เปิดลิสต์นโยบายทรัมป์ทำทันที! ตั้งแต่วันแรก
- เมื่อราวปีเศษๆ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยกล่าวว่า เขาจะเป็น “เผด็จการ” แค่เฉพาะ 24 ชั่วโมงแรกที่รับตำแหน่งเท่านั้น
- ทรัมป์บอกกับสมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันว่า เขากำลังเตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารราว 100 ฉบับในวันแรกที่เป็นประธานาธิบดี
- “คอยดูนะ ผมสามารถลบล้างเกือบทุกอย่างที่ไบเดนทำผ่านการออกคำสั่งฝ่ายบริหาร สิ่งเหล่านั้นจำนวนมากจะถูกยกเลิกตั้งแต่วันแรก” ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์ไทม์ในเดือน พ.ย.
ก่อนหน้านี้ราวปีเศษๆ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยกล่าวว่า เขาจะเป็น “เผด็จการ” แค่เฉพาะ 24 ชั่วโมงแรกที่รับตำแหน่งเท่านั้น วันนี้ (20 ม.ค.) เป็นวันสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี แผนการต่างๆของทรัมป์ว่าจะทำอะไรในวันแรกชัดเจนมากขึ้น
ทรัมป์กล่าวกับเอ็นบีซีนิวส์ เมื่อวันเสาร์ (18 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ว่าจะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารทันทีหลังรับตำแหน่งในวันจันทร์ โดยไม่ได้ระบุจำนวนคำสั่ง แต่จะ “ทุบสถิติ”
เอ็นบีซีถามว่าจะเกิน 100 หรือไม่ ทรัมป์กล่าว “อย่างน้อยก็ประมาณนั้น” คาดว่า ทรัมป์จะลงนามคำสั่งยกเลิกหลายนโยบายที่คืบหน้าในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งสิ่งที่ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะทำตั้งแต่วันแรกรวมถึงโครงการเนรเทศผู้อพยพจำนวนมากด้วย
ทรัมป์กล่าวกับเอ็นบีซีในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า การขับคนลักลอบเข้าเมืองจะ “เริ่มต้นเร็วสุดๆ ผมบอกไม่ได้ว่าเมืองใดบ้างเพราะเหตุการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงและผมไม่คิดว่าเราอยากพูดว่าเมืองไหน คุณต้องไปเห็นเอง"
ทรัมป์มาถึงวอชิงตันในวันเสาร์ เริ่มเทศกาลสาบานตนด้วยงานส่วนตัวจุดพลุเฉลิมฉลองที่กอล์ฟคลับของเขาในรัฐเวอร์จิเนียนอกวอชิงตัน
ด้านเว็บไซต์ไทม์รายงาน ทรัมป์บอกกับสมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันว่า เขากำลังเตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารราว 100 ฉบับในวันแรกที่เป็นประธานาธิบดี ตั้งเป้าแก้ไขกฎหมายที่ออกในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างรวดเร็ว
ทรัมป์เคยกล่าวมาหลายเดือนถึงมาตรการที่ตั้งใจทำตั้งแต่วันแรก เช่น ปิดพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก, ยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน, อภัยโทษนักโทษดีคดี 6 ม.ค. และอื่นๆ
“คอยดูนะ ผมสามารถลบล้างเกือบทุกอย่างที่ไบเดนทำผ่านการออกคำสั่งฝ่ายบริหาร สิ่งเหล่านั้นจำนวนมากจะถูกยกเลิกตั้งแต่วันแรก” ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์ไทม์ในเดือน พ.ย.
