Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568

โรคไทรอยด์-ไทรอยด์เป็นพิษ ห้ามกินอะไร เลี่ยงไว้เพื่อความปลอดภัย

 

โรคไทรอยด์-ไทรอยด์เป็นพิษ ห้ามกินอะไร เลี่ยงไว้เพื่อความปลอดภัย

ไทรอยด์

          ไทรอยด์ ต่อมไร้ท่อที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย หากมีการทำงานผิดปกติอาจทำให้เกิดโรคไทรอยด์เป็นพิษ หรือโรคขาดไทรอยด์ได้ ซึ่งถ้าเป็นโรคเหล่านี้แล้ว ต้องเข้ารักษาด้วยการพบแพทย์ แต่นอกเหนือจากการพบแพทย์ การควบคุมหรือหลีกเลี่ยงอาหารต่าง ๆ ที่ไปทำให้โรคไทรอยด์แย่ลงก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คนส่วนมากเลือกปฏิบัติ  วันนี้เราจึงนำอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงของผู้ป่วยโรคไทรอยด์เป็นพิษและโรคขาดไทรอยด์มาฝากกันค่ะ แต่ก่อนอื่นเรามารู้จักหน้าที่และการทำงานของต่อมไทรอยด์สักหน่อย

          ไทรอยด์ เป็นต่อมไร้ท่อขนาดใหญ่ที่สุดของร่างกาย อยู่บริเวณส่วนหน้าของลำคอ มีหน้าที่สร้างฮอร์โมน โดยใช้ไอโอดีนจากอาหารเราที่กินเข้าไป และยังทำหน้าที่หลั่งไทรอยด์ฮอร์โมนออกมาสู่กระแสเลือด เพื่อควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย อุณหภูมิของร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ระดับไขมันในเลือด ควบคุมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึก ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมด้วย


          หากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติสามารถส่งผลให้เป็นโรคไฮเปอร์ไทรอยด์หรือไทรอยด์เป็นพิษ และโรคไฮโปไทรอยด์หรือโรคขาดไทรอยด์ฮอร์โมนได้ ซึ่งหากป่วยขึ้นมา จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องควบคุมอาหารเพื่อไม่ให้อาการแย่ลง แต่โรคทั้งสองก็มีอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงต่างกัน ดังนี้

          * ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ (ไฮเปอร์ไทรอยด์) ห้ามกินอะไร

          ไทรอยด์เป็นพิษหรือไฮเปอร์ไทรอยด์ เกิดจากความผิดปกติที่ทำให้เนื้อเยื่อไทรอยด์ทำงานมากเกินปกติ ทำให้มีการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์มากขึ้น และทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติไปด้วย จะมีอาการผอมลง หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น ร้อนง่าย เหงื่ออกเยอะ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย และนอนไม่ค่อยหลับ ซึ่งควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์เพิ่ม ดังนี้
 
1. อาหารที่มีไอโอดีน สังกะสี และซีลีเนียมสูง


ไอโอดีน สังกะสี ซีลีเนียมที่พบได้มากในอาหารทะเล ปลา เนื้อวัว เครื่องในสัตว์ กระเทียม เห็ด เมล็ดทานตะวัน ถั่วเหลือง และธัญพืชต่าง ๆ เป็นสารอาหารสำคัญที่ต่อมไทรอยด์จะนำไปใช้ผลิตฮอร์โมน ซึ่งผู้ป่วยไฮเปอร์ไทรอยด์ หรือไทรอยด์เป็นพิษเป็นผู้ป่วยที่มีฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายเกินความจำเป็นอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรบริโภคอาหารที่มีไอโอดีน สังกะสี และซีลีเนียมสูง เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนเพิ่มขึ้นอีก
            
2. นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม

โรคไทรอยด์


          นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมส่งผลกระทบต่อต่อมไทรอยด์คล้าย ๆ กับเกลือเสริมไอโอดีนเลยค่ะ เพราะนมก็สามารถกระตุ้นให้มีการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากในนมเต็มไปด้วยไอโอดีนและซีลีเนียมที่เป็นส่วนสำคัญต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ หากทานเข้าไปมาก ๆ ก็จะไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานเพิ่มขึ้น จนมีอาการแย่ลงได้
            
