เมนูข้าวโอ๊ตลดความอ้วน อาหารเช้ามื้อคุณภาพ อิ่มง่าย ๆ ไขมันต่ำ
1. โจ๊กข้าวโอ๊ต
เริ่มกันที่เมนูข้าวโอ๊ตสูตรแรกเลยคือ โจ๊กข้าวโอ๊ต ที่ประยุกต์ใช้ข้าวโอ๊ตแทนข้าวขาว หรือปลายข้าวที่เราคุ้นเคยกันสูตรจากเฟซบุ๊ก Homemade Clean Food เพิ่มโปรตีนด้วยไก่สับนุ่ม ๆ ที่สำคัญใช้น้ำซุปกระดูกไก่ที่ช้อนเอาไขมันออกไปแล้วด้วย แอบกระซิบว่า ทำง่ายเว่อร์ ๆ ลองสักชามดีไหม ?
ส่วนผสม โจ๊กข้าวโอ๊ต
► ไก่สับ
► ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา
► พริกไทยป่น
► น้ำมันงา 1-2 หยด
► น้ำซุปกระดูกไก่
► ข้าวโอ๊ต 50-100 กรัม
► ขิงซอย
► ต้นหอมซอย
► พริกไทยป่น
วิธีทำโจ๊กข้าวโอ๊ต
1. หมักไก่สับกับซีอิ๊วขาว พริกไทย และน้ำมันงาเข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง (เพื่อไก่สับจะมีรสชาติดี)
2. ต้มน้ำซุปกระดูกไก่ จากนั้นตักใส่ถุงแล้วนำไปแช่เย็นจนไขมันจับเป็นก้อน ตักหรือกรองเอาไขมันแข็ง ๆ ออก
3. นำน้ำซุปที่ตักไขมันออกมาต้มอีกครั้ง ใส่ไก่สับที่หมักไว้ลงต้มจนสุก
4. ใส่ข้าวโอ๊ตลงไปต้มจนสุก ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยขิงซอย ต้นหอมซอย และพริกไทยป่น
2. โจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้ง
เมนูข้าวโอ๊ตสูตรนี้ก็ยังเป็นโจ๊กข้าวโอ๊ตอยู่เช่นเดิม ขอแนะนำโจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้งสูตรจากอินสตาแกรม simplydesigncooking จุดเด่นคือ เอากุ้งไปหมักด้วยทำให้มีกลิ่นหอมของกระเทียมแซมความเผ็ดนิด ๆ จากปาปริก้า หลังจากผัดกุ้งจนสุกแล้วก็เอามาโปะบนโจ๊กข้าวโอ๊ตได้เลยจ้า ทั้งนี้อาจเพิ่มไข่ลวกลงไปสักฟองก็ได้นะคะ แหม… จินตนาการถึงไข่แดงเยิ้ม ๆ บนเนื้อโจ๊กแล้วน้ำลายไหลเลยค่ะ
ส่วนผสม โจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้ง
► ข้าวโอ๊ต
► น้ำเปล่า
► กุ้งสด
► ผงกระเทียม
► ปาปริก้า
► ซีอิ๊วขาว
วิธีทำโจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้ง
1. ต้มข้าวโอ๊ตกับน้ำเปล่าจนสุก ตักใส่ภาชนะ เตรียมไว้
2. ผัดกุ้งกับผงกระเทียมและปาปริก้าจนสุก ตักขึ้นมาราดบนโจ๊กข้าวโอ๊ต ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 35 เมนูอาหารลดน้ำหนัก หน้าตาดีสีสันเริด กินให้ดีลดไป 10 กิโลกรัม
3. ข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัป
หลังจากกินโจ๊กข้าวโอ๊ตมาหลายวันแบบไม่ต้องเคี้ยวอะไรมากมายถึงคราวสลับมากินข้าวโอ๊ตแบบกรอบออกแรงเคี้ยวหน่อยดีกว่า ขอแนะนำข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัปสูตรจากคุณน้องซาแมนต้า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมทำง่ายมากเลยค่ะ เอาข้าวโอ๊ต คอร์นเฟล็ก ถั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรืออื่น ๆ ตามชอบไปคลุกเคล้ากับเมเปิลไซรัปแล้วอบ หอมกรุ่นจริงเชียว เอาไว้กินกับโยเกิร์ตหรือนมสดก็เข้าท่านะคะ
ส่วนผสม ข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัป
► ถั่วลิสงอบหรือคั่ว 1 ถ้วย (หรือจะใช้เป็นถั่ววอลนัท อัลมอนด์ หรือพืชตระกูลถั่วอื่น ๆ ตามชอบ)
► ข้าวโอ๊ต 3 ถ้วย
► มะพร้าวขูดอบแห้ง 1 ถ้วย
► คอร์นเฟล็ก 1 ถ้วย
► น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย
► เกลือป่น 1 ช้อนชา
► เนยจืดละลาย ประมาณ 1/2 ถ้วย
► เมเปิลไซรัป 1/2 ถ้วย
► เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ถ้วย
► น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง (น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำร้อนประมาณ 1/2 ถ้วย)
วิธีทำข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัป
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในอ่างผสม คนผสมเข้าด้วยกัน
2. นำใส่ถาดสำหรับอบ เกลี่ยให้ทั่ว
3. ยกถาดเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 300 องศาฟาเรนไฮต์ อบนานประมาณ 30 นาที ปิดไฟแล้วพักไว้ในเตาอบต่ออีก 10 นาที นำออกจากเตาอบ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัป ธัญพืชอบอร่อยยิ่งกว่าคาราเมลคอร์นเฟล็ก
4. แพนเค้กข้าวโอ๊ต
อาหารเช้าจากข้าวโอ๊ตนอกจากมีโจ๊กข้าวโอ๊ตและข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัปแล้ว ยังมีเมนูเบเกอรี่ด้วยนะคะ ขอนำเสนอแพนเค้กข้าวโอ๊ตสูตรจากอินสตาแกรม simplydesigncooking ใช้ข้าวโอ๊ตแทนแป้งขาวผสมกับนมสดและไข่ไก่ เอาไปทอดในกระทะจนสุก เสิร์ฟพร้อมผลไม้ตามชอบ อูย... น่าลองอย่างแรง สนใจเมนูข้าวโอ๊ตลดความอ้วนจานนี้กันแล้วใช่ไหมคะ เข้าครัวกันได้เลยค่ะ
