Amazon คือ หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกประจำปี 2011 ซึ่งมีเนื้อที่กว้างถึง 2 ใน 5 ของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบราซิล... ไม่ใช่ละ
Amazon ที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนี้หมายถึง amazon.com ซึ่งเป็นเว็บขายของออนไลน์ แต่เดิมนั้น อเมซอน จะขายแต่หนังสือ ได้ดิบได้ดีจนขึ้นชื่อว่าเป็นร้านขายหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อมนุษย์โลกนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกที่ไม่รู้จักพอ อเมซอน ก็เป็นหนึ่งในนั้น จึงเริ่มนำ CD เพลงเข้ามาขาย ตามด้วย DVD กระแสของ amazon ก็ฉุดไม่อยู่ จึงเริ่มนำหลายๆสิ่งเข้ามาขาย จนปัจจุบันได้มีสินค้าอยู่หลายอย่างเช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ ของเล่น วิดีโอเกมส์ สินค้าสุขภาพและความงาม ศิลปะและของสะสม เครื่องครัว อุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสวน เครื่องมือที่ใช้ในบ้าน พูดง่ายๆสินค้าบนโลกนี้แทบจะหาไม่เจอใน amazon.com
Blogger คืออะไร
Blogger ก็คือ blog ชนิดหนึ่งที่เป็นบริการของ google เรียกว่า blogger ถ้าเป็นของไทยเราอย่าง เวบ pantip.com ก็จะเรียกว่า bloggang... แล้วบล็อกที่ว่านั้นคืออะไร เปิด dictionary เลย มีความว่า เป็นเว็บไซด์ที่ให้บริการบันทึกข้อมูลส่วนตัว โดยอาจจะเป็นข้อความ, ความเห็น, ข้อคิด, อักษรประดิษฐ์, รูปภาพ, เสียงเพลง ก็ได้ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาเยี่ยมชมตลอดจนสามารถใส่ความเห็นส่วนตัวต่อเจ้าของบันทึกได้ แล้วทำไมต้องเป็น blog ของ google ก็มันฟรี ใช้งานง่าย
จะใช้ Blogger หาเงิน จาก Amazon ยังไง
อย่างที่เกริ่นไว้ในหัวข้อ Amazon คืออะไร ดังนั้นสินค้าที่เค้าจะขายนั้นมีมาก ถ้าจะให้โฆษณาทุกชิ้นก็คงจะใช้งบในการโฆษณานั้นมากมาย เพื่อเป็นการประหยัดงบ ดังนั้น... จึงเปิดโอกาสให้ประชาชนตาดำๆอย่างเราเป็นสื่อในการโฆษณา หรือเป็นตัวแทนขายสินให้ amazon การขายในระบบ online นั้น เราไม่จำเป็นต้องมี สต๊อก ไม่จำเป็นต้อง ลงทุน เพียงแค่ใช้ ID ของเราเท่านั้น
แล้วเราก็จะได้เงินเป็นค่า commission ถึงแม้ว่าเราจะขาย ไม้จิ้มฟัน แต่ผู้ที่ซื้อดันไปซื้อ เพชร โดยผ่าน ID ของเรา ค่าคอมที่ได้นั้นก็จะเป็น เพชร
แล้วเราจะใช้อะไรเป็นสื่อในการขายล่ะ? ก็ blogger ไงครับ(Blogger คืออะไร) ทำไมต้องเป็น blogger
ทั้งที่ blog เจ้าอื่นๆก็มี ก็เพราะว่ามันใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้เยอะ เป็นส่วนหนึ่งของ google ซึ่ง ง่ายต่อการค้นหาและ ที่สำคัญ มันฟรี
วิธีสมัครบัตร Be 1'st Bangkok Bank
ทำไมต้องธนาคารกรุงเทพ ก็เพราะธนาคารกรุงเทพนั้นมีสาขาอยู่ที่ New York และใช้ระบบ Routing Number ในการโอนเงิน ซึ่ง Amazon ใช้ระบบนี้ในการโอนเงิน... ส่วนธนาคารกสิกรใน New York นั้น เป็นสาขาที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจระหว่างประเทศ และใช้ระบบ Swift Code ในการโอนเงิน
ไม่เปิดบัญชีได้ไหม? ก็ได้นะ เวลาสมัครเป็นตัวแทนขายสินค้าให้ อเมซอน ก็เลือกรับเป็นเช็ค
แต่ว่า กว่าเช็คจะมาถึงใช้เวลา เกือบ 2 อาทิตย์ ในการตัดยอด และอีกประมาณ 2 อาทิตย์ ในการที่เช็คจะมาถึงมือเรา และอีกประมาณ 2 อาทิตย์ กว่าเราจะได้เงินจากเช็คที่มาจากต่างประเทศก็คือธนาคารจะตรวจสอบก่อนที่จะให้เงิน รวมเป็นเกือบเดือนครึ่ง ซึ่งต่างจากที่เรามีบัญชี ก็จะได้ค่าคอมจาก Amazon เข้าบัญชีโดยตรง...
