การสร้างรายได้จาก Line Voom
เงื่อนไขการสร้างรายได้จาก Line Voom
1. มีผู้ติดตาม 300 คนขึ้นไปและมีการดูวิดีโอ 30 ชั่วโมงขึ้นไปในเดือนที่ผ่านมา คุณสามารถสมัครเพื่อสร้างรายได้ได้ทันทีที่มีคุณสมบัติครบถ้วน2. เลือกประเภทและหมวดหมู่ของโฆษณาเพื่อแสดงในคอนเทนต์ของคุณ
3. ทาง Line Voom จะตรวจสอบเนื้อหาบัญชีของคุณว่าเป็นไปตามไกด์ไลน์สำหรับการสร้างรายได้หรือไม่
LINE VOOM คืออะไร? อีก 1 เรื่องที่ชาวการตลาดต้องรู้
LINE VOOM คืออะไร? จริง ๆ แล้ว LINE VOOM คือพื้นที่ที่รวบรวมคอนเทนต์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ คลิปสั้น หรือคอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ บนแอปพลิเคชัน LINE ซึ่งพูดได้ว่า LINE VOOM คือเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ที่เป็นบริการล่าสุดจากแอปพลิเคชัน LINE นั่นเอง
ซึ่งคำว่า “VOOM” จากบริการ LINE นี้ เป็นศัพท์ที่ไม่ได้มีความหมายตรงตัวอะไร เพียงแต่เป็นคำที่เกิดจากการรวมกันของ ‘Video Room’, ‘Visual Room’ และ ‘Boom’ จนทำให้ LINE VOOM คือพื้นที่ที่อัดแน่นไปด้วยวิดีโอและคอนเทนต์ที่หลากหลาย
LINE VOOM คือหน้าที่มาแทน Timeline ปกติ หรือไม่?
แน่นอนว่าเพื่อน ๆ คงอาจจะเห็น Icon ที่มีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยม พร้อมคำว่า VOOM อยู่ตรงกลางหน้าแชตในแอปพลิเคชัน LINE กันมาบ้างแล้ว และคงมีความอยากรู้ไม่น้อยว่าสามเหลี่ยมที่ขึ้นมาพร้อมกับ VOOM คืออะไร ซึ่งเมื่อเราลองกดเข้าไปก็จะเจอแท็บ “For you” กับ “Following” ให้เลือก โดยด้านล่างลงมานั้นก็เป็นวิดีโอต่าง ๆ หรือเป็นข่าวคราวการอัปเดตที่เพื่อน ๆ ใน LINE ของเราพิมพ์ไว้
เมื่อถึงตรงนี้หลายคนคงจะเกิดอาการงงกันแล้วว่า LINE VOOM คือหน้าที่มาแทน Timeline ปกติ ของ LINE หรือไม่? แล้วหน้า Timeline ปกติแบบเดิมหายไปไหน? ยังมีอยู่เหมือนเดิมหรือไม่? ซึ่ง LINE VOOM จะแยกออกได้เป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นแท็บ “For you” และ “Following” เมื่อเราลองกดเข้าไปใน LINE VOOM แล้ว ก็จะเจอกับแท็บอันใหม่ที่โผล่ขึ้นมา อย่าง “For You” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่จะรวบรวมคอนเทนต์ต่าง ๆ ส่วนมากจะเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ ให้ธุรกิจ แบรนด์ หรือเหล่า Creator ที่มี LINE OA อยู่แล้วสามารถอัปโหลดคอนเทนต์ต่าง ๆ ลงไป เพื่อให้เหล่าผู้ใช้งาน LINE เห็นเรามากขึ้น สร้าง Awareness ให้กับแบรนด์ และตอบโจทย์กับการใช้งานของ Users ทั้งหลายในปัจจุบัน ถัดมาก็จะเป็นแท็บ “Following” โดยในแท็บนี้ใน LINE VOOM คือจะเป็นฟีเจอร์ที่มีความคล้ายกับหน้า Timeline เดิม เป็นหน้า Feeds ที่มีโพสต์จากเพื่อนใน LINE หรือเพื่อนที่กดติดตาม ซึ่งเราอยากบอกว่าหน้า Timeline นั้นไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่มันซ่อนอยู่ตรงแท็บ “Following” ของ Voom นี่แหละ
คิดง่ายๆ ก็คือจากที่ LINE เป็นเพียงแอปแชต ก็ได้มูฟขยับไปแตะฝั่งที่เป็น Social Media Platform มากขึ้น โดย LINE VOOM คือพื้นที่ที่เน้นการลงคอนเทนต์เป็นวิดีโอสั้น ๆ มีฟังก์ชันการใช้งานให้เราติดตามคนอื่นได้คล้ายๆ กับ TikTok หรือ Instagram
กดติดตามใน LINE VOOM ก็เป็นเพื่อนกันแล้วจริงหรือ ?
