การเขียน Resume / CV ภาษาอังกฤษเพื่อสมัครงาน
การเขียน Resume / CV ก็คือการเขียนประวัติเรื่องราวของตัวคุณเองนั่นแหละ คำว่า CV ย่อมาจาก curriculum vitae มาจากภาษาละติน ถ้าแปลง่ายๆ คือ ประวัติส่วนตัวที่บันทึกเรื่องราวหลักๆเกี่ยวกับการศึกษา และประวัติการทำงานของเรา
การเขียน Resume / CV
CV หรือ curriculum vitae ปกติแล้วจะยาวสองหน้ากระดาษขึ้นไป ซึ่งค่อนข้างจะยาวกว่า resume ซึ่งมีแค่หน้าเดียวหรือสองหน้าแค่นั้นเอง ใน CV ควรจะบันทึกให้เป็นปัจจุบันทึ่สุดทั้งในด้านการศึกษา และการทำงาน
CV มีกี่แบบ
CV ที่เห็นทั่วๆไป เขียนเพื่อสมัครงานหรือขอฝึกงาน มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ
- Chronological CV เน้นประวัติการทำงาน อันนี้แบบมาตรฐาน รู้จักกันดี เด็กจบใหม่เขียนแบบนี้
- Functional CV หรือ Skills-Based CV เน้นทักษะและสมรรถนะที่มี
- Combined CV แบบผสมผสาน
ส่วนอีก CV หนึ่ง เป็นเชิงวิชาการ เขาเรียกว่า Academic CV ก็จะออกไปในแนวทางการศึกษา การวิจัย การนำเสนอ รางวัล และผลงานทางวิชาการมากกว่า เพื่อจะนำไปขอทุนวิจัย ทุนเรียนต่อ สมัครเรียนต่อในระดับ โทเอก หรือคนที่จะสมัครเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นต้น
CV มีกี่หน้า
ปกติ CV ที่ใช้ในการสมัครงานมีอยู่ 2-3 หน้า แต่ถ้าเขาระบุให้เขียนหนึ่งหน้า ก็ต้องหนึ่งหน้า ส่วน Academic CV อันนี้ไม่ต้องพูดถึง ไม่จำกัดหน้าด้วยซ้ำไป มีเท่าไหร่ใส่เข้าไปเต็มที่ 5-10 หน้าก็ว่ากันไป
องค์ประกอบของ CV มีอะไรบ้าง
องค์ประกอบของ CV ที่เป็นเนื้อหาหลักคือ การศึกษาและการทำงาน และกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใน CV มีองค์ประกอบคร่าวๆดังนี้
Personal Details
ข้อมูลส่วนตัว
ในส่วนนี้จะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-สกุล ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ ไม่ควรใส่ข้อมูลที่ไม่จำเป็นเช่น อายุ เชื้อชาติ ศาสนา เป็นต้น
Education
การศึกษา
ในส่วนนี้ก็จะประกอบไปด้วยประวัติทางการศึกษา ให้เขียนสาขาวิชา ชื่อสถาบันทางการศึกษา ปีการศึกษา โดยการเขียนย้อนปี และรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับสาขาที่เรียน
Work experience
ประสบการณ์ในการทำงาน
ในส่วนนี้ก็จะเป็นประสบการณ์ในการทำงาน เขียนชื่อบริษัทที่เคยทำ ตำแหน่งงาน รายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับงานที่ทำ เอาปีล่าสุดขึ้นก่อนเหมือนการศึกษา
แต่ถ้ายังไม่เคยทำงานจริงๆ ที่ได้รับค่าตอบแทนรายเดือน ก็ใช้คำว่าประสบการทำงานที่เกี่ยวข้อง Relevant Work Experience หรือ Additional Work Experience อย่างเช่นน้องๆที่เรียนจบใหม่ ซึ่งตรงนี้จะได้จากประสบการณ์ในการฝึกงาน หรือการทำงาน Part time นั่นเอง
Skills
ทักษะ
คำว่าทักษะตรงนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะในการทำงานจริงนั้น ทุกคนจะต้องมีทักษะในการทำงาน ไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษเหนือคนอื่น ซึ่งพอจะอวดโชว์เขาได้ ก็เขียนอธิบายลงไปว่าโดดเด่นอย่างไร เช่น
- การสื่อสาร การพูดโน้มน้าว
- การทำงานเป็นทีม
- การเป็นผู้นำ
- การแก้ปัญหา ฯลฯ
Miscellaneous
อื่นๆ
อื่นๆ ที่เหลือไม่ต้องยกมาทั้งหมดนะครับ เอามาสักสองสามอันที่เด่นๆ มาเสริม CV ให้ดูดียิ่งขึ้น บางครั้งเขาก็ควบสองหัวข้อเข้าด้วยกันเลย
Positions of Responsibility
เคยรับผิดชอบงานใหญ่ๆอะไรบ้าง จงแจงมา
Achievements
ทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จ บรรยายมาพอหอมปากหอมคอ
Clubs & Societies
เป็นสมาชิกของชมรมอะไรบ้าง ทำอะไรกันในในชมรมนั้นๆ ปีที่เข้าร่วมจนถึงปัจจุบัน ตรงนี้ต้องส่งเสริมกับงานด้วย เช่น ชมรมผู้บริหาร SME มันก็ช่วยส่งเสริมงานบริหาร ชมรมครูคณิต ก็ช่วยส่งเสริมในงานสอน เป็นต้น
Volunteering
เคยทำงานจิตอาสาอะไรบ้าง ควรเป็นงานที่เกี่ยวข้องนะคะ เช่น ครูอาสาสอนภาษาให้เด็กๆ
Languages
รู้ภาษาอะไรบ้าง อยู่ในระดับไหน
Referees
ให้ใส่ชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่ เบอร์โทร และ อีเมล
หรือใส่คำว่า Available upon Request (จัดให้ถ้าขอมา) ก็ได้ถ้ามันจะหมดหน้าแล้ว ย้ายไปอีกหน้าก็ไม่สวย
ตัวอย่าง Resume / CV
มาดูตัวอย่างการเขียน CV กันนะคะ อันนี้เป็นตัวอย่าง ซึ่งเขามี Career Objective บรรยายประกอบเป็นการเกริ่นนำก่อน เป็นการเรียกน้ำย่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น