ประวัติวันคริสต์มาส - กิจกรรมและสัญลักษณ์วันคริสต์มาส (Christmas)
วันคริสต์มาส (ภาษาอังกฤษ: Christmas หรือ Xmas) คือ วันสำคัญของชาวคริสต์เพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ผู้เป็นศาสดาของศาสนา ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี มาหาคำตอบกันว่าประวัติวันคริสต์มาสมีที่มาอย่างไร รวมทั้งมีกิจกรรมและสัญลักษณ์สำคัญอะไรบ้าง
วันคริสต์มาสคือวันอะไร : ความหมายและความสำคัญของวันคริสต์มาส
วันคริสต์มาส (Christmas) ถือเป็นเทศกาลฉลองของชาวคริสต์ในวันที่ 25 ธันวาคม เพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู หรือ “พระเมสสิยาห์” ผู้เป็นศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ แม้ส่วนใหญ่จะมีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมตะวันตก แต่คริสต์มาสก็เป็นเทศกาลที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก
คำว่า “Christmas” นั้นมีที่มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณ Cristes-messe (Christ’s Mass) หรือ “การบูชามิสซาของพระคริสตเจ้า” โดยในปัจจุบันคำนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas ชาวคริสต์นิยมร่วมพิธีมิสซาในวันคริสต์มาส
คริสต์มาส คือวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในศาสนาคริสต์ นอกจากจะเป็นโอกาสให้สมาชิกครอบครัวได้มาพบปะเฉลิมฉลองร่วมกันแล้ว แก่นแท้ของคริสต์มาสนั้นอยู่ที่การรำลึกถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ โดยการโปรดให้บุตรหรือพระเยซูมาเกิดในโลกเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ
- วันที่ 24 ธันวาคม = Christmas Eve
- วันที่ 25 ธันวาคม = Christmas Day
- วันที่ 26 ธันวาคม = Boxing Day
วันคริสต์มาส 2024
วันคริสต์มาส 2567 (Christmas 2024) ตรงกับวันพุธที่ 25 ธันวาคม แม้จะไม่ใช่วันหยุดราชการของไทย แต่สถานที่หลายแห่งมักจะมีการจัดงานฉลองและตกแต่งสถานที่ให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาส โรงเรียนนานาชาติหรือหน่วยงานเอกชนบางแห่งอาจกำหนดให้มีวันหยุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเป็นการเฉพาะ
ประวัติวันคริสต์มาส
ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ามีการกำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันประสูติของพระเยซูตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งนี้ ตามหลักฐานที่มีพบว่านักประวัติศาสตร์ Sextus Julius Africanus ระบุว่าวันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันประสูติของพระเยซูเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 221 จากนั้นก็ได้กลายเป็นวันที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย
หนึ่งในเหตุผลที่นักประวัติศาสตร์กล่าวไว้ คือ งานฉลอง “dies solis invicti nati” (Day of the Birth of the Unconquered Sun) ซึ่งเป็นงานฉลองสำคัญของผู้คนในจักรวรรดิโรมัน ที่เฉลิมฉลอง Winter Solstice หรือ เหมายัน อันเป็นสัญลักษณ์การกลับมาของพระอาทิตย์ ที่จะทำให้ฤดูหนาวผ่านพ้นไป และต้อนรับการกลับมาของฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่จะสร้างความอุดมสมบูรณ์ หรือการเกิดใหม่อีกครั้ง (Rebirth) ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 25 ธันวาคม ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายว่าเป็นวันประสูติของพระเยซูแล้ว นักเขียนและนักประวัติศาสตร์คริสเตียนหลายคนมักกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Rebirth of the Sun (การกลับมาของพระอาทิตย์) และ Birth of the Son (การเกิดของบุตรของพระเจ้าซึ่งก็คือพระเยซู)
กิจกรรมวันคริสต์มาส : การฉลองวันคริสต์มาสในปัจจุบัน
เทศกาลคริสต์มาสเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม และเป็นการฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ ด้วยการส่งบุตร คือ "พระเยซู" ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยเหลือ ชาวคริสต์หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์มากมายทั่วโลกนิยมส่งบัตรอวยพร ให้ของขวัญแก่สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ รวมทั้งประดับตกแต่งบ้านเรือนด้วยแสงไฟและต้นคริสต์มาสอย่างสวยงาม สถานที่ต่าง ๆ โดยทั่วไป เช่น ห้างสรรพสินค้า ก็มีการประดับต้นคริสต์มาส และจัดแสดงแสง สี เสียง ให้เข้ากับบรรยากาศคริสต์มาส