ส่วนผสม แพนเค้กข้าวโอ๊ต
► ข้าวโอ๊ต
► นมสด
► ไข่ไก่
► ผลไม้ตามชอบ
วิธีทำแพนเค้กข้าวโอ๊ต
1. ปั่นข้าวโอ๊ต นมสด และไข่ไก่ให้ละเอียดใช้แทนแป้งขาว
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 35 เมนูอาหารลดน้ำหนัก หน้าตาดีสีสันเริด กินให้ดีลดไป 10 กิโลกรัม
5. แพนเค้กฟักทองและข้าวโอ๊ต
ใครยังไม่จุใจกับเมนูแพนเค้ก มาต่อกันที่แพนเค้กฟักทองและข้าวโอ๊ตสูตรจากคุณ LittleFilmz สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่ข้าวโอ๊ตผสมกับฟักทองบด ดูคลีนสุด ๆ เลยค่ะ ทอดเสร็จแล้วก็ท็อปปิ้งให้สวยงามด้วยโยเกิร์ตและอัลมอนด์สไลซ์ ถ้าชอบทานหวานก็ราดน้ำผึ้งลงไปหน่อยนะคะ
ส่วนผสม แพนเค้กฟักทองและข้าวโอ๊ต
► ข้าวโอ๊ตป่น
► ฟักทองบด
► ไข่ไก่
► ผงฟู
► กลิ่นวานิลลา
► นมถั่วเหลือง
► น้ำผึ้ง
► ผลไม้
► โยเกิร์ต
► อัลมอนด์สไลซ์
วิธีทำแพนเค้กฟักทองและข้าวโอ๊ต
1. นำข้าวโอ๊ตป่นผสมกับฟักทองบด ใส่ไข่ไก่ ผงฟู กลิ่นวานิลลา และนมถั่วเหลืองลงไปผสมให้เข้ากัน
2. เอาไปทอดจนสุก ทานคู่กับน้ำผึ้งและผลไม้ ท็อปปิ้งด้วยโยเกิร์ตและอัลมอนด์สไลซ์นิดหน่อย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 9 สูตรอาหารคลีนบ้างไม่คลีนบ้าง พิชิตความอ้วน 3 อาทิตย์ 2 กิโลกรัม
6. Overnight Oats
เมนูข้าวโอ๊ตนอกจากทำเป็นของคาวและของหวานได้แล้ว ยังทำเป็นเครื่องดื่มได้อีกด้วย แหม… เลิศมากเลยค่ะ อยากชวนมาลองทำ Overnight Oats หรือข้าวโอ๊ตมิลค์เชค สูตรจากคุณ LittleFilmz สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับส่วนผสมทุกอย่างมาเขย่าแล้วนำไปแช่เย็น พอวันรุ่งขึ้นก็เอาออกมากินได้เลยค่ะ สูตรนี้ใส่ผงโกโก้ด้วยนะคะ เพื่อน ๆ สามารถดัดแปลงใส่ผงชาเขียวแทนก็ได้เช่นกัน ตบท้ายด้วยการโรยสตรอว์เบอร์รีหรือช็อกโกแลตชิพเพิ่มลงไป ดูงดงามเสียจริงเลยแก้วนี้ ต้องลอง
ส่วนผสม อข้าวโอ๊ตมิลค์เชค
► ข้าวโอ๊ต
► เมล็ดเจีย
► กรีกโยเกิร์ต
► ผงโกโก้
► นมถั่วเหลือง
► น้ำผึ้ง
► สตรอว์เบอร์รี
► ช็อกโกแลตชิพ
วิธีทำข้าวโอ๊ตมิลค์เชค
1. ใส่ข้าวโอ๊ต เมล็ดเจีย กรีกโยเกิร์ต ผงโกโก้ นมถั่วเหลือง และน้ำผึ้งลงในขวดปิดฝาเขย่าเลยค่ะ ทำทิ้งไว้ตอนกลางคืน
2. ตื่นเช้ามาก็โรยสตรอว์เบอร์รีและช็อกโกแลตชิพนิดหน่อย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 9 สูตรอาหารคลีนบ้างไม่คลีนบ้าง พิชิตความอ้วน 3 อาทิตย์ 2 กิโลกรัม
7. มัฟฟินข้าวโอ๊ตกล้วย
มัฟฟินข้าวโอ๊ตกล้วยหอม เป็นอีกเมนูข้าวโอ๊ตที่กินมื้อเช้าคู่กับนมสดก็อิ่มสบายท้องค่ะ หรือจะกินเพียว ๆ สักชิ้น หรือสองชิ้นก็อยู่ท้องเหมือนกัน ซึ่งมัฟฟินข้าวโอ๊ตสูตรนี้จาก wellplated.com มีความพิเศษตรงที่ใช้ข้าวโอ๊ตแทนแป้งผสมกับกล้วยหอม เพิ่มกรีกโยเกิร์ตลงไป นอกจากนี้อาจใส่ช็อกโกแลตชิพ ถั่ว หรือธัญพืชตามชอบลงไปได้นะคะ อยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรต้องลองค่ะ
ส่วนผสม มัฟฟินข้าวโอ๊ตกล้วย
► ข้าวโอ๊ต (ชนิด Quick Cooking or Old Fashioned) 2 ถ้วย
► กล้วยหอมสุกลูกใหญ่ 2 ลูก
► ไข่ไก่ 2 ฟอง
► กรีกโยเกิร์ต 1 ถ้วย
► น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ
► ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
► เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
► กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
► เกลือโคเชอร์ 1/8 ช้อนชา
► ช็อกโกแลตชิพ ดาร์กช็อกโกแลตสับ ถั่ว แครนเบอร์รีแห้ง หรือบลูเบอร์รี (สดหรือแช่แข็ง) 1/2 ถ้วย
วิธีทำมัฟฟินข้าวโอ๊ตกล้วย
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมถ้วยกระดาษมัฟฟิน 12 ถ้วย
2. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้หรือเครื่องบดอาหารปั่นจนส่วนผสมเข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 3 นาที แล้วคนส่วนผสมด้วยมือให้เข้ากันอีกครั้ง (ถ้าอยากใส่ช็อกโกแลตชิพ ควรใส่หลังจากแป้งเย็นลงแล้วประมาณ 10 นาที)
3. ใส่ส่วนผสมลงในถ้วยกระดาษมัฟฟิน ประมาณ 3/4 ส่วน โรยด้วยช็อกโกแลตชิพเพิ่มเติมหรือถั่วตามต้องการ นำเข้าอบประมาณ 15 นาที หรือจนแป้งขึ้นฟู นำออกมาวางบนตะแกรงและปล่อยให้มัฟฟินเย็น ประมาณ 10 นาที จัดเสิร์ฟ
8. มัฟฟินข้าวโอ๊ต (สูตรไร้แป้ง ไร้เนย และไร้น้ำมัน)
