เมื่อกล่าวถึงดอกไม้เมืองหนาวที่มีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นเป็นเอกลัษณ์ โดดเด่นในด้านของความหอม ที่สามารถนำมาทำน้ำมันหอมระเหย และใช้เป็นกลิ่นบำบัดได้ สรรพคุณเด่นที่ว่านี้คือ “ลาเวนเดอร์” ดอกไม้ช่อบางสีม่วงสดใสที่ส่งกลิ่นหอมชวนดม หลายๆ คนทราบกันแล้วว่าดอกลาเวนเดอร์นั้นนิยมนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอม หรือนำไปทำเป็นเครื่องหอมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดผิวกาย หรือไว้สร้างบรรยากาศให้บ้านหอมสดชื่น แต่จริงๆ แล้วในความหอมของดอกลาเวนเดอร์นี้มีประโยชน์อีกหลายอย่างที่น่ารู้
15 ประโยชน์และสรรพคุณจากดอกลาเวนเดอร์
1. ดอกลาเวนเดอร์อบแห้งนำมาต้มดื่มเป็นชาดอกไม้จะช่วยลดอาการท้องอืด
อาหารไม่ย่อยได้ เพราะในดอก ลาเวนเดอร์มีสารโพลีฟีนอลที่จะช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
หรือกรดต่างๆ ในกระเพาะได้
2. ดอกลาเวนเดอร์อบแห้งนำมาต้มดื่มเป็นชาดอกไม้
ดื่มหลังอาหารจะทำให้รู้สึกสบายท้อง
3. น้ำมันดอกลาเวนเดอร์มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการแสบ
คัน จากแมลงสัตว์กัดต่อยได้
4. น้ำมันดอกลาเวนเดอร์ช่วยรักษาอาการบวมจากผึ้งต่อยได้
และช่วยลดความเจ็บแสบจากพิษเหล็กในของผึ้ง
5. ประโยชน์ของดอกลาเวนเดอร์อบแห้งช่วยสร้างกลิ่นหอมให้กับขนมเบเกอร์รี่ได้
6. สรรพคุณน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี
โดยใช้นวดบริเวณศีรษะจะช่วยผ่อนคลายได้
7. กลิ่นลาเวนเดอร์มีสรรพคุณช่วยให้นอนหลับสบาย
และผ่อนคลายอารมณ์
8. น้ำมันดอกลาเวนเดอร์ใช้ทาผิวหนัง
ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดกลิ่นตัว ลดเหงื่อไคล และช่วยรักษาผิวหนังที่อักเสบ
9. ดอกลาเวนเดอร์สามารถนำไปประกอบอาหารได้
โดยการนำไปอบแห้งและบดเป็นผง ช่วยเพิ่มกลิ่นในขนมหวานได้
หรือจะนำดอกลาเวนเดอร์ไปต้มนำมาทำเป็นเครื่องดื่มต่างๆ ได้เช่นกัน
10. น้ำมันดอกลาเวนเดอร์ถูกนำมาใช้ในการเสริมความงาม
ประเภทแวกซ์ขน ช่วยให้รูขุมขนกระชับ น้ำมันดอก
ลาเวนเดอร์เหมาะกับการแวกซ์ร้อนเป็นอย่างมาก
11. น้ำมันดอกลาเวนเดอร์มีประโยชน์ช่วยลดริ้วรอย
และช่วยบำรุงผิว
12. สรรพคุณชาดอกลาเวนเดอร์ช่วยให้การย่อยอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
13. ชาดอกลาเวนเดอร์ดื่มร้อนๆ จะช่วยลดกลิ่นตัว
และลดกลิ่นสาบ โดยจะถูกขับออกมาทางเหงื่อ
14. น้ำมันดอกลาเวนเดอร์นำไปนวดตัวจะช่วยสลายไขมันได้
15. กลิ่นดอกลาเวนเดอร์มีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดหัว
และทำให้นอนหลับสนิท ลดการนอนกรนเสียงดัง
การสกัดน้ำมันจาก “ดอกลาเวนเดอร์”
การสกัดความหอมจากดอกไม้ในวิธีดั้งเดิมนั้น
จะเป็นการกลั่นด้วยไอน้ำ
เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยที่เริ่มมีการคิดค้นกลิ่นในยุคแรก
โดยจะได้สารสกัดหอมที่เป็นเอสเซนเชียล ออยล์ สกัดเข้มข้น
วิธีการกลั่นดอกไม้ด้วยไอน้ำเป็นวิธีที่จะได้กลิ่นที่บริสทุทธิ์แบบไม่ต้องปรุงแต่งด้วยกลิ่นสังเคราะห์
และประหยัดที่สุด แต่ข้อเสียคือจะใช้เวลานานมากกว่าจะได้ออยส์ออกมาแต่ละหยด
ส่วนวิธีที่สองคือวิธีที่ใช้ในอุสาหกรรมการผลิต
นั่นก็คือการใช้สารเคมีและการแต่งกลิ่นสังเคราะห์
"เอสเซนเชียล ออยล์" คือ
น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ที่สกัดได้จากดอกไม้ ใบไม้ เปลือกไม้ หรือส่วนต่างๆ
ที่มีกลิ่นเฉพาะโดดเด่น หรือนำมาใช้ประโยชน์ในการบำบัดรักษาได้ เช่น
ดอกลาเวนเดอร์ให้กลิ่นหอมที่แตกต่างจากดอกไม้อื่นๆ
และให้กลิ่นที่แรงกว่าดอกไม้ทั่วไป ใบเปปเปอร์มิ้นท์ ที่ให้ความเย็นซ่าส์
ช่วยแก้ปวดเมื่อย วิงเวียนศีรษะ เป็นต้น
ยังมีพืชพรรณอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาสกัดเป็น เอสเซนเชียล ออยล์ ได้
แต่พืชที่ขึ้นชื่อมากที่สุดในการสกัดน้ำมันหอมระเหยคือ ดอกลาเวนเดอร์
นั่นก็เพราะข้อดีของการสกัดน้ำมันหอมระเหยดอกลาเวนเดอร์จะสามารถนำไปทำอะไรได้หลายอย่าง
เช่น น้ำหอมปรับอากาศในบ้าน และในรถยนต์ ทำเป็นแชมพู ครีมนวดผม หรือครีมบำรุงผิว
และนำไปนวดตัวเพื่อผ่อนคลายความเครียด
“ลาเวนเดอร์” กับเครื่องดื่มแสนหอมหวาน
นอกจากประโยชน์ของดอกลาเวนเดอร์จะนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยได้
ยังสามารถนำไปใช้เพิ่มความหอมให้กับเครื่องดื่มได้หลายชนิด ทั้งร้อนและเย็น
โดยการนำดอกลาเวนเดอร์ไปอบแห้งเพื่อรักษาความหอมไว้ได้นาน
และทำให้คงสภาพของดอกลาเวนเดอร์โดยไม่เฉา และเก็บไว้ได้นาน
ซึ่งคุณสามารถนำดอกลาเวนเดอร์อบแห้งไปต้มในน้ำเดือดได้น้ำดอก
ลาเวนเดอร์กลิ่นหอมเพิ่มเสน่ห์ให้เครื่องดื่มแก้วโปรด
จะผสมในชาเขียวร้อนๆ ดื่มแล้วหอมสดชื่น
ดื่มหลังอาหารแก้แน่นท้อง แก้เลี่ยนได้ดีทีเดียว หรือจะนำน้ำดอกลาเวนเดอร์หอมๆ
ไปผสมลงในกาแฟลาเต้เย็นก็จะได้กาแฟเย็นอโรม่า ทั้งหอม ทั้งสดชื่น
หรือจะนำดอกลาเวนเดอร์อบแห้งไปใส่ลงในนมอุ่นๆ
ดื่มก่อนนอนให้นมแก้วธรรมดามีกลิ่นหอมที่จะช่วยผ่อนคลาย ให้นอนหลับสบายได้
หรือใครที่ชอบใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล
อาจเพิ่มความหอมให้กับน้ำผึ้งโดยการแช่ดอกลาเวนเดอร์อบแห้งลงไปในขวดน้ำผึ้งด้วย
ซึ่งทุกครั้งที่คุณเติมน้ำผึ้งลงในเครื่องดื่ม ก็จะได้กลิ่นหอมๆ
ที่ช่วยผ่อนคลายจากดอก ลาเวนเดอร์ได้มาก
เห็นมั้ยละคะว่าสรรพคุณดีๆ ประโยชน์ยอดเยี่ยมของดอกลาเวนดอร์ล้วนทำให้เครื่องดื่มต่างๆ
มีสีสันของความหอมมากขึ้น เห็นทีการดื่มชา กาแฟ หรือนมคราวหน้า
ต้องเพิ่มดอกลาเวนเดอร์เข้าไปซะแล้ว