3. แอลกอฮอล์และคาเฟอีน
 

โรคไทรอยด์


         หลาย ๆ คนคงรู้อยู่แล้วว่าเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์อย่าง ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง เหล้า และเบียร์เป็นสิ่งไม่ดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยไฮเปอร์ไทรอยด์ เพราะคาเฟอีนและแอลกอฮอล์สามารถทำให้การทำงานของต่อมไทรอยด์ไม่คงที่ได้ แถมแอลกอฮอล์และคาเฟอีนถือเป็นเครื่องดื่มที่เป็นสิ่งเร้า ซึ่งผู้ป่วยไฮเปอร์ไทรอยด์ไม่ควรได้รับอาหารที่ไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์เพิ่ม เพราะมีฮอร์โมนไทรอยด์ที่มากเกินไปอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ป่วยไฮเปอร์ไทรอยด์จึงควรงดแอลกอฮอล์และคาเฟอีน แล้วหันมาดื่มพวกน้ำสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ขิง ดอกคำฝอย แทนค่ะ 
            
4. ไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
 

โรคไทรอยด์


          ผู้ป่วยไทรอยด์ไม่ควรบริโภคไขมันต่าง ๆ ที่ไม่ดีต่อสุขภาพอย่าง ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ ที่สามารถพบได้มากในคุกกี้ เค้ก เฟรนช์ฟรายส์ เพราะไขมันพวกนี้สามารถทำให้ต่อมไทรอยด์มีอาการอักเสบเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรหันมาบริโภคไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพแทน ซึ่งพบมากในปลาทะเล และ ปลาน้ำจืดบางชนิด
            
5. อาหารที่กินแล้วแพ้

โรคไทรอยด์


          แน่นอนว่าหากบริโภคอาหารที่แพ้เข้าไปจะทำให้อาการไฮเปอร์ไทรอยด์แย่ลงได้ แต่ปัญหาใหญ่คือบางคนไม่ทราบว่าตัวเองแพ้อะไร ซึ่งส่วนมากอาหารที่คนแพ้มักจะเป็นนม ไข่ ข้าวสาลี ถั่ว ถั่วเหลือง ปลา สัตว์น้ำที่มีเปลือกหุ้มและหอย ทางที่ดีควรไปตรวจกับแพทย์ในแน่ชัด เพื่อจะได้ไม่ต้องเสี่ยงไปกระตุ้นโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ค่ะ

          นอกจากหลีกเลี่ยงอาหารต้องห้ามเหล่านี้แล้ว ผู้ป่วยไฮเปอร์ไทรอยด์ควรทานอาหารที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ ผ่านการปรุงแต่งน้อย อย่างข้าวกล้อง แป้งไม่ขัดขาว เพราะจะคงคุณค่าของสารอาหารไว้มาก ทานผักผลไม้เยอะ ๆ โดยเฉพาะกล้วย เพราะในกล้วยมีสารช่วยลดแลคติก เอซิด(Lactic Acid) ที่ช่วยลดอาการเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไทรอยด์ รวมทั้งยังควรเนื้อสัตว์ประเภทโปรตีนไขมันต่ำ เช่น อกไก่ เนื้อปลา เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษมักจะมีความรู้สึกอยากอาหาร แต่ทานเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ค่อยขึ้น การทานโปรตีนไขมันต่ำจะช่วยให้อิ่มอยู่ท้องได้นานขึ้น

