Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ตำนานจิ้งจอกเก้าหาง จากตำนานจีนสู่เครื่องรางของขลังแบบไทย ๆ

 ตำนานจิ้งจอกเก้าหาง จากตำนานจีนสู่เครื่องรางของขลังแบบไทย ๆ


ตำนาน “จิ้งจอกเก้าหาง” นั้น แรกเริ่มปรากฎอยู่ในตำนานของพื้นที่ต่าง ๆ ในเอเชีย เช่นใน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย การปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษรแรกเลยในตำราชื่อ “ซาน ไห่ จิง” โดยเป็นตำราที่เกี่ยวกับ เทพ และ สัตว์ในตำนานต่าง ๆ ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 400 ปี ก่อนคริสต์ศักราช แต่ก็กระจัดกระจายไป ก่อนจะมีการรวบรวมอีกครั้ง ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 220 )


โดยในตำรา ซาน ไห่ จิง กล่าวว่า ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง อาศัยอยู่ในภูเขาชิงชิว จิ้งจอกเก้าหางมีรูปลักษณ์เหมือนจิ้งจอกแต่มีหาง 9 หาง มีเสียงร้องเหมือนทารกร้องไห้ และจิ้งจอกเก้าหางนี้กินมนุษย์ และมีเรื่องเล่าต่อมาว่าผู้ที่พบจิ้งจอกเก้าหางนี้ มีโอกาสได้เป็นเจ้าของแผ่นดิน นอกจากจะปรากฎตัวในตำราโบราณแล้วนั้นจิ้งจอกเก้าหางยังปรากฎอยู่ใน ภาพเขียน ภาพวาดต่าง ๆ และลวดลายเครื่องปั้นดินเผาของจีนโบราณอีกด้วย รวมทั้งชาวแคว้นจ้วงในตอนใต้ของประเทศจีนยังเชื่อว่าจิ้งจอกเก้าหางคือเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ โดยมักจะมีภาพฝาผนังรูปจิ้งจอกเก้าหางในพื้นที่ของชาวจ้วง



ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618 - ค.ศ.605) ภาพลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าเปลี่ยนกลายเป็นเลวร้าย หลังจากที่กวีไป๋จวีอี้ตีพิมพ์บทกวีเล็ก ๆ ชื่อ “สุนัขจิ้งจอกแห่งสุสานโบราณ” ซึ่งวาดภาพเป็นวิญญาณจิ้งจอกที่เปลี่ยนร่างเป็นหญิงสาวสวยที่มีจุดประสงค์เพียงเพื่อล่อลวงผู้ชายให้หลงไหลและทำผิดศีลธรรม

เรื่องของจิ้งจอกเก้าหางที่โด่งดังที่สุดอยู่ในพงศาวดารเรื่อง “ห้องสิน” ที่แต่งขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 - ค.ศ. 1644)  ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าหางว่าเป็นปีศาจแสนสวยที่คอยชักนำบุรุษให้หลงไหล  โดยเริ่มจากจักรพรรดิโจ้วหวาง แห่งราชวงศ์ซาง ได้เสด็จไปถวายสักการะพระแม่หนี่วาพระแม่แห่งสรรพสิ่งทั้งปวง แต่แล้วเมื่อจักรพรรดิเห็นงดงามประดุจมีชีวิต จึงแต่งเป็นบทกวีชมพระแม่หนี่วาด้วยถ้อยคำที่หยาบโลน การกระทำของจักรพรรดิโจ้วหวาง ทำให้พระแม่หนี่วาโกรธมาก จึงส่งปีศาจจิ้งจอก ปีศาจผีผา และปิศาจไก่ มาทำลายจักรพรรดิโจ้วหวาง

