15 ที่เที่ยวในอุดรธานี ไปเมืองอุดรฯ คราวนี้ไม่มีเบื่อแน่นอน
15 ที่เที่ยวในอุดรธานี
1. อุโบสถดอกบัวกลางน้ำ วัดสันติวนาราม
ตั้งอยู่ในวัดสันติวนาราม (วัดป่าดงไร่) อำเภอหนองหาน และอยู่ไม่ไกลจากชุมชนบ้านเชียง เป็นพระอุโบสถกลางน้ำรูปดอกบัวเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย โดยสร้างเป็นรูปดอกบัว 24 กลีบ สูง 19 เมตร ด้านในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังงดงามตระการตา เรียกได้ว่าไปทำบุญก็ดี ไปถ่ายรูปก็ว้าวมาก ภายในวัดมีบริเวณกว้างขวางร่มรื่นสวยงาม ในบ่อน้ำยังมีปลาอาศัยอยู่ชุกชุมเลยนะ กราบพระทำบุญแล้วจะแวะทำทานให้อาหารปลาด้วยก็ยังได้ ไหนๆ ก็เข้าวัดแล้วนี่เนอะ
2. ทะเลบัวแดง
ความสวยงามอเมซิ่งของที่นี่เคยได้รับการจัดอันดับจาก CNN ให้เป็น 1 ใน 5 ของทะเลสาบสุดอัศจรรย์ของโลกกันเลยเด้อ ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าที่นี่อ่ะ ว้าวจริงอะไรจริง ทะเลบัวแดงในบึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปีแห่งนี้จะมีช่วงพีคอยู่ในช่วงเดือน ธันวาคม – กุมภาพันธ์ ในแต่ละปี แต่ถ้าอยากดูแบบพีคในพีคเลยนะ ขอบอกว่ากลางมกราถึงต้นกุมภานี่ละ เริ่ดดดดดด ส่วนถ้าเป็นช่วงเดือนธันวาหรือมกราก็จะได้อากาศเย็นๆ เป็นของตอบแทน แนะนำว่าช่วงเช้ามืดถึงสายๆ จะฟินสุดนะ เพราะอากาศดี แดดไม่ร้อน ถ่ายรูปออกมาแสงก็สวยเว่อร์ ไปกันเหอะ ที่นี่อ่ะพีคจริง คอนเฟิร์มเลย
3. บ้านห้วยสำราญ
ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านแห่งไม้ดอกไม้ประดับของเมืองอุดรฯ เลยนะ กับพื้นที่กว่า 65 ไร่ ซึ่งใช้ปลูกดอกไม้สารพัดสารพัน ทั้งดาวเรือง หงอนไก่ มัม สร้อยทอง เบญจมาศ และอื่นๆ อีกเพียบจ้า แถมอยู่ไม่ไกลมากจากตัวเมืองอุดรฯ ด้วยนะ ไม่ถึง 20 กิโลเมตรเลย ใครกำลังมองหาที่ถ่ายรูปอัพโปรไฟล์หรือถ่ายพรีเวดดิ้งนะ ที่นี่คือใช่อ่ะ แล้วถ้าอยากไปเที่ยวเฉยๆ แต่ไม่อยากเดิน เค้ามีบริการรถพาเที่ยวด้วยนะ เลือกเลยจ้าว่าอยากได้สามล้อ ซาเล้ง หรือรถไถ ไปเลยยยย แค่คิดภาพก็มันแล้ว 5555
4. วัดโพธิสมภรณ์
วัดนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลหมากแข้ง ในอำเภอเมืองเลยนะ เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 5 มีเนื้อที่กว่า 40 ไร่ และได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญในอุดรธานีเลยเด้อ ภายในวัดประกอบไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์และโบราณสถานโบราณวัตถุมากมาย ทั้งพระพุทธรูปเก่าแก่อายุ 600 และ 1,300 ปี ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่นำหน่อมาจากศรีลังกา รอยพระพุทธบาทจำลองอายุกว่า 200 ปี และพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ ที่ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมสิ่งของเกี่ยวกับพุทธศาสนามากมาย แล้วยังใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุด้วยนะ สายบุญห้ามพลาดเลยเชียว
