Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท (ภูพระบาท) Phu Phrabat Historical Park

 

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท (ภูพระบาท) Phu Phrabat Historical Park

 


อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท (ภูพระบาท)



ประเภทของแหล่ง

วัฒนธรรม


กลุ่มของแหล่ง

แหล่งมรดกที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น ของศูนย์มรดกโลก


รายละเอียด

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท  ตั้งอยู่บนภูเขาที่ชื่อว่าภูพระบาท ในเขตพื้นที่เมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน ซึ่งเป็นเทือกเขาหินทราย อยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดอุดรธานี มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยปานกลางประมาณ  320 – 350 เมตร สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่ง มีพืชพันธุ์ธรรมชาติประเภทไม้เนื้อแข็งขึ้นปกคลุม

จากการสำรวจทางโบราณคดีที่ผ่านมาได้พบว่าบนภูพระบาทแห่งนี้ปรากฏร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์กำหนดอายุได้ราว 2,500 – 3,000 ปีมาแล้ว ดังตัวอย่างการค้นพบภาพเขียนสีอยู่มากกว่า 54 แห่งบนภูเขาลูกนี้ นอกจากนี้ก็ยังพบการดัดแปลงเพิงหินธรรมชาติให้กลายเป็นศาสนสถานของผู้คนในวัฒนธรรมทวารวดี วัฒนธรรมเขมร วัฒนธรรมล้านช้างและรัตนโกสินทร์ตามลำดับ ซึ่งร่อยรอยหลักฐานทางโบราณคดีเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางสังคมของมนุษย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

ด้วยเหตุนี้กรมศิลปากรจึงดำเนินการขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติขนาดพื้นที่ 3,430 ไร่ จากกรมป่าไม้ โดยได้ประกาศขึ้นทะเบียนเขตโบราณสถานไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 98 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2524 จากนั้นจึงได้พัฒนาแหล่งจนกลายเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทในที่สุด และได้มีพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2535 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด

ปัจจุบันอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดสำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น กรมศิลปกร กระทรวงวัฒนธรรม มีโบราณสถานในพื้นที่รับผิดชอบซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 78 แห่ง มีภารกิจหลักในการดูแลรักษา อนุรักษ์และพัฒนา และทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโบราณสถานและโบราณวัตถุที่อยู่ภายในพื้นที่อุทยานฯและพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งยังเปิดให้บริการในฐานะแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมสำหรับประชาชนทั่วไป

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ที่มีจุดเด่นแตกต่างจากแห่งอื่นๆ เนื่องจากโบราณสถานส่วนมากที่พบอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ โดยโครงสร้างแล้วเกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อธรณีสัณฐานของพื้นที่ ต่อมามนุษย์ในอดีตได้เข้ามาดัดแปลงเพื่อสนองต่อวัฒนธรรมในแต่ละช่วงสมัย

 

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์

พุทธศักราช 2478 ราชบัณฑิตยสภาประกาศขึ้นทะเบียนกำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มีนาคม 2478 ในขณะนั้นใช้ชื่อว่า “พระพุทธบาทบัวบก” อำเภอบ้านผือ ตำบลเมืองพาน

พุทธศักราช 2516 - 2517 คณะสำรวจโบราณคดี โครงการผามอง สำนักงานพลังงานแห่งชาติ ได้สำรวจแหล่งโบราณคดีในพื้นที่โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำเขื่อนผามอง เดินทางมาสำรวจพบแหล่งภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์หลายแห่งบนภูพระบาท ซึ่งบางแห่งได้เคยสำรวจพบแล้วโดยหน่วยศิลปากรที่ 7 ขอนแก่น พุทธศักราช 2524 กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 98 ตอนที่ 63 วันที่ 28 เมษายน  2524  หน้า 1214 ระบุว่า “โบราณสถานพระพุทธบาทบัวบก ที่ภูพระบาท เนื้อที่ประมาณ 19,062 ไร่ ปรากฏว่าเนื้อที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และจำนวนเนื้อที่ตามข้อเท็จจริงคือประมาณ 3,430 ไร่”

พุทธศักราช 2531 ดร.สุวิชญ์ รัศมิภูติ ขณะดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมศิลปากรขณะนั้นมีดำริเห็นควรดำเนินการพัฒนาพื้นที่ของภูพระบาทขึ้นเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีความพร้อมหลายด้านด้วยกัน อาทิ จำนวนโบราณสถานมากมายทั้งสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยประวัติศาสตร์ซึ่งประกาศเขตโบราณสถานแล้ว ป่าไม้ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และประติมากรรมหินตามธรรมชาติ