เมนูข้าวโอ๊ตที่น่าสนใจสูตรสุดท้ายยังเป็นมัฟฟินเหมือนเดิม ขอแนะนำมัฟฟินข้าวโอ๊ตสูตรไร้แป้ง ไร้เนย ไร้น้ำมันจากคุณ peachgirl_pp เนื้อมัฟฟินนุ่มเนียนละมุนลิ้น กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ ยิ่งถ้าได้ชาร้อนอีกแก้วด้วยก็คงดีไม่น้อย แล้วไปหาที่นั่งจิบอยู่ท่ามกลางสวน โอ้... สวรรค์ของคนไม่อยากอ้วนชัด ๆ
ส่วนผสมมัฟฟินข้าวโอ๊ต (สำหรับ 3 ชิ้น)
► ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 50 กรัม
► อัลมอนด์ป่น 20 กรัม
► ผงฟู 1/4 ช้อนชา
► ไข่เบอร์ 0 จำนวน 1 ฟอง
► น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
► เกลือป่นเล็กน้อย
► นมสด 20 กรัม
► โยเกิร์ต 50 กรัม
วิธีทำมัฟฟินข้าวโอ๊ต
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
2. บดข้าวโอ๊ตให้ละเอียด จากนั้นผสมข้าวโอ๊ตบดกับอัลมอนด์ป่น และผงฟูเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
3. ตีไข่ไก่ด้วยตะกร้อมือหรือเครื่องตีแป้งจนเป็นฟอง จากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไปตีให้เข้ากัน ตามด้วยใส่นมสดและโยเกิร์ตลงไปตีผสมให้เข้ากัน สุดท้ายใส่ส่วนผสมข้าวโอ๊ตลงไปตีผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว เทใส่พิมพ์
4. จากนั้นนำไปอบนานประมาณ 25-30 นาทีจนสุก นำออกจากเตา แกะออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟทันที
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มัฟฟินข้าวโอ๊ต สูตรไร้แป้ง ไร้เนย ไร้น้ำมัน ขนมดีของคนรักสุขภาพ
นึกไม่ถึงว่าข้าวโอ๊ตจะสามารถสร้างสรรค์เมนูลดความอ้วน เมื่อก่อนซื้อข้าวโอ๊ตมาเมื่อไรก็เอามาชงเป็นเครื่องดื่มร้อนทุกครั้ง ต่อไปนี้จะทำเป็นเมนูอื่น ๆ หมุนเวียนบ้างจะได้ไม่เบื่อเนอะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ
เมนูข้าวโอ๊ตทำง่าย
เมนูข้าวโอ๊ต
เมนูข้าวโอ๊ต pantip
1.ไข่เจียวข้าวโอ๊ต
วิธีทำ ใส่ข้าวโอ๊ตใส่ถ้วย ใส่ไข่แล้วตีให้เข้ากัน ใส่เครื่องปรุงรส อาจใช้เป็นน้ำปลา หรือแม็กกี้ตามชอบ ใส่หอมใหญ่ และมะเขือเทศหั่นเต๋าลงไป ตีให้เข้ากันอีกครั้ง พักทิ้งไว้ 10 นาที แล้วนำไปทอดในกระทะ เท่านี้ก็ได้ไข่เจียวข้าวโอ๊ตที่ทานอิ่ม
2.โจ๊กข้าวโอ๊ต
วิธีทำ นำน้ำร้อนใส่หม้อตั้งไฟ แล้วใส่ซุปก้อนลงไป พอน้ำเริ่มเดือดก็ใส่ข้าวโอ๊ตลงไป คนไปเรื่อย ๆ จนข้าวโอ๊ตเริ่มพอง หลังจากนั้นใส่ไก่สับลงไป พอไก่เริ่มสุกก็ปรุงรสตามชอบ หรือใส่ซีอิ๊วขาวลงไป ตักใส่ชามเสิร์ฟ โรยขิงซอย ผักชีซอย และไข่ลวก
3.ข้าวโอ๊ตธัญพืช
วิธีทำ น้ำข้าวโอ๊ตไปต้มกับนมให้พองหรือสุก ตักใส่ถ้วย แล้วท็อปด้วยเมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน กล้วยหอม ลูกเกด ลูกพรุน และราดน้ำผึ้งอีกเล็กน้อย ทานเป็นอาหารเช้าได้
4.ไข่ตุ๋นนมสดข้าวโอ๊ต
วิธีทำ นำไข่ไก่ 1 ฟอง ผสมกับนม 150 ml น้ำผึ้งอีก 1 ช้อน แล้วใส่ข้าวโอ๊ตตามใจชอบ ก่อนนำเข้าไมโครเวฟไฟแรงประมาณ 2 นาที เท่านี้ก็ได้ไข่ตุ๋นนมสดข้าวโอ๊ต
เมนูข้าวโอ๊ต ไมโครเวฟ
1.ข้าวโอ๊ตนมสด เมนูไมโครเวฟ อร่อยง่าย ๆ ใน 5 นาที
วัตถุดิบ
- ข้าวโอ๊ต 2/3 ถ้วยตวง
- นมสด 1 1/3 ถ้วยตวง
วิธีทำ
2.เค้กข้าวโอ๊ตลูกเกด สูตรอบด้วยไมโครเวฟ 4 นาที
วัตถุดิบ
- ข้าวโอ๊ตปั่นละเอียด 2 ถ้วยตวง
- ลูกเกดสีทอง และสีดำอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- นมจืด 1 กล่อง (255 ml)
- หญ้าหวาน 1 ซอง
- น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- กลิ่นวนิลานมเนย 1 ช้อนชา
- ลูกเกด และอัลมอนด์สไลด์ไว้โรยหน้าเค้ก
วิธีทำ
3.ไข่อบข้าวโอ๊ต มื้อเช้าเร่งด่วน
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
- มะเขือเทศสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอม ผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย
วิธีทำ
รวม 10 สูตรและวิธีทำ เมนูจากข้าวโอ๊ต
1. โจ๊กข้าวโอ๊ต
เริ่มต้นด้วยเมนูโจ๊กแสนอร่อยกันดีกว่า สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากจะบอกลาข้าวสวยสักพักเราขอแนะนำให้หันมาทำโจ๊กข้าวโอ๊ตทานเลยค่ะ เพราะหลังจากที่เราต้มข้าวโอ๊ตจนสุกดีแล้วตัวเมล็ดข้าวจะนุ่มและทานง่าย เพิ่มสารอาหารจากอกไก่อีกนิด เติมซอสและพริกไทยเพิ่มรสชาติอีกหน่อยเมนูนี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว ทั้งอร่อยและง่ายแบบนี้บอกเลยว่าใช้เวลาทำไม่ถึง 20 นาทีค่ะ เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลาแบบเราสุด ๆ
วัตถุดิบโจ๊กข้าวโอ๊ต
- อกไก่สับ
- ข้าวโอ๊ต
- พริกไทยป่น
- ผงปรุงรส
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำเปล่า