5. วัดป่าภูก้อน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัดชื่อดังที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางป่า และกลายเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ถ้ามาอุดรแล้วก็ควรต้องแวะมาเช็คอินกันหน่อยละ และถ้าไปถึงแล้วต้องได้เห็นองค์พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ ที่มีความยาว 20 เมตร และสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลีจำนวน 42 ก้อน โดยใช้เวลาสร้างกันถึง 6 ปีเชียวนะ ในช่วงเวลาจะมีแสงสะท้อนคล้ายคลื่นสีฟ้าส่องลงมายังบริเวณองค์พระ สวยมากกกกกก ขอบอก
6. คำชะโนด
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสำนักงานใหญ่ของสายมูฯ ที่เรียกว่าพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงเชียวละ ถ้าคิดจะเดินเส้นทางนี้ เพราะด้วยชื่อเสียงของความศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้คนจากทั่วประเทศหลังไหลกันไปสักการะไม่ขาดสาย ด้วยพลังแห่งความศรัทธาต่อเรื่องราวของพญานาคอันเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนจำนวนมาก และถ้าหากไม่อ้างถึงเรื่องนี้นะ เราว่าที่นี่ก็ยังน่าสนใจ เพราะเป็นผืนป่าต้นชะโนดขนาดใหญ่ซึ่งในประเทศไทยมีแค่เพียงที่เดียวเท่านั้น ความเจ๋งอยู่ตรงที่ป่าคำชะโนดแห่งนี้มีดินข้างใต้ที่ลักษณะคลายฟองน้ำซึ่งสามารถพองหรือหดได้ตามปริมาณน้ำรอบๆ ทำให้เกาะแห่งนี้ลอยตัวอยู่บนผืนน้ำด้านบนได้ โดยไม่เคยจมน้ำ แต่ในภายหลังเมื่อมีสิ่งก่อสร้างบนเกาะมากเกินไป ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น เราจึงเห็นข่าวว่ามีบางครั้งที่เกาะแห่งนี้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้นนั่นละ แต่บางคนอาจจะเชื่อไปในทางของบาปบุญนะ ก็แล้วแต่ศรัทธาเลยจ้า อยู่ที่วิจารณญาณเด้ออออ
7. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง
มาอุดรฯ ทั้งที จะไม่พูดถึงแหล่งโบราณคดีที่เป็นมรดกโลกก็คงไม่ได้ เพราะที่นี่โด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องของการเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญและเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่มีอายุถึงประมาณ 5,000 ปี แล้วพิพิธภัณฑ์ที่นี่ก็ไม่ได้มีแค่หม้อแตกแจกันเก่าให้ดูกันเท่านั้นตามที่หลายคนเข้าใจนะ เค้ายังมีการจำลองหลุมขุดค้น มีมุมที่ให้เราได้สวมบทนักโบราณคดีที่ต้องนำชิ้นส่วนของที่ขุดค้นเจอมาประกอบร่าง มีเรื่องราวเหตุและผลของการฝังศพแบบโบราณ นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว รอบๆ บริเวณยังมีแหล่งเรียนรู้การทอผ้า บางร้านก็เปิดโอกาสให้เราได้หัดปั้นหม้อดินหรือเขียนลาย โอ๊ย ยังมีอีกหลายกิจกรรมเลยละ สนุกกว่าที่เคยคาดไว้แน่นอน มาเลยยยย
8. เขื่อนห้วยหลวง
เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ที่สุดของอุดรธานี แถมยังตั้งอยู่ในอำเภอเมืองกันไปเลยจ้า จึงไม่ต้องเดินทางไกล บนสันเขื่อนทำเป็นถนนให้เราขับรถหรือเดินชมวิวแจ่มๆ กันได้สบายมาก แต่หากจะเลือกล่องแพ นั่งเรือชมวิว หรือตกปลา ก็ถือว่าชิลล์เว่อร์ เพราะบริเวณเขื่อนแห่งนี้มีทิวทัศน์สวยงามเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี ด้านในมีร้านอาหารเปิดให้บริการด้วยนะ เมนูเด็ดก็แน่นอนว่าหนีไม่พ้นปลาสดๆ จากในเขื่อนนี่ละ แซ่บหลาย สายถ่ายรูปน่าจะถูกใจเลยนะ เราว่าที่นี่ถ้าจับจังหวะแสงดีๆ แจ่มแน่นอน
9. สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม
ใครผ่านไปผ่านมาในตัวเมืองอุดรธานี ก็ล้วนแต่ต้องแวะสร้างแลนด์มาร์กกันที่นี่ทั้งนั้นนะ ไม่งั้นจะเหมือนว่ามาไม่ถึงเมืองอุดรฯ กันเลยเชียว ส่วนไฮไลท์ของที่นี่ก็ต้องยกให้เป็ดเหลืองไซส์ใหญ่ยักษ์ที่ลอยอยู่กลางบึง ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ไปเรียบร้อยแล้วละ ช่วงเวลาชิลล์ๆ ที่ผู้คนนิยมมาใช้เวลาพักผ่อนกันน่ะ ก็แน่นอนว่าต้องยกให้ช่วงแดดร่มลมตกในยามเย็น เพราะนอกจากจะมีเรือเป็ดให้ปั่นเล่นกันเพลินๆ แล้วนะ ยังมีถนนหนทางสำหรับวิ่ง เดินเล่น ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก แถมยังมีสนามเด็กเล่นและสนาม BMX ด้วยนะ เรียกว่าเป็นที่รวมของชุมชนคนรักสุขภาพกันเลยทีเดียว เฟี้ยวมาก มาเลย
10. ศาลเจ้าปู่ย่า
ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟใกล้กับตลาดหนองบัว ถือว่าเป็นศาลเจ้าเก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอุดรฯ ให้การเคารพนับถือกันเป็นอย่างยิ่งเลยละ ภายในบริเวณศาลเจ้ามีเนื้อที่ราวๆ 9 ไร่ มีศาลากลางน้ำสำหรับให้ใช้นั่งเล่นพักผ่อนชมวิวหนองน้ำที่อยู่ด้านหน้าได้แบบเพลินๆ ในบริเวณยังมีศาลย่อยๆ อีก 6 ศาล ซึ่งผู้คนก็ล้วนให้ความเชื่อถือศรัทธากันเป็นอย่างมากเช่นกัน ในทุกปีช่วงประมาณเดือนธันวาคม จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ มีการแสดงงิ้วและโคมไฟหลากสี ดีงามมาก ถ้าไปตรงช่วงงานพอดีนะ อย่าพลาดเลยเชียว
11. ศูนย์วัฒนธรรมไทย – จีน
เพราะเมืองอุดรธานีเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เพียบ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีการรวบรวมเรื่องราวประวัติที่มาของชาวไทยและจีนเอาไว้ในเมืองนี้ ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับศาลเจ้าปู่ – ย่า ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนอุดรธานี สร้างขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมที่สวยงามในแบบจีนสีสันสดใส นอกจากมีประวัติความเป็นมาของชาวจีนในอุดรฯ แล้วนะ ที่นี่ยังมีพันธุ์ไม้หายาก ร้านคาเฟ่ ร้านชาที่มีชาดีๆ สารพัดรูปแบบให้เลือกชิม มีโรงหนังสามมิติที่ฉายเรื่องราวของชาวจีนในอุดร มีร้านขายของที่ระลึก มีจุดให้เช่าชุดจีนแจ่มๆ ไว้แต่งคอสเพลย์ถ่ายรูปเก็บไว้ดูกัน เรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัยในอีกรูปแบบนึงเลยละ มาสิ สนุกเว่อร์
12. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท
มีพื้นที่ 3,430 ไร่ ถือเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของเมืองอุดรฯ เลยละ ภายในมีเพิงหินและเสาหินตามธรรมชาติกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป โดยส่วนใหญ่เป็นหินทรายซึ่งถูกแรงลมกัดเซาะจนเกิดเป็นรูปร่างแปลกตา อายุอานามก็อยู่ที่ประมาณ 130 ปีกว่าๆ เท่านั้นเอ๊งงงงงงงง นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของ รอยพระพุทธบาทบัวบก ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทที่อยู่ลึกลงไปในหินประมาณ 60 เซนติเมตร อีกแห่งคือ พระพุทธบาทหลังเต่า ซึ่งเป็นรอยพระบาทที่อยู่ลึกลงไปในชั้นหินราวๆ 25 เซนติเมตร ใจกลางสลักเป็นดอกบัว อีกหนึ่งไฮไลท์คือหิน หอนางอุสา ซึ่งเป็นหินลักษณะคล้ายเห็ด อันเป็นที่มาของตำนานพื้นบ้านเรื่องนางอุสา – ท้าวบารส ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไง ต้องไปหาอ่านกันเอาเด้ออออ
