ำ คำว่า 别提了 – อย่าแม้แต่จะถาม บางครั้งใช้เป็นมุกตลกคุยกับเพื่อนฝูง เพื่อเป็นการบอกปัดการตอบคำถามที่ไม่อยากตอบก็ได้
琳娜,你有什么事?
Lín nà, nǐ yǒu shénme shì?
(หลิน น่า, หนี โหย่ว เสินเมอะ ซื่อ)
ลินน่า, ทุกอย่างโอเคหรือเปล่า别提了。。。
Biétíle…
เปี๋ยถีเลอ
อย่าแม้แต่จะถาม
ที่มา :: https://bestkru.com/blog