วิธีทำโจ๊กข้าวโอ๊ต
ตั้งหม้อ ใส่น้ำ จากนั้นนำขึ้นตั้งเตาไฟกลางค่ะ รอจนน้ำเริ่มเดือดใส่ผงปรุงรสลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ หลังจากน้ำเดือดอีกครั้งนำข้าวโอ๊ตลงไปต้มและรอจนเมล็ดข้าวบานนิ่ม แนะนำให้ใส่ข้าวโอ๊ตครั้งละน้อย ๆ นะคะ เพราะเมื่อสุกแล้วข้าวจะพองตัวขึ้นอีก ข้าวบานนิ่มแล้วเราจะปั้นอกไก่เป็นก้อนแล้วใส่ลงไปเลยค่ะ ต้มต่อจนไก่สุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวอีกนิด ปิดเตา ตักใส่ถ้วย โรยพริกไทยป่นเพิ่มความหอมเล็กน้อยก็รับประทานได้แล้วค่ะ
2. แพนเค้กข้าวโอ๊ต
เปลี่ยนมื้อเช้าเดิม ๆ มาทำแพนเค้กทานกันดีกว่าค่ะ แต่คนรักสุขภาพแบบเราจะทำแพนเค้กแป้ง ๆ ก็ดูจะไม่ใช่แนวสักเท่าไหร่ หันมาเปลี่ยนแป้งเป็นข้าวโอ๊ตเพิ่มใยอาหารดีกว่า เมนูนี้นอกจากจะอิ่มอร่อยแล้วยังได้คุณค่าจากข้าวโอ๊ตเต็ม ๆ เลย เราจะเริ่มตั้งแต่ปั่นข้าวโอ๊ตแล้วนำไปผสมกับส่วนผสมต่าง ๆ ใส่กล้วยเพิ่มความหอมและรสชาติอร่อย นำไปจี่ในกระทะจนผิวด้านนอกของกตัวแพนเค้กสุกกรอบทั้งสองด้านแต่ด้านในยังคงความนุ่มละมุน ก่อนทานราดน้ำผึ้งอีกนิดและเลือกทานพร้อมผลไม้ที่ชอบ เป็นมื้อเช้าที่สดชื่นสุด ๆ ไปเลย
วัตถุดิบแพนเค้กข้าวโอ๊ต
- ข้าวโอ๊ต
- กล้วยสุก
- ไข่ไก่
- เกลือ
- นมสด
- น้ำผึ้ง
- น้ำมันพืช
วิธีทำแพนเค้กข้าวโอ๊ต
ขั้นตอนแรกเราจะนำข้าวโอ๊ตมาปั่นให้ละเอียดก่อนค่ะ จากนั้นเทข้าวโอ๊ตใส่ภาชนะ ตอกไข่, เทนม, เติมน้ำมันพืชเล็กน้อย, ปอกกล้วยแล้วใส่ลงในภาชนะเลยค่ะ ใช้ส้อมบดและตีให้เนื้อกล้วยและส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีค่ะ ใส่เกลือเพิ่มลงไปอีกนิดเพื่อเพิ่มรสชาติ คนอีกหน่อย ๆ แล้วพักแป้งเอาไว้เพื่อให้ข้าวโอ๊ตดูดน้ำและฟูขึ้นอีกนิดค่ะ
เมื่อแป้งพองตัวได้ที่แล้วตั้งกระทะ เปิดไฟกลางค่อนอ่อนแล้วทาน้ำมันบาง ๆ ค่ะ คนแป้งอีกนิดแล้วตักแป้งเทลงในกระทะให้เป็นวงกลมไม่หนามากนะคะ เมื่อแป้งสุกแล้วแป้งด้านบนจะมีลักษณะแห้งหน่อย ๆ และแซะออกจากกระทะได้ง่ายค่ะ พลิกกลับเอาอีกด้านลงทอดจนแป้งเหลืองกรอบได้ที่ จากนั้นตักใส่จาน ราดน้ำผึ้งเล็กน้อยแล้วทานพร้อมผลไม้ที่ชอบ
3. คุกกี้ข้าวโอ๊ต
ทานข้าวกันจนอิ่มท้องในมื้อเช้าไปแล้วมาทำสแน็กทานกันบ้างดีกว่า คุกกี้ข้าวโอ๊ตถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเพราะนอกจากจะให้พลังงานน้อยแล้วยังเต็มไปด้วยไฟเบอร์อีกด้วยค่ะ ขอบอกเลยว่านอกจากความอร่อยแล้วคุกกี้ข้าวโอ๊ตยังทำง่ายสุด ๆ เพียงแค่เพื่อน ๆ เลือกธัญพืชที่ชอบแล้วนำวัตถุดิบทุกอย่างมาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปเข้าเตาอบจนธัญพืชสุกกรอบกำลังดี เนื้อนำออกมาพักจนหายร้อนแล้วคุกกี้ก็จะแข็งตัวขึ้น มีสัมผัสกรอบ ๆ นุ่ม ๆ แถมยังได้กลิ่นหอมของน้ำผึ้งและผงอบเชยหอม ๆ ช่วยเพิ่มความสุขเข้าไปอีก
วัตถุดิบคุกกี้ข้าวโอ๊ต
- ไข่ไก่
- ข้าวโอ๊ต
- ลูกเกด
- เนยเค็ม
- แป้งสาลีเอนกประสงค์
- เกลือป่น
- เบกกิ้งโซดา
- ผงอบเชย
- น้ำผึ้ง
วิธีทำคุกกี้ข้าวโอ๊ต
ก่อนอื่นเราจะทำการวอร์มเตาอบให้อุ่น ๆ ก่อนนะคะ จากนั้นหันมานำลูกเกดแช่น้ำร้อนนิดนึงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ตอนอบจะได้ไม่ไหม้ จากนั้นละลายเนยแล้วนำมาผสมรวมกับไข่, ผงฟู, เบกกิ้งโซดา, เกลือป่น, ผงอบเชย, ข้าวโอ๊ต และน้ำผึ้ง ผสมให้เข้ากัน
นำลูกเกดที่แช่น้ำไว้จนพองเต็มที่แล้วกรองเอาน้ำออก จากนั้นนำลูกเกดมาผสมรวมกับส่วนผสมที่ทำไว้ก่อนหน้า นำฝามาปิดภาชนะแล้วทิ้งไว้สักครู่ให้ข้าวโอ๊ตดูดความชื้นและนิ่มลงอีกหน่อยค่ะ ข้าวโอ๊ตนิ่มได้ที่แล้วส่วนผสมจะแห้งลงนิดหน่อยจนสามารถปั้นเป็นก้อนได้ ให้เพื่อน ๆ รองกระดาษไขลงบนถาดอบขนม จากนั้นตักเนื้อคุกกี้เป็นก้อนวางลงไป บี้ให้แบนอีกนิดความร้อนจะได้ทั่วถึงกัน วางแบบเว้นระยะห่างนิดหน่อยนะคะ เสร็จแล้วนำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 20 นาที นำออกมาพักให้เย็นสนิทบนตะแกรงแล้วเก็บใส่ขวดหรือนำมารับประทานได้ค่ะ
4. เค้กธัญพืช
คุกกี้อาจจะน้อยไปไม่ค่อยรู้สึกอิ่มสักเท่าไหร่เราจัดเค้กกันเลยดีกว่า แต่แหมขึ้นชื่อว่าเค้กหลายคนก็อาจจะไม่ไว้ใจในเรื่องของวัตถุดิบเพราะเค้กส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของแป้งซะเยอะ เรามาทำเค้กทานเองกันดีกว่าค่ะ สบายหายห่วงเพราะสูตรนี้เราจะใช้ข้าวโอ๊ตปั่นแทนแป้งทำให้เพื่อน ๆ ยังได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน เพิ่มความหวานและกลิ่นหอมด้วยกล้วยสุกแทนน้ำตาล แถมยังมีธัญพืชกรอบ ๆ ให้ทานอีกต่างหาก สูตรนี้เนื้อสัมผัสของเค้กจะค่อนข้างแน่นหน่อย ไม่ฟูนุ่มเหมือนเค้กทั่วไปเพราะข้าวโอ๊ตมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ แต่ความแน่นนั้นก็แลกมาด้วยสุขภาพดี ถือว่าคุ้มอยู่นะคะ