++++++++++++


          ป่วยไฮโปไทรอยด์ ห้ามกินอะไร

          ไฮโปไทรอยด์ เป็นภาวะขาดฮอร์โมนต่อมไทรอยด์เนื่องจากมีการทำงานของไทรอยด์ต่ำ หรือไม่มีต่อมไทรอยด์ สาเหตุอาจเกิดจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ไป หรือมีอาการไทรอยด์อักเสบแบบ Hashimoto’s thyroiditis ซึ่งเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (autoimmune disorder) ชนิดหนึ่ง ทำให้ผลิตไทรอยด์ฮอร์โมนออกมาได้น้อย โดยจะมีอาการหนาวง่าย ท้องผูก ประจำเดือนมาผิดปกติ ปวดกล้ามเนื้อ เฉื่อย ช้า ผิวแห้ง และมีอาการซึมเศร้า ซึ่งคนที่ป่วยเป็นโรคไฮโปไทรอยด์ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้

1. ถั่วเหลือง

โรคไทรอยด์

  
          จริง ๆ แล้วประเด็นที่ว่าผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ทานถั่วเหลืองได้ไหมยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่พอสมควรค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์แบบองค์รวม เคยออกมาเตือนว่า ผู้ที่เป็นโรคไฮโปไทรอยด์ ไม่ควรรับประทานถั่วเหลืองหรืออาหารเสริมที่มีสารอาหารจากถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบ เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ อาทิ ไทรอยด์ทำงานช้าลง

          แต่ทว่าก็มีงานวิจัยจากหลายแห่งพบว่า การทานถั่วเหลืองอาจไม่ได้กระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ก็เป็นได้ เพราะยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าสารในถั่วเหลืองส่งผลต่อโรคไทรอยด์ จึงทำให้ผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์สามารถทานถั่วเหลืองได้ แต่อย่างไรก็ตามถ้าจะทานถั่วเหลืองจริง ๆ ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากเกินไปจะดีที่สุดค่ะ
        
2. ผักตระกูลกะหล่ำ

โรคไทรอยด์


          ผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ไม่ควรรับประทานผักตระกูลกะหล่ำ ทั้ง กะหล่ำปลี ผักกาดขาว บรอกโคลี คะน้า และหัวไชเท้า  เนื่องจากพืชเหล่ามีสารกอยโตรเจน (goitrogen) ที่เป็นตัวไปขวางการจับไอโอดีนของต่อมไทรอยด์ เพื่อสร้างฮอร์โมนไทรอกซิน (thyroxin) ซึ่งจะทำให้เกิดคอหอยพอกนั่นเอง

          อย่างไรก็ตามผักกระกูลกะหล่ำก็ยังมีประโยชน์อื่น ๆ และสามารถช่วยยับยั้งมะเร็งได้ เราจึงมีความจำเป็นต้องกินผักตระกูลนี้อยู่บ้าง ซึ่งวิธีที่จะทำให้เรากินผักตระกูลนี้ได้อย่างปลอดภัยก็คือต้องนำไปต้มให้สุกค่ะ เพราะการต้มจะทำให้สารพิษต่าง ๆ หายไปได้ ดังนั้นหากจะกินควรต้มให้สุก และห้ามกินแบบดิบ ๆ เด็ดขาดนะคะ

3. ชาและกาแฟ

โรคไทรอยด์


            มีการศึกษาพบว่ายารักษาไทรอยด์จะไม่มีประสิทธิภาพ หากผู้ป่วยกินยาแล้วดื่มชาหรือกาแฟตามทันที เพราะในกาแฟมีคาเฟอีน ซึ่งคาเฟอีนมีฤิทธิ์ที่สามารถไปขัดขวางการดูดซึมของฮอร์โมนไทรอยด์ได้ แพทย์จึงแนะนำว่าหลังกินยารักษาไทรอยด์เสร็จ ควรรออย่างน้อยครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยกินกาแฟ หรือทางที่ดีควรงดพวกชา กาแฟแล้วหันไปดื่มพวกน้ำสมุนไพรแทนจะดีที่สุด


