Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2568

ประวัติวันสงกรานต์ 2568

 

ประวัติวันสงกรานต์ 2568



วันสงกรานต์ 2568 ตรงกับวันที่ 13-15 เมษายนของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันหยุดราชการ อีกทั้งยังนับว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยอีกด้วย โดยมีตำนานเรื่องเล่าความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับวันดังกล่าว บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักประวัติวันสงกรานต์แบบย่อๆ สรุปเข้าใจง่าย ติดตามกันได้เลย



"วันสงกรานต์" คืออะไร เปิดที่มาและความสำคัญที่ควรรู้


วันสงกรานต์ (ภาษาอังกฤษ : Songkran) คือ ประเพณีเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของไทย ที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมาจากเทศกาลโฮลีของประเทศอินเดีย โดยจะมีธรรมเนียมเล่นสาดน้ำโดยไม่ถือโทษโกรธกัน เพราะเชื่อว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดี อีกทั้งยังช่วยคลายร้อนในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีสภาพอากาศร้อนจัด

ส่วนคำว่า "สงกรานต์" เป็นภาษาสันสกฤต มีความหมายว่า "การเคลื่อนย้าย" ที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนย้ายของจักรราศี ซึ่งทำให้คนไทยยึดถือช่วงเวลาดังกล่าวเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนให้ตรงกับวันที่ 1 มกราคม ตามแบบสากล และเริ่มใช้เป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2484 เป็นต้นมา



ประวัติวันสงกรานต์แบบย่อ พร้อมตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับ "นางสงกรานต์"


ตำนานเรื่องประวัติวันสงกรานต์ตามความเชื่อของคนไทย ส่วนใหญ่จะอ้างอิงตามจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ โดยเล่าเรื่องราวของเศรษฐีคนหนึ่งที่ต้องการมีบุตร จึงทำพิธีขอบุตรกับพระอาทิตย์ และพระจันทร์ แต่ก็ไม่เคยสมหวัง

จนกระทั่งได้หุงข้าวสาร 7 สี นำไปบูชารุกขพระไทร พร้อมประโคมดนตรีถวาย และตั้งใจอธิษฐานขอบุตร รุกขพระไทรจึงไปขอบุตรกับพระอินทร์ให้ ทำให้ต่อมาภรรยาของเศรษฐีก็ตั้งท้องบุตรชายนามว่า "ธรรมบาลกุมาร" ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่มีสติปัญญาหลักแหลม

วันหนึ่ง ท้าวกบิลพรหม ต้องการประลองปัญญากับ ธรรมบาลกุมาร จึงทรงถามคำถาม 3 ข้อ โดยให้เวลา 7 วันในการคิดหาคำตอบ หากแพ้จะต้องตัดศีรษะบูชาอีกฝ่าย ซึ่งคำถามมีดังนี้

  • ตอนเช้าราศีคนอยู่แห่งใด
  • ตอนเที่ยงราศีของคนอยู่แห่งใด
  • ตอนค่ำราศีของคนอยู่แห่งใด

ธรรมบาลกุมาร จึงเดินทางเข้าป่าเพื่อคิดหาคำตอบ แล้วได้ยินคู่นกอินทรีพูดถึงเรื่องที่ท้าวกบิลพรหมประลองปัญญาโดยมีชีวิตของเขาเป็นเดิมพัน เนื่องจากเขาสามารถฟังภาษานกได้ จึงได้ยินนกคู่นั้นตอบคำถาม ดังนี้

  • ตอนเช้าราศีของมนุษย์อยู่ที่หน้า คนจึงต้องล้างหน้าทุกๆ เช้า
  • ตอนเที่ยงราศีคนอยู่ที่อก มนุษย์จึงต้องใช้เครื่องหอมประพรมที่อก
  • ตอนค่ำราศีคนอยู่ที่เท้า มนุษย์จึงต้องล้างเท้าก่อนเข้านอน

เมื่อได้ยินแล้ว ธรรมบาลกุมาร จึงกลับไปตอบคำถามแก่ท้าวกบิลพรหมจนเป็นฝ่ายชนะ ทำให้ท้าวกบิลพรหมต้องตัดศีรษะ ซึ่งหากศีรษะนี้ต้องถึงพื้นโลก จะเกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ พระองค์จึงสั่งให้ 7 บาทบาจาริกาของพระอินทร์ทำหน้าที่สลับกันอัญเชิญศีรษะของตน เพื่อแห่รอบเขาพระสุเมรุ หนึ่งคนทำหน้าที่ 1 ปี สลับกันไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดตำนานนางสงกรานต์ทั้ง 7 ซึ่งมีชื่อ ดังนี้

1. นางทุงษะเทวี
2. นางรากษเทวี
3. นางโคราคเทวี
4. นางกิริณีเทวี
5. นางมณฑาเทวี
6. นางกิมิทาเทวี
7. นางมโหธรเทวี

ตำนานและประวัติวันสงกรานต์ที่กล่าวมานี้ มีความเชื่อมโยงกับการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษในช่วงวันสงกรานต์ตามคติทางโหราศาสตร์ จึงเป็นที่มาว่าทำไมแต่ละปีจึงมี "นางสงกรานต์" ที่มีชื่อแตกต่างกันนั่นเอง ซึ่งสงกรานต์ 2568 ตรงกับปีที่มีนางสงกรานต์นามว่า "นางมโหธรเทวี"


กิจกรรมในวันสงกรานต์ 2568 มีอะไรบ้าง?



