ข้อแนะนำสำหรับผู้เดินทางเข้า-ออกนอกราชอาณาจักร
|
|
กรมศุลกากรมีหน้าที่ตามกฏหมายในการดูแลการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ป้องกันการลักลอบสินค้า ดูแลของต้องห้ามต้องกำกัดตามกฏหมายต่างๆ ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกต่อผู้ประสงค์จะเดินทางเข้า-ออก นักท่องเที่ยวและผู้สนใจทั่วไป กรมศุลกากรจึงมีความยินดีที่จะให้บริการข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการเดินทางเข้า-ออกซึ่งควรทราบในเว็บไซต์นี้เป็นความรู้
ข้อแนะนำสำหรับผู้เดินทางเข้า-ออกนอกราชอาณาจักรมีดังนี้
ก่อนการเดินทางท่านจะต้องเตรียมเอกสารการเดินทางให้พร้อม พึงสนใจศึกษาระเบียบศุลกากร เรื่องของด่านกักกันโรค การตรวจคนเข้าเมือง ชนิดของเงินตราของประเทศที่จะเดินทางไปและอัตราแลกเปลี่ยนตลอดจนชนิดและปริมาณของที่ได้รับอนุญาตให้ได้รับยกเว้นภาษีอากรเมื่อนำเข้ามา
หากมีของเกินกว่าปริมาณที่ได้รับยกเว้นภาษีอากร ให้สำแดงต่อศุลกากรเพื่อชำระภาษีอากรให้ถูกต้อง ในกรณีที่ท่านสงสัยในชนิดและปริมาณของที่ได้รับยกเว้นอากรที่แจ้งไว้ในแบบสำแดงการนำเข้า ซึ่งท่านจะได้รับก่อนเดินทางเข้าถึงประเทศ โปรดสอบถามเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำการ
อย่ารับฝากของใดๆจากบุคคลอื่น เนื่องจากท่านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบถ้าเป็นของผิดกฏหมาย
พึงสังวรว่าโทษในการครอบครองเป็นเจ้าของยาเสพติดมีโทษหนักมาก ทั้งค่าปรับ การถูกจำคุก หรืออาจถึงขั้นประหารชีวิต
|
กฎหมายและระเบียบพิธีการศุลกากรที่ผู้เดินทางเข้า–ออกประเทศไทยทางท่าอากาศยานระหว่างประเทศควรทราบ มีดังต่อไปนี้
1. ระเบียบว่าด้วยการเดินทางเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร(ฉบับแก้ไข)
2. การซื้อของจากบริเวณชายแดน ภาษีอากรเป็นรายได้ที่สำคัญที่สุดของประเทศผู้ชำระภาษีอากรตามหน้าที่โดยถูกต้องจึงมีส่วนร่วมในการทะนุบำรุงและนำความเจริญมาสู่บ้านเมือง ส่วนผู้ที่ลักลอบหรือหลีกเลี่ยงไม่ชำระภาษีอากรมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตนนับได้ว่าเป็นผู้บั่นทอนความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติเป็นการฉ้อโกงเอา เปรียบคนอื่นทั้งประเทศผู้ที่ซื้อสินค้าหนีภาษีทั้งที่พึงทราบได้จากราคาที่ต่ำผิดปกติมีส่วนสนับสนุนการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงโดยตรงสินค้าหนีภาษีที่ ซื้อไปจึงอยู่ในข่ายที่จะต้องถูกริบตามกฎหมายและอาจถูกดำเนินคดีด้วย การป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีภาษีเนื่องจากไม่อยู่ในวิสัยที่จะสกัดกั้นมิให้มีการลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามาได้เต็มที่จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการอื่นด้วยเช่น การสืบจับแหล่งเก็บหรือค้าของเถื่อน และตรวจตรา ณ บางจุดในประเทศตามความเหมาะสมซึ่งบางครั้งอาจก่อให้เกิดความรู้สึกว่า เกินความจำเป็นไม่สะดวกหรือไม่เป็นธรรมขึ้นได้ กรมศุลกากร ใคร่ขอความร่วมมือจากท่านได้โปรดเข้าใจในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่และทำตามข้อแนะนำ ดังต่อไปนี้ในการซื้อของจากบริเวณชายแดน
| (1) สินค้าที่ขายในราคาต่ำกว่าปกติในท้องตลาดทั่วไปมาก ควรถือไว้ก่อนว่าเป็นสินค้าที่ลักลอบเข้ามาจำหน่ายจึงไม่ควรซื้อสินค้าดังกล่าว เพื่อช่วยกันขจัดการลักลอบ และจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นภายหลัง
(2) ในกรณีที่จำเป็นต้องซื้อสินค้าจากบริเวณใกล้ชายแดน และนำติดตัวในการเดินทางไปมาในประเทศ หากซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก หรือเป็นสินค้าที่มีราคาสูงเช่นวิทยุ โทรทัศน์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆให้เรียกใบเสร็จรับเงินจากผู้ขายเป็นหลักฐาน โดย ตรวจสอบว่าใบเสร็จรับเงินนั้นๆได้ออกโดยถูกต้องและเป็นไปตามความจริง (ใบเสร็จของร้านขายจริง)
(3) ในกรณีที่เจ้าหน้าที่อาจสงสัยหรือสอบถามเกี่ยวกับของที่ซื้อมาให้แสดงใบเสร็จรับเงินดังกล่าว
