Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ความเชื่อ VS ความจริง เรื่องดูแลเบบี๋

ความเชื่อ VS ความจริง เรื่องดูแลเบบี๋

 
 
 
 
 
 
 
 
 
จะเชื่ออะไรดีนะ ระหว่างความเชื่อ กับ ความจริง สิ่งใดถูกสิ่งใดผิด หรือจะเชื่อความเชื่อที่มีกันมานาน หรือความจริง
 
การเลี้ยงลูกเป็นความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากทั้งผู้มีประสบการณ์ หรือประสบมาด้วยตัวเองความเชื่อความเข้าใจในการดูแลลูก ก็มีทั้งเป็นเรื่องที่ดีและเข้าใจผิดกันได้


Modern Mom จึงถือโอกาสไปพูดคุยกับ พญ.ดุษฎี เงินหลั่งทวี กุมารแพทย์ หน่วยพัฒนาการเด็ก วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร และวชิรพยาบาล เพื่อค้นหาความกระจ่างกับความเชื่อต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ.
 
 
 
นอนคว่ำหัวสวยนอนได้นาน


 
 


จริง ๆ แล้ว การนอนคว่ำตามหลักวิชาการไม่แนะนำเลย ก็อาจทำให้หัวสวยจริง แต่จะพบเคสเด็กที่นอนคว่ำ แล้วมีหยุดหายใจและเสียชีวิตได้ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุที่จะเป็นได้ เช่น พอกินเสร็จก็ไปจับนอนคว่ำ มีสำลักนมออกมา คุณแม่ก็จะไม่เห็นหน้าลูก ก็อาจได้ยินเสียงแอะ ๆ แล้วเงียบไปโดยเราไม่ทันสังเกต คิดว่าลูกนอนหลับ ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาได้ ถ้าอยากให้เด็กนอนได้นานด้วย หัวสวยด้วย ก็ใช้เป็นนอนตะแคงเอา หรือนอนหงายก็จะดีที่สุด

 
 
 
 
โกนผมไฟผมจะได้ดกดำ


 
 

จริง ๆ แล้ว ผมดกหรือไม่ดก ก็จะอยู่ตรงพันธุกรรมด้วยส่วนหนึ่ง แต่ถ้าเด็กโกนผมไฟ แต่พันธุกรรมผมไม่ดก ผมที่ขึ้นใหม่ก็ไม่ได้ดกขึ้นจะปริมาณเท่าเดิม เพียงแต่ผมที่ขึ้นใหม่จะดูแข็งกว่าผมอ่อนที่ติดมาตั้งแต่แรกเกิด ทำให้ดูเหมือนมันหนาดกขึ้น แต่โดยปกติถึงไม่โกน ผมที่ติดมาตั้งแต่แรกเกิดก็จะผลัดหลุดออกไปเอง และสร้างขึ้นใหม่อยู่แล้ว ซึ่งจะหลุดประมาณ 2-3 เดือน ก็จะผลัดทีหนึ่ง อย่างที่โบราณเขาพูดว่า ช่วงไหนที่ลูกผมร่วงก็แสดงว่าลูกจำหน้าแม่ได้
ดัดขาตั้งแต่เล็กจะได้ขาไม่โก่ง

จริง ๆ แล้ว สำหรับลักษณะขาเด็ก ตอนแรกเกิดจะดูโก่ง ๆ โค้ง ๆ อยู่แล้ว ซึ่งพัฒนาการตามวัยนั้น พอช่วง 2 ปี ขาโก่ง ๆ ถึงไม่ดัดก็ตรงเอง และพอเลย 2-7 ปี ไป ตรงหัวเข่าก็จะเอนและแบะออกข้างนอกเล็กน้อย และ 7 ปี ถึงจะกลับเข้าที่ดูตรงเหมือนเดิม

ดังนั้นถึงเราไม่ดัดหรือทำอะไร ขาก็จะกลับมาตรงสวยอยู่แล้ว ถ้าไปดัดขาให้ลูกก็อาจจะส่งผลได้ เช่น ถ้าถึงวัยที่มันจะตรง มันอาจจะไม่ตรงอย่างที่ควรจะตรง แต่ถ้าขาลูกผิดปกติ เป็นโรคบางอย่างที่ทำให้ขาโก่งผิดปกติ หรือกระดูกมันแบะออกก็จะเห็นได้

คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ อย่าง
เช่น ถ้าถึงวัยที่ขาควรจะตรงแล้วมันไม่ตรง หรือถึงวัยที่จะแบะออกแต่ยังโก่งอยู่ หรือว่าถ้าความโก่งหรือความแบะมันไม่เท่ากันทั้ง 2 ข้าง หรือลูกเดินลงน้ำหนักข้างซ้ายและขวาไม่เท่ากัน อาจลงน้ำหนักข้างซ้ายเยอะ แต่ข้างขวาไม่ค่อยลง อันนี้น่าจะผิดปกติก็ต้องพามาตรวจดูค่ะ


 
 
เอาผ้าอ้อมเปียกฉี่กวาดลิ้นจะได้ไม่เป็นฝ้าขาว

 


 
 

            
จริง ๆ แล้ว ฉี่คือ ของเสียของร่างกายที่ขับสารบางอย่างที่ร่างกายไม่ต้องการออกมา เช่น ยูเรีย ซึ่งคงไม่เหมาะสมที่จะเอามากวาดลิ้นเด็ก แต่การเช็ดทำความสะอาดลิ้นลูกนั้น ใช้เพียงน้ำเปล่าธรรมดา หรือน้ำต้มที่ตั้งทิ้งไว้ให้มันเย็นใช้ผ้าอ้อมที่สะอาด หรือผ้าสะอาด ชุบน้ำเช็ดกวาดลิ้นก็สะอาดแล้ว

ส่วนลิ้นของเด็กที่จะเห็นเป็นฝ้า
ส่วนใหญ่เกิดจากคราบนมที่กินที่จะมีคราบตกอยู่ เหมือนคราบอาหารติดตามลิ้น ก็จะเจอได้บ่อย ซึ่งการทำความสะอาดโดยน้ำเปล่าธรรมดาก็จะออกไปแล้วล่ะ มีบางคนเป็นฝ้าจากเชื้อราก็จะเห็นเป็นฝ้าขาว ๆ ถ้าเป็นคราบอาหาร เด็กก็จะปกติไม่งอแง แต่ถ้าเป็นเชื้อรา เวลาที่กินนมและเช็ดทำความสะอาดเด็กอาจจะเจ็บ แล้วมีร้องกวน


 

 
 
ไม่ควรตัดเล็บลูกเล็ก

       

     
 
จริง ๆ แล้ว การตัดเล็บของลูกนั้น สามารถตัดได้ตั้งแต่เกิด แต่เล็บเด็กจะบาง ๆ ใส ๆ บางทีพ่อแม่จะดูยาก แล้วอาจจะไปตัดแล้วโดนเนื้อลูก ทำให้เลือดออก ก็เลยเข้าใจว่า สมัยโบราณอยากให้รอสักระยะหนึ่งให้เล็บเห็นชัดขึ้น แต่เด็กจะเล็บยาวเร็วมาก เพราะฉะนั้นสัก 1-2 อาทิตย์ หลังคลอด ถ้าดูยาวจะไปข่วนหน้าข่วนตาลูก คุณแม่ก็สามารถตัดได้เลย รับรองไม่เป็นอันตรายค่ะ
 
 
 
บีบจมูก เวลาอาบน้ำจะได้จมูกโด่ง            

 
จริง ๆ แล้ว กระดูกตรงจมูกของเราเป็นกระดูกอ่อน เพราะฉะนั้น กระดูกอ่อนจะเติบโตของมันเอง การไปบีบ ๆ ดึง ๆ ไม่ได้ช่วยให้ใหญ่หรือโตขึ้น แต่การที่ไปบีบ ๆ ดึง ๆ อาจทำให้ดูนูนขึ้น เพราะพวกเนื้อเยื่ออ่อน ๆ ตรงจมูกนูนขึ้นมาชั่วคราว แต่แล้วก็จะย่นลงไปตามแนวกระดูกเดิมที่มันมี แม้ว่าความเข้าใจผิดที่หยิบยกมานั้น อาจไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อลูกมากมายนัก แต่การได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องก็ดีต่อลูกน้อยที่สุดค่ะ

 




 







 
ที่มา ::        Vol.16 No.184 กุมภาพันธ์ 2554