นอกจากประเพณีเล่นสาดน้ำในช่วงวันมหาสงกรานต์แล้ว ยังมีธรรมเนียมในการทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ รวมไปถึงกิจกรรมการละเล่นและการประกวดนางสงกรานต์และหนูน้อยสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นอีกสีสันที่น่าสนใจในวันสงกรานต์ไทยของทุกๆ ปี


กิจกรรมวันสงกรานต์

 

แม้ เราจะถือเอาวันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีมใหม่ตามหลักสากล แต่ธรรมเนียมไทยยังให้ความสำคัญกับวันสงกรานต์อยู่ โดยถือเอาเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามแบบไทย ดังนั้นเมื่อใกล้ถึงวันสงกรานต์การตระเตรียมทำความสะอาดอาคารบ้านเรือน และเตรียมข้าวของที่จะทำบุญตักบาตร

การทำบุญตักบาตรและการสร้างกุศลด้วยการปล่อยนกปล่อยปลา

สมัยโบราณ เมื่อถึงวันสงกรานต์ประชาชนจะพากันตื่นแต่เช้ามืด เตรียมหุงข้าวต้มแกง เพื่อนำไปทำบุญที่วัด ทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่สีสันสดใส โดยเฉพาะหนุ่มสาวเพราะจะได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันได้อย่างสะดวก แต่ก็ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่

เมื่อทำบุญตักบาตรหรือเลี้ยงพระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีการบังสุกุลอัฐิของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ก่อพระเจดีย์ทราย ซึ่งเป็นการขนทรายเข้าวัดสำหรับไว้ใช้ในงานก่อสร้างโบสถ์วิหาร มีการปล่อยนกปล่อยปลาซึ่งเท่ากับเป็นการแพร่ขยายพันธ์สัตว์ให้คงอยู่ไปชั่ว ลูกชั่วหลาน และที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือการสรงน้ำพระการรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ รวมไปจนถึงการเล่นสาดน้ำกันเองในหมู่หนุ่มสาว

การสรงน้ำพระพุทธรูป, การสรงน้ำพระสงฆ์

ชาวบ้านจะนำดอกไม้ธูปเทียนไปบูชา แล้วเอาน้ำอบไปประพรมที่องค์พระ เพื่อความเป็นสิริมงคล บางแห่งมีการอัญเชิญพระพุทธรูปแห่แหนไปรอบๆหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้สรงน้ำกันอย่างทั่วถึงหรือจะอัญเชิญพระพุทธรูปจาก หิ้งบูชาในบ้านมาทำพิธีสรงน้ำกันในหมู่ญาติพี่น้องก็ได้

ชาวบ้านจะได้ไปชุมนุมกันที่วัด นิมนต์พระในวัดมายังสถานที่ประกอบพิธี การรดน้ำควรรดที่มิอของท่าน ไม่ควรตักราดเหมือนกับเป็นการอาบน้ำจริง ๆ เพราะพระสงฆ์ถือเป็นเพชที่สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไป น้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำฝนหรือน้ำสะอาดผสมน้ำอบไทย เมื่อสรงน้ำแล้วพระท่านก็จะให้ศีลให้พรเพื่อความเป็นสิริมงคล

การรดน้ำดำหัวขอพรญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนับถือ

การรดน้ำผู้ใหญ่ หากระทำกันเองในบ้าน ลูกหลานจะเชิญพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ญาติผู้ใหญ่ มานั่งในที่จัดไว้ แล้วนำน้ำอบน้ำหอมผสมน้ำมารดให้ท่าน อาจรดที่มือหรือรดทั้งตัวไปเลยก็มีในระหว่างที่รดน้ำท่านก็ให้พรแก่ลูกหลาน เสร็จพิธีแล้วจึงผลัดนุ่งผ้าใหม่ที่ลูกหลานจัดเตรียมไว้ให้ เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัว การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ ส่วนใหญ่จะมีผ้าใหว้เช่นเสื้อผ้าและผ้าขาวม้าไปมอบให้ด้วย การรดน้ำส่วนใหญ่จะรดที่มือ ขอศีลขอพร เป็นการแสดงความเคารพผู้มีอาวุโสและผู้มีพระคุณตามธรรมเนียมอันดีของไทย บางหมู่บ้านอาจเชิญคนแก่คนเฒ่ามารวมกัน แล้วให้ลูก ๆ หลาน ๆ ทำพิธีรดน้ำขอพร ซึ่งเป็นประเพณีอันดีงามที่ควรช่วยกันส่งเสริมและอนุรักษ์ไว้


การเล่นสาดน้ำสำหรับหนุ่มสาว

หลังจากทำพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระสงฆ์ และรดน้ำขอพรจากญาติผู้ใหญ่แล้ว พวกหนุ่ม ๆสาวๆ ก็จะเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งน้ำที่ใช้นำมาสาดกันนั้นต้องเป็นน้ำสะอาดผสมน้ำอบมีกลิ่นหอม เด็กบางคนไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมถึงจุดประสงค์ของการเล่นสาดน้ำในวันสงกรานต์ เอาน้ำผสมสีหรือผสมเมล็ดแมงลัก แล้วนำไปสาดผู้อื่น ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง สถานที่เล่นสาดน้ำสวนใหญ่เป็นลานวัด หรือลานกว้างของหมู่บ้าน พอเหนื่อยก็จะมีขนมและอาหารเลี้ยง ซึ่งชาวบ้านจะช่วยกันเรี่ยไรออกเงินและช่วยกันทำไว้ จนถึงตอนเย็นจึงแยกย้ายกันกลับไปบ้านเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แล้วมาชุมนุมกันที่ลาดวัดอีกครั้ง เพื่อร่วมการละเล่นพื้นเมือง

การละเล่นพื้นบ้านในวันสงกรานต์

การละเล่นพื้นบ้านหรือจะเรียกว่ากีฬาพื้นเมืองก็ได้ เป็นเกมที่สร้างความสนุกสนานสามัคคี และความใกล้ชิดผูกพันพวกหนุ่ม ๆสาว ๆ จะแบ่งกันเป็นสองฝ่าย จัดทีมเพื่อเล่นแข่งขันกับฝ่ายตรงข้าม มีผู้ใหญ่เป็นกรรมการหรือผู้ควบคุม ส่วนคนเฒ่าคนแก่ก็คอยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจอยู่วงนอก