ขณะเดียวกัน จักรพรรดิโจ้วหวาง ก็สั่งให้ตามหาสาวงามที่มีใบหน้าสวยงามดั่งเช่นพระแม่หนี่วา จนกระทั่งพบ ซูต๋าจี ธิดาของมหาเศรษฐีผู้หนึ่ง สาวงามที่มีใบหน้าคล้ายพระแม่ แต่เคราะห์ร้ายที่ ซูต๋าจี ถูกปีศาจจิ้งจอกสังหารแล้วสิงร่างของนางก่อนถวายตัวเป็นสนม

หลังจากนั้น ซูต๋าจีที่ถูกนางปีศาจจิ้งจอกเข้าสิง ก็ใช้มารยายุยงให้จักรพรรดิโจ้วหวางหลงผิด ไม่เป็นอันว่าราชการ มัวเมาในสตรี จัดงานเลี้ยงหรูหราในวัง ก่อสร้างหอคอยสอยสอยดาว สร้างสระสุราดงเนื้อ เกณฑ์แรงงานมาก่อสร้างจนล้มตายไปมาก ใครขัดหรือโต้แย้งก็ถูกประหารหมด

เมื่อบ้านเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย ร้อนถึงสวรรค์ต้องส่ง “เจียงจื่อหยา” ฝึกวิชาบำเพ็ญตนบนเขาคุนหลุนลงไปปราบเจ้าปิศาจร้ายตนนี้ เจียงจื่อหยา พร้อมทั้งศิษย์เอกคือ "นาจา" ก็ได้รวบรวมพวกพ้องที่เป็นนักพรต เหล่าขุนนางที่หลบหนีจากราชสำนัก โดยมี "จี้ซาง" อดีตเจ้าเมืองที่ต้องเสียตำแหน่งเพราะซูต๋าจี นำทัพเพื่อบุกโจมตีและโค่นล้มจักรพรรดิโจ้วหวาง สุดท้ายปีศาจทั้งสามถูกคุมตัวไปตัดสินโทษ ส่วนพระเจ้าโจ้วหวางได้สูญเสียอำนาจ รวมถึงรู้สึกสำนึกผิดต่อการกระทำที่ผ่านมาก่อนจะทำการเผาตัวตายที่หอคอยสอยดาว  ราชวงศ์ซางจึงได้ถึงคราวสิ้นสุดลง  ก่อนที่จะมีการสถาปนา “ราชวงศ์โจว” ในรัชสมัยถัดมา

ส่วนจิ้งจอกเก้าหางของญี่ปุ่น ว่ากันว่าคือปีศาจตัวเดียวกันจากเมืองจีนที่หลบหนีไปจากสงครามในเรื่องห้องสิน ว่ากันว่าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้หลบหนีมาจากทางประเทศจีนเข้ามาในช่วงสมัยเฮอัน  ซึ่งตรงกับรัชสมัยของจักรพรรดิโทบะ ปิศาจจิ้งจอกได้จำแลงร่างเป็นสาวงามเหมือนเช่นที่เคยกระทำมา โดยได้ใช้ชื่อว่า “ทามาโมะ โนะ มาเอะ” แน่นอนว่าความงดงามได้ไปต้องตาต้องใจของจักรพรรดิโทบะ จนได้พามาเข้าวังหลวงและแต่งตั้งให้เป็นนางสนมเอก ว่ากันว่าปิศาจจิ้งจอกในชื่อทามาโมะ โนะ มาเอะตนนี้งดงามราวกับมิใช่มนุษย์  มีกลิ่นหอมหวานราวกับกลีบดอกซากุระรอบตัว  ทำให้จักรพรรดิโทบะลุ่มหลงจนไม่เป็นอันว่าราชการกิจแผ่นดิน ทั้งยังทำให้ร่างกายของจักรพรรดิโทบะทรุดโทรมจากการถูกสูบพลังวิญญาณไป ความผิดปรกตินี้ทำให้เหล่านักพรตต้องเข้ามาหาสืบสวน จนพบว่ามีปิศาจสิงสู่อยู่ในวังหลวง สุดท้ายนางปีศาจจิ้งจอกได้กลายร่างแท้จริงและหลบหนีไป จนท้ายที่สุดแล้ว ปีศาจจิ้งจอกก็ถูกเหล่านักพรตสยบลงจนในที่สุด  ร่างของปิศาจจิ้งจอกเก้าหางได้กลายเป็นก้อนหินที่ชื่อ “เซ็ตโชเซกิ” ซึ่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของสำคัญญี่ปุ่นตั้งอยู่บนเนินเขานาสุ จังหวัดโทชิกิ เกาะฮอนชู



