แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา ทานให้ถูกต้องได้ประโยชน์มากมาย
ในอเมริกา แอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าถือเป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน ใช้ผสมน้ำดื่มหรือปรุงอาหารเพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานดี ช่วยล้างพิษในร่างกาย ต่อมาการรักษาแบบแพทย์ทางเลือกได้นำแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้ามาอัดเม็ดขายเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
Apple Cider Vinegar คือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล โดยการคั้นเอาน้ำของแอปเปิ้ล นำมาหมักกับยีสจนกลายเป็นแอลกอฮอล์ แล้วนำแอลกอฮอล์ที่ได้มาเติมแบคทีเรียเพื่อเกิดปฏิกริยา และกลายเป็นกรดอะซิติก แอซิค Apple Cider Vinegar จึงมีคุณสมบัติเป็นกรดสูง และมีรสเปรี้ยวจัด
Apple Cider Vinegar นั้นจะมีสีเหลืองคล้ายสีชา มีทั้งแบบมีตะกอน และแบบที่กรองเอาตะกอนออกแล้ว มีส่วนประกอบของธาตุโพแทสเซี่ยมสูง ซึ่งธาตุโพแทสเซี่ยมมีคุณสมบัติ ช่วยในการแบ่งเซลล์ ถ้าร่างกายขาดธาตุนี้ ร่างกายจะมีอาการผิดปกติคือ เติบโตช้า แก่เกินวัย ผมร่วง และหงอกเร็ว ฯลฯ และ Apple Cider Vinegar ยังประกอบด้วยธาตุอาหารกว่า 30 ชนิด มีวิตามินมากกว่า 6 ชนิด มีกรดอะมิโน และสารเพ็คติน ล้วนแต่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเป็นยาอีกด้วย คือเป็นพวก ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อ ช่วยช่วยทำลายแบคทีเรีย และมีเอนไซม์หลายชนิดรวมอยู่ด้วย
apple cider vinegar ช่วยร่างกายได้หลายประการ กล่าวคือ
- ชะลอความแก่ ช่วยให้เป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่เสมอ
- ช่วยย่อยอาหาร คือช่วยระบบย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
- ช่วยระบบหายใจ แก้ไซนัส แก้เจ็บคอ แก้หวัด แก้การเกิดเสมหะ
- ช่วยลดน้ำหนักได้ดี
- ช่วยลดการปวดข้อ
- แก้โรคคัน กำจัดรังแค แก้ผมแตกปลาย
- ช่วยความจำให้ดีขึ้น
- ป้องกันโลหิตจาง
- แก้อ่อนเพลีย
แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา (Apple cider vinegar) เจือจาง สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ทางอ้อมได้ โดยเป็นตัวช่วยการเผาผลาญ และขับของเสียออกจากร่างกาย แต่การทาน Apple cider vinegar เพียงอย่างเดียวเพื่อหวังจะให้น้ำหนักลดนั้น ไม่สามารถทำได้ ควรทานร่วมกับการควบคุมอาหาร ให้ทานอย่างพอเหมาะ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่า
กินลดอยากอาหาร
แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา (Apple cider vinegar) สามารถช่วยควบคุมความอยากอาหารได้ ไม่ให้กินมากจนเกิดพิกัด จึงช่วยลดน้ำหนักทางอ้อมได้
นายแพทย์ แอนดรูว์ ไวล์ (Andrew Weil) แนะนำให้กินน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ 1-2 แก้วก่อนมื้ออาหาร เพื่อลดความอยากอาหาร ช่วยให้กินอาหารปริมาณลดลง น้ำหนักตัวจึงลดลงตาม นอกจากนี้ อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต ยังแนะนำให้กินน้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลช่วยแก้อาการอารมณ์แปรปรวนจากอาการอยากของหวานอีกด้วย โดยผสมน้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น ดื่มวันละ 2-3 แก้ว
กินอย่างถูกวิธี
แพทย์หญิง จูดี้ โกลด์ สโตน (Judi Goldstone) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักและชะลอวัย สมาชิกสมาคมวิทยาลัยแพทย์อเมริกัน (American College of Physicians) ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำวิธีกินน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์อย่างถูกวิธี ดังนี้
- น้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์ มีฤทธิ์เป็นกรด ก่อนกินทุกครั้งควรเจือจางด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำผลไม้ เพราะน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์เข้มข้นอาจทำลายเคลือบฟัน และเนื้อเยื่อบริเวณปากและลำคอได้
- ผู้ที่มีโพแทสเซียมในเลือดต่ำ เป็นโรคกระดูกพรุน หรือโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนกิน
- น้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์ ทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่นยาขับปัสสาวะ ยาระบายยารักษาโรคเบาหวาน และโรคหัวใจ ฉะนั้นผู้ที่รับการรักษาด้วยยาดังกล่าวจึงควรหลีกเลี่ยง