การละเล่นที่นิยมนำมาเล่นกันในงานสงกรานต์ มีหลายอย่าง เช่น ชักเย่อ ไม้หึ่ง งูกินหาง ช่วงชัย วิ่งเปี้ยว เขย่งแตะ หลับตาตีหม้อ มอญซ่อนผ้า สะบ้า ขี่ม้าส่งเมือง ลิงชิงหลัก ฯลฯ นอกจากนั้นมีการเล่นเพลงยาว ลำตัด รำวง ฯลฯ การประกวดนางสงกรานต์ซึ่งแต่ละกิจกรรมร่วมสร้างความสนุกสนานเป็นกันเอง หนุ่มสาวได้มีโอกาสใกล้ชิดกัน ได้ศึกษาดูนิสัยใจคอ ได้มีโอกาสพูดจาโอภาปราศรัยกัน

ประเพณีการทำบุญและการละเล่นในวันสงกรานต์แต่ละท้องถิ่นอาจ มีผิดแตกต่างกันไปบ้างตามความและยุคสมัยในชนบทอาจกำหนดวันทำบุญและวันสรงน้ำ พระไม่ตรงกันในแต่ละหมู่บ้าน ด้วยเหตุนี้ พวกหนุ่ม ๆจึงมีโอกาสไปเล่นสงกรานต์ได้หลายแห่งในแต่ละปี วันสงกรานต์จึงถือเป็นประเพณีหนึ่งในหลาย ๆ ประเพณีของไทยแต่โบราณ ที่เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้เลือกคู่หรือดูอุปนิสัยใจคอกันโดยเปิดเผยโดยไม่ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ต่อสายตาผู้ใหญ่

ความสำคัญของวันสงกรานต์

  • เป็นวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามประเพณีไทย และถือเป็นวันหยุดประกอบการงานหรือธุรกิจทั่วไป
  • เป็นวันทำบุญตักบาตรจัดจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระบังสกุลกระดูกพรรพบุรุษ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ
  • เป็น วันแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ ในวันนี้จะมีการไปรดน้ำดำหัวขอพรจาก พ่อแม่ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคารพนับถือ วันสงกรานต์ถือเป็น วันสูงอายุแห่งชาติ
  • เป็นวันรวมญาติมิตรที่จากไปอยู่แดนไกลเพื่อประกอบภาระ หน้าที่งานอาชีพของตน เมื่อถึงวันสงกรานต์ทุกคนจะกลับมาร่วมทำบุญสร้างกุศล จึงถือเอาวันที่ 15 เมษายน ซึ่งอยู่ในช่วงสงกรานต์เป็นวันรวมญาติหรือวันครอบครัว
  • เป็นวันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และส่งเสริมการละเล่นตามประเพณีไทย เช่น มีการทำบุญตักบาตร เล่นสาดน้ำ ชักเย่อ มอญซ่อนผ้า เล่นสะบ้า ฯลฯ
  • เป็นวันประกอบพิธีทางศาสนา เช่น มีการทำบุญตักบาตรจัดจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระ บังสุกุลกระดูกบรรพบุรุษ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ การสรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระสงฆ์ ขนทรายเข้าวัด (ก่อพระเจดีย์ทราย ) รับศีล ปฏิบัติธรรมฯลฯ

“13” เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ “สงกรานต์”

จะเห็นได้ว่า ประเพณีสงกรานต์ เป็นประเพณีที่สืบทอดปฏิบัติต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างว่าทำไมถึงเกิดเป็น “เทศกาลสงกรานต์” อย่างที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ แต่รู้หรือไม่ ? ในสิ่งที่เรารู้ ย่อมต้องมีสิ่งที่เราไม่รู้แฝงอยู่ด้วย วันนี้เราจะพามาดูภาพรวมกันว่า 13 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสงกรานต์นั้นมีอะไรกันบ้าง

โดยปกติแล้วในวันสงกรานต์สิ่งที่คนไทยมักจะทำกันเป็นกิจวัตรประจำทุกปี ได้แก่ การทำบุญทำทาน สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ การทำความสะอาดบ้านเรือน และการเล่นสงกรานต์สาดน้ำกันเพื่อนสร้างความชุ่มเย็นให้กับร่างกาย ดังจะเห็นได้จากตามพื้นที่ ตามจังหวัดต่างๆ แต่สงกรานต์ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติมอีกดังนี้ิ

1. สมัยก่อน “วันปีใหม่ไทย” ไม่ได้ตรงกับวันสงกรานต์ ในสมัยโบราณ เราได้ถือเอาวันขึ้น 1 ค่ำ เป็น “วันปีใหม่ไทย” ก่อนที่เราจะเปลี่ยนมาถือเอาวันสงกรานต์นั้นเป็นวันปีใหม่ไทยแทน

2. ไม่ใช่แค่ชาวไทยที่มีประเพณีสงกรานต์เท่านั้น แต่ชนชาติอื่นๆ ก็ยังมีเหมือนกัน นอกจากชาวไทยที่มีประเพณีสงกรานต์แล้ว ชนชาติอื่นอย่าง พม่า มอญ ลาว หรือแม้แต่ชนชาติไทยเชื้อสายต่างๆ ที่เป็นส่วนน้อยในจีน อินเดีย ล้วนแต่ก็มีประเพณีสงกรานต์ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมายาวนานเช่นเดียวกัน และถือว่าวันสงกรานต์เป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ของพวกเขาด้วยเช่นกัน

3. ภาคกลางเรียกวันที่ 13 เมษายน ว่าเป็น “วันมหาสงกรานต์” ซึ่งในวันที่ 13 เมษายนของทุกปี ได้ประกาศให้เป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” ในวันที่ 14 เมษายน เรียกว่า “วันเนา” จากนั้นในสมัยรัฐบาลของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ได้ประกาศให้ในวันนี้เป็น “วันครอบครัว” อีกด้วย ส่วนในวันที่ 15 เมษายน คือ “วันเถลิงศก” เป็นวันเริ่มต้นจุลศักราชใหม่

