โยเกิร์ต เมนูอร่อย มากคุณค่า
อร่อยกับ "โยเกิร์ต" (M&C แม่และเด็ก)
โยเกิร์ต เป็นภาษาตุรกี มีต้นกำเนิดในราชสำนักของกษัตริย์ฟรานซิสแห่งฝรั่งเศส ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16 โยเกิร์ตคืออายุวัฒนะสำหรับมนุษย์ คนยุโรปจึงหันมารับประทานโยเกิร์ตกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีการผลิตในระดับอุตสาหกรรม ในปี ค.ศ. 1919 ในกรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ปัจจุบันมีประชาชน ทั่วโลกรับประทานโยเกิร์ตกันเป็นประจำกว่า ร้อยละ 30
โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมักนมโดยเชื้อจุลินทรีย์ทำจากนมสด นมพร่องมันเนย นมคืนรูปจากนมพร่องมันเนย ซึ่งหมักด้วยจุลินทรีย์ Lactobacillus bulgaricus กับ Streptococcus thermophilus จุลินทรีย์จะเปลี่ยนน้ำตาลในนม คือ แลคโตสให้เป็นกรดแลคติก ที่ทำให้โปรตีนตกตะกอน มีลักษณะเป็นลิ่มอ่อนนุ่ม คือ มีเนื้อสัมผัสกึ่งแข็งกึ่งเหลว โดยทั่วไปมีสีขาวถึงนวล มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เฉพาะตัว รสชาติเปรี้ยว เนื่องจากมีกรดค่อนข้างสูงและมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ปริมาณมาก
นอกจากนี้ กรดแลคติกที่ได้จากการผลิตโดยจุลินทรีย์แล้ว ยังมีสารประกอบอื่น ๆ เกิดขึ้นอีกด้วย แต่มีในปริมาณน้อย ได้แก่สารประกอบที่ระเหยได้ หรือสารประกอบอะโรมาติก ซึ่งพบว่าสารประกอบเหล่านี้ ทำให้เกิดคุณสมบัติเฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์ เช่น กลิ่น รสชาติ และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างออกไป
โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมักนมโดยเชื้อจุลินทรีย์ทำจากนมสด นมพร่องมันเนย นมคืนรูปจากนมพร่องมันเนย ซึ่งหมักด้วยจุลินทรีย์ Lactobacillus bulgaricus กับ Streptococcus thermophilus จุลินทรีย์จะเปลี่ยนน้ำตาลในนม คือ แลคโตสให้เป็นกรดแลคติก ที่ทำให้โปรตีนตกตะกอน มีลักษณะเป็นลิ่มอ่อนนุ่ม คือ มีเนื้อสัมผัสกึ่งแข็งกึ่งเหลว โดยทั่วไปมีสีขาวถึงนวล มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เฉพาะตัว รสชาติเปรี้ยว เนื่องจากมีกรดค่อนข้างสูงและมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ปริมาณมาก
นอกจากนี้ กรดแลคติกที่ได้จากการผลิตโดยจุลินทรีย์แล้ว ยังมีสารประกอบอื่น ๆ เกิดขึ้นอีกด้วย แต่มีในปริมาณน้อย ได้แก่สารประกอบที่ระเหยได้ หรือสารประกอบอะโรมาติก ซึ่งพบว่าสารประกอบเหล่านี้ ทำให้เกิดคุณสมบัติเฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์ เช่น กลิ่น รสชาติ และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างออกไป
ชนิดของโยเกิร์ต
โยเกิร์ตที่ผลิตจากนมสดจะมีคุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่านมสด โปรตีนที่ได้จากโยเกิร์ตคือ เคซีอีน เป็นโปรตีนคุณภาพสูง เพราะมีสารที่จำเป็นที่ร่างกายเราไม่สามารถสร้างเองได้มากมาย ได้แก่ กรดอะมิโนที่จำเป็น อันมีส่วนสำคัญต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายของเรา และมีสารอาหารที่มีคุณค่ามากมายทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี แร่ธาตุสำคัญ ๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส และเชื้อจุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัส ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานเป็นปกติ
