มาฝึกลูกน้อยว่ายน้ำกันเถอะ
พาตัวน้อยไปป๋อมแป๋ม
อากาศร้อน...ร้อนแบบนี้ ช่วงวันหยุดหลายบ้านเลือกพาครอบครัวไปเล่นน้ำในสระ ตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น สระว่ายน้ำในห้าง ในโรงแรม ในรีสอร์ท ฯลฯ แต่ติดกังวลว่าลูกยังเล็ก ถึงไปก็ต้องคอยนั่งดูแลลูกอยู่ดี ไมได้เล่นทั้งแม่และลูก แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ต้องรอถึงขวบ วัยนี้คุณแม่ก็พาเค้าฝึกหัดว่ายน้ำได้ค่ะ โดยปัจจุบันมีคอร์สฝึกสำหรับเด็กตั้งแต่วัย 4 เดือนถึง 6 ขวบ โดยให้คุณพ่อคุณแม่ได้ร่วมลงสระเรียนรู้กับลูกด้วย
ทำไมต้องรีบฝึก
หลายคนอาจมองว่าลูกยังเล็ก ต้องคอยกังวล แต่อย่าลืมว่าเค้าเจริญเติบโตมาในครรภ์ที่มีน้ำคร่ำล้อมรอบ ความคุ้นเคยกับการอยู่ในน้ำมีมาตลอด 9 เดือน ดังนั้นการฝึกให้เค้าลงสระก็ไม่ยาก ซึ่งในต่างประเทศ การให้ลูกเรียนว่ายน้ำตั้งแต่เล็ก ถือเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ในเด็กที่แนะนำ ทั้งนี้เพราะเค้าคำนึงถึงความปลอดภัยจากอุบัติเหตุการจมน้ำของเด็กซึ่งเป็นสาเหตุอันดับ 2 ที่ทำให้เด็กเสียชีวิต จึงให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมาก
สระแบบไหนเหมาะกับลูก สระว่ายน้ำที่เหมาะกับลูกวัยเล็ก ควรเป็นสระที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ เช่น สระน้ำอุ่นระบบน้ำเกลือที่ควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะกับทารก แต่ในความเป็นจริง ก็หาสระแบบนั้นค่อนข้างยาก มีเฉพาะที่ ดังนั้นถ้าพาลูกลงเล่นน้ำในสระ ไม่ว่าสระไหนก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะเป็นสระเป่าลมขนาดเล็กก็ตาม เพราะวัยนี้ลูกน้อยยังยืนได้ไม่ถนัด และต้องสวมห่วงยาง หรือปลอกแขน-สวมบ่าเป่าลมเสมอ เพื่อป้องกันลูกจมน้ำ (ดูว่าห่วงยาง ชูชีพ เป่าลมแน่นพอไหม มีรูรั่วตรงไหนไหม ก่อนพาลูกลงเล่นน้ำ)ให้ลูกดำน้ำได้ไหม
อาจเคยเห็นรูปเด็กเล็กดำน้ำ แล้วสงสัยว่าถ้าฝึกลูกเองได้ไหม ตอบเลยค่ะ ห้ามเด็ดขาด การฝึกลูกลักษณะนี้ ต้องทำโดยมีผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิดเท่านั้น ช่วงนี้พาเค้าเล่นน้ำ ว่ายไปมาก็พอ ให้เค้าได้เคลื่อนไหวแขนขา สนุกกับการเล่นน้ำอย่างเต็มที่ และถ้าลูกพอยืน-เกาะเดินไปมาได้แล้ว ก็ให้เค้าเล่นในสระที่ขายืนได้ถนัด ให้จับขอบสระ เล่นอยู่บริเวณนั้น เพื่อเพิ่มพูนความแข็งแรงของแขนขา และเรียนรู้การทรงตัว-ความสมดุลเล่นน้ำนานได้แค่ไหน
หลักเกณฑ์ง่าย ๆ ค่ะ ถ้าเห็นว่าลูกหนาว ปาก-ตัวสั่นแล้ว ก็พาขึ้นเถิดค่ะ ดูว่าน้ำสระเย็นไปไหม ถ้าเย็นก็อย่าให้เล่นนาน (ส่วนใหญ่น้ำสระโดยเฉพาะตามรีสอร์ท โรงแรม จะค่อนข้างเย็นอยู่แล้ว) เตรียมเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวหนา ๆ ไว้ให้พร้อม รีบห่อตัวลูก พาไปอาบน้ำทำความสะอาดเช็ดตัวให้แห้งทันทีหลังเลิกเล่น เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี พร้อมจะยอมรับน้ำได้มากกว่าเด็กโต อีกทั้งเด็กทารกและเด็กเล็กสามารถออกกำลังกล้ามเนื้อได้มากกว่าเมื่ออยู่ในน้ำ ด้วยมีข้อจำกัดด้านแรงโน้มถ่วงน้อยกว่า ความสามารถในการนั่งหรือยืนจะพัฒนาได้ดี ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้นนี้จะส่งผลด้านพัฒนาการด้านร่างกายเบื้องต้น เช่น การเดิน