4. ภาคเหนือ หรือทางล้านนาเรียกวันที่ 13 เมษายน ว่าเป็น “วันสังขารล่อง” “วันสังขารล่อง” ผู้หลักผู้ใหญ่ทางภาคเหนือ หรือทางล้านนาได้ให้ความหมายของวันนี้ว่าเป็นวันสิ้นอายุไปอีกปี ในวันที่ 14 เมษายน เรียกว่า “วันเน่า” เป็นวันที่ชาวล้านนาเชื่อกันว่าห้ามพูดจาหยาบคาย มิเช่นนั้นปากจะเน่าและชีวิตจะไม่เจริญรุ่งเรืองไปตลอดทั้งปี ส่วนในวันที่ 15 เมษายน เรียกว่า “วันพญาวัน” เป็นวันเปลี่ยนศกใหม่

5. ภาคใต้เรียกวันที่ 13 เมษายน ว่าเป็น “วันเจ้าเมืองเก่า” หรือ “วันส่งเจ้าเมืองเก่า” โดยในวันที่ 13 นี้ ชาวภาคใต้เชื่อกันว่าจะเป็นวันที่เทวดาที่คอยปกปักรักษาบ้านเมืองจะเดินทางกลับไปชุมนุมที่สวรรค์ ในวันที่ 14 เมษายน เรียกว่า “วันว่าง” คือวันที่ไร้ซึ่งเทวดารักษาบ้านเมือง เพราะฉะนั้นในวันนี้ชาวบ้านจะงดงานอาชีพต่างๆ เพื่อเดินทางไปทำบุญที่วัด ส่วนในวันที่ 15 เมษายน เรียกว่า “วันรับเจ้าเมืองใหม่” เป็นการต้อนรับเทวดาองค์ที่ลงมาปกปักรักษาบ้านเมืองแทนเทวดาองค์เดิมที่ได้ย้ายไปประจำยังเมืองอื่นแล้ว

6. ตำนานสงกรานต์ที่ถูกจารึก ตำนานสงกรานต์ ก็คือเรื่องเล่าเกี่ยวกับประเพณีวันสงกรานต์ รวมถึงนางสงกรานต์ทั้ง 7 โดยรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จารึกลงในแผ่นศิลา 7 แผ่น แปะประดับไว้ที่ศาลารอบมณฑบทิศเหนือในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์

7. นางสงกรานต์ คือ นางฟ้าที่กำเนิดในชั้นจตุมหาราชิกา นางสงกรานต์ทั้ง 7 องค์ เป็นพี่น้องกัน กำเนิดอยู่ในสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาซึ่งเป็นชั้นต่ำที่สุด โดยทั้ง 7 ล้วนแต่บาทบริจาริกาของ “พระอินทร์” หรือถ้าในเทียบในปัจจุบันก็มีลักษณะคล้ายกับนางบำเรอของจอมเทวราช อีกทั้งทั้ง 7 ยังเป็นธิดาของท้าวกบิลพรหมตามตำนานอีกด้วย

8. นางสงกรานต์นามตามวันในแต่ละสัปดาห์

  1. นาง ทุงษะเทวี     ประจำ วันอาทิตย์
  2. นาง โคราคเทวี    ประจำ วันจันทร์
  3. นาง รากษสเทวี    ประจำ วันอังคาร
  4. นาง มณฑา    ประจำ วันพุธ
  5. นาง กิริณี    ประจำ วันพฤหัสบดี
  6. นาง กิมิทา    ประจำ วันศุกร์
  7. นาง มโทร    ประจำ วันเสาร์

9. นางสงกรานต์แต่ละองค์มีพาหนะคู่กายที่ไม่เหมือนกัน พาหนะคู่กายของนางสงกรานต์จะต่างกันไปตามลำดับวันในสัปดาห์ ได้แก่ นาง ทุงษะ ขี่ครุฑ, นาง โคราค ขี่เสือ, นาง รากษสขี่หมู, นาง มณฑา ขี่ลา, นาง กิริณี ขี่ช้าง, นาง กิมิทา ขี่ควาย, นาง มโหทร ขี่นกยูง ซึ่งสัตว์ประจำนางสงกรานต์จะไม่ได้เป็นไปตามปีนักษัตรนั้นๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ




10. นางสงกรานต์ประจำแต่ละปี  

11. รู้หรือเปล่า ? คำว่า “ดำหัว” แปลว่า “สระผม” ถ้าให้แปลตรงตามตัว คำว่า “ดำหัว” นั้น หมายถึง การสระผม แต่ในความหมายของทางล้านนาแล้ว การ “ดำหัว” อาจหมายถึง การเดินทางไปขออโหสิกรรมในสิ่งที่เรากระทำผิด สิ่งที่ได้ล่วงเกินในช่วงเวลาที่มา มีการขอพรเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต จากญาติผู้ใหญ่ ผู้อาวุโส หรือครูบาอาจารย์

12. ในวันสงกรานต์จะมีสัตว์ชนิดหนึ่งกำเนิดขึ้น ข้อนี้น่าจะเป็นเรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่มักเกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ตามแม่น้ำลำคลอง ซึ่งคนสมัยก่อนเรียกว่า “ตัวสงกรานต์” เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายไส้เดือน เล็กเท่าเส้นด้ายประมาณ 2 นิ้ว มีสีสะท้อนเมื่อต้องกับแสง มีความสามารถเปลี่ยนสีไปได้เรื่อยๆ มักอยู่รวมกันเป็นฝูง จะท้อนเป็นแสงสีสวยงาม เมื่อจับขึ้นพ้นน้ำ สีเหล่านั้นจะหายไป ตัวจะขาดเป็นท่อนเล็กๆ และเหลวละลาย ปัจจุบันเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว

13. ที่มาของการก่อเจดีย์ทราย การก่อเจดีย์ทรายมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า ในมัยก่อน “พระเจ้าปเสนทิโกศล” ได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถีพร้อมด้วยบริวาร พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นหาดทรายขาวบริสุทธิ์ จึงเกิดจิตศรัทธาก่อทรายขึ้นเป็นเจดีย์ทั้งสิ้น 8 หมื่น 4 พันองค์เพื่ออุทิศเป็นพุทธบูชา ซึ่งเมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าจึงได้ทรงทูลถามอานิสงส์ของการสร้งเจดีย์ทรายดังกล่าว พระพุทธเจ้าตรัสรับว่า การที่มีจิตใจเลื่อมใสศรัทธาก่อสร้างเจดีย์ทราย 8 หมื่น 4 พันองค์ หรือแม้แต่องค์เดียวก็จะได้รับอานิสงส์มาก จะไม่ตกนรกหลายร้อยขุม หากเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเพียบพร้อมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ เงิน ทอง เมื่อตายก็จะได้ขึ้นสวรรค์ จึงเป็นที่มา



#ประวัติวันสงกรานต์ 2568   ,  #วันสงกรานต์    ,   #Songkran Festival

ที่มา   ::     https://www.thairath.co.th/lifestyle/culture/2770222  ,    https://prinkotakoon.blogspot.com/2025/04/songkran-festival.html

ซุปฟักทองอ่อนใส่ทูน่ากระป๋อง

 ซุปฟักทองอ่อนใส่ทูน่ากระป๋อง









วัตถุดิบ

ฟักทองอ่อน 7-8 ลูก

-  ปลาทูน่า  2  กระป๋อง 

-  พริกแดงจินดา 8-10 เม็ด (ใส่มากน้อยตามชอบ)

- กระเทียม 4-5  กลีบ

- หอมแดง 4-5 หัว

- มะนาว

- น้ำปลา 

- น้ำปลาร้า  (ไม่ใส่ก็ได้ )   

- เกลือ

- ผงปรุงรส

- ต้นหอม 

- ผักชีฝรั่ง 

- สะระแหน่
















วิธีทำ


1. ทำความสะอาดฟักทองอ่อนตัดขั้วออก ล้างน้ำให้สะอาดเสร็จนำขึ้นมาพักให้แห้ง

2. ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ น้ำปลาร้า เกลือ พอเดือดได้ที่ นำฟักทองอ่อนที่ทำความสะอาดไว้ มาใส่หม้อต้มพร้อมน้ำปลาร้า 10 นาที หรือ สังเกตุจากสีของฟักทองอ่อนว่าสุกได้ที่หรือยัง พอฟักทองอ่อนสุกได้ที่แล้ว นำฟักทองอ่อนตักออกมาพักให้เย็น 

3. นำพริกสด, หอมแดง , กระเทียม ,ไปคั่วให้หอมพอดี คั่วเสร็จพักไว้ให้เย็น

4. โขลกพริกสด , หอมแดง , กระเทียม ให้ละเอียด ใส่ปลาทูน่ากระป๋อง ใส่ฟักทองอ่อนที่ต้มไว้ ลงไปโขลกพอหยาบๆ 

5. ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ที่เราต้มใส่พร้อมฟักทองอ่อน น้ำปลา มะนาว  ผงปรุงรส ตามด้วย ต้นหอม ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ ลงเคล้าให้เข้ากัน รับประทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ หรือข้าวสวย ไข่ต้ม  อร่อยมากๆ



#ซุปฟักทองอ่อนใส่ทูน่ากระป๋อง    #ซุปฟักทองอ่อนใส่ปลาทู    #ซุปฟักทองอ่อนทูน่ากระป๋อง   #ซุปฟักทองใส่ปลาทู    #วิธีทำซุปฟักทองอ่อน​   #​ซุปฟักทองกินกับข้าวเหนียว​    #ซุปฟักทองแซ่บๆแบบอีสาน    #ซุปฟักทองอ่อน   #ซุปบักอึบ้านเฮา    #ซุปฟักทอง    #Pumpkin Soup    #ซุปบักอึใส่ปลาทู    #ซุปฟักทองแบบอีสาน     #ซุปฟักทองอ่อน     #ซุปบักอึ     #อาหารอีสานบ้านๆ      #ซุปฟักทองอีสาน     #อาหารอีสาน   #เมนูอาหารอีสาน       Thai Style Pumpkin Soup    #กับข้าว    #ทำอาหารกินเอง 


ที่มา    ::      https://prinkotakoon.blogspot.com/2025/04/thai-style-pumpkin-soup.html

วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2568

ประเทศที่สามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าเป็นเวลา 60 วัน

 

ประเทศที่สามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าเป็นเวลา 60 วัน



ณ ปี 2025 มี 93 ประเทศที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ์ในการอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ต้องมีวีซ่าเป็นเวลา 60 วันสำหรับการท่องเที่ยวหรือธุรกิจระยะสั้น โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้น TDAC  รายการนี้ขยายเพิ่มเติมในเดือนกรกฎาคม 2024 ประกอบด้วย ::


อเมริกา
  • อาร์เจนตินา   บราซิล   แคนาดา   ชิลี   โคลอมเบีย   คิวบา   โดมินิกา   สาธารณรัฐโดมินิกัน   เอกวาดอร์   กัวเตมาลา   จาเมกา เม็กซิโก   ปานามา   เปรู   ตรินิแดดและโตเบโก   สหรัฐอเมริกา   อุรุกวัย

เอเชีย
  • ภูฏาน   บรูไน   กัมพูชา   จีน   ฮ่องกง   อินเดีย   อินโดนีเซีย   ญี่ปุ่น คาซัคสถาน   ลาว   มาเก๊า   มาเลเซีย   มัลดีฟส์   มองโกเลีย   เมียนมาร์   ฟิลิปปินส์   สิงคโปร์   เกาหลีใต้   ศรีลังกา   ไต้หวัน   อุซเบกิสถาน   เวียดนาม


ยุโรป

  • แอลเบเนีย   อันดอร์รา   ออสเตรีย   เบลเยียม   บัลแกเรีย   โครเอเชีย   สาธารณรัฐเช็ก   เดนมาร์ก   เอสโตเนีย   ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส   จอร์เจีย   เยอรมนี   กรีซ   ฮังการี   ไอซ์แลนด์   ไอร์แลนด์ อิตาลี   โคโซโว   ลัตเวีย   ลิกเตนสไตน์   ลิทัวเนีย   ลักเซมเบิร์ก   มอลตา   โมนาโก   เนเธอร์แลนด์   นอร์เวย์   โปแลนด์   โปรตุเกส   โรมาเนีย   รัสเซีย    ซานมารีโน    สโลวาเกีย   สโลวีเนีย   สเปน สวีเดน   สวิตเซอร์แลนด์   ยูเครน    สหราชอาณาจักร