4. แอลกอฮอล์

โรคไทรอยด์


          แอลกอฮอล์นอกจากจะไปกระตุ้นการการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งไม่ดีต่อผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษแล้ว ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ยังไม่ดีต่อผู้ป่วยโรคขาดไทรอยด์เช่นกันค่ะ เพราะแอลกอฮอล์สามารถไปยับยั้งการผลิตฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ทำให้มีอาการขาดฮอร์โมนไทรอยด์ และยังมีฤทธิ์ทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์ไม่สมดุลกันด้วย ว่าแล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคไทรอยด์จึงควรรับประทานแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อย หรือถ้าเป็นไปได้ควรงดแอลกอฮอล์จะดีที่สุดค่ะ
  
5. กลูเตน

โรคไทรอยด์


          จริง ๆ แล้วผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์สามารถทานอาหารที่มีกลูเตน อย่างเช่น ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ได้โดยไม่มีผลกระทบอะไรต่อสุขภาพ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่แพ้กลูเตนอยู่แล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ไว้ด้วยค่ะ เพราะกลูเตนสามารถไปทำลายระบบการทำงานของลำไส้เล็ก และขัดขวางการดูดซึมยารักษาต่อมไทรอยด์ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงโรคฮาชิโมโต ซึ่งเป็นภาวะที่ไทรอยด์ฮอร์โมนพร่องไป หรือแม้แต่อาจทำให้เกิดโรคคอพอกหรือไทรอยด์เป็นพิษที่ทำให้ไทรอยด์ฮอร์โมนผลิตออกมามากเกินไปได้อีก ฉะนั้นถ้าหากคุณแพ้กลูเตนควรหันมาบริโภคพวกอาหารที่ปราศจากกลูเตนแทนจะดีที่สุด

6. อาหารแปรรูป

โรคไทรอยด์


          ผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ต้องการไอโอดีนมาช่วยเพิ่มฮอร์โมนไทรอยด์ให้เป็นปกติ แต่ในอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก กุนเชียง อาหารกระป๋อง เป็นอาหารที่แทบจะไม่มีเกลือไอโอดีนเลย ส่วนมากจะมีแต่เกลือโซเดียมเท่านั้น จึงไม่เหมาะที่จะให้ผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ทานสักเท่าไหร่ อีกทั้งอาหารที่มีโซเดียมสูงยังสามารถทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ แล้วยิ่งผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว ถ้าได้รับสารโซเดียมมาก ๆ ก็ยิ่งไปกระตุ้นทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ง่ายค่ะ 
       
7. อาหารไขมันเยอะ

โรคไทรอยด์


          ผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่ทานแล้วอ้วน อย่างอาหารฟาสต์ฟู้ด เนย มาการีน เพราะสารในอาหารพวกนี้จะไปรบกวนการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ และขัดขวางการดูดซึมยารักษาไทรอยด์ของผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ได้

8. อาหารที่มีน้ำตาลสูง

โรคไทรอยด์


          โรคไฮโปไทรอยด์สามารถทำให้ระบบเมตาบอลิซึมหรือกระบวนการเผาผลาญของร่างกายทำงานช้าลงได้ ดังนั้นผู้ป่วยไทรอยด์จึงควรหลีกเลี่ยงการการทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะในอาหารที่มีน้ำตาลสูงมีแคลอรีเยอะ ร่างกายจะเผาผลาญออกได้ช้าและจะสะสมเป็นไขมันในร่างกาย ก่อให้เกิดโรคอ้วนตามมาได้ง่ายกว่าคนปกติ นอกจากนี้หากผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงยังทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยากขึ้น จนอาจส่งผลให้เป็นเบาหวานได้ด้วย
 
          ส่วนอาหารที่ผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ควรรับประทานคืออาหารที่มีไอโอดีนมาก ๆ เช่น ปลา อาหารทะเล สาหร่าย ไข่ และนม เพราะต่อมไทรอยด์จะผลิตฮอร์โมนจากไอโอดีนที่เรากินเข้าไป เมื่อเรามีไอโอดีนมากพอจึงช่วยทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนจนกลับมาสมดุลเป็นปกติได้