สำหรับเกาหลี มีเรื่องของจิ้งจอกเก้าหางอยู่ในตำนานโบราณของเกาหลี กล่าวถึง ปีศาจจิ้งจอกชื่อ “กูมิโฮ” ที่สามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้ และมักแปลงเป็นหญิงงามเพื่อหลอกล่อผู้ชาย เนื่องจากนางต้องการบำเพ็ญเพียรเพื่อกลายเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ แต่นอกจากบำเพ็ญเพียรแล้ว ปีศาจจิ้งจอกยังต้องกินหัวใจและตับของมนุษย์หนึ่งร้อยคนเพื่อที่จะกลายเป็นมนุษย์จริง ๆ แต่เมื่อผ่านการกินหัวใจและตับของมนุษย์มาเก้าสิบเก้าคน ผู้ชายคนที่หนึ่งร้อยนั้นกลับกลายเป็นรักแรกของกูมิโฮที่ได้มอบ “หัวใจอันบริสุทธิ์” ของตนเองแก่ผู้ชายคนนั้น จนรอดพ้นจากการเป็นเหยื่อ  กูมิโฮเลือกที่จะ “รัก” มากกว่าการจะกลายมาเป็นมนุษย์  แม้ว่าจะไม่สมหวังใจความรักนั้นก็ตามที ทำให้ตำนานของเกาหลีกลายเป็นเรื่องความรักที่บริสุทธิ์ต่างจากตำนานของประเทศอื่น

จากเหตุการในห้องสิน ทำให้จิ้งจอกเก้าหางกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเสน่ห์หาและราคะเป็นที่สุด ในปัจจุบันทั้งจีนญี่ปุ่น และเกาหลี ยังมีนำเสนอรูปเรื่องราวตำนานเกี่ยวกับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางอยู่เรื่อย ๆ ในรูปแบบของซีรี่ย์ หรือ ภาพยนต์ ต่าง ๆ

สำหรับประเทศไทย ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง แต่ในปัจจุบัน มีทั้งวัด และสำนักสักยันต์ต่าง ๆ ออกวัตถุมงคลประเภทจิ้งจอกเก้าหางออกมามากมาย ทั้งล็อกเก็ต เหรียญ  และยิ่งล่าสุดยังมีการทำรูปเคารพเลยทีเดียว โดยหากเข้าไปศึกษาดูแล้วจะพบว่าวัตถุมงคลและรูปเคารพจิ้งจอกเก้าหางโดยส่วนใหญ่ จะทำออกมาเพื่อตีตลาดวัตถุมงคลของคนจีนที่เข้ามาทั้งท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ และมีบางส่วนที่ใช้ตีตลาดคนไทยสายมูที่อยากบูชาวัตถุมงคลในด้านเมตตามหาเสน่ห์

อย่างไรก็ตามจิ้งจอกเก้าหางไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา หรือ วัฒนธรรมไทย ใด ๆ เลย การบูชาจิ้งจอกเก้าหางนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ควรมีวิจารณญาณในการตัดสินใจของแต่ละคน และควรยืนอยู่บนพื้นฐานความจริงก่อนจะมีความเชื่อหรือเคารพบูชาสิ่งใด ๆ และไม่ควรงมงายในสิ่งต่าง ๆ เกินควรแม้จะเป็น “สายมู” ก็ตาม

https://youtu.be/LQLYtVsv5PQ?si=xcSTPBgVFeTsOvmf

https://youtu.be/eBbnnR97mEk?si=MTpUl9BSaZdn7UV4


จิ้งจอกเก้าหาง  ,  Kitsune   ,   คิตสึเนะ   ,   ตำนานจิ้งจอกเก้าหาง  ,  Kyuubi no Yooko  ,  คิวบิโนะโยโคะ


