ตัวอย่างการเขียนพินัยกรรม
การทำพินัยกรรมตามกฏหมายไทย
วิธีทำพินัยกรรมแบบธรรมดา
ต้องทำเป็นหนังสือ
จะเขียนหรือพิมพ์ โดยจะให้ใครเขียนหรือพิมพ์ก็ได้ ต้องลงวันที่ เดือน ปี
ที่ทำพินัยกรรม ต้องมีข้อความแสดงว่าเป็นพินัยกรรม คือ
มีข้อความระบุว่าจะยกทรัพย์สินหรือกิจการใดให้แก่ใคร เท่าใด ผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าพยาน
จะใช้ตราประทับ หรือเครื่องหมายอย่างอื่นแทนการลงลายมือชื่อไม่ได้
ถ้าลงลายมือชื่อไม่ได้ จะพิมพ์ลายนิ้วมือก็ได้
แต่ต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ 2
คนในขณะนั้น พยานรับรองข้อความในพินัยกรรมต้องมี 2 คน
พยานรับรองข้อความในพินัยกรรมทั้ง 2 คน
ต้องลงลายมือชื่อในพินัยกรรม ผู้เขียนพินัยกรรม
(ผู้พิมพ์พินัยกรรมถือว่าเป็นผู้เขียน)
ถ้าเป็นพยานรับรองข้อความในพินัยกรรมด้วยก็ต้องระบุให้รู้ว่าเป็นทั้งผู้เขียนและพยาน
ถ้ามีการขูดลบตก เติม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงในพินัยกรรม จะต้องลงวัน เดือน ปี
และลายมือชื่อกำกับต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน
พยานต้องลงลายมือชื่อด้วย ถ้าผู้อื่นเขียน ก็ให้ลงลายมือชื่อไว้ด้วย (ป.พ.พ. มาตรา
1656)
วิธีทำพินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ
ผู้ทำพินัยกรรมต้องเขียนข้อความในพินัยกรรมด้วยตนเองตลอด
จะให้ผู้อื่นเขียนหรือพิมพ์แทนไม่ได้ ต้องลงวันเดือนปีที่ทำพินัยกรรม
ผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อ
จะใช้ตราประทับหรือใช้เครื่องหมายแทนการลงลายมือชื่อไม่ได้
จะมีพยานด้วยหรือไม่ก็ได้ ถ้ามีการขูด ลบ ตก เติม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ต้องลงลายมือชื่อกำกับไว้ [ป.พ.พ. มาตรา 1657]
ตัวอย่างพินัยกรรม
ข้อสังเกตในการทำพินัยกรรมแบบธรรมดา
1.
การทำพินัยกรรมแบบนี้ จะทำโดยใช้วิธีเขียนหรือพิมพ์ก็ได้
หากใช้วิธีเขียนก็ต้องเขียนทั้งฉบับ หากใช้วิธีพิมพ์ก็ต้องพิมพ์ทั้งฉบับ
2.
ผู้เขียนหรือผู้พิมพ์พินัยกรรม ใครจะเป็นผู้เขียน หรือผู้พิมพ์ก็ได้
แต่ในการเขียนต้องใช้คนๆ เดียวเขียนพินัยกรรมทั้งฉบับ
และในการพิมพ์ก็ต้องใช้เครื่องพิมพ์เครื่องเดียวกันทั้งฉบับ
เพื่อมิให้เกิดปัญหาแก่ทายาทเมื่อเจ้ามรดกตายแล้ว
3.
ต้องลงวันเดือนปีขณะที่ทำพินัยกรรม
ถ้าไม่ลงวันเดือนปีที่ทำพินัยกรรมแล้วย่อมไม่ถือว่าเป็นพินัยกรรมตามกฎหมาย
4.
ผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน
5.
พยานทั้งสองคนตามข้อ 4
ต้องลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรมและต่อหน้าพยานด้วยกันในขณะนั้นด้วย
6.
พยานในพินัยกรรม จะต้องบรรลุนิติภาวะแล้วคืออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือกรณีสมรสกันเมื่ออายุครบ 17
ปีบริบูรณ์ กฎหมายก็ถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้ว แม้อายุยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ และพยานดังกล่าวต้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต
หรือบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ ทั้งต้องไม่เป็นคนหูหนวก
เป็นใบ้หรือตาบอดทั้งสองข้าง
7.