แม้คำมั่นสัญญาในวันแรกของทรัมป์สามารถบรรลุได้ด้วยการออกคำสั่งฝ่ายบริหาร แต่บางเรื่องอาจต้องต่อรองกับสภาคองเกรสหลายเดือนหรือหลายปี โดยเฉพาะในประเด็นอย่างสิทธิพลเมืองด้วยการเกิด และคำสั่งรัฐบาลกลางว่าด้วยสิทธิบุคคลข้ามเพศ
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เมื่อได้เข้าไปนั่งในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวแล้วทรัมป์จะทำทุกสิ่งอย่างที่ลั่นวาจาไว้ทันทีหรือไม่ เว็บไซต์ไทม์ได้รวบรวมข้อมูลสิ่งที่ทรัมป์บอกว่าจะทำในวันแรกไว้ดังนี้
- ปิดพรมแดน-ห้ามการเดินทางอีกครั้ง
ทรัมป์มีแผนยกเครื่องการตรวจคนเข้าเมือง ลั่นวาจาปิดพรมแดนภาคใต้ ห้ามการเดินทางอีกครั้ง ระงับการขอลี้ภัยเข้าสหรัฐ ทั้งหมดนี้กระทำโดยการออกคำสั่งฝ่ายบริหารทันทีหลังสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี
- เนรเทศครั้งใหญ่-ยุติได้สัญชาติด้วยการเกิด
ทรัมป์กล่าวว่า ตั้งใจ “ปฏิบัติการเนรเทศครั้งใหญ่สุด” ในประวัติศาสตร์สหรัฐในวันแรกของการทำงานในทำเนียบขาว เน้นการโยกย้ายอาชญากร, คนที่เพิ่งข้ามพรมแดนเข้ามา และคนที่ถูกศาลสั่งเนรเทศ
ภายใต้ระบบที่ทรัมป์เสนอ งานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางหลายส่วนจะถูกย้ายไปเป็นหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และยกเลิกซีบีพีวัน แอปพลิเคชันตรวจคนเข้าเมืองที่ออกมาใช้ในสมัยไบเดน
นอกจากนี้ทรัมป์ยังลั่นวาจายุติการได้สัญชาติด้วยการเกิด ซึ่งหมายความว่าลูกของคนลักลอบเข้าเมืองจะไม่ได้เป็นพลเมืองอเมริกันโดยอัตโนมัติ คาดว่าความเคลื่อนไหวนี้จะถูกท้าทายทางกฎหมายทันที
- อภัยโทษคดี 6 ม.ค.
คำสัญญาที่เป็นส่วนตัวมากที่สุดอย่างหนึ่งของทรัมป์คือ บอกว่าจะอภัยโทษคนที่ถูกดำเนินคดีในการจลาจลบุกรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค.2021 เพราะไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่โจ ไบเดนเป็นฝ่ายชนะ
ทรัมป์กล่าวเสมอมาว่าจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว อภัยโทษให้กับผู้ต้องคดีอาญาหลายคนจากจำนวนกว่า 1,500 คน
“ผมจะทำเรื่อง 6 ม.ค.ก่อน บางทีอาจทำตั้งแต่เก้านาทีแรก” ทรัมป์เผยกับไทม์ในเดือน ธ.ค. ว่ารัฐบาลของเขาจะทำอะไรช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
แน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และอาจก่อให้เกิดการต่อสู้กันทางการเมือง
- ยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ระหว่างหาเสียงทรัมป์กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า จะยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนก่อนรับตำแหน่ง
ความขัดแย้งรุนแรงนี้ดำเนินมาเกือบสามปีนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือน ก.พ.2022
“ถ้าผมเป็นประธานาธิบดีผมจะทำให้สงครามจบในวันแรก, 24 ชั่วโมง มันต้องจบ จบสนิท” ทรัมป์กล่าวในเวทีทาวน์ฮอลล์ของซีเอ็นเอ็นเมื่อเดือน พ.ค.2023 และย้ำอีกครั้งในการประชันวิสัยทัศน์ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือน ก.ย.2024 โดยอ้างความสัมพันธ์ที่เขามีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน จะช่วยให้เขาเป็นคนกลางสร้างสันติภาพระหว่างสองชาติได้
“ผมจะทำให้มันจบตั้งแต่ก่อนเป็นประธานาธิบดี ตอนเป็นว่าที่ประธานาธิบดีด้วยซ้ำ ผมจะคุยกับคนนึง คุยกับอีกคนนึง แล้วเอาพวกเขามาคุยกัน”