บางคนถึงตรงนี้แล้วก็ยังสงสัยเพิ่มเติมอีกว่า แล้ว “เพิ่มเพื่อน” นี่ยังไง? ยังมีอยู่เหมือนเดิมไหม? หรือแค่กดติดตามก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันใน LINE แล้ว? คำตอบก็คือ ถ้ากลับมาในหน้าแชตปกติ ฟังก์ชันเพิ่มเพื่อนก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่พอมาหน้าของ VOOM ส่วนของ “For You” จะขึ้นเป็นการ Follow แทน
ทีนี้ Follow คนอื่น ๆ ในหน้า VOOM แล้วยังไงต่อ? จาก Pop-up ที่เด้งมาเวลาเรากด Follow ใครก็ตามใน VOOM ที่ว่า…
“What following someone means
You can now see new posts made by anyone you follow on LINE VOOM!
To stop seeing someone’s updates, go to “Manage LINE VOOM updates” in LINE VOOM settings to unfollow them.
Please note that following someone doesn’t mean you can send or receive messages from them. To message someone, you must first add them as a friend.”
ซึ่งความหมายก็คือ ถึงแม้จะกด Follow กันใน VOOM แต่ก็แค่ Follow กันเท่านั้น ไม่ได้ถือเป็นเพื่อนกันแต่อย่างใด และไม่สามารถส่ง Message ไปหากันได้ ถ้าอยากส่ง Message ไปหาได้ อย่างไรก็ต้องแอดเป็นเพื่อนอยู่ดี (มันก็เหมือนกับการที่เรา Follow ใครก็ตามใน TikTok นั่นแหละ) ซึ่งถ้าวันนึงเกิดไม่อยากเห็นคอนเทนต์ของคนคนนั้นแล้วก็แค่กด Unfollow เท่านั้นเอง
วิธีอัปโหลดคอนเทนต์ลง LINE VOOM
อย่างที่รู้กันไปแล้วว่า LINE VOOM คืออะไร LINE VOOM คือพื้นที่ที่เน้นการลงคอนเทนต์เป็นวิดีโอสั้น ๆ แต่ก่อนที่เราจะเห็นวิดีโอใน VOOM นั้น เราจะโพสต์ Video สั้น หรืออัปโหลดคอนเทนต์ผ่านหน้า “For You” ของ VOOM ได้อย่างไร? ในส่วนนี้เราได้หาคำตอบมาให้แล้ว สำหรับผู้ใช้งานคนไหนที่อยากอัปโหลดคอนเทนต์ต่าง ๆ ลงไปใน VOOM นั้น สิ่งสำคัญเลยก็คือต้องมีบัญชี LINE OA เป็นของตัวเอง หรือของร้าน ของแบรนด์
วิธีเชื่อม LINE OA กับ LINE VOOM
ก่อนอื่นเลยคือต้องเชื่อม LINE OA กับ LINE VOOM ก่อน โดยวิธีในการเชื่อม มีดังนี้
- กลับมาที่หน้า VOOM จากนั้นมองที่มุมขวาของจอก็จะเห็นรูป Profile ของเราเล็ก ๆ กลม ๆ ด้านบนนั้น
- คลิกและกด Create Official Account เพื่อสร้าง LINE OA ใหม่เลย หรือถ้ามีอยู่แล้วก็แค่ลิงก์ไปหา LINE OA ที่มีอยู่ (ถ้าใครมีหลาย OA ก็สามารถเพิ่มลงไปได้)
- พอจะโพสต์ก็กดที่ Logo LINE OA ของเราที่ต้องการ มันก็จะโผล่มาเป็นหน้าให้สร้างโพสต์แรก จากนั้นก็เริ่มสร้างได้เลย
หลังจากเชื่อม LINE OA กับ LINE VOOM เรียบร้อยแล้ว มีคอนเทนต์ประเภทไหนบ้างที่เราสามารถอัปโหลดลงไปใน LINE VOOM ได้บ้าง?