ขอขอบคุณที่มา  ::   https://www.mcot.net/view/Ve3IigAY

3 ความคิดเห็น:


  1. จิ้งจอกเก้าหาง (Kyuubi no Yooko) เป็นตำนานสัตว์วิเศษจากเอเชีย โดยเฉพาะในจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่ว่ากันว่าสามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้ มีเสน่ห์ ความฉลาด และไหวพริบสูง มักปรากฏในรูปหญิงสาวงดงามที่หลอกล่อชายหนุ่มให้หลงใหล และเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ความร่ำรวย และความรักในวัฒนธรรมบางส่วน


    ความหมายและลักษณะ

    ต้นกำเนิด:
    ตามตำนาน สุนัขจิ้งจอกจะบำเพ็ญเพียรและเพิ่มหางทีละหาง จนมีครบ 9 หาง จึงมีวิชาอาคมแกร่งกล้าและสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้

    การแปลงร่าง:
    จิ้งจอกเก้าหางส่วนใหญ่แปลงเป็นหญิงสาวที่มีความงามและเสน่ห์อย่างยิ่งยวด เพื่อหลอกล่อให้ผู้คนหลงใหล

    ความฉลาดและไหวพริบ:
    มีไหวพริบดีเลิศ ฉลาดเฉลียว และเป็นที่รู้จักในเรื่องความสามารถในการใช้เสน่ห์เพื่อหลอกลวง

    บทบาทและสัญลักษณ์
    ตัวแทนแห่งเสน่ห์และโชคลาภ:
    จิ้งจอกเก้าหางเป็นสัญลักษณ์ของเสน่ห์และความรัก รวมถึงโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง

    เครื่องราง:
    บางวัฒนธรรมเชื่อว่าเครื่องประดับหรือวัตถุมงคลรูปจิ้งจอกเก้าหางสามารถนำโชคลาภ เสริมเสน่ห์ และดึงดูดความสำเร็จได้

    แรงบันดาลใจ:
    เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์งานศิลปะ วรรณกรรม และซีรีส์ต่าง ๆ ในวัฒนธรรมเอเชีย


    ตำนานที่โด่งดัง

    ซูต๋าจี่ (苏妲己):
    หนึ่งในตำนานที่โด่งดังที่สุดในวรรณกรรมจีน "ห้องสิน" ซูต๋าจี่เป็นจิ้งจอกเก้าหางที่แปลงกายเป็นสาวงามเพื่อหลอกล่อจักรพรรดิโจ้วแห่งราชวงศ์ซาง ทำให้บ้านเมืองล่มสลาย

    ทามาโมะ โนะ มาเอะ (玉藻前):
    ตำนานญี่ปุ่น เล่าถึงจิ้งจอกเก้าหางที่ปลอมตัวเป็นสาวงามเพื่อเข้าใกล้จักรพรรดิโทบะและสูบพลังชีวิต แต่สุดท้ายก็ถูกข้าราชบริพารปราบได้สำเร็จ

    ตอบลบ
  2. ประวัติ นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง สัตว์เทพตามตำนานของจีน มีเรื่องเล่าขานทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น จากปีศาจสู่เทพเจ้า
    จากประเด็นฮือฮา ณ ศาลครูกายแก้ว รัชดา ที่จะมีเหล่าทวยเทพต่างๆ มาลง ให้ผู้คนได้กราบไหว้ขอพร หนึ่งในนั้นคือ นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง จนกลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากว่า จิ้งจอกเก้าหางนั้นเป็นปีศาจไม่ใช่เทพเจ้าที่ควรกราบไหว้ อีกทั้งยังเป็นเพียงตำนานเล่าขานเท่านั้น