วัตถุดิบเค้กธัญพืช
- ไข่ไก่
- ข้าวโอ๊ต
- ธัญพืชอบแห้ง
- กล้วยหอม
- เกลือ
- นมถั่วเหลือง
- น้ำมันคาโนล่า
วิธีทำเค้กธัญพืช
ก่อนอื่นเราจะต้องนำข้าวโอ๊ตมาปั่นให้เป็นผงคล้ายแป้งก่อนค่ะ เวลานำไปทำเค้กจะได้เนื้อเนียนมากขึ้น เสร็จแล้วก็ปอกกล้วยหอมใส่ภาชนะแล้วบดจนได้กล้วยเนื้อเนียน ยิ่งเราใช้กล้วยสุกงอมมากเท่าไหร่เค้กของเราก็จะยิ่งหวานมากขึ้นเท่านั้นนะคะ เนื้อกล้วยเนียนดีแล้วตอกไข่ ใส่ข้าวโอ๊ต, น้ำผึ้ง, น้ำมัน และเกลือเล็กน้อย ผสมทุกอย่างให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
ใส่ธัญพืชตามลงในภาชนะ คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ขั้นตอนนี้ส่วนผสมจะค่อนข้างข้นเลยค่ะ เราจะเติมนมถั่วเหลืองลงไปทีละนิดแล้วคอยคนเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมในภาชนะจะเหลวตามต้องการ จากนั้นทาน้ำมันด้านในพิมพ์ที่จะใช้อบขนมให้ทั่วเลยค่ะ ทาบาง ๆ ก็พอนะ เสร็จแล้วเทขนมลงไปประมาณ ¾ ของพิมพ์ โรยหน้าด้วยธัญพืชอีกนิด นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 160 ใช้เวลาประมาณ 40 – 45 นาที เมื่อสุกดีแล้วนำออกมาพักให้หายร้อนก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ
5. เครปข้าวโอ๊ต
อากาศร้อน ๆ แบบนี้มาทานเครปเย็นให้ชื่นใจกันเถอะ สูตรของเราบอกเลยว่าหอมอร่อยและดีต่อสุขภาพเหมือนเดิมเพราะแป้งเครปของเราทำจากข้าวโอ๊ตแท้ ๆ 100% ที่บดเองกับมือ ผสมแป้งเองทุกขั้นตอน มั่นใจได้ถึงความคลีนแน่นอน หลังจากได้แป้งเครปมาแล้วเราก็จะสอดไส้ด้วยโยเกิร์ตนุ่ม ๆ และสตรอว์เบอร์รีรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ แช่เย็นก่อนทานอีกนิดขอบอกว่าฉ่ำและชื่นใจมากกกกกก สูตรนี้ใช้น้ำตาลน้อยและเต็มไปด้วยวิตามินและไฟเบอร์ อย่ารอช้าไปทำกันเลย
วัตถุดิบเครปข้าวโอ๊ต
- ไข่ไก่
- ข้าวโอ๊ต
- สตรอว์เบอร์รี
- น้ำตาลหญ้าหวาน
- ผงโกโก้
- นมสด
- น้ำมันรำข้าว
- โยเกิร์ต
วิธีทำเครปข้าวโอ๊ต
ขั้นตอนแรกเราจะปั่นข้าวโอ๊ตให้เป็นผงละเอียดก่อนเลยค่ะ เพราะถ้าใช้ข้าวโอ๊ตทั้งเมล็ดหยาบเนี่ยแป้งเครปจะไม่เนียนนุ่ม ได้ผงข้าวโอ๊ตมาแล้วเทลงในภาชนะเลยค่ะ จากนั้นตอกไข่ตามลงไป เพิ่มรสชาติด้วยน้ำตาลหญ้าหวานและผงโกโก้ เติมนมสดลงไปอีกนิด คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ระวังไม่ให้ส่วนผสมข้นหนืดจนเกินไปนะคะ
ตั้งกระทะ ทาน้ำมันบาง ๆ เอาแค่พอเคลือบกระทะ เปิดไฟกลางค่อนอ่อน กระทะร้อนได้ที่แล้วเทแป้งเครปลงไปประมาณหนึ่ง ควงกระทะไปมาให้แป้งกระจายตัวเป็นวงกลมเท่า ๆ กัน รอสักครู่เมื่อแป้งสุกดีแล้วจะมีลักษณะแห้งและสีเข้มขึ้น ตักออกมาพักไว้ ใช้โยเกิร์ตแทนซอสปาดลงไปให้ทั่ว ฝานสตรอว์เบอร์รีเป็นชิ้นวางลงไป พับแป้งเข้าหากันเป็นรูปสามเหลี่ยม แช่เย็นให้โยเกิร์ตเซตตัวสักหน่อยเครปก็พร้อมรับประทานแล้วจ้า
6. กราโนลาบาร์
ช่วงหลังจากออกกำลังกายหรือคนที่รู้สึกหิวระหว่างการเดินทาง การได้มีขนมรองท้องถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะคงจะไม่มีใครอยากจะนั่งท้องร้องโครก ๆ ให้อายคนข้าง ๆ แน่นอน วันนี้เราทำขนมเอาไว้ทานรองท้องกันดีกว่า กราโนลาบาร์ก็เป็นขนมอีกหนึ่งชนิดที่น่าสนใจเพราะมันอัดแน่นไปด้วยธัญพืชมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเรา สูตรนี้บอกเลยว่าคลีนสุด ๆ เพราะแทบจะไม่มีแป้งและน้ำตาลเลยค่ะ เมื่ออบเสร็จใหม่ ๆ ขนมจะหอมมาก ทิ้งไว้ให้หายร้อนอีกนิดขนมจะกรอบจนทานเพลินเลยแหละ
วัตถุดิบกราโนลาบาร์
- ข้าวโอ๊ต
- ธัญพืชอบแห้ง
- มะพร้าวอบแห้ง
- เกลือ
- น้ำเชื่อมเมเปิล
- น้ำมันรำข้าว
วิธีทำกราโนลาบาร์
เราเริ่มต้นกันที่การวอร์มเตาอบให้อุ่นก่อนค่ะ จากนั้นแบ่งข้าวโอ๊ตออกมาครึ่งหนึ่งแล้วนำไปปั่นจนเนื้อละเอียดเล็กน้อย นำออกมาผสมกับเกลือเล็กน้อย, น้ำเชื่อมเมเปิ้ล และน้ำมันรำข้าว คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน จากนั้นนำข้าวโอ๊ตที่เหลือ, ธัญพืช และมะพร้าวลงผสมด้วยกัน ส่วนผสมอาจจะเหนียว ๆ สักหน่อยนะคะ คนไปเรื่อย ๆ จนแน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีเลยค่ะ