- Photo – รูปนิ่งธรรมดา
- Video – วิดีโอ
- Sticker – สติกเกอร์ใน LINE OA ของเรา
- Map – แผนที่
- Coupon – คูปอง (ดึงมาจาก LINE OA ของเรา)
- Survey – แบบสอบถาม (ดึงมาจาก LINE OA ของเราเหมือนกัน)
เมื่อเลือกประเภทของคอนเทนต์ที่จะลงได้แล้ว จากนั้นก็สามารถใส่ Caption เขียนประกอบ, ใส่ #Hashtag, หรือจะใส่ Location ไว้ก็ได้ ทั้งยังสามารถเลือกได้ว่าจะให้โพสต์ที่สร้างนี้เป็นแค่ Draft ที่สร้างไว้เฉย ๆ ยังไม่ลง หรือจะ Schedule ตั้งเวลาไว้เพื่อลงตอนไหนก็ได้ ในส่วนการอัปคอนเทนต์ลงไปนี่ ทาง ADME ว่ามันมีความคล้ายกับการโพสต์รูปลงไปในไอจี
นอกจากนี้หากเรา LOGIN เข้าไปจัดการหน้า LINE VOOM ผ่านทาง Desktop (linevoom.line.me) สิ่งที่ทำได้จะเป็นแค่การเข้าไปจัดการหน้า “Following” หรือก็คือหน้า “LINE Timeline” เดิม
ข้อควรระวังสำหรับการลงคอนเทนต์ LINE VOOM
จากประเภทคอนเทนต์สำหรับการลงโพสต์ จะเห็นได้ว่า LINE VOOM คือพื้นที่ที่สามารถโพสต์ได้ ทั้งคอนเทนต์ที่เป็นทั้งรูปภาพและวิดีโอ ซึ่งในการโพสต์นั้นก็จะมีข้อควรระวังเกี่ยวกับรูปแบบไฟล์และขนาดของไฟล์ที่สามารถอัปโหลดเพื่อโพสต์ลงใน VOOM ได้ เพราะหากไม่ตรงตามเกณฑ์เหล่านี้ก็จะไม่สามารถอัปโหลดได้
- รูปแบบไฟล์สำหรับรูปภาพ ต้องเป็นไฟล์ JPG, JPEG หรือ PNG
- ขนาดไฟล์สำหรับรูปภาพ ต้องมีขนาดไม่เกิน 10MB หรือน้อยกว่า
- รูปแบบไฟล์สำหรับวิดีโอที่แนะนำ MP4, M4V, MOV, AVI, WMV
- ขนาดไฟล์สำหรับวิดีโอ ต้องมีขนาดไม่เกิน 500MB หรือน้อยกว่า
- เวลาในการเล่นสำหรับวิดีโอ ไม่เกิน 20 นาที หรือน้อยกว่า
ซึ่งหากคอนเทนต์วิดีโอที่ลงมีขนาดไฟล์และเวลาในการเล่นเกินค่าที่กำหนดก็จะไม่สามารถอัปโหลดวิดีโอนั้นลงใน VOOM ได้เช่นกัน และที่สำคัญยังมีข้อควรระวังอื่น ๆ ของการอัปโหลด เพื่อลงโพสต์ใน LINE VOOM คือ…
- ความยาวของข้อความต้องไม่เกิน 1,000 ตัวอักษร
- รูป, วิดีโอ รวมกันในโพสต์ไม่เกิน 20 ไฟล์
- สติกเกอร์ปกติในโพสต์ไม่เกิน 20 รูป
- สติกเกอร์มีเสียง, สติกเกอร์แอนิเมชัน, สติกเกอร์ Pop up รวมกันไม่เกิน 1 รูป ซึ่งไม่สามารถโพสต์พร้อมกับสติกเกอร์ปกติได้
- ลิงก์ หรือข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง อย่างละไม่เกิน 1 ข้อมูล
ข้อดีของ LINE VOOM สำหรับธุรกิจ