โอเชียเนีย
  • ออสเตรเลีย   นิวซีแลนด์   ปาปัวนิวกินี

ตะวันออกกลาง
  • บาห์เรน   คูเวต   โอมาน   กาตาร์   ซาอุดีอาระเบีย   สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

แอฟริกา
  • มอริเชียส   โมร็อกโก   เซเชลส์   แอฟริกาใต้


หมายเหตุสำคัญ : การอยู่อาศัยโดยไม่ต้องมีวีซ่าเป็นเวลา 60 วันอยู่ระหว่างการพิจารณาและอาจลดลงเหลือ 30 วันในปี 2025 ตรวจสอบ tdac.info เพื่อรับข้อมูลอัปเดตล่าสุดก่อนวางแผนการเดินทางของคุณ


ประเทศที่สามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าเป็นเวลา 60 วัน


ที่มา    ::     https://tdac.info/th/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD-2025/

วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2568

Thailand Digital Arrival Card

 

บัตรดิจิทัลขาเข้า Thailand Digital Arrival Card (TDAC)

บัตรดิจิทัลขาเข้า Thailand Digital Arrival Card (TDAC)

สํานักตรวจคนเข้าเมืองไทยได้แนะนําการใช้ Thailand Digital Arrival Card (TDAC) เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางที่เข้าประเทศไทย
 

คนไทยทุกคนที่เข้าสู่ประเทศไทย ไม่ว่าระบบการคมนาคมของพวกเขาจะรวมถึงทางบก ทะเล และอากาศ ต้องทํา TDAC ออนไลน์ให้เสร็จ 
 

อย่าลืมทํา TDAC ก่อนเข้าประเทศไทย 
จะมีการสั่งให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2025 เป็นต้นไป



Thai lmmigration Bureau has introduced the use of Thailand Digital Arrival Card (TDAC) to facilitate travelers entering Thailand. All Non-Thai nationals entering the Kingdom of Thailand, regardless of their mode of transportation including land, sea and air, must complete a TDAC online. 🚨🚨 Don’t forget to do TDAC before entering the Kingdom of Thailand Compliance will be mandated from May 1st, 2025 onward.

https://youtu.be/QSEoVloM5A0?si=slo-2xWte0poF67p


https://youtu.be/qJ8p4N71ETY?si=zfGJ64rVXneQlPor


https://youtu.be/FZzBoqcpakk?si=DkDfTJZC9w6MOPAC

https://youtu.be/7Wj3uH619Lk?si=i05knrtpffmeQ4K_


https://youtu.be/pb0UBZx_n7I?si=Zd7yXRCs12yWnPMI


CR    ::    Thai Immigration Bureau , @immigrationGeneral5

บัตรดิจิทัลขาเข้า Thailand Digital Arrival Card (TDAC)

 

บัตรดิจิทัลขาเข้า Thailand Digital Arrival Card (TDAC)



สํานักตรวจคนเข้าเมืองไทยได้แนะนําการใช้ Thailand Digital Arrival Card (TDAC) เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางที่เข้าประเทศไทย
 
คนไทยทุกคนที่เข้าสู่ประเทศไทย ไม่ว่าระบบการคมนาคมของพวกเขาจะรวมถึงทางบก ทะเล และอากาศ ต้องทํา TDAC ออนไลน์ให้เสร็จ 

อย่าลืมทํา TDAC ก่อนเข้าประเทศไทย 

จะมีการสั่งให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2025 เป็นต้นไป
 





https://youtu.be/K8qZ-NBB8lA?si=RvwE902-Go2Oxd9P


Thailand travel background
การ์ดการเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย

เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ผู้ที่ไม่ใช่สัญชาติไทยทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศไทยจะต้องใช้บัตรการเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย (TDAC) ซึ่งจะมาแทนที่แบบฟอร์มการตรวจคนเข้าเมือง TM6 แบบกระดาษโดยสิ้นเชิง

ข้อกำหนดสำหรับบัตรการเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย (TDAC)

ประเทศไทยกำลังแนะนำบัตรการเข้าประเทศดิจิทัลใหม่ (TDAC) เพื่อแทนที่แบบฟอร์ม TM6 กระทรวงการต่างประเทศสำหรับชาวต่างชาติทั้งหมดที่เข้าประเทศไทยทางอากาศ ทางบก หรือทางทะเล

TDAC มีเป้าหมายเพื่อทำให้กระบวนการเข้าประเทศมีความราบรื่นและเพิ่มประสบการณ์การเดินทางโดยรวมสำหรับผู้มาเยือนประเทศไทย

นี่คือคู่มือที่ครอบคลุมเกี่ยวกับระบบการ์ดดิจิทัลสำหรับการเข้าประเทศไทย (TDAC)

แนะนำบัตรการเข้าประเทศดิจิทัลของไทย

การ์ดการเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย (TDAC) เป็นแบบฟอร์มออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อแทนที่การ์ดการเข้าประเทศ TM6 แบบกระดาษ ออกแบบมาเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่ชาวต่างชาติทุกคนที่เข้าประเทศไทยทางอากาศ ทางบก หรือทางทะเล TDAC ใช้เพื่อส่งข้อมูลการเข้าประเทศและรายละเอียดการประกาศสุขภาพก่อนที่จะมาถึงประเทศ ตามที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย

ภาษาในวิดีโอ:

วิดีโอแนะนำบัตรเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย (TDAC) - เรียนรู้ว่าระบบดิจิทัลใหม่ทำงานอย่างไรและข้อมูลใดที่คุณต้องเตรียมก่อนการเดินทางไปประเทศไทย

ใครต้องส่ง TDAC

ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศไทยจะต้องส่ง Thailand Digital Arrival Card ก่อนการเดินทาง โดยมีข้อยกเว้นดังต่อไปนี้:

  • ชาวต่างชาติที่ผ่านหรือต่อเครื่องในประเทศไทยโดยไม่ต้องผ่านการควบคุมคนเข้าเมือง
  • ชาวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยใช้บัตรผ่านแดน

เมื่อใดควรส่ง TDAC ของคุณ

ชาวต่างชาติควรส่งข้อมูลบัตรเข้าประเทศภายใน 3 วันก่อนถึงประเทศไทย รวมถึงวันที่เข้าประเทศ ซึ่งจะทำให้มีเวลาเพียงพอในการดำเนินการและตรวจสอบข้อมูลที่ให้ไว้

ระบบ TDAC ทำงานอย่างไร?