นำพิมพ์อบขนมออกมาค่ะ รองด้านล่างและด้านข้างด้วยฟอยล์ ทาน้ำมันบาง ๆ ลงบนฟอยล์เพื่อป้องกันไม่ให้ขนมติดฟอยล์ จากนั้นเทส่วนผสมทั้งหมดลงไปเลยค่ะ เกลี่ยให้ทั่วและหน้าขนมเท่า ๆ กัน กดเบา ๆ ให้ขนมเกาะตัวกันดียิ่งขึ้น แนะนำให้เทขนมลงไปบางพอประมาณ ไม่ต้องหนามากเพราะถ้าหนาเกินไปด้านในอาจจะนิ่มและด้านนอกไหม้ได้ค่ะ นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 45 นาทีเพื่อไล่ความชื้น
ครบ 45 นาทีแล้วนำขนมออกมาพักอุณหภูมิห้องให้ขนมพออุ่น ๆ จากนั้นตัดแบ่งขนมเป็นแท่งตามต้องการเลยค่ะ พักทิ้งไว้จนหายร้อนสนิทขนมจะกรอบขึ้น ค่อย ๆ นำออกจากพิมพ์แล้วเก็บไว้ในภาชนะสุญญากาศหรือภาชนะที่มีฝาปิดขนมจะกรอบนานขึ้น ส่วนชิ้นที่แตกหักเป็นเศษสามารถนำไปโรยหน้าโยเกิร์ตหรือทานเล่นได้เลยค่ะ
7. มัฟฟินกล้วยข้าวโอ๊ต
อีกหนึ่งเมนูขนมหวานเพื่อสุขภาพที่น่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คน มัฟฟินเป็นเมนูขนมที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับเค้กกล้วยหอม แต่ข้อแตกต่างของเมนูนี้อยู่ที่การผสมข้าวโอ๊ตลงไปทำให้มีสารอาหารเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ความหวานของช็อกโกแลตยังช่วยให้มัฟฟินมีรสชาติอร่อยและทานง่าย ไหนจะกลิ่นหอม ๆ ของธัญพืชอบใหม่เคล้าไปกับกลิ่นของน้ำผึ้งที่ช่วยให้เมนูนี้อร่อยจนหยุดทานไม่ได้เลยค่ะ
วัตถุดิบมัฟฟินกล้วยข้าวโอ๊ต
- ไข่ไก่
- กล้วยหอมสุก
- ข้าวโอ๊ต
- ช็อกโกแลตชิพ
- เกลือ
- ผงอบเชย
- น้ำตาลทรายแดง
- นมสด
- น้ำผึ้ง
- น้ำมันรำข้าว
วิธีทำมัฟฟินกล้วยข้าวโอ๊ต
เราจะแบ่งวัตถุดิบออกเป็น 2 ส่วนก่อนนะคะ ส่วนแรกจะเป็นของแห้งได้แก่ข้าวโอ๊ต, เกลือ, ผงอบเชย และน้ำตาลทรายแดง ผสมวัตถุดิบทั้งหมดเข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน มาที่ของเหลว เราจะนำกล้วยมาบดให้ได้เนื้อเนียนละเอียด นำมาผสมกับไข่ไก่, น้ำผึ้ง, น้ำมันรำข้าว และค่อย ๆ เติมนมสดลงไปทีละน้อย ผสมวัตถุดิบทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำของแห้งลงมาผสม คนเบา ๆ ให้เข้ากันแล้วเติมช็อกโกแลตชิพตามชอบ
8. วาฟเฟิลข้าวโอ๊ต
ตามมาติด ๆ กับวาฟเฟิลเนื้อกรอบนอกนุ่มในที่สามารถทานพร้อมกับไข่ดาวเป็นอาหารเช้าหรือโปะไอศกรีมลงไปเป็นของหวานก็ได้ แต่จะให้ฝ่าความร้อนกว่าร้อยองศาออกไปซื้อข้างนอกก็คงจะสู้ไม่ไหว ขออยู่บ้านแล้วทำวาฟเฟิลทานเองดีกว่า ขอบอกเลยว่าสูตรนี้จะเฮลตี้และดีกว่าเดิม เพราะเราใช้ข้าวโอ๊ตปั่นแทนการใช้แป้ง ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่มีอาการแพ้กลูเตนก็สามารถทานวาฟเฟิลของเราได้สบายหายห่วง จะนำไปทานคู่กับอะไรหรือจะทานบ่อยแค่ไหนก็ทำได้ตามความชอบเลยจ้า
วัตถุดิบวาฟเฟิลข้าวโอ๊ต
- ไข่ไก่
- ข้าวโอ๊ต
- ผงฟู
- เกลือป่น
- นมถั่วเหลือง
- น้ำมันรำข้าว
วิธีทำวาฟเฟิลข้าวโอ๊ต
ก่อนอื่นเราจะปั่นข้าวโอ๊ตให้เป็นผงละเอียดก่อนค่ะ จากนั้นเทใส่ชามผสม ตอกไข่ใส่ลงไป ตามด้วยผงฟูนิดหน่อย, เกลือป่นเล็กน้อย และน้ำมันรำข้าวพอประมาณ คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วค่อย ๆ เติมนมลงไปทีละนิด เลือกความข้นเหลวตามใจชอบเลยค่ะ แต่ระวังว่าถ้าข้นเกินไปขนมอาจจะไม่สุก ส่วนเหลวเกินไปขนมก็จะเละได้ง่ายน้า
วอร์มเครื่องทำวาฟเฟิลให้ร้อน ทาน้ำมันลงไปบาง ๆ ทั้งสองด้านเลยค่ะ จากนั้นหยดขนมลงไปพอประมาณ ปิดฝาแล้วปล่อยให้เครื่องทำงาน เมื่อเครื่องทำงานเสร็จแล้วขนมก็จะเริ่มมีเนื้อสัมผัสที่แข็งกรอบและมีกลิ่นหอมมากขึ้น นำขนมออกมาพกไว้บนตะแกรงให้ความร้อนสามารถระบายออกได้ทั่วทั้งชิ้นเพื่อช่วยให้ขนมกรอบมากขึ้น จากนั้นจึงนำไปรับประทานเป็นอาหารเช้าหรือทานพร้อมไอศครีม
9. โอเวอร์ไนท์โอ๊ต (Overnight Oat)
เมนูมื้อเช้าที่ต้องทำกันแบบข้ามวันข้ามคืน โอเวอร์ไนท์โอ๊ตเป็นเมนูที่ฮิตสุด ๆ ในหมู่ไอดอลต่างประเทศหรือคนที่ไม่มีเวลามากพอที่จะตื่นมาเตรียมมื้อเช้า เพียงแค่คุณนำข้าวโอ๊ตมาผสมกับนมและเพิ่มรสชาติต่าง ๆ เข้าไปแล้วแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ข้ามคืน เมื่อตื่นมาตอนเช้าข้าวโอ๊ตก็จะนิ่มได้ที่ เพิ่มผลไม้ลงไปอีกหน่อยก็สามารถรับประทานได้แล้วค่ะ รสชาติเย็น ๆ หวาน ๆ จะช่วยเรียกสติและพลังให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว พร้อมออกไปใช้ชีวิต นอกจากนี้โอเวอร์ไนท์โอ๊ตยังมีหลากหลายสูตรให้เลือกทำ เพื่อน ๆ สามารถดัดแปลงเป็นสูตรของตัวเองได้เลย
วัตถุดิบโอเวอร์ไนท์โอ๊ต (Overnight Oat)
- กล้วยหอมสุก
- ข้าวโอ๊ต