คล้ายกับในช่วงปีใหม่สำหรับชาวไทย ชาวคริสต์และชาวตะวันตกนิยมเดินทางกลับบ้านเพื่อพบปะสังสรรค์กับสมาชิกในครอบครัวในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยมักจะมีการทำกิจกรรมและรับประทานอาหารร่วมกัน อาหารที่ได้รับความนิยมได้แก่ ไก่งวง (Turkey) ทานคู่กับซอสแครนเบอร์รี่ และเครื่องดื่ม เช่น ไวน์เครื่องเทศอุ่น ๆ (Mulled Wine) นอกจากนี้ หลายคนยังนิยมทำขนมอบ เช่น คุกกี้รูปมนุษย์ขนมปังขิงอีกด้วย
สัญลักษณ์วันคริสต์มาส
หลังจากทราบประวัติวันคริสต์มาสคร่าว ๆ กันไปแล้ว ถึงตอนนี้เราลองมาดูกันว่าสัญลักษณ์และกิจกรรมยอดนิยมเมื่อพูดถึงวันคริสต์มาสนั้นมีอะไรบ้าง
การให้ของขวัญในวันคริสต์มาส
แม้ว่าวันคริสต์มาสจะเป็นเทศกาลของชาวคริสต์ แต่ผู้คนที่ไม่ใช่ชาวคริสต์ก็มีการเฉลิมฉลองกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งแตกต่างออกไปจากการฉลองทางศาสนา โดยมีลักษณะเป็นประเพณีนิยมแทน การให้หรือแลกเปลี่ยนของขวัญ และการ์ดอวยพรถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมในช่วงคริสต์มาส สำหรับบ้านที่มีต้นคริสต์มาส ผู้คนก็มักจะนำของขวัญไปวางไว้ใต้ต้นคริสต์มาสด้วย
แม้จะเป็นประเพณีสมัยใหม่ แต่การให้ของขวัญก็ช่วยแสดงถึงหัวใจสำคัญของวันคริสต์มาส ซึ่งก็คือการมอบความสุขและพลังของการให้
ซานตาคลอส
เมื่อพูดถึงวันคริสต์มาส สิ่งแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้น “ซานตาคลอส” (Santa Claus) หรือ "ซานต้า" ชายร่างท้วม สวมชุดสีแดง หนวดเครายาวสีขาว ที่มาพร้อมรถลากเลื่อนหิมะและกวางเรนเดียร์ เพื่อออกเดินทางแจกของขวัญให้เด็ก ๆ ทั่วโลก
เชื่อกันว่าซานตาคลอสมีต้นแบบมาจาก "นักบุญนิโคลัส" (Saint Nicholas) บาทหลวงชาวตุรกี ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 4 ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีความใจดี โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ต่อมาชาวฮอลแลนด์เรียกนักบุญผู้นี้ว่า "ซินเตอร์คลาส" และชาวอเมริกันเรียกเพี้ยนเป็น "ซานตาคลอส" ซึ่งกลายเป็นชื่อที่นิยมเรียกกันทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ “ซานต้า” ยังรู้จักกันในชื่อ Father Christmas (บิดาแห่งคริสต์มาส) อีกด้วย
ถุงเท้า (Christmas Stocking)
มีตำนานเล่าว่า “นักบุญนิโคลัส” เคยปีนปล่องไฟเพื่อมอบเหรียญเงินเป็นของขวัญให้แก่บ้านเด็กที่ยากจน แต่เหรียญเงินนั้นกลับตกลงไปในถุงเท้าที่แขวนไว้หน้าเตาผิง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความเชื่อที่เด็ก ๆ ต่างพากันแขวนถุงเท้าไว้หน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญจากซานตาคลอสในวันคริสต์มาส
ในวันคริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve) ซึ่งตรงกับวันที่ 24 ธันวาคม หรือก่อนวันคริสต์มาสหนึ่งวัน เด็ก ๆ จึงนิยมนำถุงเท้าไปแขวนไว้หน้าเตาพิง เพื่อรอรับของขวัญจากซานต้าตามเรื่องราวที่เล่าต่อกันมา
ต้นคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาส คือ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้เมื่อพูดถึงวันคริสต์มาส ต้นคริสต์มาสดั้งเดิมนั้นทำมาจากต้นสน ซึ่งหาได้ง่ายในทวีปยุโรปและอเมริกา แต่ในปัจจุบันยังมีการใช้ต้นคริสต์มาสปลอมที่ทำจากพลาสติกด้วย เนื่องจากสามารถนำกลับมาใช้ได้หลายปี
ผู้คนนิยมตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยการห้อยของประดับต้นคริสต์มาส (Bauble หรือ Christmas Ornament) ในรูปต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น ลูกบอล ดาว กล่องของขวัญชิ้นเล็ก ๆ พร้อมทั้งประดับไฟสีสันสวยงาม
ทั้งนี้ ตามความเชื่อในสมัยโบราณ ชาวคริสต์เชื่อว่าต้นคริสต์มาส คือ ต้นไม้ในสวนเอเดน (Garden of Eden) หรืออุทยานของพระเจ้า ที่อดัมและอีฟหยิบผลไปกินนั่นเอง
คำอวยพรวันคริสต์มาสภาษาอังกฤษ
คำอวยพรที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ ในช่วงคริสต์วันก็คือ “Merry Christmas” โดยที่คำว่า “Merry” นั้นหมายความว่า “สันติสุข” ในภาษาอังกฤษโบราณ การกล่าว “Merry Christmas” จึงเหมือนกับการอวยพรให้ผู้อื่นได้รับสันติสุขและมีความสงบทางใจ โดยเราอาจกล่าวเป็นภาษาไทยได้ง่าย ๆ ว่า สุขสันต์วันคริสต์มาส นอกจากนี้ เรายังอาจใช้คำอวยพรอื่น ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น “Happy Christmas”, “Merry Xmas”, “Happy Holiday”, “Christmas Greetings”, “Happy Holidays”, “Season’s Greetings” หรือ “Holiday Greetings” เป็นต้น
Christmas , ประวัติวันคริสต์มาส , วันคริสต์มาส , คริสต์มาส , Christmas Eve , Christmas Day , Boxing Day , Happy Christmas , Merry Xmas , Happy Holiday , Christmas Greetings , Happy Holidays , Season’s Greetings , Holiday Greetings
ที่มา :: https://www.twinkl.co.uk/teaching-wiki/wan-khristmas-christmas
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น