ระบบ TDAC ช่วยให้กระบวนการเข้าประเทศมีความสะดวกมากขึ้นโดยการดิจิทัลข้อมูลที่เคยเก็บรวบรวมด้วยแบบฟอร์มกระดาษ สำหรับการส่งการ์ดการเข้าประเทศดิจิทัล ชาวต่างชาติสามารถเข้าถึงเว็บไซต์สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ http://tdac.immigration.go.th ระบบนี้มีตัวเลือกการส่งข้อมูลสองแบบ:

  • การส่งแบบบุคคล - สำหรับนักเดินทางเดี่ยว
  • การส่งกลุ่ม - สำหรับครอบครัวหรือกลุ่มที่เดินทางด้วยกัน

ข้อมูลที่ส่งสามารถอัปเดตได้ตลอดเวลาก่อนการเดินทาง ทำให้นักท่องเที่ยวมีความยืดหยุ่นในการทำการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ

กระบวนการสมัคร TDAC

กระบวนการสมัครสำหรับ TDAC ถูกออกแบบมาให้ตรงไปตรงมาและใช้งานง่าย นี่คือขั้นตอนพื้นฐานที่ต้องปฏิบัติตาม:

  1. เยี่ยมชมเว็บไซต์ TDAC อย่างเป็นทางการที่ http://tdac.immigration.go.th
  2. เลือกการส่งข้อมูลแบบบุคคลหรือกลุ่ม
  3. กรอกข้อมูลที่จำเป็นในทุกส่วน:
    • ข้อมูลส่วนบุคคล
    • ข้อมูลการเดินทางและที่พัก
    • การประกาศสุขภาพ
  4. ส่งใบสมัครของคุณ
  5. บันทึกหรือพิมพ์การยืนยันของคุณเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง

ภาพหน้าจอการสมัคร TDAC

คลิกที่ภาพใด ๆ เพื่อดูรายละเอียด

กระบวนการสมัคร TDAC - ขั้นตอนที่ 1
ขั้นตอนที่ 1
เลือกการสมัครแบบบุคคลหรือกลุ่ม
กระบวนการสมัคร TDAC - ขั้นตอนที่ 2
ขั้นตอนที่ 2
กรอกรายละเอียดส่วนบุคคลและข้อมูลหนังสือเดินทาง
กระบวนการสมัคร TDAC - ขั้นตอนที่ 3
ขั้นตอนที่ 3
ให้ข้อมูลการเดินทางและที่พัก
กระบวนการสมัคร TDAC - ขั้นตอนที่ 4
ขั้นตอนที่ 4
กรอกแบบฟอร์มการประกาศสุขภาพให้ครบถ้วนและส่ง
กระบวนการสมัคร TDAC - ขั้นตอนที่ 5
ขั้นตอนที่ 5
ตรวจสอบและส่งใบสมัครของคุณ
กระบวนการสมัคร TDAC - ขั้นตอนที่ 6
ขั้นตอนที่ 6
ส่งใบสมัครของคุณสำเร็จแล้ว
กระบวนการสมัคร TDAC - ขั้นตอนที่ 7
ขั้นตอนที่ 7
ดาวน์โหลดเอกสาร TDAC ของคุณเป็น PDF
กระบวนการสมัคร TDAC - ขั้นตอนที่ 8
ขั้นตอนที่ 8
บันทึกหรือพิมพ์การยืนยันของคุณเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง

วิดีโอการตรวจคนเข้าเมือง TDAC ของประเทศไทย

ภาษาในวิดีโอ:

วิดีโอแนะนำบัตรเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย (TDAC) - วิดีโอทางการนี้ถูกปล่อยโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไทยเพื่อแสดงให้เห็นว่าระบบดิจิทัลใหม่ทำงานอย่างไรและข้อมูลใดที่คุณต้องเตรียมก่อนการเดินทางไปประเทศไทย.

โปรดทราบว่าข้อมูลทั้งหมดต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษ สำหรับฟิลด์แบบดรอปดาวน์ คุณสามารถพิมพ์สามตัวอักษรของข้อมูลที่ต้องการ ระบบจะแสดงตัวเลือกที่เกี่ยวข้องสำหรับการเลือกโดยอัตโนมัติ

ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการส่ง TDAC

ในการกรอกใบสมัคร TDAC ของคุณ คุณจะต้องเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้:

1. ข้อมูลหนังสือเดินทาง

  • นามสกุล
  • ชื่อ
  • ชื่อกลาง (ถ้ามี)
  • หมายเลขหนังสือเดินทาง
  • สัญชาติ/สัญชาติ

2. ข้อมูลส่วนตัว

  • วันเกิด
  • อาชีพ
  • เพศ
  • หมายเลขวีซ่า (ถ้ามี)
  • ประเทศที่พำนัก
    ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นระยะยาวหรือถาวรแนะนำให้เลือก 'ประเทศไทย' ภายใต้ 'ประเทศที่พำนัก' ซึ่งจะสามารถเลือกได้เมื่อระบบเปิดใช้งาน
  • เมือง/รัฐที่พำนัก
  • หมายเลขโทรศัพท์

