เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน เสด็จร่วมงานราชวงศ์ครั้งแรก
ควีนไม่เสด็จ แต่สื่อได้ช็อตเด็ด เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน มาร่วมราชพิธีครั้งแรกในรอบสองปี หลังทรงถอนตัวจากราชวงศ์ชั้นสูง จนเป็นเรื่องขุ่นเคืองกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าชายวิลเลียม
วันที่ 3 มิถุนายน 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน คู่รักราชวงศ์อังกฤษผู้โด่งดังจากการถอนตัวจากสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงตั้งแต่ 2 ปีก่อน เดินทางมาร่วมพระราชพิธีฉลองสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งสหราชอาณาจักร ครองราชย์ครบ 70 ปี เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี

พระราชพิธีดังกล่าวจัดที่โบสถ์เซนต์ปอล กรุงลอนดอน ควีนทรงงดเสด็จ เนื่องจากทรงต้องพักเพื่อพระสุขภาพ หลังจากเสด็จทรงร่วมงานฉลองในวันแรกตลอดวันจากทั้งหมด 4 วัน โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระราชโอรส ทรงเป็นประธานในราชพิธีทางศาสนาครั้งนี้แทน

ด้านเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนเป็นจุดสนใจพิเศษของสื่อมวลชน เนื่องจากไม่ได้ทรงร่วมงานของราชวงศ์มานานสองปี นับจากที่ย้ายไปใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังทรงมีข่าวขัดแย้งกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าชายวิลเลียม จากการถอนตัวดังกล่าว พร้อมกับที่เกิดประเด็นอื้อฉาวเรื่องเหยียดสีผิว และบูลลี่เจ้าหน้าที่วัง
แต่ครั้งนี้ทั้งสองเสด็จมาร่วมงานในโอกาสพิเศษ โดยมีรายงานว่า ทรงพระโอรสและธิดา อาชี และลิลิเบต เพื่อเข้าเฝ้าควีนเป็นการส่วนพระองค์ด้วย


เจ้าชายแฮร์รีทรงจับมือเมแกนเกือบตลอดการเสด็จเข้าโบสถ์เซนต์ปอล โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งตามเสด็จ ทั้งสองยืนประทับอยู่แถวที่สองของราชวงศ์ในกลุ่มของสมาชิกที่ไม่ได้ปฏิบัติพระกรณียกิจ
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ในฐานะผู้แทนควีน นั่งเก้าอี้พิเศษแถวหน้าสุด พร้อมดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ เช่นเดียวกับ เจ้าชายวิลเลียม และเคต ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์
สื่ออังกฤษพากันรายงานว่า เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนประทับอยู่ไกลจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าชายวิลเลียม และไม่มีจังหวะสบตาหรือทรงทักทายใดๆ ต่อกัน

ควีนทรงพยายามอย่างดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม เอ็ด โอเวนส์ ผู้เขียนหนังสือราชวงศ์เรื่อง “The Family Firm: Monarchy Mass Media and the British Public 1932-53” กล่าวว่า โอกาสครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงนำสมาชิกในครอบครัวมาร่วมงานเดียวกัน และอาจเป็นครั้งสุดท้ายในการครองราชย์ของพระองค์ ก่อนที่จะทรงส่งมอบราชบัลลังก์


“พระองค์แสดงให้เห็นทางสาธารณชนว่า พระองค์ทรงพยายามทำอย่างดีที่สุดที่จะเชื่อมต่อทุกฝ่ายให้รวมกัน และทรงนำสมาชิกราชวงศ์สู่สาธารณชนเป็นกลุ่มครอบครัวในช่วงสองสามปีมานี้” โอเวนส์กล่าว
พิธีทางศาสนาที่โบสถ์เซนต์ปอลมีต่อเนื่องจากงานวันแรกที่เป็นพิธีสวนสนามกองเกียรติยศ. ที่ควีนเสด็จออกสีหนบัญชรพร้อมสมาชิกในครอบครัว ณ พระราชวังบักกิงแฮม กรุงลอนดอน จากนั้นในช่วงค่ำทรงร่วมพิธีจุดไฟสัญญาณ ที่พระราชวังวินด์เซอร์


แหล่งข่าวในสำนักพระราชวังเผยว่า ควีนทรงพระเกษมสำราญในงานฉลอง แต่ตัดสินพระทัยไม่เสด็จงานวันที่สอง เพราะจะมากเกินไป หากต้องเดินทางจากวินด์เซอร์มากรุงลอนดอนอีกครั้ง พระองค์จึงทอดพระเนตรงานที่พระราชโอรสทรงทำหน้าที่แทน

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น