    จิ้งจอกเก้าหาง เป็นหนึ่งในสัตว์วิเศษที่เป็นที่รู้จักทั้งในจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ตามตำนานของจีน ว่ากันว่าเป็นเทพปีศาจ 1 ในเทพปกรณัมจีน มีชีวิตอมตะและแปลงเป็นมนุษย์ได้หากได้บำเพ็ญตบะมานาน โดยตำนานเล่าขานส่วนใหญ่จะเป็นจิ้งจอกเพศเมียที่แปลงกายเป็นหญิงสาวงดงาม มีไหวพริบเป็นเลิศ หลอกล่อให้ชายลุ่มหลง

    ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางของจีน
    ในพงศาวดารของจีนชื่อว่า “ฮ่องสิน” หรือ “ห้องสิน” เล่าตำนานของจิ้งจอกเก้าหาง เริ่มจาก จักรพรรดิโจ้ว แห่งราชวงศ์ซาง ได้เสด็จไปถวายสักการะพระแม่หนี่วา แล้วเห็นเทวรูปสลักงดงามประดุจมีชีวิต จึงแต่งเป็นบทกวีชมโฉมองค์เทวีด้วยถ้อยคำที่จาบจ้วงแสดงความกำหนัด แล้วทรงมีพระราชโองการให้นำโคลงนั้นประดับไว้ในเทวสถาน

    การกระทำของ จักรพรรดิโจ้ว ทำให้พระแม่หนี่วาโกรธมาก จึงส่งปีศาจจิ้งจอก ปีศาจพิณ และปิศาจไก่ มาทำลาย จักรพรรดิโจ้ว

    ขณะเดียวกัน จักรพรรดิโจ้ว ก็สั่งให้ตามสาวงามที่มีใบหน้าสวยงามดั่งเช่นพระแม่หนี่วา จนกระทั่งพบ ซูต๋าจี ธิดาของมหาเศรษฐีผู้หนึ่ง สาวงามที่มีใบหน้าคล้ายพระแม่ แต่เคราะห์ร้ายที่ ซูต๋าจี ถูกปีศาจจิ้งจอกสังหารก่อนถวายตัวเป็นสนมแล้วเข้าสิงร่างของเธอ

    หลังจากนั้น ซูต๋าจีที่ถูกนางปีศาจจิ้งจอกเข้าสิง ก็ใช้มารยายุยงให้จักรพรรดิโจ้วหลงผิด ไม่เป็นอันว่าราชการ มัวเมาในสตรี จัดงานเลี้ยงหรูหราในวัง ก่อสร้างหอคอยสอยดาวสูงเสียดฟ้าที่มาจากการขูดรีดภาษีประชาชน เกรณฑ์แรงงานมาก่อสร้างจนล้มตายไปมาก ใครขัดหรือโต้แย้งก็ถูกประหารหมด ขณะเดียวกันนางก็แอบพาเหล่าปีศาจเข้ามาสิงสู่ในวังมากขึ้น

    เมื่อบ้านเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย ร้อนถึง เทพปรมาจารย์เอวี๋ยนสื่อเทียนจวิน และเหล่าเซียนแห่งเขาคุนหลุน จึงบัญชาให้ศิษย์เอกที่ชื่อ ไท่กงฮว่าง หรือที่มีชื่อจริงว่า หลี่ซ่าง หรือ เจียงจื่อหยา มายังโลกมนุษย์เพื่อกำจัดซูต๋าจี