พุทธศักราช 2532 เริ่มโครงการอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยศิลปากรที่ 7 ขอนแก่น โดยจัดทำแผนงานโครงการและจัดหางบประมาณมาดำเนินการอนุรักษ์หลักฐานทางโบราณคดีและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก

พุทธศักราช 2535 กรมศิลปากรกราบทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2535

 

ลักษณะทางธรณีวิทยา

พื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทนั้น มีลักษณะทางธรณีวิทยาอยู่ในหมวดหินภูพานของหินชุดโคราช เป็นหินทรายสีเเดงของมหายุคมีโซโซอิก (Mesozoic) มีอายุตั้งเเต่ปลายยุคไทรแอสซิค (245 - 208 ล้านปี) – ครีเทเชียส (146 – 65 ล้านปี) จนถึงยุคเทอร์เชียรีของมหายุคซีโนโซอิค (65 – 5 ล้านปี) โดยชั้นหินทรายนี้วางตัวอยู่บนพื้นผิวของหินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนบน (286 - 245 ล้านปี)

เพิงหินรูปร่างต่างๆที่พบในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทนั้น เกิดจากการที่ชั้นหินทรายเเต่ละชั้นมีความคงทนต่อการกัดเซาะตามธรรมชาติที่เเตกต่างกัน โดยหินทรายชั้นกลางเป็นหินทรายเนื้ออ่อนที่มีการจับตัวของผลึกเเร่ไม่เเน่น จึงสึกกร่อนจากการกัดเซาะได้ง่ายกว่าหินชั้นบนเเละชั้นล่างซึ่งเป็นหินทรายปนหินกรวดมน เนื้อเเน่นเเข็ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดเพิงหินที่มีส่วนกลางคอดเว้าคล้ายดอกเห็ด หรือสึกกร่อนจนเหลือเพียงเสาค้ำตามมุมคล้ายโต๊ะหิน กลายเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติที่สวยงามแปลกตามองดูราวกับว่าก้อนหินเหล่านี้ถูกยกขึ้นมาวางโดยมนุษย์

ปรากฎการณ์ทางธรณีวิทยาลักษณะนี้ มิได้พบเเค่ในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเท่านั้น เเต่กระจายตัวอยู่หลายเเห่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เช่นที่ ภูผาเทิบจังหวัดมุกดาหาร เสาเฉลียง จังหวัดอุบลราชธานี เขาจันทร์งาม จังหวัดนครราชสีมา

 


ตำนานความเชื่อ


อารยธรรมที่พบบนอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ยุคก่อนประวัติศาสตร์

จากการศึกษาลักษณะ และเนื้อหาสาระของภาพเขียนสีแล้ว ทำให้นักโบราณคดีมีความเห็นว่า ภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ที่พบในประเทศไทยนั้น มีทั้งภาพการดำรงชีวิตด้วยการหาของป่าล่าสัตว์เเละภาพการทำเกษตรกรรม จึงน่าจะมีอายุในช่วงราว 3,000 – 2,500 ปีมาเเล้ว ซึ่งเป็นสมัยที่มนุษย์รู้จักการทำเกษตรกรรมเเละการทำเครื่องมือเครื่องใช้จากโลหะเเล้ว

ภาพเขียนสีที่พบบนภูพระบาทมีทั้งเเบบเขียนด้วยสีเดียว (Monochrome) คือสีเเดง เเละหลายสี (Polychromes) คือสีเเดง ขาว เหลือง ตัวภาพเเบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
          1. ภาพเสมือนจริง (ภาพคน, สัตว์, พืช, สิ่งของ)
          2. ภาพนามธรรม (ภาพสัญลักษณ์, ลายเรขาคณิต)

สีที่นำมาใช้เขียนนั้น สันนิษฐานว่าเป็นสีที่นำมาจากวัตถุดิบธรรมชาติเช่น ดินเทศ แร่เฮมาไทต์ โดยอาจนำสีที่ได้นี้ไปผสมกับของเหลวที่มีคุณสมบัติเป็นกาว เช่น ยางไม้ เสียก่อนเเล้วจึงนำมาเขียน เพื่อให้สีติดกับเพิงหินทนนาน


ยุคประวัติศาสตร์

พื้นที่บนภูพระบาท เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 – 16 หรือราว 1,400 – 1,000 ปีมาแล้ว ได้รับเอาวัฒนธรรมทวารวดีที่แพร่มาจากภาคกลางของประเทศไทย พร้อมกับคติความเชื่อทางพุทธศาสนา ทำให้เกิดการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เนื่องในพุทธศาสนาขึ้น ได้แก่ การตกแต่งหรือดัดแปลงเพิงหินให้เป็นศาสนสถาน โดยมีรูปแบบการติดตั้งใบเสมาหินทรายล้อมรอบเอาไว้