วิธีเปิดบัญชีและสมัครบัตร Be 1'st ของ Bangkok Bank
เดินไปที่ธนาคารกรุงเทพสาขาใกล้บ้าน แล้วบอกว่า ขอเปิดบัญชีหน่อยครับ/ค่ะ บางสาขากดบัตรคิวเองก็ได้นะ เมื่อถึงคิวบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าขอทำบัตร BeFirst ที่ใช้ซื้อของ online ได้ แล้วพนักงานจะถามวงเงินเราว่าเท่าไหร่ถ้าไม่ได้ถามแสดงว่ายังไม่เปิดบริการให้เรา
สิ่งที่ต้องเตรียม
บัตรประชาชน
ที่อยู่ที่ทำงาน (ต้องใช้ประกอบในการทำบัตร Be 1'st)
เงินเปิดบัญชี 500.- บาท
เงินค่าบัตร 300.- บาท
ไม่ต้องห่วงครับว่ามันจะยุ่งยากเดี๋ยวนี้ทำแล้วได้บัตรเลย ไม่ต้องรอ 7 วัน 15 วัน อะไรให้วุ่นวาย
เสร็จแล้วก็อย่าลืมเปิดบริการ iBanking ที่ตู้ ATM ด้วยนะครับ เพื่อไม่เป็นการเสียเที่ยว
iBanking เป็นบริการ online โอนเงิน ชำระเงิน อะไรทำนองนี้ ก่อนใช้งานก็ เปิดใช้บริการส่งรหัสทาง SMS (OTP) ก่อนนะครับไม่งั้นจะทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ได้
วิธีสมัคร Blogger
วิธีสมัคร และ กฎข้อบังคับที่ควรรู้ของ Blogger
1.สร้าง Gmail ขึ้นมาก่อน โดยไปที่ www.Gmail.com กดตรง create an account
2. เมื่อเราได้ gmail มาแล้ว ก็เข้ามาที่หน้า www.blogger.com ก็ใช้ gmail ในการ Sign in เข้า blogger
3. ใส่ชื่อ Display name แล้ว ติ๊กถูกทั้งสองช่อง กด Continue
4. ก็เป็นอันเรียบร้อย หมายความว่าเราสามารถใช้งาน blogger ได้แล้ว แต่ยังไม่มีหัวข้อในการเขียน blog
ก็เอาไว้เท่านี้ก่อน ถ้าใครเป็น Eng ไปเปลี่ยนตรง ภาษา ให้เป็นไทย ถ้ารู้ภาษา Eng ก็ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้
กฎและข้อบังคับของ Blogger
เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่: เราไม่อนุญาตให้มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ในบล็อกเกอร์ รวมถึงภาพหรือวิดีโอที่มีภาพอนาจารหรือกิจกรรมทางเพศ
ข้อความแสดงความเกลียดชัง: เราต้องการให้คุณใช้บล็อกเกอร์เพื่อแสดงความคิดเห็น แม้ว่าจะเป็นความคิดเห็นที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งอย่างมากก็ตาม แต่อย่าทำเกิดขอบเขตด้วยการเผยแพร่ข้อความแสดงความเกลียดชัง เช่น ชาติพันธุ์ ศาสนา ความพิการ เพศ อายุ สถานะทหารผ่านศึก อะไรทำนองนี้
เนื้อหาที่หยาบคาย: ห้ามโพสต์เนื้อหาเพื่อให้เกิดความตื่นตระหนกหรือมีความโจ่งแจ้ง
ความรุนแรง: ห้ามข่มขู่คนอื่นในบล็อกของคุณ
ลิขสิทธิ์: เรามีนโยบายที่จะสนองตอบต่อการแจ้งกล่าวหากรณีละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีความชัดเจน
ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลลับ: ห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นส่วนบุคคลหรือข้อมูลลับของคนอื่น
การแอบอ้างบุคคลอื่น: โปรดอย่าทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดด้วยการแสดงออกว่าเป็นคนอื่น หรือแอบอ้างว่าเป็นตัวแทนของหน่วยงานที่คุณไม่ใช่ตัวแทนจริง
กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย: ห้ามใช้บล็อกเกอร์เพื่อมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย หรือส่งเสริมกิจกรรมที่อันตรายหรือผิดกฎหมาย
สแปม: ในบล็อกเกอร์มีสแปมหลากหลายรูปแบบ ซึ่งทุกแบบอาจทำให้บัญชีหรือบล็อกของคุณถูกลบได้
มัลแวร์และไวรัส: ห้ามสร้างบล็อกที่ส่งไวรัส ทำให้เกิดป๊อปอัป พยายามติดตั้งซอฟต์แวร์โดยที่ผู้อ่านไม่ยินยอม หรือทำให้ผู้อ่านได้รับผลกระทบจากรหัสที่เป็นอันตรายในทางอื่นใด
วิธีสมัคร Amazon Affiliate
วิธีสมัคร และ กฎข้อบังคับที่ควรรู้ของ Amazon Affiliate
1.เข้าไปที่เวบ www.amazon.com เลื่อนลงล่างๆแล้วเลือกไปที่ Become an Affiliate
2.แล้วเลือกไปที่ Join now for FREE!