    เจียงจื่อหยา พร้อมทั้งศิษย์เอกคือ นาจา ก็ได้รวบรวมพวกพ้องที่เป็นนักพรต จอมยุทธ์ เหล่าขุนนางที่หลบหนีจากราชสำนัก โดยมี จีซาง อดีตเจ้าเมืองที่ต้องเสียตำแหน่งเพราะซูต๋าจี นำทัพเพื่อบุกโจมตีนครเฉาเกอ และโค่นล้มจักรพรรดิโจ้ว

    สุดท้าย ปีศาจทั้งสามถูกคุมตัวไปตัดสินโทษ เจ้าแม่หนี่วาบอกว่าให้จัดการแค่จักรพรรดิโจ้ว แต่กลับทำเกินกว่าเหตุ สมควรจะต้องถูกลงโทษ ปิศาจพิณและปิศาจไก่ถูกลงโทษจนถึงแก่ความตาย มีเพียงจิ้งจอกเก้าหางเท่านั้นที่สามารถหลบหนีการลงโทษไปได้


    ตำนาน ภูตจิ้งจอกเก้าหางของญี่ปุ่น

    กล่าวถึงตำนานของญี่ปุ่นไว้ว่า จิ้งจอกเก้าหางเป็นปิศาจที่เข้ามาแฝงตัวในราชสำนักของญี่ปุ่นในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิโทบะ หลังจากที่จิ้งจอกเก้าหางหลบหนีออกมาจากอินเดียและจีนได้แล้ว ก็แอบแฝงตัวเข้ามาในร่างของ ทามาโมะ โนะ มาเอะ หญิงงามที่ฉลาดล้ำ กลิ่นกายหอมหวนดั่งกลีบซากูระแรกแย้ม และอาภรณ์ไร้รอยยับ ด้วยความงดงามของนาง ทำให้จักรพรรดิโทบะเกิดความลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น สุขภาพร่างกายของจักรพรรดิโทบะก็ทรุดโทรมลงทุกวันๆ จึงได้มีการทำพิธีปัดรังควานโดยการอัญเชิญนักพรตมาช่วยทำพิธี จนได้ทราบว่า ขณะนี้ในวังมีปิศาจจิ้งจอกเก้าหางแฝงตัวอยู่

    เมื่อความจริงเปิดเผย ทามาโมะ โนะ มาเอะ จึงได้คืนร่างเป็นสุนัขจิ้งจอกสีทองตัวใหญ่มีเก้าหาง เหาะหนีไปบนท้องฟ้า กองทหารของจักรพรรดิโทบะได้ไล่ตามไปจนถึงที่บริเวณภูเขานาสุ เกิดการต่อสู้กัน และสามารถสยบจิ้งจอกเก้าหางลงได้ กลายเป็นหินเซ็ชโชเซกิ ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

    ตำนาน กูมิโฮ จิ้งจอกเก้าหางของเกาหลี
    กูมิโฮ (Gumiho) หรือ จิ้งจอกเก้าหาง เป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานที่มีชื่อเสียง และมักถูกพูดถึงบ่อยในนิทาน หรือตำนานพื้นบ้านเกาหลี รวมไปถึง ญี่ปุ่น และจีน จากตำนานเล่าว่า สุนัขจิ้งจอกที่มีอายุถึง 1000 ปี จะสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตัวเองได้ ส่วนใหญ่จะแปลงเป็นหญิงสาวสวยเพื่อหลอกล่อชายหนุ่ม กูมิโฮ ต้องการที่จะกลายร่างเป็นมนุษย์อย่างแท้จริงให้ได้ ด้วยการกินหัวใจหรือตับมนุษย์ให้ได้ครบ 100 คน กูมิโฮจึงมักแฝงตัวอยู่ในบ้านกลางป่า คอยหลอกมนุษย์โดยเฉพาะผู้ชายที่หลงในรูปโฉมงดงามให้มาเป็นเหยื่อ