แต่หลังชนะเลือกตั้ง ดูเหมือนทรัมป์จะถอยจากสิ่งที่เคยพูดเอาไว้ “ผมหวังว่าต้องใช้เวลาหกเดือน”
ในการแถลงข่าวครั้งหนึ่งของเดือน ม.ค. ผู้สื่อข่าวถามว่า เขาจะแก้ไขความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนได้เร็วแค่ไหน
“ผมหวังว่าจะจบได้เร็วก่อนหกเดือน” ทรัมป์ตอบ
- ยุติบังคับใช้ยานยนต์ไฟฟ้า-นโยบายกรีนนิวดีล
ทรัมป์กล่าวว่า ในวันแรกของการทำงานเขาจะยกเลิกนโยบายเกี่ยวกับสภาพอากาศหลายฉบับที่ออกโดยรัฐบาลไบเดน เช่น ยุติการบังคับใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่ง
หมายถึงระเบียบใหม่ของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม ที่จำกัดมลพิษจากท่อไอเสีย ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จำเป็นต้องขายรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดมากขึ้น
ทรัมป์กล่าวในการหาเสียงเมื่อเดือน ต.ค.ว่า นโยบายเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ “การหลอกลวงสีเขียวใหม่” ที่ทำร้ายผู้ผลิตพลังงานชาวอเมริกันและครอบครัว
คำสั่งฝ่ายบริหารที่เขาจะออกตั้งแต่วันแรกน่าจะเน้นไปที่การยกเลิกกฎหมายการผลิตพลังงานฟอสซิล ยกเลิกการบังคับใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันเขายังให้คำมั่นขยายการขุดเจาะน้ำมันภายในประเทศ ยกเลิกคำสั่งห้ามขุดเจาะนอกชายฝั่งของรัฐบาลปัจจุบัน
- ยกเลิกระเบียบรัฐบาลกลาง
เพื่อลดค่าครองชีพให้ชาวอเมริกัน ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะขจัดระเบียบรัฐบาลกลางจำนวนมาก ที่เขามองว่าทำให้ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น
เขามอบหมายให้อภิมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา และวิเวก รามาสวามี อดีตคู่แข่งชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีบริหาร “กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล” (DOGE) เพื่อลดกฎระเบียบและลดขนาดรัฐบาลกลาง
- ห้ามข้ามเพศเล่นกีฬาผู้หญิง-เข้ากองทัพ
ทรัมป์ประกาศปกป้อง “สิทธิสตรี” ตั้งแต่วันแรกที่ทำหน้าที่ด้วยการห้ามหญิงข้ามเพศแข่งขันในกีฬาของผู้หญิง
ในสมัยแรกทรัมป์เคยห้ามบุคคลข้ามเพศรับราชการในกองทัพ ซึ่งประธานาธิบดีออกคำสั่งฝ่ายบริหารยกเลิกในปีแรกที่รับตำแหน่ง รอบนี้ทรัมป์ย้ำ “ภายใต้รัฐบาลทรัมป์นโยบายทางการของรัฐบาลสหรัฐจะมีแค่สองเพศคือชายและหญิงเท่านั้น”
ทรัมป์ยังส่งสัญญาณเรียกประชุมคณะกรรมการอาหารและยา (เอฟดีเอ) เพื่อทบทวนว่าฮอร์โมนที่ใช้กับบุคคลข้ามเพศเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมรุนแรงหรือไม่
- ตัดงบประมาณโรงเรียน‘ตื่นรู้’
ทรัมป์แสดงจุดยืนไม่เอานโยบายการศึกษาแบบ “ตื่นรู้” (woke) โดยเฉพาะการสอนทฤษฎีเชื้อชาติสำคัญ (ซีอาร์ที) เขามีแผนตัดงบประมาณโรงเรียนที่สอนซีอาร์ทีหรือบังคับฉีดวัคซีน ทั้งยังห้ามกองทัพสอนซีอาร์ที ยกเลิกข้อกำหนดด้านความหลากหลาย ครอบคลุม และไม่แบ่งแยก (ดีอีไอ) ของรัฐบาลกลางโดยอ้างว่าสร้างความแตกแยกเป็นอันตรายต่อเอกภาพของชาติ
คาดว่านโยบายการศึกษาของทรัมป์จะถูกต่อต้านอย่างหนักจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มต่อสู้เพื่อโรงเรียนของรัฐ
ที่มา :: https://www.bangkokbiznews.com/world/1162737