3.ใส่ข้อมูลเราลงไป
My e-mail address is - ที่อยู่อีเมลของเรา
I am a new customer - ลูกค้าใหม่ (เลือกข้อนี้สำหรับผู้ที่ไม่เคยมี Amazon Affiliate ID)
I am a returning customer... - ลูกค้าเก่า
เรียบร้อยแล้วกด Sing in using our secure server
4.ใส่ข้อมูลเราลงไป
My name is: ชื่อของเรา
My e-mail address is: ที่อยู่อีเมลของเรา
Type it again: ใส่อีเมลอีกครั้ง
My mobile phone number is: ว่างไว้ถ้าไม่ใช่คนอเมริกา
Enter a new password: พาสเวิร์ด
Type it again: ใส่พาสเวิร์ดอีกครั้ง
เรียบร้อยแล้วกด Create account
5.ใส่ข้อมูลส่วนตัว
Payee Name: ชื่อผู้รับเงิน (ชื่อ นามสกุลจริง)
Address Line 1: ที่อยู่หลัก
Address Line 2: ที่อยู่สำรอง
Address Line 3: ที่อยู่สำรอง
City: เขตหรืออำเภอ
State Province or Region: จังหวัด(เปลี่ยน Country เป็น ประเทศไทยก่อน ถึงจะพิมพ์ได้)
Zip or Postal Code: รหัสไปรษณีย์
Country: ประเทศ
Phone Number: เบอร์โทรศัพท์(มือถือ +66 ตัดศูนย์ออกตามด้วยหมายเลข +668XXXXXXXX)
(เบอร์บ้าน+66 ใส่ตั้งแต่ ศูนย์สองไปเลย +6602XXXXXXX)
Who is the main contact for this account?: ผู้ติดต่อหลักสำหรับบัญชีนี้คือใคร
The payee listed above: ผู้รับเงินดังกล่าวข้างต้น(เลือกข้อนี้)
Someone else...: คนอื่น
เรียบร้อยแล้วกด Next: Your Website Profile
6. ใส่ข้อมูลเวบของเรา
What is the name of your website?: ใส่ชื่อเวบของเรา
What is the URL of the website(s) you will use to send traffic to Amazon?: ที่อยู่เวบของเรา
What is your website(s) about?: เว็บไซต์ของเราเกี่ยวกับอะไร
Which of the following topics best describes the topic of your website(s)?: เนื้อหาภายในเวบเรา
What type of Amazon items do you intend to list on your website(s)?: สินค้าแบบไหนที่จะให้โชว์ในเวบเรา
What type of site is your website(s)?: รูปแบบเวบของเรา
How do you drive traffic to your website(s)?: หาคนเข้าเวบของเราอย่างไร
แนะนำ SEO,Email,Social Networks,Blogs,Other จะเพิ่มหรือเอาออกก็ได้
How else do you monetize your website(s)?: มีอย่างอื่นหรือไม่ที่จะสร้างรายได้จากเว็บไซต์ของเรา
How do you usually build links?: วิธีสร้างลิงก์ของเรา
How many unique visitors does your website(s) get per month?: จะมีคนเข้าเวบเราต่อเดือนเท่าไหร่
What is your primary reason for joining the Amazon Associates Program?: เหตุผลหลักที่เราเข้าร่วม Amazon Associates
How did you hear about us?: รู้เรื่องนี้จากที่ไหน
Contract Terms: ข้อตกลง
คลิกถูกที่หน้าช่องแล้วกด Finish
7.เมื่อมาถึงหน้านี้แสดงว่าเราได้สมัครเป็นตัวแทนเรียบร้อยแล้วและ Amazon จะขอบคุณและจะบอก ID ของเรามา และจะถามต่อว่า
Specify Payment Method Now: ระบุวิธีการชำระเงินตอนนี้ (เลือกข้อนี้)
Specify Payment Method Later: ระบุวิธีการชำระเงินภายหลัง
8.หน้านี้ให้เราเลือกวิธีรับเงิน