    ตอบลบ
  3. ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง Kyubi no yoko

    "จิ้งจอกเก้าหาง" หรือ 九尾の妖狐(คิวบิโนะโยโคะ) ซึ่งตามภาษาญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างตรงตัว 九尾 หมายถึงหาง 9 หาง ส่วน 妖狐 นั้นแปลว่า ปีศาจจิ้งจอก เป็นปีศาจในตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่น ปกติแล้ว 狐 หรือ คิทซึเนะ จะเป็นคำเรียกสุนัขจิ้งจอกทั่วๆไปซึ่งผู้คนเชื้อว่าจิ้งจอกที่อาศัยตามป่าเขานั้นจะมีพลังพิเศษต่างๆ อีกทั้งเจ้าเล่ห์ชอบแกล้งผู้คนที่เดินทางไปมาตามป่าเขาอีกด้วย


    ปิศาจจิ้งจอกเก้าหาง มีต้นกำเนิดมาจาก 3 ประเทศได้แก่ อินเดีย,จีน และญี่ปุ่น จึงทำให้เข้าใจว่าเป็นปิศาจตัวเดียวกัน โดยสืบเนื่องมาจากเรื่องของการสืบทอดวัฒนธรรมจากอินเดียไปยังจีนตามเส้นทางสายไหม และค่อยไปยังญี่ปุ่นโดยการเผยแพรทางวัฒนธรรมจากจีน

    ตำนานจีน
    จากตำนานในอินเดียไม่ค่อยมีกล่าวถึงปีศาจจิ้งจอกเท่าไหร่นัก แต่กลับปรากฏอยู่ในพงศาวดารของจีนที่มีชื่อเรื่องว่า ฮ่องสิน (ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า โฮชินเอ็นกิ หรือในชื่อไทยว่าศึกตำนานเทพประยุทธ์) ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับไสยศาสตร์ และภูตผีปิศาจโดยเรื่องราวมีอยู่ว่า พระเจ้าโจ้วหวาง (ติวอ๋อง) แห่งราชวงศ์ซางได้ไปสักการะเจ้าแม่หนี่วาในวิหารของเจ้าแม่ ซึ่งในวิหารมีรูปเคารพเจ้าแม่จะมีผ้าแพรบางๆ กั้นใบหน้าอยู่ บังเอิญว่าในตอนนั้นมีลมพัดผ่านมาทำให้ผ้าแพรเปิดออก โจ้วหวางได้เห็นใบหน้ารูปเคารพของเจ้าแม่หนี่วางดงามยิ่งนัก จึงหลุดปากมาว่า "เจ้าแม่งดงามถึงเพียงนี้หากได้มาเป็นมเหสีน่าจะดี"


    เมื่อเจ้าแม่หนี่วาได้ยินดังนั้น จึงทรงกริ้วมาก และสั่งให้ปิศาจจิ้งจอกเก้าหาง ปิศาจพิณ รวมถึงปิศาจไก่ ไปจัดการโจ้วหวางให้เกิดความลุ่มหลงจนเพื่อให้บ้านเมืองล่มสลายเป็นการลงโทษ แต่ก็ย้ำว่าอย่าให้ราษฎรต้องเป็นอันตรายหรือได้รับความเดือดร้อนเป็นอันขาด ซึ่งในขณะนั้นเองก็มีหญิงงามนางหนึ่งชื่อว่า ต๋าจี ลูกสาวของเจ้าเมืองเล็กๆ ถูกส่งตัวเข้าวังเพื่อเป็นพระสนมของโจ้วหวาง ต้าจีเป็นหญิงสาวที่มีรูปโฉมงดงามมาก แต่หญิงงามคนนี้ก็อาภัพนัก เพราะถูกปีศาาจจิ้งจอกเก้าหางลอบฆ่าเพื่อสวมรอยเป็นต๋าจีในการลักลอบเข้าวัง