          
อย่างไรก็ตามนอกจากหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ควรทาน และเลือกทานแต่อาหารที่ดีแล้ว อย่าลืมทานยาหรือเข้ารับการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์ด้วยนะคะ เพราะแค่ควบคุมอาหาร อาจไม่สามารถทำให้หายจากโรคไทรอยด์ได้ค่ะ


Hyperthyroidism Diet Plan : Foods to Eat and Foods to Avoid 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก


4 ความคิดเห็น:

  1. ไทรอยด์เป็นพิษ คืออะไร เริ่มแรกเลยต้องขอเกริ่นก่อนว่าโรคเกี่ยวกับไทรอยด์นั้นมี 2 อย่าง คือ ไทรอยด์เป็นพิษ หรือ ไฮเปอร์ไทรอยด์(Hyperthyroidism) กับ ภาวะขาดไทรอยด์ หรือ ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) ซึ่งทั้ง 2 โรคนี้มีลักษณะของความผิดปกติที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงไทรอยด์เป็นพิษกัน ไทรอยด์เป็นพิษ คือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามากเกินไป อัตราการทำงานของระบบเมตาบอลิซึมจะเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยจะเผาผลาญพลังงานและสลายไขมันในร่างกายได้มาก ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำหนักลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ รวมถึงหัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดปกติ เหงื่อออกง่าย ขี้หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย

    ทำไมถึงเป็นล่ะ? สาเหตุของโรคไทรอยด์เป็นพิษ เกิดขึ้นจากการที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ จนทำให้ร่างกายมีปริมาณของฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินความต้องการ และมีสภาวะเป็นพิษ โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดไทรอยด์เป็นพิษมีดังนี้ - การกินอาหาร กินอาหารที่มีไอโอดีนมากเกินไปจนทำให้ไทรอยด์เป็นพิษ เพราะว่าไอโอดีนนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ - เป็นเนื้องอกที่ต่อมไทรอยด์ เนื้องอกบริเวณไทรอยด์และต่อมใต้สมอง อาจส่งผลให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมนไทรอยด์มากขึ้น จนกลายเป็นพิษได้ แต่เป็นกรณีที่พบได้น้อย เมื่อเทียบกับปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ - โรคคอพอกตาโปน หรือ โรคเกรฟส์ (Graves’ Disease) ร่างกายหลั่งฮอร์โมนไทโรซีนออกมามากผิดปกติจนกลายเป็นพิษยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดขึ้นจากอะไร แต่ส่วนมากโรคเกรฟส์จะพบในหญิงวัยรุ่นและวัยกลางคน และสำหรับคนที่สูบบุหรี่ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม ควรเลิกสูบอย่างถาวรไปเลย เพราะมันจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้หรือเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนมากยิ่งขึ้น - ต่อมไทรอยด์อักเสบ (Thyroiditis) การอักเสบที่ไม่ทราบสาเหตุของต่อมไทรอยด์ ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของมันได้ เพราะการอักเสบทำให้ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากขึ้น ทำให้ฮอร์โมนรั่วไหลออกไปที่กระแสเลือด แต่การอักเสบส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกเจ็บปวด ยกเว้นอาการไทรอยด์อักเสบแบบกึ่งเฉียบพลันที่ทำให้รู้สึกเจ็บได้ แต่ว่าอาการดังกล่าวก็เกิดขึ้นได้น้อยเช่นกัน ได้รับการเสริมฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ยาที่มีส่วนประกอบของไอโอดีนบางชนิด เช่น ยาอะไมโอดาโรน (Amiodarone) ที่ใช้ในการรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งทำให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมนไทรอยด์มากขึ้น ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดไทรอยด์เป็นพิษได้