นอกจากนี้ การว่ายน้ำยังช่วยพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจในทารกและเด็กเล็ก หรือแม้แต่เด็กที่เป็นโรคหอบหืด คุณหมอมักจะแนะนำให้ออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำ การว่ายน้ำช่วยลดการหายใจหอบได้ดีกว่า การออกกำลังกายอย่างอื่น อาจเป็นเพราะอากาศที่อบอุ่นและขึ้นรอบสระว่ายน้ำช่วยลดการระคายเคืองในปอดได้
ที่มา :: (M&C แม่และเด็ก) ; ปีที่ 37 ฉบับที่ 507 พฤษภาคม 2557
ตอบลบเด็กทารกว่ายน้ำได้จริงหรือ(ตอน1)
คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าเด็กทารกสามารถว่ายน้ำได้หรือไม่ บางท่านอาจจะเคยเห็นชาวต่างชาติพาลูกน้อยไปว่ายน้ำ การว่ายน้ำในเด็กทารกจึงไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสำหรับชาวต่างชาติ แต่ในเมืองไทยนั้นพ่อแม่บางท่านอาจจะมองถึงความปลอดภัยของลูกน้อยมากกว่ามองว่าการว่ายน้ำคือการออกกำลังกาย อย่างไรก็ตามจากการศึกษาพบว่าการว่ายน้ำในเด็กทารกนั้นไม่ได้เป็นอันตรายเลยถ้ามีการฝึกและดูแลอย่างถูกวิธี
โดยธรรมชาตินั้นเด็กทารกสามารถดำน้ำได้ตั้งแต่แรกเกิด เพราะเด็กมีความคุ้นเคยกับการอยู่ในท้องแม่ซึ่งมีน้ำคร่ำตลอดระยะเวลา 9 เดือน เมื่อเด็กทารกลงไปในน้ำจึงมีสัญชาตญาณเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในน้ำได้เป็นอย่างดี เวลาที่เด็กเอาหน้าแตะน้ำจะเกิดการปรับการหมุนเวียนของเลือดให้เหมาะกับการอยู่ในน้ำ เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในน้ำหลายชนิด อย่างเช่นแมวน้ำที่สามารถดำน้ำอยู่นานได้เป็นชั่วโมงๆ โดยมีการปรับการไหลเวียนเลือดที่เคยไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายให้ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองและหัวใจมากขึ้น และผิวหนังจะมีการหดตัวเพื่อให้เสียความร้อนน้อยที่สุด จากการที่ทารกเคยอยู่ในท้องแม่มาเป็นระยะเวลาถึง 9 เดือนนั้น ทำให้เด็กคุ้นเคยกับน้ำ เด็กสามารถว่ายน้ำและลอยตัวในน้ำได้ง่าย อีกทั้งในน้ำนั้นยังมีความหนาแน่นมาก ทำให้เด็กตัวเบา มีสภาวะที่ไร้น้ำหนัก จึงสามารถเคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างอิสระ
เด็กทารกว่ายน้ำได้จริงหรือ(ตอน2)
ตอบลบโดยมากนั้นเด็กทารกสามารถเคลื่อนไหวในน้ำได้ดีกว่าบนบกเสียอีก การฝึกให้เด็กทารกว่ายน้ำนั้น พ่อแม่คือส่วนที่สำคัญในการฝึกเพราะเด็กจะเกิดความมั่นใจหรือไม่อยู่ที่พ่อแม่ โดยที่พ่อแม่ต้องคลายความวิตกกังวลและความกลัวออกไปให้หมดเสียก่อน ตอนที่พาเด็กลงน้ำในครั้งแรกควรให้เด็กซบที่อกของคุณแม่เพื่อให้ได้ยินเสียงหัวใจของแม่ซึ่งเป็นเสียงที่เด็กคุ้นเคยมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ในขั้นแรกนั้นต้องมีการฝึกให้เด็กมีความคุ้นเคยกับน้ำเสียก่อน โดยจับตัวเด็กให้เอียงไปเอียงมาเพื่อให้ได้สัมผัสกับน้ำ แล้วค่อยพาเด็กลงใต้น้ำ เมื่อน้ำโดนหน้าเด็ก เด็กจะรับความรู้สึกของน้ำและกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ ขณะที่อยู่ใต้น้ำเด็กจะไม่หลับตาแต่มองเห็นได้ไม่ชัด เพราะการหักเหของแสงที่ผิดปกติไป การได้ยินเสียงต่างๆก็เป็นเสียงที่แปลกไปไม่คุ้นเคย เมื่อเด็กลงน้ำแล้วร้องไห้ไม่ควรพาขึ้นจากน้ำทันทีควรทำทุกอย่างปกติแล้วให้เด็กว่ายน้ำต่อไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนั้นเด็กจะมีนิสัยที่เบื่อง่าย สนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น โดยพ่อแม่ต้องพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของเด็กให้มาสนใจที่น้ำว่าเป็นสิ่งที่สนุก ผ่อนคลาย ไม่ใช่การบังคับหรือกดดันเด็กให้ว่ายน้ำข้ามขั้นที่เร็วจนเกินไป