ผู้เขียนและพยานในพินัยกรรม รวมทั้งคู่สมรสของผู้เขียนและพยานในพินัยกรรม
จะเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมไม่ได้
ทำพินัยกรรมทำเองได้เลยค่ะ
จะเขียนหรือพิมพ์ก็ได้
ร่างให้แล้วไปดัดแปลงเอาเอง
สามารถทำให้หลานได้เลย
หรือทำยกให้ (คนนอก) ก็ยังได้
*****สำคัญมาก*****
ผู้เขียน/ผู้พิมพ์
หรือพยาน ตลอดจนคู่สมรสของบุคคลดังกล่าว
จะเป็นผู้รับพินัยกรรมตามพินัยกรรมนั้นไม่ได้
พยาน
2 คน ต้องรู้เห็นรายละเอียดของพินัยกรรม และลงลายมือชื่อพร้อมกันต่อหน้า
ผู้ทำพินัยกรรม
ถ้าจะให้ดี
อัดวีดีโอ ขณะทำพินัยกรรมไว้ด้วย เผื่อมีปัญหาภายหลัง
*************************************************************************
พินัยกรรม
1. พินัยกรรมแบบธรรมดาต้องทำเป็นหนังสือ โดยจะเขียนหรือพิมพ์ก็ได้ ต้องลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำ ต้องลงลายมือชื่อต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อมกัน โดยจะลงลายมือชื่อหรือพิมพ์นิ้วมือก็ได้
2. พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ ต้องเขียนด้วยลายมือของตนเองทั้งฉบับ ใช้พิมพ์ไม่ได้จะมีพยานหรือไม่มีก็ได้ ต้องลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำ ต้องลงลายมือชื่อ จะใช้ลายพิมพ์นิ้วมือ หรือเครื่องหมายอื่นไม่ได้
3. พินัยกรรมทำเป็นเอกสารฝ่ายเมือง ยื่นคำร้องขอให้นายอำเภอ/ผู้อำนวยการเขต ณ อำเภอ หรือเขตใดก็ได้ ดำเนินการให้อย่างเป็นทางการ
4 .พินัยกรรมทำแบบเอกสารลับ ยื่นคำร้องขอให้นายอำเภอ/ผู้อำนวยการเขต ณ อำเภอ หรือเขตใดก็ได้ โดยปฏิบัติดังนี้
⚖ต้องมีข้อความเป็นพินัยกรรมและลงลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรม
⚖ผู้ทำพินัยกรรมต้องผนึกพินัยกรรม แล้วลงลายมือชื่อบนคาบรอยผนึก
⚖ผู้ทำพินัยกรรมต้องนำพินัยกรรมที่ผนึกนั้น ไปแสดงต่อนายอำเภอและพยานอย่างน้อย 2 คน
⚖เมื่อนายอำเภอ/ผู้อำนวยการเขตจดถ้อยคำของผู้ทำพินัยกรรม และวัน เดือน ปี ที่ทำพินัยกรรมมาแสดงไว้ในซองพับและประทับตราประจำตำแหน่งแล้วนายอำเภอ/ผู้อำนวยการเขต ผู้ทำพินัยกรรม และพยานลงลายมือชื่อบนซองนั้น
5.พินัยกรรมทำด้วยวาจา ใช้เฉพาะกรณีที่เกิดเหตุการณ์พิเศษ ไม่สามารถทำพินัยกรรมตามแบบอื่นที่ได้ เช่น ตกอยู่ในอันตราย ใกล้เสียชีวิต เกิดโรคระบาด หรือสงคราม ทั้งนี้พินัยกรรมจะหมดอายุภายใน 1 เดือนนับจากผู้ทำพินัยกรรมกลับมาทำพินัยกรรมแบบอื่นได้ แสดงเจตนาต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน ซึ่งอยู่พร้อมกัน ณ ที่นั้น พยานทั้งหมดต้องไปแสดงตน และแจ้งให้นายอำเภอทราบถึงข้อความพินัยกรรม และสาเหตุที่ต้องทำพินัยกรรมด้วยวาจา
นอกจากนี้ ควรระวังเรื่องการทำพินัยกรรมแบบที่ต้องมีพยานและแบบที่ให้คนอื่นเขียน เพราะพยานและคนเขียน (รวมทั้งคู่สมรสตามกฎหมายของทั้งคนเขียนและพยาน) จะไม่มีสิทธิได้รับมรดก เพราะฉะนั้นถ้าจะยกมรดกให้ใครก็อย่าให้เขามาเป็นคนเขียนหรือพยาน และถ้าไม่อยากให้คนรับมรดก ต้องเสียภาษีมรดก ก็ควรทำพินัยกรรมโดยกระจายมรดกให้คนละไม่เกิน 100 ล้านบาท เพราะไม่อย่างนั้นคนรับมรดกจะต้องเสียภาษีอัตรา 5% ของส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท สำหรับบุพการีและผู้สืบสันดาน นอกนั้นจะเสียในอัตรา 10% ของส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท
ถ้ากลัวว่าให้มรดกไปแล้วลูกหลานจะไม่ดูแล ก็สามารถไปจดทะเบียนสิทธิเก็บกินบนอสังหาริมทรัพย์ที่เรายกให้ลูกหลานได้ที่สำนักงานที่ดิน (ทำต่อจากการจดทะเบียนยกให้ได้ทันที) เพื่อให้เรายังมีสิทธิอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ต่อไปได้ตลอดชีวิตในมรดกนั้น
ที่มา :: https://pantip.com/topic/30216720