อร่อยกับเมนูเสริมวิตามินจากบีทรูท
อร่อยกับเมนูเสริมวิตามินจากบีทรูท (M&C แม่และเด็ก)
เมนูคุณหนู : อาจารย์เจตนิพัทธ์ บุณยสวัสดิ์ และอาจารย์จักราวุธ ภู่เสม อาจารย์สาขาวิชาอาหารและโภชนาการคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์
บีทรูท พืชหัวที่มองแล้วไม่รู้ว่าจะทำอะไรรับประทาน หรือรับประทานกันอย่างไร รู้แต่ว่าต้มรับประทานกับสลัดผัก แต่ประโยชน์มากมายจริง ๆ
บีทรูท พืชหัวที่มองแล้วไม่รู้ว่าจะทำอะไรรับประทาน หรือรับประทานกันอย่างไร รู้แต่ว่าต้มรับประทานกับสลัดผัก แต่ประโยชน์มากมายจริง ๆ
บีทรูทหรืออาจเรียกว่า ผักกาดฝรั่ง ผักกาดแดง ลำต้นอยู่ใต้ดิน รากอวบน้ำ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 เซนติเมตร ลักษณะของใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงตัวสลับ ก้านยาว คล้ายรูปหัวใจรี ดอกเป็นดอกเดี่ยวออกเป็นช่อมีสีเขียวอ่อน ผล มีขนาดเล็ก เป็นพืชที่รับประทานหัว มีรูปทรงกลมป้อม เปลือกสีดำ เนื้อสีแดงเลือดหมูหรือม่วงแดง เป็นผักเมืองหนาว ต้นกำเนิดอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ปัจจุบันนี้บีทรูทสามารถปลูกได้ในแถบภาคเหนือของไทย โดยปลูกได้ตลอดปีในระดับความสูงกว่า 1,000 เมตรเป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง รองมาจากมันฝรั่ง
บีทรูทให้วิตามินซีสูง วิตามินเอ บี 1 บี 2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก นอกจากนี้บีทรูทยังมีสรรพคุณทางยา ในการช่วยรักษาโรคมะเร็ง ยับยั้งการเกิดเนื้องอก และมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งบีทรูทยังใช้เป็นสีผสมอาหารจากธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย โดยเติมลงในผลิตภัณฑ์ขนมหวาน แยม เยลลี่ ซีเรียล เป็นสีที่ให้เกิดความสนใจในเด็กเพราะเป็นสีสันที่สดใส เราสามารถเติมแต่งในขนมหรืออาหรต่าง ๆ ให้เกิดความน่ารับประทาน สีม่วงแดงของบทรูทมาจากรงควัตถุบีตาเลน เบตาเลน ซึ่งเป็นสารพฤกษเคมี มีฤทธิ์ที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกซึ่งจะพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง และยังช่วยลดความดันโลหิตลดโคเลสเตอรอล ในประเทศสหรัฐอเมริกาใช้บีทรูทเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำตาล
ในปัจจุบันทั้งภาคอุตสาหกรรมอาหารและผู้บริโภคมักให้ความนิยมในการใช้สารสีจากธรรมชาติแทนการใช้สารสีที่ได้จากการสังเคราะห์ เนื่องมาจากกลุ่มคนที่ให้ความสนใจเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น ส่วนใหญ่สารสีประเภทนี้มักได้จากพืชและผลไม้ต่าง ๆ เช่น สีเขียวของผักเนื่องจากมีดลอโรฟีลล์ สีเหลือง สีส้ม และสีแดง เนื่องจากสีของแคโรทีนอยด์รวมถึงบีตาเลน ซึ่งเป็นกลุ่มของรงควัตถุที่ให้สีแดงและสีเหลืองคล้ายแอนโทไซยานิน และฟลาโวนอยด์ ซึ่งพบได้ในพืชจำพวกหัวบีทรูท ผลแก้วมังกรสีแดง ดอกอัญชัน เป็นต้น