Pay me by Amazon.com gift certificate/card:
จ่ายด้วยบัตรของขวัญ Amazon.com ขั้นต่ำ 10 ดอลลาร์
Pay me by direct deposit
จ่ายด้วยเงินฝากเข้าบัญชีโดยตรง ขั้นต่ำ 10 ดอลลาร์(เลือกข้อนี้)
Pay me by check
จ่ายด้วยเช็กเงินสดขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์
9.เมื่อเราคลิกที่หน้าช่อง Pay me by direct deposit จะมีข้อความให้ใส่ดังนี้
Bank Name: ชื่อธนาคารให้ใส่ Bangkok Bank
Bank Account Holder Name: ชื่อบัญชีของเรา
Bank Account Type: เลือกเป็น Savings
Bank Account: เลขที่บัญชีของเรา ไม่ต้องใส่ขีด
Routing Number: เป็นระบบโอนเงิน ให้ใส่หมายเลข 026008691
หลังจากใส่รายละเอียดให้กด Continue
10.หลังจากกด Continue แล้วก็จะเข้ามาหน้า home นี้ ก็เป็นอันเรียบร้อย
กฎและข้อบังคับของ Blogger
ข้อห้าม
ห้ามนำสินค้าหรือลิงก์ไปโปรโมตในเว็บหรือบล็อกต่อไปนี้
- ห้ามมีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ในบล็อกเกอร์ รวมถึงภาพหรือวิดีโอที่มีภาพอนาจารหรือกิจกรรมทางเพศ
- ห้ามมีเนื้อหาส่งเสริมความรุนแรง และมีข้อความข่มขู่ผู้อื่น
- ห้ามมีเนื้อหาหมิ่นประมาท ข้อมูลที่เป็นส่วนบุคคลหรือข้อมูลลับของคนอื่น ที่ทำให้เสียชื่อเสียง
- ห้ามมีเนื้อหาข้อความแสดงความเกลียดชัง เช่น ชาติพันธุ์ ศาสนา ความพิการ เพศ อายุ
- ห้ามมีเนื้อหาที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย หรือส่งเสริมกิจกรรมที่อันตรายหรือผิดกฎหมาย
- ห้ามมีเครื่องหมายการค้าใด ๆ ของ Amazon หรือ บริษัทในเครือ หรือตัวแปรหรือการสะกดคำผิดของเครื่องหมายการค้าของ Amazon หรือ บริษัทในเครือในชื่อโดเมนใด ๆ
ตัวอย่างเช่นชื่อโดเมนเช่น <endlessboots.com>, <amaozn.com> , <smallpartsstore.com>, <amazonauctions.net>, <kindlemagazines.mydomain.info> หรือ <kindlewirelessreader.co.uk>
ข้อที่ควรรู้
- ยินยอมให้ Amazon ตรวจสอบบันทึกการใช้และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์และผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ
- คุณจะต้องรับผิดชอบต่อเว็บไซต์ของคุณรวมถึงการพัฒนา, การดำเนินงานและการบำรุงรักษาและวัสดุทั้งหมดที่ปรากฏอยู่บนหรืออยู่ภายในเว็บไซต์ของคุณ
- สินค้าใน Amazon มีทั้งที่ได้ค่าธรรมเนียมการโฆษณาหรือ commission และแบบที่ไม่ได้
ตัวอย่างแบบที่ไม่ได้ค่า commission เช่น ประเภทสตรีมมิ่ง หรือ ดาวน์โหลด หรือ การสั่งซื้อด้วยตัวเอง
- การซื้อสินค้าผ่านลิงก์ หากไม่เป็นตามแบบที่ Amazon กำหนด จะถูกยึดรายได้จากการขายสินค้าทั้งหมด
หลักๆก็มีประมาณนี้ หรืออ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ Customer Support
วิธีหาสินค้า Amazon มาขาย
วิธีหาสินค้ามาขายนั้นบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับความโชคดีโชคร้ายของเราด้วย บางคนเลือกมั่วๆกลับทำยอดได้ถล่มถลายบางคนตั้งใจเลือกกลับไม่ได้ยอดเลย ก็มีเหมือนกัน แต่ผมก็พอจะมีวิธีที่ลดความเสี่ยงตรงนี้อยู่บ้าง...