ต่อมาราวพุทธศตวรรษที่ 15 – 18 อิทธิพลศิลปกรรมแบบเขมร ซึ่งแพร่หลายอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ได้เข้ามามีบทบาทในแถบนี้ ที่ถ้ำพระมีการตกแต่งสกัดหินเป็นรูปพระโพธิสัตว์และรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเขมร ที่วัดพระพุทธบาทบัวบานและที่วัดโนนศิลาอาสน์ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับภูพระบาท มีการสลักลวดลายบนใบเสมาหินทรายเป็นเรื่องพุทธประวัติและชาดก ซึ่งมีลวดลายตามรูปแบบศิลปกรรมแบบเขมร

หลังจากช่วงสมัยทวารวดีและเขมรผ่านไป ในราวพุทธศตวรรษที่ 22 – 23 วัฒนธรรมล้านช้าง ได้แพร่เข้ามาที่ภูพระบาท พบหลักฐานเป็นพระพุทธรูปเช่น พระพุทธรูปที่ถ้ำพระเสี่ยง ส่วนด้านสถาปัตยกรรมพบหลักฐานที่วัดลูกเขย



นิทานพื้นบ้านเรื่อง “อุสา – บารส”

ผู้คนในท้องถิ่นได้นำเอานิทานพื้นบ้านเรื่อง “อุสา – บารส” มาตั้งชื่อโบราณสถานที่ต่าง ๆ บนภูพระบาท การเที่ยวชมโบราณสถานบนภูพระบาทจึงควรต้องรู้เกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านเรื่องนี้ เพื่อจะได้เข้าใจที่มาของชื่อตลอดจนทราบถึงคติความเชื่อของชุมชนได้เป็นอย่างดี

เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวความรักอันไม่สมหวังระหว่างนางอุสา ธิดาของท้าวกงพาน กับท้าวบารส ซึ่งเป็นโอรสของเจ้าเมืองปะโคเวียงงัว โดยเรื่องราวเริ่มจากนางอุสาได้ทำการเสี่ยงทายหาคู่ ด้วยการทำมาลัยรูปหงส์ลอยไปตามลำน้ำ ซึ่งท้าวบารสเป็นผู้ที่เก็บได้ จึงออกตามเจ้าของมาลัยเสี่ยงทายนั้น จนมาถึงเมืองพานและได้พบกับนางอุสา ทั้งคู่ตกหลุมรักกัน เมื่อท้าวกงพานทราบเรื่องจึงวางอุบายให้มีการแข่งขันสร้างวัดกันภายในหนึ่งวัน โดยผู้ที่แพ้การแข่งขันจะต้องตาย ฝั่งท้าวบารสเสียเปรียบเพราะมีคนน้อยกว่าจึงใช้เล่ห์กลอุบายนำโคมไฟไปแขวนบนยอดไม้เพื่อลวงให้ฝ่ายท้าวกงพานคิดว่าเป็นยามเช้าตรู่แล้ว จึงพากันเลิกสร้างวัดและพ่ายแพ้ไปในที่สุด และถูกตัดศีรษะ หลังจากนั้นนางอุสาได้ไปอยู่กับท้าวบารสที่เมืองปะโคเวียงงัว แต่ก็ถูกกลั่นแกล้งจึงหนีกลับเมืองพาน ในขณะที่ท้าวบารสไปบำเพ็ญเพียรในป่าเพียงลำพัง ต่อมาเมื่อท้าวบารสทราบเรื่องจึงได้ออกเดินทางไปตามนางอุสา ณ เมืองพาน แต่พบว่านางอุสาได้สิ้นใจเพราะความตรอมใจไปก่อนหน้านั้นแล้ว ท้าวบารสเสียใจอย่างสุดซึ้งจึงตรอมใจตายตามนางอุสาไป

 

พิกัดที่ตั้ง

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท
N 17 43 51  E 102 21 22

แหล่งวัฒนธรรมสีมา วัดพระพุทธบาทบัวบาน 
N 17 37 49  E 102 19 54


หมายเหตุ


สามารถดาวน์โหลดชุดข้อมูลแหล่งที่บรรจุอยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก
ได้ที่  เว็บไซต์ (https://www.onep.go.th/tentative-list/)  หรือ กดที่นี่เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูล


วันที่ขึ้นทะเบียน

2004 / 2547


คุณค่าความเป็นสากล

3 - เป็นเอกลักษณ์ที่หายากยิ่ง หรือเป็นของแท้ดั้งเดิม

5 - เป็นตัวอย่างลักษณะอันเด่นชัด หรือขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่มีความเปราะบางด้วยตัวมันเอง หรือเสื่อมสลายได้ง่ายจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมที่ไม่สามารถกลับคืนดังเดิมได้ หรือการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ


อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท

🟢เปิดให้บริการทุกวัน เวลา ๐๘.๓๐ -๑๖.๓๐ น.(ไม่มีวันหยุด)
🟢มีบริการแผ่นพับ จุดชมวีดีทัศน์ นิทรรศการ ร่ม รถวีลแชร์ รถไฟฟ้า ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
🟢จุดบริการขายบัตร ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ค่าเข้าชม ชาวไทย ๒๐ บาท ชาวต่างชาติ ๑๐๐ บาท
(ผู้สูงอายุ ๖๐ ปี ขึ้นไป เด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี ผู้พิการ พระภิกษุ-สามเณร ภิกษุณี) เข้าชมฟรี
🟢มีบริการนำชม (ไทย - อังกฤษ) ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น.
☎️สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ๐๔๒๒๑๙๘๓๘ , ๐๔๒๒๑๙๘๓๗ (ในวันและเวลาราชการ)


ภูพระบาท มรดกโลกทางวัฒนธรรม แห่งใหม่ของไทย



รู้จัก "อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท" มรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของไทย และแห่งที่ 2 ของ จ.อุดรธานี

ข่าวดี เมื่อองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศให้ "อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท" อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เป็น "มรดกโลกทางวัฒนธรรม" ซึ่งในปีนี้การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 จัดขึ้นที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก ภายใต้คุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล ได้แก่ การรักษาความเป็นของแท้และดั้งเดิมของแหล่งวัฒนธรรม สีมาหินสมัยทวารวดี และเป็นประจักษ์พยานที่ยอดเยี่ยมของการสืบทอดของวัฒนธรรมดังกล่าวที่ต่อเนื่องอย่างยาวนานกว่าสี่ศตวรรษ โดยเชื่อมโยงเข้ากับประเพณีของวัดฝ่ายอรัญวาสีในเวลาต่อมา

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เคยถูกเสนอเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2547 ต่อมาถูกถอนรายชื่อ กระทั่งปี 2559 ได้เสนอเพื่อให้มีการพิจารณาการขึ้นทะเบียนอีกครั้ง และในที่สุด ปี 2567 ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นมรดกโลก แหล่งที่ 8 ของประเทศไทย และเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ ลำดับที่ 5 ของประเทศไทย ต่อจากเมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ที่ได้ประกาศไปเมื่อปีที่แล้ว และยังเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 2 ของ จ.อุดรธานี ต่อจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก เมื่อปี 2535


มรดกโลก คืออะไร

แหล่งมรดกโลก หรือ World Heritage Site เป็นพื้นที่ที่ได้รับการคัดเลือกจาก ยูเนสโก (UNESCO) หรือมีชื่อเต็มว่า องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ  เพราะมีลักษณะสำคัญทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือด้านอื่น และได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายตามสนธิสัญญา สถานที่เหล่านี้ถือว่าสำคัญต่อประโยชน์โดยรวมของมนุษยชาติ

อัปเดต 2567 ยูเนสโก ได้รับรองมรดกโลกไทยไปแล้ว 8 แห่ง เป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม 5 แห่ง และมรดกโลกทางธรรมชาติ 3 แห่ง ล่าสุดก็คือ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท นับเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 8 ของไทย นั้นเอง


รู้จัก มรดกโลกแห่งที่ 8 ของไทย

มาทำความรู้จัก "อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท" มรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของไทย แล้วไทยมีมรดกโลกที่ไหนบ้าง ไปติดตามกันเลย 


อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าเขือน้ำ) ในพื้นที่บ้านติ้ว ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ ทางทิศตะวันตกของ จ.อุดรธานี สภาพภูมิประเทศของภูพระบาทมีลักษณะ เป็นลานหินและเพิงหิน ที่่เกิดจากธารน้ำ แข็งละลายกัดกร่อนบนภููพระบาท ทําให้เกิดเพิงหินรูปร่างต่าง ๆ มีอายุอยู่ในยุคครีเทเชียส อายุประมาณ 135 ปีมาแล้ว ประกอบด้วย หินทรายสีเทาเป็นชั้นหนา เม็ดตะกอนมีขนาดปานกลางถึงหยาบและหินทรายปนกรวดชั้นหนา 

จากการสำรวจทางโบราณคดี พบว่าบน "ภูพระบาท"ปรากฏร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ราว 2,500-3,000 ปี จากการค้นพบภาพเขียนสีอยู่มากกว่า 54 แห่ง