    ตอบลบ
  2. เป็นแล้วมีอาการยังไง? อาการไทรอยด์เป็นพิษนั้นค่อนข้างจะคล้ายกับอาการเจ็บป่วยโรคอื่นๆ และหากผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษที่ไม่รุนแรกมาก อาจไม่มีอาการใดๆ แสดงออกมาเลย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาการมักไม่ค่อยแสดงออกอย่างชัดเจนเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นอาการของต่อมไทยรอยด์เป็นพิษก็สามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้เช่นกัน โดยอาการที่พบได้มากที่สุดในคนที่ป่วยไทรอยด์เป็นพิษก็คือ อาการคอพอก ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์โตขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึกหรือเห็นก้อนขนาดใหญ่ที่บริเวณคอ บางครั้งแพทย์ก็อาจสามารถตรวจพบอาการคอพอกได้ก่อน นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ อีกมากมาย เช่น อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิ คลื่นไส้ อาเจียน หลับยาก ตาโปน เห็นภาพซ้อน ผมเปราะบาง ผมร่วง กล้ามเนื้ออ่อนแรง เหงื่อออกมากกว่าปกติ มือสั่น น้ำหนังลงแต่อยากอาหารมากขึ้น หัวใจเต้นเร็วกว่า 100 ครั้ง/นาที (โดยเฉพาะคนสูงอายุ) ผู้ชายมีเต้านมใหญ่ขึ้น ผู้หญิงรอบเดือนผิดปกติ มีสีจาง และมาไม่สม่ำเสมอ


    ตอบลบ
  3. ไทรอยด์เป็นพิษ ห้ามกินอะไร

    แบบนี้ ‘ไม่ควร’ กินอะไรบ้าง?

    - อาหารที่มีไอโอดีนและซีลีเนียมสูง
    สำหรับคนที่เป็นไทรอยด์เป็นพิษหรือไฮเปอร์ไทรอยด์ จะมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์สูงอยู่แล้ว ตามที่บอกไปในตอนต้น ดังนั้นจึงควรงดอาหารไอโอดีสูงที่พบได้ในอาหารทะเลจำพวก ปลา หอยกาบ กุ้ง หอยนางรม รวมถึงไข่ กระเทียม เห็ด เมล็ดงา อีกทั้งยังมีอาหารที่มีซีลีเนียมสูง ซึ่งพบได้ในปลาทูน่า เห็ด เนื้อวัว เมล็ดทานตะวัน เครื่องในสัตว์ และถั่วเหลือง เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากยิ่งขึ้นไปอีก

    - นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมจะส่งผลกระทบต่อต่อมไทรอยด์ เนื่องจากนมเต็มไปด้วยไอโอดีนและซีลีเนียม ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ และมันจะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ให้มากขึ้น ดังนั้นจึงควรทานไม่ปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อไม่ให้อาการแย่ลงกว่าเดิม

    - แอลกอฮอล์และคาเฟอีน
    เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน อย่างพวก เหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมถึง ชา กาแฟ และเครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ โดยปกติหากดื่มมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายอยู่แล้ว
    แต่สำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษควรหลีกเลี่ยงหรือไม่แตะต้องเลยได้ยิ่งดี เพราะมันจะไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานไม่คงที่ และทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินความพอดีด้วย

    - อาหารที่มีไขมันสูง
    ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงอาหารที่มีไขมันทรานส์ ซึ่งพบได้ในมาการีนชนิดแท่ง เนยขาว คุกกี้ เค้ก แครกเกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ โดนัท ขนมอบ และเบเกอรี่ทั้งหลาย รวมถึงบรรดาอาหารประเภททอดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งพบได้ใน เนื้อวัวติดมัน เนื้อแกะ เนื้อหมู แฮม เบคอน เนื้อไก่ที่มีหนัง ไขมันวัว น้ำมันหมู ครีม เนย ชีส และผลิตภัณฑ์จากนมต่างๆ เพราะไขมันเหล่านี้จะทำให้ต่อมไทรอยด์มีอาการอักเสบมากขึ้น

    ทางที่ดีควรเปลี่ยนไปทานไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพร่างกายแทน โดยไขมันชนิดนี้จะพบได้มากในปลาทะเล เช่น ปลาจะระเม็ดขาว ปลาสำลี ปลากะพงขาว ปลาทู ปลาเก๋า เป็นต้น และปลาน้ำจืด เช่น ปลาดุก ปลาสวาย ปลาช่อน ปลานิล ปลากราย เป็นต้น