การฝึกทารกว่ายน้ำนั้นสามารถฝึกได้ตั้งแต่แรกเกิดเลย เด็กจะเป็นเร็วช้าแค่ไหนนั้นอยู่ที่อายุเด็กเริ่มฝึกเมื่อไร และธรรมชาติของเด็กเองว่าชอบหรือกลัวน้ำเพียงไร ถ้าฝึกเด็กตั้งแต่แรกเกิดเด็กจะเป็นเร็วมาก ช่วงอายุที่เหมาะสมในการฝึกนั้นคือช่วง 3 เดือน ถือเป็นช่วงที่ร่างกายเด็กมีความพร้อมมากที่สุด การว่ายน้ำนอกจากเป็นการออกกำลังกายที่ดีทำให้เด็กสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ครบทุกส่วนแล้วนั้น ยังรู้สึกสดชื่น สุขภาพจิตดี นอนหลับง่าย ร่างกายก็เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความผูกพัน ความทรงจำที่ดีระหว่างครอบครัวพ่อ แม่ ลูก อีกทั้งยังสร้างความรักในการว่ายน้ำเพื่อเป็นพื้นฐานเมื่อเด็กโตขึ้นพร้อมในการเรียนว่ายแบบจริงจัง เด็กที่ว่ายน้ำเป็นย่อมลดอันตรายจากอุบัติเหตุทางน้ำได้ด้วย
ISR เทคนิคสอนเด็กว่ายน้ำ ป้องกันเด็กจมน้ำ
ตอบลบ…. ISR หรือ Infant Swimming Resource (อินแฟนท์ สวิมมิง รีสอร์ซ) เป็น เทคนิคการสอนเด็กว่ายน้ำ และหัดให้ว่ายน้ำเป็น จนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้หากตกลงไปในน้ำ เทคนิคนี้คิดขึ้นโดย ดร. ฮาร์เวย์ บาร์เน็ตต์ โดยได้แรงบันดาลใจ มาจากกรณีอุบัติเหตุ ลูกของเพื่อน ดร. ฮาร์เวย์ เสียชีวิตจากการจมน้ำตอนอายุเพียงแค่เก้าเดือนเท่านั้น จากการสูญเสียในครั้งนั้น ดร. ฮาร์เวย์ จึงไม่อยากเห็นเด็กรายอื่นๆ ต้องมาเสียชีวิตจากการจมน้ำอีกต่อไป เขาจึงคิดเทคนิคโปรแกรมการสอนนี้ขึ้นมาเพียงหวังว่าอัตราอุบัติเหตุจากการจมน้ำในช่วงวัยเด็กจะลดลง
…โปรแกรม ISR : Infant Swimming Resource เป็นเทคนิคการสอนให้เด็กสามารถว่ายน้ำช่วยเหลือตัวเองได้ในเวลาคับขัน โดยจากภาพวีดีโอที่เห็นอยู่นี้ จะเห็นว่าการที่ผู้ปกครองเผลอเพียงแป๊บเดียว เด็กอาจตกลงไปในสระน้ำได้ และอาจเสียชีวิตในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา หากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ทันท่วงที อย่างไรก็ตามหนูน้อยคนนี้ได้รับการฝึกสอนด้วยวิธี ISR สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน- 1 ปี ด้วยเทคนิค Roll back to float (สอนให้เด็ก ว่ายน้ำ พลิกตัว นอนหงาย และ นอนลอยตัวอยู่ในน้ำครู่หนึ่ง) ก่อนที่จะร้องไห้ออกมา และสุดท้ายสามารถเอาตัวรอดได้ในที่สุด
….โดยการฝึกสอนในโปรแกรมนี้ จะมีการสร้างสถานการณ์ให้เสมือนจริง เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ว่าหากจมน้ำจะต้องทำอย่างไร ฉะนั้นจะเห็นว่าเด็กใส่ทั้งเสื้อผ้า และรองเท้าครบ ไม่ใช่เพียงแต่ชุดว่ายน้ำขณะฝึก และที่ผ่านมามีการบันทึกเด็กจมน้ำแล้วสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยเทคนิค ISR ถึง 788 ครั้ง จึงทำให้เชื่อว่าเด็กควรจะถูกฝึกให้ว่ายน้ำเป็น เพื่อป้องกันการจมน้ำ และเสียชีวิต ซึ่ง ISR เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ดี และปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์