(4) หากมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ให้ติดต่อและแจ้งให้ด่านศุลกากร สำนักงานศุลกากรเขตที่อยู่ใกล้เคียง หรือ กรมศุลกากรทราบ |
3. การนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
3.1 รถยนต์ขนส่งสินค้าหรือรถโดยสารประจำทาง หากเป็นรถที่จดทะเบียนและได้รับอนุญาตแล้ว ให้เดินทางเข้าออกได้ตามปกติ โดยไม่ต้องทำสัญญาประกันทัณฑ์บนหรือยื่นใบขนสินค้าสำหรับตัวรถ แต่ถ้าเป็นรถที่ยังมิได้ชำระอากรขาเข้าจะต้องยื่นใบขนสินค้าและสัญญาประกันทัณฑ์บน วางเงินสดหรือหลักทรัพย์ไว้ขณะนำเข้าครั้งแรกให้คุ้มค่าภาษีเสียก่อน ในครั้งต่อไปให้เข้า-ออกได้ตราบเท่าที่ยังอยู่ในอายุสัญญา
3.2 รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ผู้เดินทางเข้าออกประจำนำเข้ามาชั่วคราว จะต้องยื่นบัตรอนุญาตที่เรียกว่า "บัตรอนุญาตให้นำรถยนต์/รถจักรยานยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว" (Customs Pass) ต่อด่านศุลกากรที่ประสงค์จะนำเข้า บัตรนี้จัดทำขึ้นเป็น 3 ฉบับ เก็บไว้ที่สำนักงานศุลกากรภาค 1 ฉบับ ที่ด่านศุลกากรต้นทางนำเข้า 1 ฉบับ และผู้นำเข้าถือไว้ 1 ฉบับ เพื่อติดไว้กับรถให้ตรวจสอบบัตรนี้มีอายุการใช้งาน 1 ปีนับจากวันได้รับอนุญาต ทุกครั้งที่มีการนำรถเข้าออก ผู้นำเข้าจะต้องยื่นใบขนสินค้าพิเศษพร้อมสำเนา 1 ฉบับ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกับบัตรอนุญาตที่ติดประจำรถเพื่ออนุญาตให้เข้าออกได้
3.3 การนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เข้ามาชั่วคราว ผู้นำเข้าจะต้องยื่นใบขนสินค้าพิเศษพร้อมสำเนา 5 ฉบับ แบบธุรกิจต่างประเทศ (ธ.ต.2) 1 ฉบับ พร้อมวางประกันด้วยเงินสดหรือหนังสือค้ำประกันของธนาคาร ในวงเงินประกัน โดยถือราคาบวกภาษีอากรทุกประเภทรวมกัน อย่างไรก็ตามการนำเข้ารถจักรยานยนต์ทางสำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ ให้ค้ำประกันตัวเองได้ สำหรับด่านศุลกากรภูมิภาคอาจให้บุคคลค้ำประกัน หรือกรณีไม่สามารถจะวางประกันได้จริงๆ ก็อาจอนุญาตให้ค้ำประกันตนเองได้เช่นกัน การทำสัญญาประกันกำหนดระยะเวลาให้นำเข้ามาได้ไม่เกิน 2 เดือน หากขอระยะเวลาเกิน 2 เดือนแต่ไม่เกิน 6 เดือน จะต้องแสดงเหตุผลพิเศษให้เป็นที่พอใจจึงจะอนุญาตได้
4. การลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ผู้โดยสารที่นำของต้องชำระค่าภาษีอากร ของต้องห้าม ของต้องกำกัดเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่สำแดงหรือสำแดงไม่ถูกต้อง จะได้รับโทษตามกฎหมายศุลกากร ดังนี้ 4.1 ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบและจับกุมผู้ต้องหาขณะอยู่ในช่องเขียว (Green Channel) จะถูกปรับ 1 เท่าของราคาของบวกค่าภาษีอากรกับอีก 1 เท่าของภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต ภาษีเพื่อมหาดไทย (ถ้ามี) และผู้ต้องหาต้องยกของกลางให้เป็นของแผ่นดิน
4.2 ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบและจับกุมผู้ต้องหาภายหลังผ่านพ้นช่องเขียว (Green Channel) และขณะที่ นำของผ่านออกไปนั้นมิได้เข้ามาในลักษณะซุกซ่อนเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้ต้องหาจะถูกปรับ 2 เท่าของของราคาของบวกค่าภาษีอากรกับอีก 1เท่าของภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีสรรพสามิตภาษีเพื่อมหาดไทย(ถ้ามี)และผู้ต้องหาต้องยกของกลางให้เป็นของแผ่นดินในกรณีที่นำเข้ามาในลักษณะซุกซ่อนให้ปรับ 4 เท่าของของราคาของบวกค่าภาษีอากรและผู้ต้องหาต้องยกของกลางให้เป็นของแผ่นดิน
4.3 ในกรณีของที่ลักลอบนำเข้ามาเป็นของที่ไม่ต้องชำระอากรศุลกากร ไม่ว่าจะตรวจพบในช่องเขียว (Green Channel) หรือผ่านพ้นช่องเขียวไปแล้วก็ตาม ถือเป็นของซึ่งมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ผู้ต้องหาต้องยกของกลางให้เป็นของแผ่นดิน |
|
ที่มา :: http://www2.customs.go.th/Traveller/TravellerInfo.jsp เรียบเรียงโดย :: ประภัสรา โคตะขุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น