- เมล็ดเจีย
- อัลมอนด์อบ
- ดาร์กช็อกโกแลต
- ผงโกโก้
- นมอัลมอนด์
- น้ำเชื่อมเมเปิ้ล
- เนยถั่ว
วิธีทำโอเวอร์ไนท์โอ๊ต (Overnight Oat)
วิธีการทำง่ายสุด ๆ ไปเลยค่ะ เมนูนี้เราจะผสมทุกอย่างในถ้วยเมสันจาร์หรือแก้วใบเล็ก ๆ ขนาดพอดี ๆ เราจะใส่ข้าวโอ๊ตลงไปประมาณเกือบ ๆ ครึ่งแก้ว ตามด้วยเมล็ดเจียอีกหนึ่งช้อนโต๊ะ ผงโกโก้ตามชอบ เพิ่มความหวานด้วยน้ำเชื่อมเมเปิ้ล ตักเนยถั่วลงไปอีกหนึ่งช้อน ปิดท้ายด้วยนมอัลมอนด์ ใส่ลงไปจนท่วมข้าวโอ๊ตหรือประมาณค่อนแก้วเลยค่ะ คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้วปิดฝาแช่ตู้เย็นเอาไว้หนึ่งคืน
ตื่นเช้ามาข้าวโอ๊ตก็จะดูดน้ำนมเข้าไปจนพองตัวและนิ่มลง รสชาติส่วนผสมทุกอย่างก็จะเข้ากันอย่างกลมกล่อมลงตัว ก่อนรับประทานฝานกล้วยเป็นแว่น ๆ ใส่ลงไป สับช็อกโกแลตและอัลมอนด์หยาบ ๆ โรยลงไปอีกนิด รับประทานตอนเช้าช่วยเรียกความสดชื่นได้ดีทีเดียวเลยค่ะ
10. นมข้าวโอ๊ต
ทำของหวานมาเยอะแล้ว ปิดท้ายกันด้วยเครื่องดื่มสักหน่อยดีกว่าค่ะ นมข้าวโอ๊ตพร้อมดื่มเป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบและเวลาในการทำน้อยมาก ๆ เลยค่ะ ไม่เกิน 10 นาทีเราก็จะได้ขนมข้าวโอ๊ตมาดื่มแล้ว นมข้าวโอ๊ตที่ได้มาเนี่ยจะนำมาอุ่นร้อนดื่มก่อนนอน, ดื่มเย็น ๆ ในตอนเช้า, นำไปผสมในชาหรือกาแฟก็อร่อยค่ะ นอกจากนี้กากข้าวโอ๊ตที่เหลือยังสามารถนำไปทำเป็นคุกกี้หรือขนมได้อีกด้วย เรียกว่าใช้ประโยชน์จากข้าวโอ๊ตแบบ 300% เลยทีเดียว
วัตถุดิบนมข้าวโอ๊ต
- ข้าวโอ๊ต
- น้ำเปล่า
- เกลือ
- น้ำผึ้ง
วิธีทำนมข้าวโอ๊ต
ขั้นตอนแรกเราจะนำข้าวโอ๊ต 1 ถ้วยใส่ลงในโถปั่นเลยค่ะ ตามด้วยน้ำสะอาดอีก 3 ถ้วย เพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้ง ตัดรสหวานอีกนิดด้วยเกลือเล็กน้อย จากนั้นปิดฝา เปิดความเร็วสูงสุดแล้วปั่นไม่เกิน 30 วินาที แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าเครื่องปั่นของเพื่อน ๆ มีพลังปั่นเยอะแค่ไหนก็สามารถนำข้าวโอ๊ตแช่น้ำร้อนทิ้งไว้ 30 นาทีก่อน จากนั้นล้างน้ำออกแล้วนำมาปั่นความเร็วสูงสุดค่ะ ย้ำนะคะว่าห้ามเกิน 30 วินาที เพราะถ้าเกินเนี่ยสีและรสชาติของนมจะเปลี่ยนทำให้ไม่อร่อยค่ะ
นำนมที่ปั่นจนละเอียดดีแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบางและกรองผ่านกระชอนอีกหนึ่งครั้ง เราจะปล่อยให้น้ำนมไหลลงมาเรื่อย ๆ จนเกือบหมด จากนั้นใช้มือบีบเบา ๆ เพื่อคั้นน้ำออก นำน้ำที่คั้นแล้วมากรองอีกหนึ่งครั้งเพื่อความเนียนละเอียด จากนั้นเทใส่ขวดแก้วที่ลวกน้ำร้อนฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว ปิดฝาเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 3 – 5 วันค่ะ
ไอเดียมื้อเช้าแบบไดเอท ด้วย 19 เมนูจากข้าวโอ๊ต
- เมนูที่ 1 ผลไม้สด โยเกิร์ต โอ๊ต
เมนูแรกง่ายมากค่ะ เพียงแค่นำผลไม้ที่ชอบมาใส่ลงไปในโอ้ตและโยเกิร์ต จะให้ดีเลือกเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติเลยค่า กากใยจากโอ๊ตและผลไม้ รวมทั้งจุลินทรีย์ดีในโยเกิร์ตจะช่วยเรื่องการขับถ่าย ดีท็อกลำไส้กันไปแบบเน้น ๆ
- เมนูที่ 2 ผลไม้ตระกูลเบอร์รี น้ำผลไม้ โอ๊ต
สูตรนี้ใช้จะผลไม้ตระกูลเบอร์รีอันเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน เพราะรสหวานอมเปรี้ยว ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายได้ดีมาก ๆ ใส่กับน้ำผลไม้ ก็ช่วยเพิ่มวิตามิน และเติมไฟเบอร์ให้ร่างกายได้เป็นอย่างดีเลยละค่ะ
- เมนูที่ 3 กล้วยหอม อัลมอนด์ น้ำผึ้ง โยเกิร์ตหรือนมถั่วเหลือง
ใครที่เป็นสาวกกล้วยหอมต้องมาลองเมนูนี้! กล้วยหอมหวาน ๆ อุดมไปด้วยเส้นใยและกากอาหารสูง ใส่กับโยเกิร์ตหรือนมถั่วเหลืองตามความชอบ ท็อปด้วยอัลมอนด์บด ราดน้ำผึ้งปิดท้าย หวานหอมละมุนเกินห้ามใจ ขับถ่ายคล่องกันไปเลยค่าเมนูนี้
- เมนูที่ 4 สตรอว์เบอร์รีสด เมล็ดเชียหรือเมล็ดเจีย โอ๊ต
- เมนูที่ 5 น้ำมะพร้าวกับเนื้อมะพร้าว มะม่วงสุก โอ๊ต
- เมนูที่ 6 ลูกพีช โอ๊ต นมสดหรือน้ำผลไม้
- เมนูที่ 7 ช็อกโกแลต กล้วยหอม โอ๊ต
ว้าวว ช็อกโกแลตร้อนเข้ม ๆ ใส่กับโอ๊ตบอกเลยว่าเข้ากันแบบลงตัวมาก ๆ เลือกใช้ช็อกโกแลตร้อนหรือนมช็อกโกแลตก็ได้เลยจ้า เติมกล้วยหอมกับโอ๊ตลงไป เท่านี้ก็ได้เมนูอิ่มท้อง ดีต่อสุขภาพกันไปแบบง่าย ๆ เลยค่ะ
- เมนูที่ 8 มุสลี่ ลูกพลัม ถั่วพิตตาชิโอ นมถั่วเหลือง โอ๊ต