ข้อดีสำหรับธุรกิจของ VOOM คืออะไร มีข้อดีอะไรสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ของแบรนด์ หรือธุรกิจหรือไม่? แน่นอนว่ามี เพราะ LINE VOOM คือเครื่องมือสำหรับการทำการตลาดออนไลน์อีกอย่างหนึ่ง มันจะเป็น 1 ใน Placement ที่สามารถโชว์โฆษณาเวลาที่ทางแบรนด์ หรือธุรกิจสร้างโฆษณาผ่านช่องทาง LINE Ads Platform (LINE LAP) ได้นั่นเอง ซึ่งมาพร้อมข้อดีสำหรับธุรกิจ ดังนี้
เข้าถึงผู้คนได้มากมายอย่างอิสระ
ข้อดีอย่างแรกของ LINE VOOM คือความสามารถในการโพสต์ไปได้อย่างอิสระทั่วโลกในลักษณะเดียวกับ Twitter และ Instagram การใช้ LINE VOOM จะทำให้ธุรกิจสามารถส่งข้อมูลไปยังผู้คนจำนวนมากขึ้นได้ โดยที่สามารถแบ่งปันคอนเทนต์ต่าง ๆ กับคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนได้ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบใหญ่ของ LINE VOOM เลย
สื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น
เนื่องจาก LINE VOOM มีฟังก์ชันให้กดถูกใจ, แชร์ และความคิดเห็น ในโพสต์ที่อัปโหลดลงไป จึงสามารถทำให้การสื่อสารระหว่างแบรนด์กับลูกค้า หรือผู้ใช้อื่น ๆ เกิดขึ้นได้อย่างราบรื่นและง่ายขึ้น นอกจากนี้โพสต์ของ LINE VOOM จะไม่ส่งการแจ้งเตือน ถึงแม้ว่าจะโพสต์ไปแล้ว ดังนั้นการโพสต์บ่อย ๆ จะไม่เป็นการรบกวนลูกค้าที่ติดตามอย่างแน่นอน ข้อดีในส่วนนี้ของ LINE VOOM คือสามารถส่งข้อมูลจำนวนมากได้ง่ายขึ้นในขณะที่สามารถรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ในเวลาเดียวกัน
โพสต์ได้ฟรีไม่จำกัด
ข้อดีสำหรับตัวเลือกแบบฟรีของ LINE VOOM คือ ธุรกิจสามารถส่งข้อความได้เพียง 1,000 ข้อความต่อเดือน เพื่อเข้าถึงลูกค้าโดยตรงจากบัญชีทางการของ LINE หากจำนวนเพื่อนใน Line เกิน 1,000 คน ก็จะไม่สามารถส่งข้อความถึงทุกคนพร้อมกันได้ แต่อย่างไรก็ตาม LINE VOOM ไม่มีการจำกัดจำนวนโพสต์ และไม่มีค่าใช้จ่ายในการโพสต์ สามารถอัปโหลดคอนเทนต์และโพสต์กี่ครั้งก็ได้ฟรี
เทคนิคเพิ่มยอดขาย ดึงดูดลูกค้าจาก LINE VOOM สำหรับธุรกิจ
แม้ว่าลูกค้าหรือเพื่อนของลูกค้าจะเห็นคอนเทนต์การขายผ่าน LINE VOOM แต่ถ้าไม่ได้คลิกเข้ามาดู ก็จะไม่เกิดการซื้อสินค้าของแบรนด์ หรือการเข้ามาเยี่ยมชมร้านค้า ดังนั้นคอนเทนต์ที่อยู่บน LINE VOOM ควรปรับเปลี่ยนโพสต์ หรือเนื้อหาที่ทำให้ผู้คนอยากคลิกมากขึ้น
เลือกใช้สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้า