วิธีเลือกซื้อและเก็บรักษา
เลือกซื้อน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่บรรจุอยู่ในขวดแก้ว มีฉลากระบุชื่อและที่ตั้งของแหล่งผลิตชัดเจน มีเครื่องหมาย อย. หรือเครื่องหมายรับรองคุณภาพ มอก. ทั้งนี้ควรสังเกตวันหมดอายุบนผลิตภัณฑ์ร่วมด้วย เพราะหากเลยวันหมดอายุ สี กลิ่น รสชาติ และคุณภาพของน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์อาจเปลี่ยนแปลงไป หลังจากเปิดขวดควรปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ในที่มืด และแห้ง เช่น ตู้เก็บเครื่องปรุงภายในครัว เพื่อป้องกันการระเหย และยืดอายุการเก็บรักษา
กินแบบไหนไม่มีโทษ
การกินแอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าในปริมาณที่เหมาะสมคือ วันละ 2 ช้อนชาโดยผสมกับน้ำ หรือน้ำผลไม้ ไม่ควรทานแอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าแบบเข้มข้น และ การรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าในปริมาณเล็กน้อย ไม่บ่อยไม่ส่งผลเสียอะไร แต่ถ้ากินไปนานๆ และปริมาณมากอาจพบปัญหาดังต่อไปนี้
- แอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้ามีฤทธิ์เป็นกรดสูง เนื่องจากส่วนประกอบหลักคือ กรดอะซิติก ถ้าดื่มโดยไม่ผสมอะไรเลยอาจทำลายสารเคลือบฟัน (อีนาเมล) เนื้อเยื่อในคอและปาก เคยมีรายงานว่า ผู้หญิงคนหนึ่งกลืนแอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าชนิดเม็ดแล้วติดคอ และปรากฏว่าเนื้อเยื่อหลอดอาหารถูกทำลาย เวลาดื่มจึงควรเจือจางด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำผลไม้ก่อน
- ถ้าดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าเป็นเวลานานอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมต่ำ และกระดูกบาง ดังนั้นถ้าใครมีปัญหาโพแทสเซียมในเลือดต่ำ หรือเป็นโรคกระดูกพรุนอยู่แล้ว ควรปรึกษาแพทย์
- แอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าอาจมีปฏิกิริยากับยาที่กินอยู่ เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาระบาย ยารักษาโรคเบาหวานและโรคหัวใจ เพราะน้ำส้มสายชูมีโครเมียมซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงระดับอินซูลินได้ จึงควรปรึกษาแพทย์
น้ำส้มสายชู แอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้า รักษาโรคได้
แม้ไม่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสรรพคุณของแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าโดยตรง แต่ยังมีหลายการวิจัยในต่างประเทศที่พบว่า น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลนี้มีสรรพคุณในการรักษาโรค
- บรรเทา เบาหวาน พบว่าน้ำส้มสายชูอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ตัวอย่างเช่น งานวิจัย ที่ศึกษาผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2 พบว่า การรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้า วันละ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาด ก่อนนอนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนเวลาอาหารเช้าได้ 4-6 เปอร์เซ็นต์
- ลดคอเลสเตอรอล การวิจัยในปี 2006 พบว่า น้ำส้มสายชูช่วยลดคอเลสเตอรอลใน เลือดของหนูได้ แต่ในคนยังไม่พบว่าจะให้ผลเช่นที่พบในหนู
- ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ งานวิจัยทางระบาดวิทยาพบว่า น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลช่วยลด ความดันโลหิตของหนู และผู้ที่รับประทานน้ำสลัดที่มีน้ำมัน และน้ำส้มสายชูผสมกัน สัปดาห์ละ 5-6 ครั้ง มีอัตราการเกิดโรคหัวใจต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทาน
- มะเร็ง มีงานวิจัยพบว่าน้ำส้มสายชู อาจช่วยฆ่าหรือชะลอการเจริญของเซลล์มะเร็ง แต่การวิจัยทางระบาดวิทยาในคนยังให้ข้อมูลที่สับสนคือ มีผลการวิจัยว่า การรับประทานน้ำส้มสายชูลดความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหาร แต่อีกผลการวิจัยกลับพบว่า เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
- ลดน้ำหนัก มีการใช้น้ำส้มสายชูในการลดน้ำหนักมาเป็นพันปี โดยช่วยให้อิ่มเร็ว ขึ้น ผลการวิจัยในปี 2005 พบว่า ผู้ที่รับประทานขนมปังกับน้ำส้มสายชูเล็กน้อยจะรู้สึกอิ่มเร็วกว่าคนที่รับประทานแต่ขนมปังอย่างเดียว
แอปเปิ้ลไซเดอร์ วินิก้ามีประโยชน์แต่ถ้ากินไม่ถูกหลักก็เกิดโทษได้ ต้องระวังค่ะ
ที่มา :: https://www.lovefitt.com/