ลูกพลัมหรือพรุนเป็นผลไม้ที่ช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดีมาก เพิ่มความน่ากินกันด้วยมุสลี่ ซึ่งแตกต่างจากกราโนล่าตรงที่ไม่ผ่านการปรุงหรืออบ เพียงใส่มุสลี่ลงในโอ๊ตและนมถั่วเหลือง ลูกพลัม และโรยถั่วพิตตาชิโอลงไปก็ได้เมนูดีต่อระบบขับถ่ายช่วยดีท็อกลดพุงได้เลยค่า
- เมนูที่ 9 คาราเมลมอคค่า โอ๊ต
เมนูนี้เอาใจคอกาแฟกันหน่อยค่ะ กับคาราเมลมอคค่าใส่กับโอ๊ตได้เมนูยามเช้าหอม ๆ นอกจากทำให้ร่างกายสดชื่นแล้ว กาแฟจะช่วยในเรื่องกระตุ้นการขับถ่าย และขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วยค่ะ ใครที่อยากไดเอทแบบดีต่อการขับถ่ายก็ลองสูตรนี้ดูได้เลยนะคะ
- เมนูที่ 10 บลูเบอร์รี กล้วยหอม ถั่วที่ชอบ ข้าวโอ๊ต
บลูเบอร์รีผลเล็ก แต่ประโยชน์เยอะ ป้องกันอาการท้องผูก ลดระดับน้ำตาลในเลือด และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ยิ่งกินกับกล้วยและโอ๊ตก็ขอบอกเลยว่า ขับถ่ายคล่องดีท็อกของเสียกันไปเลยค่า เพียงใส่โอ้ตลงในนม เติมบลูเบอร์รีกับกล้วยหอมลงไป ปิดจ็อบด้วยถั่วที่ชอบก็เสร็จแล้วค่ะ
- เมนูที่ 11 แอปเปิ้ล นมสดหรือน้ำผลไม้ โอ๊ต
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้อีกหนึ่งอย่างที่มีกากใยสูง ช่วยให้อิ่มท้องนาน ขับถ่ายง่าย และที่สำคัญมีน้ำตาลน้อยด้วยค่ะ เหมาะกับการกินเพื่อไดเอทสุด ๆ แค่นำแอปเปิ้ลมาใส่ลงในโอ๊ตกับนมหรือน้ำผลไม้ ง่าย ๆ เท่านี้เลยค่ะเมนูนี้
- เมนูที่ 12 ผลไม้ตามฤดูกาล โยเกิร์ต โอ๊ต
เมนูนี้ก็ทำง่าย หาวัตถุดิบกันตามสะดวก เลือกใช้ผลไม้ตามฤดูกาลอย่างมะม่วง ส้ม เสาวรส กีวี่ และอื่น ๆ ตามชอบ แต่แอบกระซิบว่าจะไดเอทก็ต้องเลือกแบบน้ำตาลน้อยนะคะ ใส่ผลไม้ลงในโอ๊ตที่ผสมกับโยเกิร์ต โรยหน้าด้วยอัลมอนด์อีกนิดเป็นอันจบกระบวนการแสนง่ายเลยจ้า
- เมนูที่ 13 ช็อกโกแลต เชอร์รี โอ๊ต
ช็อกโกแล็ตโอ๊ตเชอร์รีท็อปปิ้ง เห็นลูกเล็ก ๆ แบบนี้ แต่เชอร์รีเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพไม่น้อยเลยนะคะ ทั้งบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้อีกด้วย เพียงผสมช็อกโกแลตกับโอ๊ต วางเชอร์รี่ลงไป แค่นี้ก็ตื่นมากินมื้อเช้าแบบอารมณ์ดีกันไปเลยค่า
- เมนูที่ 14 เมล็ดเชีย สตรอว์เบอร์รี นมถั่วเหลือง โอ๊ต
เมนูนี้เพิ่มความพิถีพิถันกันซักหน่อยค่ะ ผสมโอ๊ต เมล็ดเชีย และนมถั่วเหลืองให้เข้ากัน แล้วตักใส่แก้วสลับชั้นกับแยมสตรอว์เบอรี่ รับรองว่าต้องอิ่มท้องนาน ขับถ่ายดีแน่นอนเลยจ้า น่ากิน แถมยังหน้าตาดีมากเลยค่ะ
- เมนูที่ 15 กล้วยหอม กีวี่ อัลมอนด์ โอ๊ต
เติมวิตามินซีให้ร่างกายกันหน่อย กีวี่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงกว่าส้มอีกน้า กากใยจากกล้วยหอมช่วยดีท็อกลดพุง ได้ดีเยี่ยม นำกีวี่และกล้วยหอมใส่ลงไปในโอ๊ตเลยค่า จะใช้เป็นนมจืดหรือนมถั่วเหลืองก็ตามชอบเลยค่ะ อย่าลืมโรยหน้าด้วยถั่วที่ชอบอีกนิด ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
- เมนูที่ 16 ช็อกโกแลต อัลมอนด์และถั่วต่าง ๆ โอ๊ต
เมนูเบสิกสำหรับคนรักช็อกโกแลต เลือกช็อกโกแลตร้อนความเข้มข้นที่ชอบมาแล้วผสมรวมกับโอ๊ต เติมอัลมอนด์ แมคคาเดเมียหรือถั่วต่าง ๆ ตามชอบ ทำง่ายมาก ๆ เลยค่า แถมอร่อยอีกด้วย ห้ามพลาดเลยน้า
- เมนูที่ 17 บลูเบอร์รี กล้วยหอม นมสดหรือโยเกิร์ต โอ๊ต
กล้วยหอมกับบลูเบอร์รี่ เข้ากันแบบลงตัวมาก ผลไม้ที่หาไม่ยาก กินง่าย ใคร ๆ ก็ต้องชอบ เพียงแค่ใส่ลงไปในโอ๊ตที่ผสมกับนมสดหรือโยเกิร์ตก็ได้เมนูไว้กินยามเช้า แบบอิ่มนาน มีกากใยสูง และที่สำคัญอร่อยมาก ๆ เลยค่า
- เมนูที่ 18 กล้วยหอม ถั่ว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ผลไม้ตามฤดูกาล เมล็ดฟักทอง โอ๊ต
ใครชอบกินผลไม้ก็จัดไปเลยค่ะ มีผลไม้อะไรที่อยากกินก็ใส่ลงไปได้เลย ทั้งกล้วยหอม ผลไม้ต่าง ๆ ที่ชอบ โรยหน้าด้วยเมล็ดฟักทองอีกนิด เท่านี้ก็ได้เมนูอร่อยฟินรับเช้าวันใหม่ ผลไม้เยอะๆ แบบนี้ก็ต้องดีต่อพุงและลำไส้อย่างแน่นอน ช่วยดีท็อกพุงยุบกันไปเลยจ้า
- เมนูที่ 19 กล้วยหอม เมล็ดเชีย มอคค่า โอ๊ต
มาปิดท้ายกันด้วยส่วนวัตถุดิบง่าย ๆ อย่างกล้วยหอมและเมล็ดเชีย ใส่ลงในมอคค่าโอ๊ต เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกายกันหน่อย เติมพลังให้พุงแล้ว ก็ยังช่วยชาร์จพลังให้สมองเฟรชกันไปเลยค่ะ
19 Creative Oatmeal Recipes To Start Your Day
Instant Pot Oatmeal
ที่มา :: https://cooking.kapook.com/view135892.html , hd.co.th, medthai.com, allrecipes.com , https://bestreview.asia/ , https://www.foodfidelity.com/creative-oatmeal-recipes/ ,