นอกจากนี้ ยังพบการดัดแปลงเพิงหินธรรมชาติให้เป็นศาสนสถานของผู้คนในวัฒนธรรมทวารวดี วัฒนธรรมเขมร วัฒนธรรมล้านช้างและรัตนโกสินทร์ตามลำดับ ซึ่งร่อยรอยหลักฐานทางโบราณคดีเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางสังคมของมนุษย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

ด้วยเหตุนี้กรมศิลปากรจึงดำเนินการขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติขนาดพื้นที่ 3,430 ไร่ จากกรมป่าไม้ โดยได้ประกาศขึ้นทะเบียนเขตโบราณสถานไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 98 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2524

จากนั้นจึงได้พัฒนาแหล่งจนกลายเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทในที่สุด และได้มีพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2535 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดสำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น กรมศิลปกร กระทรวงวัฒนธรรม มีโบราณสถานในพื้นที่รับผิดชอบซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 78 แห่ง มีภารกิจหลักในการดูแลรักษา อนุรักษ์และพัฒนา และทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโบราณสถานและโบราณวัตถุที่อยู่ภายในพื้นที่อุทยานฯและพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งยังเปิดให้บริการในฐานะแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมสำหรับประชาชนทั่วไป

การประกาศของยูเนสโก้ครั้งนี้ ก็ทำให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นมรดกโลกลำดับที่ 8 และแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 5 ของประเทศไทย ต่อจากเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ได้ประกาศไปเมื่อปีที่แล้ว และยังเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 2 ของ จ.อุดรธานี ต่อจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก เมื่อปี 2535

ทั้งนี้ กรมศิลปากร จะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทฟรี ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม - 12 สิงหาคมนี้ 

ข้อมูลอ้างอิง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ, กรมศิลปากร, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


"ยูเนสโก" รับรอง "มรดกโลกของไทย" ที่ไหนบ้าง


ปัจจุบัน "ยูเนสโก" ได้รับรองมรดกโลกไทยไปแล้ว 8 แห่ง แบ่งเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม 5 แห่ง และมรดกโลกทางธรรมชาติ 3 แห่ง ดังนี้


มรดกโลกทางวัฒนธรรม

1.  อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร) 

2. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร 

3. แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี 

4. อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ปี พ.ศ. 2566

5. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ปี พ.ศ. 2567 



Phu Phrabat Historical Park  ,   อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท   ,  ภูพระบาท


ที่มา    https://worldheritagesite.onep.go.th/sitedetail/19  ,  https://prinkotakoon.blogspot.com/2024/07/phu-phrabat-historical-park_27.html  ,  https://prinkotakoon.blogspot.com/2024/07/phu-phrabat-historical-park_25.html 


4 ความคิดเห็น:

  1. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท


    จังหวัดอุดรธานีไม่เพียงแต่เป็นประตูสู่ภาคอีสานตอนบน แต่ยังเป็นขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อุทยานประวัติศาสตร์ Phu Phrabat” ที่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 2567 ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มความสนใจมากยิ่งขึ้น
    หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานธรรมชาติ โบราณสถาน และตำนานพื้นบ้านเข้าด้วยกันอย่างลงตัว การ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท ถือเป็นตัวเลือกที่สะดวก ประหยัดเวลา และให้ประสบการณ์เต็มรูปแบบในการเดินทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

    เกี่ยวกับ อุทยาน ภูพระบาท

    “ภูพระบาท” (Phu Phrabat) ตั้งอยู่ใน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญของประเทศไทยที่มีทั้งความงดงามทางธรรมชาติและคุณค่าทางประวัติศาสตร์
    โดดเด่นด้วย กลุ่มหินธรรมชาติรูปร่างแปลกตา และ หลักฐานการอยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยที่นี่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2567 (2024)

    ทยานประวัติศาสตร์ ที่ซ่อนตัวในธรรมชาติ

    อุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ ประกอบด้วยโขดหินรูปร่างแปลกตา วัดเก่า ภาพเขียนสี และโบราณสถานหลากหลายที่มีอายุย้อนไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์
    ที่นี่คือหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ตลอดจนพัฒนาการทางศาสนา ศิลปะ และความเชื่อในพื้นที่อีสาน การเดินทางแบบอิสระโดยการ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท จะช่วยให้คุณสามารถใช้เวลาสำรวจทุกจุดได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องรีบร้อนหรือพลาดจุดน่าสนใจ


    ความสำคัญทางวัฒนธรรม

    ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน “ภูพระบาท” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยใช้เกณฑ์ข้อ:

    1.เกณฑ์ iii: เป็นหลักฐานอันโดดเด่นของวัฒนธรรมที่สูญหายหรือยังคงอยู่
    2เกณฑ์ v: เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ

    มรดกโลกแห่งใหม่ของไทย

    ในปี 2567 “ภูพระบาท” ได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 8 ของประเทศไทย จากการมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีอันโดดเด่น การขึ้นทะเบียนนี้ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกให้คงอยู่ และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
    สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเส้นทางสายประวัติศาสตร์ การวางแผนทริปพร้อม เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท จะทำให้คุณเข้าถึงสถานที่ได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบขนส่งที่ยังไม่สะดวกในบางพื้นที่

    ไฮไลต์ที่สำคัญในภูพระบาท

    1. หอนางอุสาหินรูปร่างคล้ายศาลา เกี่ยวข้องกับตำนานนางอุสา–ท้าวบารสเชื่อว่าเป็นหอที่นางอุสาถูกขังจากบิดาฤๅษี
    2. ถ้ำลายมือแดงมีภาพเขียนสีของมือมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000 – 6,000 ปี
    3. กลุ่มโขดหินรูปทรงแปลกตาเช่น หินเห็ด หินช้าง หินเต่า เกิดจากการกัดเซาะของลมและฝนหลายแห่งถูกปรับใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมในอดีต

    โขดหินรูปร่างประหลาด จากธรรมชาติสู่งานศิลป์

    ภูพระบาทขึ้นชื่อเรื่องกลุ่มหินรูปร่างประหลาด ที่เกิดจากกระบวนการกัดเซาะของธรรมชาติในช่วงหลายล้านปีที่ผ่านมา บางก้อนมีลักษณะคล้ายเห็ด เรือ เต่า และแม้แต่ปราสาท ซึ่งหลายจุดได้รับการตั้งชื่อและเป็นแหล่งตำนานพื้นบ้าน เช่น “หอนางอุสา” และ “ปราสาทหิน”
    การ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท จะช่วยให้คุณสามารถหยุดแวะชมแต่ละจุดได้ตามอัธยาศัย และเลือกเส้นทางที่เหมาะกับความสนใจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสายถ่ายภาพ สายประวัติศาสตร์ หรือสายธรรมชาติ

    ตอบลบ
  2. ภาพเขียนสีจากมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์


    หนึ่งในความน่าทึ่งของภูพระบาท คือการค้นพบ ภาพเขียนสีโบราณ บนผนังหินที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี โดยภาพเหล่านี้มักเป็นรูปคน สัตว์ หรือสัญลักษณ์ลึกลับ ที่เชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมและความเชื่อของชุมชนดั้งเดิม
    การได้มองเห็นภาพเขียนสีของจริงด้วยตาตัวเอง จะช่วยให้เข้าใจประวัติศาสตร์ได้ลึกซึ้งกว่าการอ่านหนังสือ และแน่นอนว่าการ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท จะช่วยให้คุณมีเวลาสำรวจทุกภาพเขียนได้แบบไม่เร่งรีบ

    ถ้ำลายมือแดง (Red Handprints Cave)

    ประวัติ & ความสำคัญ

    “ถ้ำลายมือแดง” เป็นหนึ่งในถ้ำสำคัญภายในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตั้งอยู่ในกลุ่มหินธรรมชาติด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ โดดเด่นด้วย ภาพเขียนสีของมือมนุษย์ ที่ปรากฏชัดบนผนังหิน
    ลักษณะ: ลายมือสีแดงแบบ “พ่นฝ่ามือ” (negative handprint) โดยใช้สีจากแร่ธรรมชาติ เช่น แร่เหล็ก อายุโดยประมาณ: 3,000 – 6,000 ปี หรือสมัยก่อนประวัติศาสตร์ (ยุคหินใหม่)
    จำนวน: พบลายมือมากกว่า 20 รอย บางรอยเป็นของเด็ก บางรอยซ้อนทับกัน
    วัตถุประสงค์: เชื่อว่าเป็น “พิธีกรรม” หรือ “การสื่อสารทางจิตวิญญาณ” เช่น การขอพร แสดงตัวตน หรือเชื่อมต่อกับวิญญาณบรรพบุรุษ

    ความสำคัญระดับโลก

    ภาพเขียนสีแบบนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับที่พบในแหล่งโบราณคดีสำคัญทั่วโลก เช่น ถ้ำลาสโค (ฝรั่งเศส) และถ้ำอัลตามิรา (สเปน) ยืนยันถึงพฤติกรรมร่วมทาง วัฒนธรรม ของมนุษย์ในหลายพื้นที่ของโลก