3. ข้อมูลการเดินทาง

  • วันที่เดินทางมาถึง
  • ประเทศที่คุณขึ้นเครื่อง
  • วัตถุประสงค์ของการเดินทาง
  • โหมดการเดินทาง (ทางอากาศ, ทางบก, หรือทางทะเล)
  • วิธีการขนส่ง
  • หมายเลขเที่ยวบิน/หมายเลขรถ
  • วันออกเดินทาง (ถ้าทราบ)
  • วิธีการเดินทางออก (ถ้าทราบ)

4. ข้อมูลที่พักในประเทศไทย

  • ประเภทที่พัก
  • จังหวัด
  • เขต/พื้นที่
  • ตำบล/เขต
  • รหัสไปรษณีย์ (ถ้าทราบ)
  • ที่อยู่

5. ข้อมูลการประกาศสุขภาพ

  • ประเทศที่เยี่ยมชมภายในสองสัปดาห์ก่อนการเดินทาง
  • ใบรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง (ถ้ามี)
  • วันฉีดวัคซีน (ถ้าเกี่ยวข้อง)
  • อาการใด ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

โปรดทราบว่าบัตรการเข้าประเทศดิจิทัลของไทยไม่ใช่วีซ่า คุณยังต้องมั่นใจว่าคุณมีวีซ่าที่เหมาะสมหรือมีคุณสมบัติสำหรับการยกเว้นวีซ่าเพื่อเข้าประเทศไทย

ประโยชน์ของระบบ TDAC

ระบบ TDAC มีข้อดีหลายประการเมื่อเปรียบเทียบกับแบบฟอร์ม TM6 แบบดั้งเดิม:

  • การตรวจคนเข้าเมืองที่รวดเร็วขึ้นเมื่อมาถึง
  • ลดเอกสารและภาระการบริหาร
  • ความสามารถในการอัปเดตข้อมูลก่อนการเดินทาง
  • ความแม่นยำและความปลอดภัยของข้อมูลที่เพิ่มขึ้น
  • ความสามารถในการติดตามที่ดีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสาธารณสุข
  • แนวทางที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
  • การบูรณาการกับระบบอื่นเพื่อประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

ข้อจำกัดและข้อกำหนดของ TDAC

แม้ว่า ระบบ TDAC จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบ:

  • เมื่อส่งแล้ว ข้อมูลสำคัญบางอย่างไม่สามารถปรับปรุงได้ รวมถึง:
    • ชื่อเต็ม (ตามที่ปรากฏในหนังสือเดินทาง)
    • หมายเลขหนังสือเดินทาง
    • สัญชาติ/สัญชาติ
    • วันเกิด
  • ข้อมูลทั้งหมดต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
  • ต้องมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อกรอกแบบฟอร์ม
  • ระบบอาจประสบปัญหาการจราจรสูงในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่มีคนหนาแน่น

ข้อกำหนดการประกาศสุขภาพ

เป็นส่วนหนึ่งของ TDAC นักเดินทางต้องกรอกแบบฟอร์มแสดงสุขภาพที่รวมถึง: รวมถึงใบรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลืองสำหรับนักเดินทางจากประเทศที่ได้รับผลกระทบ

  • รายชื่อประเทศที่เยี่ยมชมภายในสองสัปดาห์ก่อนการเดินทางถึง
  • สถานะใบรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง (ถ้าต้องการ)
  • การประกาศอาการใด ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึง:
    • ท้องเสีย
    • อาเจียน
    • ปวดท้อง
    • ไข้
    • ผื่น
    • ปวดหัว
    • เจ็บคอ
    • โรคดีซ่าน
    • ไอหรือหายใจลำบาก
    • ต่อมน้ำเหลืองขยายหรือก้อนเนื้อที่เจ็บ
    • อื่น ๆ (พร้อมระบุ)

สำคัญ: หากคุณประกาศอาการใด ๆ คุณอาจต้องไปที่เคาน์เตอร์กรมควบคุมโรคก่อนที่จะเข้าสู่จุดตรวจคนเข้าเมือง

ข้อกำหนดการฉีดวัคซีนไข้เหลือง

กระทรวงสาธารณสุขได้ออกข้อกำหนดว่าผู้สมัครที่เดินทางมาจากหรือผ่านประเทศที่ประกาศเป็นพื้นที่ติดเชื้อไข้เหลืองต้องจัดเตรียมใบรับรองสุขภาพระหว่างประเทศที่พิสูจน์ว่าตนได้รับการฉีดวัคซีนไข้เหลือง

ใบรับรองสุขภาพระหว่างประเทศต้องถูกส่งพร้อมกับแบบฟอร์มขอวีซ่า ผู้เดินทางจะต้องแสดงใบรับรองนี้ต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเมื่อเดินทางถึงท่าเข้าประเทศในประเทศไทย

พลเมืองของประเทศที่ระบุด้านล่างซึ่งไม่ได้เดินทางมาจาก/ผ่านประเทศเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองนี้ อย่างไรก็ตาม ควรมีหลักฐานที่ชัดเจนแสดงว่าที่อยู่อาศัยของตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ติดเชื้อเพื่อป้องกันความไม่สะดวกที่ไม่จำเป็น

ประเทศที่ประกาศเป็นพื้นที่ติดเชื้อไข้เหลือง

แอฟริกา

AngolaBeninBurkina FasoBurundiCameroonCentral African RepublicChadCongoCongo RepublicCote d'IvoireEquatorial GuineaEthiopiaGabonGambiaGhanaGuinea-BissauGuineaKenyaLiberiaMaliMauritaniaNigerNigeriaRwandaSao Tome & PrincipeSenegalSierra LeoneSomaliaSudanTanzaniaTogoUganda

อเมริกาใต้

ArgentinaBoliviaBrazilColombiaEcuadorFrench-GuianaGuyanaParaguayPeruSurinameVenezuela

อเมริกากลางและแคริบเบียน

PanamaTrinidad and Tobago


CR   ::    https://thai.tourismthailand.org/Articles/tdac-th  ,   https://tdac.in.th/th