    - อาหารที่กินแล้วแพ้
    หากผู้ป่วยต่อมไทรอยด์เป็นพิษพบว่าทานอาหารชนิดใดแล้วมีอาการแพ้ ให้เลิกทานอาหารชนิดนั้นไปเลย เพราะจะทำให้อาการยิ่งทรุดหนักกว่าเดิม ซึ่งอาหารที่ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษส่วนใหญ่จะแพ้ได้แก่ ข้าวสาลี นม ไข่ ปลา ถั่ว หอย และสัตว์น้ำที่มีเปลือกหุ้ม รวมไปถึงปลาทะเลบางชนิด แนะนำว่าควรไปตรวจกับแพทย์เพื่อให้ทราบแน่ชัด จะได้ไม่ต้องเสี่ยงต่อการไปกระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้ทำงานมากเกินปกติ

    - อาหารที่มีวิตามินบีสูง
    วิตามินบี 2 บี 3 บี 6 และบี 12 เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะกับระบบการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งวิตามินบีทั้ง 4 ชนิดนี้ มีหน้าที่สำคัญในการช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน T4 ที่เป็นหนึ่งในฮอร์โมนไทรอยด์ของร่างกาย โดยวิตามินบีเหล่านี้มักจะมีอยู่ในอาหารต่างๆ อย่าง ไข่แดง เครื่องในสัตว์ ปลาทะเล ยีสต์ ธัญพืชชนิดต่างๆ ถั่วลันเตา นม เห็ด และเมล็ดอัลมอนด์ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการไทรอยด์เป็นพิษ ควรงดหรือลดอาหารเหล่านี้ให้น้อยลง เพื่อจะได้ไม่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากยิ่งขึ้น

    - ผักตระกูลกะหล่ำ
    ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษจะต้องทานผักตระกูลกะหล่ำให้น้อยลง ไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว บรอกโคลี คะน้า หรือหัวไชเท้า เพราะพืชเหล่านี้มีสารที่จะไปขัดขวางการจับไอโอดีนของต่อมไทรอยด์ จึงทำให้เมื่อร่างกายได้รับไอโอดีนมากเกินไป จึงเป็นสาเหตุให้เกิดอาการคอพอกได้นั่นเอง


    ถึงจะไม่เป็นมิตรกับไทรอยด์เท่าไรนัก แต่ผักตระกูลกะหล่ำปลี ก็มีสรรพคุณด้านการยับยั้งมะเร็ง จึงมีความจำเป็นต้องทานผักชนิดนี้อยู่บ้าง โดยการทานให้ปลอดภัยจะต้องนำมาต้มให้สุกเสียก่อน เพื่อให้สารพิษต่างๆ หายไป ดังนั้นจึงห้ามทานแบบดิบๆ เด็ดขาด รวมถึงสาหร่าย หน่อไม้ และหน่อไม้ฝรั่งด้วย

    - อาหารแปรรูปต่างๆ
    ในอาหารแปรรูปต่างๆ เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน กุนเชียง และอาหารกระป๋อง มักมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผู้ป่วยโรคไทรอยด์เป็นพิษมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากขึ้นด้วย เนื่องจากได้รับโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไป


    ตอบลบ
  4. ไทรอยด์เป็นพิษ ควรกินอะไร

    - วิตามินดี
    การได้รับวิตามินดีอย่างเหมาะสมในระหว่างการรักษาและหลังการรักษาสำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียเนื้อกระดูก และช่วยเพิ่มเนื้อกระดูกขึ้นมาได้ ซึ่งวิตามินดีนอกจากจะได้รับจากแสงแดดในยามเช้าแล้ว ยังสามารถได้รับจากอาหารต่างๆ อย่างพวก นม ปลาทะเล เห็ด และไข่ ได้เช่นกัน
    แน่นอนว่ามันอาจดูเหมือนย้อนแย้งไปสักหน่อย เพราะอาหารทั้งหลายที่มีวิตามันดีสูงล้วนอยู่ในกลุ่มอาหารที่ผูัป่วยไทรอยด์เป็นพิษไม่ควรทานทั้งสิ้น แต่ว่าก็ควรทานบ้างในปริมาณที่เหมาะสม ให้พอดีต่อร่างกาย และเพื่อความแน่ใจ ทางที่ดีควรจะขอคำปรึกษาจากแพทย์เรื่องการทานอาหารเหล่านี้จะดีที่สุด