    เส้นทางศึกษาธรรมชาติพร้อมประวัติศาสตร์

    อุทยานฯ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เชื่อมโยงแต่ละจุดโบราณสถานเข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถเดินชมได้แบบไม่เหนื่อยมาก แต่หากต้องการเก็บหลายจุดในวันเดียว การมีรถยนต์ส่วนตัวคือข้อได้เปรียบ
    การ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท โดยเฉพาะรถขนาดเล็กหรือรถ SUV จะทำให้คุณประหยัดแรง และ เดินทางไปจุดที่อยู่ห่างจากกันได้ง่ายขึ้น

    จุดกราบไหว้รอยพระพุทธบาทและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

    ชื่อของ “ภูพระบาท” มาจากรอยพระพุทธบาทจำลองที่อยู่บริเวณยอดเขา ซึ่งเป็นจุดที่ นักท่องเที่ยวนิยมเดินขึ้นไปกราบไหว้ขอพร นอกจากนี้ยังมีวัดพระบาทบัวบานที่ตั้งอยู่ใกล้กัน ซึ่งเงียบสงบและเหมาะสำหรับการทำสมาธิ
    สำหรับสายบุญ การ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท จะช่วยให้คุณสามารถแวะ ไหว้พระ ในหลายวัดตลอดเส้นทางได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นวัดโพธิสมภรณ์ หรือวัดป่าบ้านตาดก่อนขึ้นภู

    ตอบลบ
  3. ตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับสถานที่สำคัญใน “ภูพระบาท”


    หอนางอุสา ตามตำนาน “นางอุสา” เป็นธิดาของฤๅษีผู้ทรงฤทธิ์ ถูกขังไว้บนหินสูงเพื่อไม่ให้พบปะชายใดจน “ท้าวบารส” เจ้าชายจากแดนไกล ใช้กลอุบายขึ้นมาพบ และ ตกหลุมรักกันในที่สุดหินจึงได้ชื่อว่า “หอนางอุสา”ถือเป็นเรื่องรักต้องห้ามในท้องถิ่นและมีการแสดงพื้นบ้านเล่าตำนานนี้
    กู่นางอุสา เชื่อว่าเป็นจุดที่ใช้ประกอบพิธีแต่งงานหรือบูชาเพื่อปลดปล่อยนางจากการจองจำ
    บ่อน้ำนางอุสา เชื่อว่าเป็นบ่อน้ำที่นางอุสาใช้สำหรับอาบน้ำ บริเวณนั้นมีแอ่งน้ำหินธรรมชาติเล็ก ๆ
    ถ้ำวัว มีลักษณะเหมือนวัวกำลังนอน เชื่อว่าเคยมีวัวศักดิ์สิทธิ์ของฤๅษีอาศัยอยู่
    ถ้ำช้าง เป็น หินรูปร่างคล้ายช้าง ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสัตว์พาหนะของฤๅษี
    ถ้ำพระ เป็นที่ พบร่องรอยการสร้างเจดีย์ขนาดเล็ก หรือฐานพระพุทธรูป เชื่อว่าเคยใช้เป็นสำนักวิปัสสนา


    จุดชมวิวและถ่ายภาพสุดปัง

    ภูพระบาทเต็มไปด้วยจุดถ่ายรูปสวย ๆ โดยเฉพาะในช่วงแสงเช้า และ แสงเย็นที่สะท้อนบนโขดหินให้ บรรยากาศเหนือจริง หากคุณเป็นสายถ่ายภาพ
    การมีรถของตัวเองหรือ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท จะช่วยให้คุณเข้าถึงจุดชมวิวได้ก่อน นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ และ มีเวลาจัดองค์ประกอบภาพอย่างเต็มที่


    จุดเด่นที่ห้ามพลาด!