สิ่งแรกที่จะทำให้ผู้คน หรือลูกค้าสนใจคอนเทนต์การขายบน LINE VOOM คือ การเลือกใช้ภาพ หรือวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจตามช่วงอายุของกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ เนื่องจากธรรมชาติของคอนเทนต์ที่โพสต์ลง LINE VOOM จะถูกเลื่อนและอ่านผ่านไปอย่างรวดเร็ว การเลือกสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของคนภายในเวลาไม่ถึงวินาที ดังนั้นการย่อสิ่งที่ทางแบรนด์ หรือธุรกิจต้องการสื่อและลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออก เพื่อสร้างรูปแบบคอนเทนต์ที่ทำให้เข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อได้ง่ายจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก
ใช้ภาพที่สวยงาม
การใช้ภาพที่ผ่านการถ่าย และปรับสีสันอย่างเหมาะสม สามารถดึงดูดคนให้สนใจได้ ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นพวกของกิน อาหาร มันจะเป็นความรู้สึกที่ดูน่ากินมากขึ้น และถ้าหากเป็นธุรกิจร้านค้าอื่น ๆ ด้วยการถ่ายภาพที่เต็มไปด้วยความสมจริง ก็จะทำให้คนสนใจได้ง่ายเช่นกัน
ปรับความยาวข้อความในโพสต์ให้เหมาะสม
การปรับความยาวสำหรับข้อความที่โพสต์ใน LINE VOOM คืออะไร จริง ๆ แล้ว มันคือการลดข้อความที่ไม่จำเป็น ใช้ตัวอักษรให้น้อยที่สุด แต่ยังสื่อความหมายได้ชัดเจน ซึ่งสมาธิของคนยุคใหม่ในการอ่านอะไรบางอย่าง จะมีความตั้งใจในเวลา 10 วินาทีแรกเท่านั้น ดังนั้นจำนวนตัวอักษรที่สามารถเข้าใจได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที ก็คือประมาณ 80 ตัวอักษร แต่ถ้าหากนานกว่านั้น ก็อาจทำให้ผู้ที่เห็นกดออกและไม่อ่านเนื้อหานั้นจนจบ และเมื่อแบรนด์ หรือธุรกิจมีข้อมูลจำนวนมากที่จะสื่อ อย่าพยายามยัดเยียดเนื้อหามากเกินไป ควรจะแบ่งโพสต์ออกเป็นหลายโพสต์
ควรมี 1 URL ต่อ 1 โพสต์
หากแนบลิงก์ หรือ URL ไปกับโพสต์บน LINE VOOM การเชื่อมโยงนั้นจะนำไปสู่เว็บไซต์ หรือช่องทางการขายอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีลิงก์ หรือ URL มากเกินไปก็จะทำให้ผู้ใช้สับสน และไม่สามารถ Lead คนเหล่านั้นไปยังช่องทางที่ต้องการได้
เพิ่มแฮชแท็ก
ธุรกิจ หรือแบรนด์สามารถโพสต์แฮชแท็กบน LINE VOOM ได้ เช่นเดียวกับช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อาจเป็นข้อความเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่จะเป็นการดีที่จะใส่อยู่ในจุดเริ่มต้นเพิ่มเติมในโพสต์
ที่มา :: kimpao-c.com , https://www.admeadme.co/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น