    - ทองแดง
    ผู้ป่วยทั้งไทรอยด์เป็นพิษและภาวะขาดไทรอยด์ หากขาดธาตุทองแดงจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและคอเลสเตอรอลสูง ดังนั้นร่างกายจึงควรได้รับทองแดงที่มีความจำเป็นต่อการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์
    ควรทานอาหารที่มีแร่ธาตุทองแดงในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งสารอาหารชนิดนี้มีอยู่มากใน เนื้อปู หอยนางรม กุ้งล็อบสเตอร์ ถั่วเปลือกแข็ง เนื้อวัว เมล็ดทานตะวัน ถั่วขาว ถั่วลูกไก่ ถั่วเหลือง เห็ดชิทาเกะ ข้าวบาร์เลย์ มะเขือเทศ และดาร์กช็อกโกแลต

    - สังกะสี
    สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่มีความเกี่ยวโยงโดยตรงกับระดับฮอร์โมนไทรอยด์ เพราะโรคไทรอยด์ทั้ง 2 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นชนิดไทรอยด์เป็นพิษ หรือ ภาวะขาดไทรอยด์ ต่างก็มีสาเหตุมาจากการขาดสังกะสีด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นผู้ป่วยจึงควรรับประทานอาหารที่มีสังกะสีให้มากขึ้น แต่ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะกับร่างกาย
    ควรปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณของสังกะสีที่สามารถทานได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับโรคไทรอยด์ชนิดที่เป็นอยู่ ส่วนอาหารที่มีสังกะสีก็ได้แก่ เนื้อวัว หอยนางรม ปลาซาร์ดีน ถั่วเหลือง วอลนัท เมล็ดทานตะวัน เมล็ดอัลมอนด์ ขิง ธัญพืชต่างๆ และเมเปิ้ลไซรัป เป็นต้น

    - กลูเตน
    ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษสามารถทานอาหารที่มีกลูเตนได้ เช่น ข้าวสาลี หรือข้าวบาเลย์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่สำหรับผู้ที่แพ้กลูเตนอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารประเภทนี้
    เนื่องจากกลูเตนจะเข้าไปทำลายระบบการทำงานของลำไส้เล็ก ทำให้เกิดการขัดขวางการดูดซึมยารักษาต่อมไทรอยด์ ส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป ดังนั้นหากรู้ว่าตนเองแพ้กลูเตนอยู่แล้วก็ไม่ควรทานอาหารที่มีกลูเตนอีก

    - สารต้านอนุมูลอิสระ
    สารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี มีหน้าที่ช่วยให้ต่อมไทรอยด์ต่อสู้กับภาวะการถูกทำลายด้วยสารอนุมูลอิสระ และป้องกันการเสื่อมสภาพก่อนวัยของต่อมไทรอยด์

    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงได้แก่ องุ่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ถั่วเปลือกแข็ง ธัญพืชชนิดต่างๆ และชาเขียว เป็นต้น

    อาหารการกินที่ควรและไม่ควรสำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และซับซ้อนมากพอสมควรเลยล่ะ เพราะอาหารบางชนิดก็ควบอยู่ในหมวดที่สามารถกินได้และกินไม่ได้พร้อมกัน ดังนั้นผู้ป่วยจึงควรใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้ปรับพฤติกรรมการกินของตัวเองให้ควบคู่กับการทานยารักษา ได้อย่างปลอดภัยและถูกวิธีนั่นเอง



    อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com - https://www.terrabkk.com/articles/193671

    ตอบลบ