13. พิพิธภัณฑ์เมือง
เป็นอาคารรูปแบบโคโลเนียลสีเหลืองสดใส และเป็นอาคารเก่าแก่หลังหนึ่งในเมืองอุดรธานี ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อ พ.ศ.2557 นี่เองนะ โดยมีการบูรณะพัฒนาและนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสมผสาน จนทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีความน่าสนใจและร่วมสมัย โดยบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาตั้งแต่สมัยแผ่นดินอีสานจมอยู่ใต้ทะเลโน่นนนน แล้วขอบอกเลยว่ามุมสวยๆ ที่อยู่ข้างในอ่ะ เพียบเลยจ้า ดูเพลินมาก ใกล้กันยังมีอาคารสวยหรูดูโมเดิร์น ซึ่งเป็นอาคารศูนย์บริการ ภายในมีร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก จุดชมวิว และห้องน้ำ แนะนำให้มานะ เพราะที่นี่คือชิคมาก คูลสุด เพลินจริง
14. ภูฝอยลม
เป็นอีกหนึ่งผืนป่าต้นน้ำของเมืองอุดรธานี ที่ด้านบนเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์ล้านปี รวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของบรรดาเหล่าสัตว์โลกเก่าแก่อย่างเช่นไดโนเสาร์หรือซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ทั้งหลาย แต่ที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ต้องยกให้บรรดาสวนดอกไม้ทั้งหลายที่อยู่ด้านบนจ้ะ ถือว่าเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยอดฮิตที่ทุกคนต้องแวะมา เค้ามีการปลูกดอกไม้สลับกันไปทั้งปีตามฤดูกาล ที่นี่มาเที่ยวง่ายนะ เพราะสามารถขับรถขึ้นมาถึงข้างบนได้เลย สวย ง่าย สบาย สะดวก ครบเลย
15. บ่อเกลือบ้านดุง
หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าอุดรธานีน่ะ เป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ที่ใหญ่แห่งหนึ่งของไทยเลยเด้ออ โดยมีพื้นที่ผลิตเกลือทั้งหมดอยู่ถึงประมาณ 3,000 ไร่! เรียกว่าการผลิตเกลือกลายเป็นรายได้ของผู้คนหลายหมู่บ้านในอำเภอนี้เลยนะ นอกจากการมาแวะดูกรรมวิธีการผลิตเกลือภูเขาแบบพื้นบ้านแล้ว ที่นี่ยังมีสปาเกลือแห่งเดียวของประเทศไทยอยู่ด้วยนะ โดยมีบริการแช่ตัวและแช่เท้าด้วยน้ำเกลืออุ่นจากภูมิปัญญาชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์สปาจากเกลือให้ได้แวะเลือกแวะช้อปกันด้วยเด้อ แหวกแนวอ่ะ หายากนะ อย่าพลาดเชียว
ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยว่าเมืองอุดรธานีน่ะมีที่เที่ยวมากมายขนาดนี้ นี่ยังเอามาบอกกันไม่หมดนะ แค่ยกมาเฉพาะสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เท่านั้น จดลงลิสต์ไว้แล้วใช้ปักหมุดเที่ยวอุดรกันได้ในคราวหน้าเลยจ้า บอกเลยว่าทริปอุดรฯ ครั้งหน้า ไม่มีเซ็งไม่มีเบื่อชัวร์ๆ เลยละ รับประกัน
ที่มา :: Traveloka Thailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น