1.เข้าไปที่ www.amazon.com แล้วมองหัวข้อ Shop All Departments ชอบอะไรก็เลือกอันนั้น
2.ส่วนตัวผมชอบ Electronics > Home Audio ก็น่าจะเป็นประเภทที่ ราคาไม่แพงมากนัก
3.เมื่อเข้ามาแล้ว ก็จะเจอ 3 หัวข้อใหญ่ Home Theater , Speakers , Multiroom ผมเลือก Speakers
4.เมื่อเข้ามาแล้วก็จะเจอสินค้ามากมาย ชอบอันไหนก็ลองเลือกดู
5.เมื่อลองเลือกแล้วก็มาดูรายละเอียดสำคัญที่ต้องดู
-ดาวและวิว มากน้อยแค่ไหน
-List Price ราคาเปิดตัว , Price ราคาขาย , You Save ประหยัดไปเท่าไหร่
-In Stock สินค้ามีในสต๊อกไม๊
-FREE with Super Saver Shipping มีคำว่าฟรีค่าส่งรึป่าว
-One Day Shipping ส่งภายในกี่วัน
หลักๆก็มีเท่านี้
6.ไปที่ www.Google.com ลอง Copy ชื่อสินค้ามาค้นหาใน Google ดู แล้วให้สังเกตตรงหัวข้อ
Search มองไปทางขวา จะมีข้อมูลประมาณว่า เจอกี่เว็บ ใช้เวลาเท่าไหร่
ตัวอย่าง 1 ลองเลือกเล่นๆ About 421,000 results
ตัวอย่าง 2 ลองเลือก Best Seller About 810,000 results
ตัวอย่าง 3 ตั้งใจเลือก About 156,000 results
ให้สังเกตว่ายิ่งตัวเลขมากคู่แข่งยิ่งเยอะถ้าจะให้ดี ก็ไม่ควรเกิน 200,000
ส่วนตัวแล้วผมว่าวิธีนี้เป็นเพียงวิธีเบื้องต้นเท่านั้น มันน่าจะมีเคล็ดลับอะไรอีกแน่ๆ
ซึ่งผมก็รู้เท่านี้แต่ก็อาจจะเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่เริ่มต้นได้
แต่มันก็ยังดีกว่าเลือกมั่วๆโดยไม่สนใจอะไรเลย
วิธีหา Keyword
Keyword ก็คือ รหัสของคำ บางครั้งชื่อสินค้าที่เรามีนั้น อาจจะยาวหรือมีความหมายที่ไม่ครอบคลุม
ซึ่งทำให้ยากต่อการค้นพบ blog ของเรา เราจึงจะต้องหา Keyword มาตั้งเป็นชื่อ...
ไม่ว่าจะเป็น url ของเราหรือชื่อหัวเรื่องของ blog สามารถใช้วิธีนี้ได้
1.ไปที่ www.google.com
2.Search คำว่า google keyword suggestion แล้วเลือกไปที่ อันดับแรก Keyword Tool Google Adwords
3.เมื่อเข้ามาแล้วจะพบกับหน้านี้ Google Adwords
4.ตัวอย่างลองค้นหา Keyword ของสินค้าชื่อ Polk Audio PSW10 10-Inch Monitor Series Powered Subwoofer
5.ก็จะได้ Keyword ของคำที่เราเลือกไว้แบบนี้
6.ส่วนสำคัญที่ต้องดู จะอยู่ในช่อง Sorted by....
Sorted by Relevance : เรียงตามความเกี่ยวข้อง ของคำที่หา
Sorted by Keyword : เรียงตามคำหลัก หรือ รหัส ของคำที่หา
Sorted by Competition : เรียงตามการแข่งขัน ก็จะมี 3 ระดับ สูง กลาง ต่ำ
Sorted by Global Monthly Searches : เรียงตามการค้นหารายเดือนทั่วโลก
Sorted by Local Monthly Searches : เรียงตามการค้นหารายเดือนในท้องถิ่น
Sorted by Extracted From Webpage : เรียงตามข้อมูลในหน้าเว็บนั้นๆ
หลังจากนี้ก็ใช้วิจารณญาณส่วนตัวที่จะนำคำเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดของแต่ละบุคคล