    หอนางอุสา


    ลักษณะของ หอนางอุสา ซึ่งเป็นโขดหินขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายเห็ดที่ประดับด้วยใบเสมาหิน มนุษย์ในสมัยก่อนได้ก่อหินล้อมไว้ เป็นเพิงด้านบน มีประตูและหน้าต่างขนาดเล็ก ใช้เป็นห้องประกอบพิธีกรรม
    หอนางอุสา เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่มีชื่อเสียงที่สุดใน อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี มีลักษณะเป็น กลุ่มหินธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนยอดเขา มีรูปร่างคล้าย ศาลาหรือหอคอยเล็ก ๆ บนแท่นหิน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ “นางอุสา” ถูกขังตามตำนานพื้นบ้านเก่าแก่ของท้องถิ่น
    ตำนาน “นางอุสา – ท้าวบารส”
    เป็นนิทานพื้นบ้านที่เล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับ “นางอุสา” ธิดาของฤๅษีผู้มีสิริโฉมงดงาม ถูกขังไว้บนหอนี้เพื่อกันไม่ให้พบชายใด แต่ “ท้าวบารส” เจ้าชายจากแดนไกลลักลอบขึ้นมาพบนาง จนเกิดเป็นเรื่องราวรักต้องห้าม หอนางอุสา จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความศรัทธา และ การรอคอยในวรรณกรรมพื้นบ้านอีสาน
    ความน่าสนใจทางโบราณคดี
    ไม่มีการตกแต่งด้วยฝีมือมนุษย์ ตัวหอเกิดจากหินที่ถูกน้ำ และ ลมกัดเซาะตามธรรมชาติแต่ต่อมา ชาวบ้านในสมัยโบราณได้นำไปใช้ประกอบพิธีกรรม และ ตีความเป็นสถานที่ในตำนาน


    เหมาะสำหรับทุกวัย

    เส้นทางท่องเที่ยวในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้สามารถเดินได้ง่าย มีป้ายบอกทางชัดเจน เหมาะ สำหรับผู้สูงอายุ เด็ก และ ครอบครัว การมีรถยนต์จะช่วยให้ทุกคนในทริปมี ความสบาย ไม่เหนื่อย และ สามารถควบคุมเวลาได้ดีกว่า
    บริการ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท ยังสามารถเลือกแบบ มีคนขับ ได้ สำหรับผู้ที่ไม่ชินเส้นทาง หรือไม่อยากขับเอง

    ตอบลบ
  4. ของฝากพื้นบ้านและวัฒนธรรมชุมชน


    ในบริเวณใกล้ภูพระบาท มีร้านขายของฝาก และ ชุมชนท้องถิ่นที่จำหน่ายสินค้าหัตถกรรม เช่น ผ้าทอมือ ผ้าย้อมคราม และ สมุนไพรพื้นบ้าน
    การ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท จะช่วยให้คุณสามารถแวะซื้อของฝากจากหมู่บ้านใกล้เคียงได้ง่าย และ ได้สัมผัสบรรยากาศชนบทอย่างแท้จริง


    สิ่งที่ได้จากการเดินทางไป

    การพักผ่อน หย่อนใจจากการเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวัน
    อากาศที่สดชื่นเนื่องจากเป็น อุทยานแห่งชาติ ที่มีต้นไม้มากมาย
    ได้ออกกำลังกายจากการเดินเท้า
    ผู้สูงอายุก็ไปได้เนื่องจากมีรถกอร์ฟ บริการ ฟรี…
    เด็กๆได้ศึกษาธรรมชาติ และเรียนรู้ในเรื่อง โบราณคดี
    มีสถานที่ต่างๆที่สวยงาม เหมาะ แก่การถ่ายรูป


    เรียนรู้วัฒธรรมแต่โบราณ

    ชมความมหัศจรรย์ ของธรรมชาติ
    ความงดงามของหินที่ซ้อนกันอย่างลงตัว
    และ อีกมากมายที่คุณจะคิดไม่ถึง


    เส้นทางเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ

    จากภูพระบาท คุณสามารถต่อเส้นทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น วัดป่าภูก้อน ทะเลบัวแดง หรือ แม้แต่ตัวเมืองหนองคาย การ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท แบบเหมารถเต็มวัน จึงให้ความคุ้มค่ากว่า เพราะสามารถจัดทริปต่อเนื่องได้ใน ทริปเดียว


    การเดินทางไปภูพระบาท

    ระยะทางจากตัวเมือง อุดรธานี: ประมาณ 70 กิโลเมตร เวลาที่ใช้ในการเดินทาง: ประมาณ 1 – 1.5 ชั่วโมง
    ตัวเลือกการเดินทาง:
    เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท สะดวกที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น มีบริการแบบขับเอง หรือ พร้อมคนขับ เหมาะกับครอบครัว หรือ กลุ่มเพื่อน
    รถโดยสารประจำทางหรือสองแถว
    มีเฉพาะบางเที่ยว ต้องต่อรถและใช้เวลามาก

    บทสรุป

    “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” คือ หนึ่งในจุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใน ภาคอีสาน ที่มีทั้งความงดงามทางธรรมชาติ และ คุณค่าทางประวัติศาสตร์
    หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้อย่างเต็มที่โดยไม่พลาดมุมสำคัญ การ เช่ารถอุดรธานี ไปภูพระบาท คือ ทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความ สะดวก ประหยัดเวลา และ ได้อรรถรสของการเดินทางอย่างแท้จริง

    ตอบลบ