สำหรับเด็ก ๆ แล้ว โยเกิร์ตมีความสำคัญสำหรับกลุ่มเด็กที่ไม่ค่อยรับประทานผักผลไม้ ลดปัญหาการเกิดอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และยังให้คุณค่าด้านอื่น ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นอีกด้วย
สลัดกุ้งทอด เสิร์ฟกับซอสโยเกิร์ต
1.ผสมส่วนผสมซอสโยเกิร์ตทุกอย่างที่เตรียมไว้รวมกัน แล้วพักไว้
2.ล้างกุ้งให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย คลุกด้วยแป้งสาลี จากนั้นนำมาชุบไข่ คลุกด้วยเกล็ดขนมปัง
3.นำกุ้งลงทอด ในน้ำมันร้อน ใช้ไฟปานกลาง จนกระทั่งสุกเหลือง กรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
4.จัดเสิร์ฟกับผักสลัด และซอสโยเกิร์ต
Tip : สามารถปรับเปลี่ยนผักสลัดตามที่ลูกชอบได้ เช่น ผักกาดแก้ว แครอท มะเขือเทศ แตงกวา เรดโอ๊ก กรีนโอ๊ก เป็นต้น
สเต็กไก่อบโยเกิร์ต เสิร์ฟกับซอสโยเกิร์ตและผักต้มสุกผัดเนย
1.ผัดหอมใหญ่ กระเทียม เนยสด พริกไทยป่น พอหอม เติมน้ำซุปเคี่ยวจนส่วนผสมสุกนุ่ม
2.ปรุงรสด้วยเกลือ ยกลง เติมโยเกิร์ตชิมรสอีกครั้ง ใช้จัดเสิร์ฟกับไก่ที่อบเตรียมไว้
2.ปรุงรสด้วยเกลือ ยกลง เติมโยเกิร์ตชิมรสอีกครั้ง ใช้จัดเสิร์ฟกับไก่ที่อบเตรียมไว้
1.หมักไก่กับส่วนผสมทั้งหมด คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 20 นาที
2.อบไก่ที่หมักไว้ โดยวางเรียงในถาดอบรองด้วยหัวหอมใหญ่หั่นแว่น
3.จากนั้นอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15-20 นาที หรือจนกระทั่งสุกเหลือง (สามารถทอดในกระทะเทฟร่อนโดยใช้น้ำมันเล็กน้อย)
4.จัดเสิร์ฟกับผักต้มสุกผัดกับเนยสด และซอส
2.อบไก่ที่หมักไว้ โดยวางเรียงในถาดอบรองด้วยหัวหอมใหญ่หั่นแว่น
3.จากนั้นอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15-20 นาที หรือจนกระทั่งสุกเหลือง (สามารถทอดในกระทะเทฟร่อนโดยใช้น้ำมันเล็กน้อย)
4.จัดเสิร์ฟกับผักต้มสุกผัดกับเนยสด และซอส
Tip : สามารถปรับเปลี่ยนผักต้มสุกหลากชนิดตามชอบ ก่อนเสิร์ฟ ผัดหอมใหญ่สับ 2 ช้อนชา เนยสด 2 ช้อนชา พอหอม ใส่ผักที่ต้มเตรียมไว้ ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทยป่น เสิร์ฟขณะร้อน
วุ้นโยเกิร์ต
1.ผสมผงวุ้น น้ำเปล่าแช่ไว้ประมาณ 5 นาที
2.ยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางเคี่ยวจนส่วนผสมเดือด จนกระทั่งวุ้นสุก สังเกตจากวุ้นจะมีลักษณะใส ระหว่างเคี่ยวใช้พายไม้คนที่ก้นกระทะตลอดเวลา ระวังอย่าให้ส่วนผสมไหม้
3.เติมน้ำตาลทรายแดง วนิลา เคี่ยวต่อสักครู่ จนส่วนผสมเดือด
4.เติมน้ำผึ้งและโยเกิร์ต คนให้เข้ากัน
5.ยกลง เทส่วนผสมที่เคี่ยวได้ ใส่พิมพ์ พักให้เย็น แกะออกจากพิมพ์
6.จัดเสิร์ฟกับซอสโยเกิร์ต และผลไม้สด
2.ยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางเคี่ยวจนส่วนผสมเดือด จนกระทั่งวุ้นสุก สังเกตจากวุ้นจะมีลักษณะใส ระหว่างเคี่ยวใช้พายไม้คนที่ก้นกระทะตลอดเวลา ระวังอย่าให้ส่วนผสมไหม้
3.เติมน้ำตาลทรายแดง วนิลา เคี่ยวต่อสักครู่ จนส่วนผสมเดือด
4.เติมน้ำผึ้งและโยเกิร์ต คนให้เข้ากัน
5.ยกลง เทส่วนผสมที่เคี่ยวได้ ใส่พิมพ์ พักให้เย็น แกะออกจากพิมพ์
6.จัดเสิร์ฟกับซอสโยเกิร์ต และผลไม้สด
Tip : ซอสโยเกิร์ต เตรียมโดยใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ½ ถ้วยตวง ผสมน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น