การบริโภคบีทรูทในการทำอาหาร เริ่มหันมาใช้กันมากขึ้น การใช้นิยมนำมาต้มสุกทั้งหัวก่อน แล้วปอกเปลือกใช้รับประทานได้เลย เมื่อต้มสุกแล้วมีกลิ่นหอมคล้ายกับข้าวโพดต้มสุก สามารถประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน
ฉบับนี้แม่และเด็กนำเมนูเสริมวิตามินจากบีทรูท ได้แก่ สาคูไส้บีทรูท ขนมบีทรูทนึ่ง และเครื่องดื่มสมูทตี้บีทรูท เหมาะเป็นอาหารสำหรับเด็กและครอบครัว
ฉบับนี้แม่และเด็กนำเมนูเสริมวิตามินจากบีทรูท ได้แก่ สาคูไส้บีทรูท ขนมบีทรูทนึ่ง และเครื่องดื่มสมูทตี้บีทรูท เหมาะเป็นอาหารสำหรับเด็กและครอบครัว
สาคูไส้บีทรูท
1.โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยป่น ให้ละเอียดพักไว้
2.ผัดส่วนผสมที่โขลกรวมกันไว้ให้หอม เติมเนื้อหมู ผัดพอสุก เติมหอมแดงสับ ผัดต่อสักครู่
3.เติมบีทรูทและแบะแซ ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซอสปรุงรสและเกลือ ผัดให้ส่วนผสมแห้ง ชิมรสอีกครั้งเติมถั่วลิสงผัดให้เข้ากัน
4.ยกลง พักให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร
5.ซาวสาคูกับน้ำเปล่า ริมน้ำออกปิดฝา พักไว้นานประมาณ 10-15 นาที นำมาห่อไส้ที่ปั้นเตรียมไว้
6.นำสาคูที่ปั้นเตรียมไว้ นึ่งในลังถึงที่รองด้วยใบตองทาน้ำมัน นึ่งไฟแรงนานประมาณ 5-7 นาที
7.พอสุก ยกลง พรมด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว
8.จัดเสิร์ฟกับผัดกาดแก้ว หรือผักกาดหอม และใบผักชี
Tip : การต้มบีทรูท ต้มหัวบีทรูททั้งหัวโดยไม่ปอกเปลือกใส่น้ำให้ท่วม ต้มไฟปานกลางนานประมาณ 30-45 นาที หรือจนกระทั่งสุก
ขนมบีทรูทนึ่ง
1.ผสมแป้งทั้ง 3 ชนิดเข้าด้วยกัน เติมกะทิทีละน้อย นวดนานประมาณ 10 นาที เติมน้ำตาลปี๊บ เกลือ นวดให้เข้ากัน
2.เติมบีทรูทและกะทิส่วนที่เหลือ มะพร้าวทึนทึกขูดครึ่งส่วน คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
3.ตักหยอดใส่กรวยใบตอง โรยด้วยมะพร้าวทึนทึกขูด นำไปนึ่ง จนขนมสุก นานประมาณ 15-20 นาที
4.นำออกจากที่นึ่ง จัดเสิร์ฟ
Tip : มะพร้าวทึนทึกที่โรยหน้าขนม คลุกด้วยเกลือป่นเล็กน้อยจะทำให้ขนมมีรสชาติอร่อยขึ้น
2.เติมบีทรูทและกะทิส่วนที่เหลือ มะพร้าวทึนทึกขูดครึ่งส่วน คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
3.ตักหยอดใส่กรวยใบตอง โรยด้วยมะพร้าวทึนทึกขูด นำไปนึ่ง จนขนมสุก นานประมาณ 15-20 นาที
4.นำออกจากที่นึ่ง จัดเสิร์ฟ
Tip : มะพร้าวทึนทึกที่โรยหน้าขนม คลุกด้วยเกลือป่นเล็กน้อยจะทำให้ขนมมีรสชาติอร่อยขึ้น
สมูทตี้บีทรูท
1.ผสมส่วนผสมทุกอย่างรวมกัน ใส่โถปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้ส่วนผสมเข้ากันสักครู่
2.เติมน้ำแข็งปั่นต่อให้ละเอียด
3.จัดเสิร์ฟใส่แก้ว แต่งด้วยบีทรูทต้มสุก
2.เติมน้ำแข็งปั่นต่อให้ละเอียด
3.จัดเสิร์ฟใส่แก้ว แต่งด้วยบีทรูทต้มสุก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น