    เมื่อโจ้วหวางได้พบต้าจีก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากรูปโฉมงดงามราวกับเจ้าแม่หนี่วา กิริยาวาจาไพเราะอ่อนหวานราวกับเทพธิดา ยากที่จะหาหญิงใดในแผ่นดินเสมอเหมือน จิ้งจอกเก้าหางจึงได้เริ่มการทำให้โจ้วหวางลุ่มหลง ซึ่งก็ทำได้อย่างง่ายดายเพราะนอกจากความงดงามแล้ว ตัวนางยังสามารถร้องเพลง และเล่นดนตรีได้ไพเราะ อีกทั้งร่ายรำได้งดงาม ทำให้โจ้วหวางยิ่งลุ่มหลงนางจนถอนตัวไม่ขึ้น และนางก็ได้ยุยงให้โจ้วหวางทำแต่เรื่องชั่วร้าย ฆ่าคนเหมือนผักเหมือนปลาอยู่เสมอมา

    ในที่สุด ต้าจี หรือจิ้งจอกเก้าหาง ก็ได้ยุยงให้โจ้วหวางสร้างหอสอยดาวขึ้น ทำให้เกิดความทุกข์ยาก และนำมาซึ่งความตายแก่ราษฎรเพราะผู้คนจำนวนมากมายมหาศาลต้องถูกเกณฑ์แรงงานมาสร้างหอสอยดาวนี้ แต่ในที่สุดปิศาจทั้งสามก็ถูกผู้มีวิชาปราบลงนามว่า เจียงจื่อหยา ผู้วิเศษซึ่งได้ฝึกวิชาบนภูเขา ที่ได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้มาขจัดทุกข์ของเหล่าราษฎรพร้อมทั้งนาจาศิษย์เอก


    ปิศาจทั้งสามถูกจับตัวไปให้เจ้าแม่หนี่วาตัดสินโทษ จิ้งจอกเก้าหางเห็นว่าตนสามารถทำงานที่เจ้าแม่มอบหมายให้ ทำไมจึงยังมีโทษอีก เจ้าแม่หนี่วากล่าวว่าได้ใช้ให้ไปทำลายแต่เพียงโจ้วหวางเท่านั้น มิได้สั่งให้ไปเข่นฆ่าผู้คนมากมายเช่นนี้ การทำเกินคำสั่งจำต้องถูกลงโทษ ทั้งปิศาจพิณ และปิศาจไก่ จึงถูกลงโทษให้ตายตกไปตามกัน ส่วนจิ้งจอกเก้าหางนั้นได้หลบหนีการลงโทษไปได้ ส่วนโจ้วหวางนั้นเมื่อสูญเสียเมียรักไปจึงเศร้าโศกเสียใจเป็นอันมาก เผาหอสอยดาวทิ้ง จนตัวเองตายในกองเพลิงนั้นเอง

    ตำนานญี่ปุ่น

    ส่วนตำนานของญี่ปุ่นนั้นกล่าวว่า จิ้งจอกเก้าหางเป็นปิศาจที่หลบหนีมาแฝงตัวอยู่ในราชสำนักของญี่ปุ่นในรัชสมัยของจักรพรรดิ์โทบะ หลังจากที่หลบหนีมาจากอินเดีย และจีนมาแล้วซึ่งเป็นเรื่องราวหลังจากโจ้วหวางพอดิบพอดี โดยแฝงตัวมาในร่างของหญิงงามนามว่า ทามาโมะมาเอะ พระสนมของจักรพรรดิ์โทบะ นางทำให้จักรพรรดิ์โทบะลุ่มหลงในความงามของนาง และทำให้สุขภาพของจักรพรรดิ์โทบะทรุดโทรมลงทุกวัน จนต้องมีการอัญเชิญนักพรตจากองเมียวที่เรียกว่า องเมียวจิ มาทำพิธีปัดรังควาน จึงพบว่าในวังนั้นมีปิศาจจิ้งจอกเก้าหางสีทองแฝงตัวอยู่ พอความแตก ทามาโมะมาเอะ จึงได้คืนร่างเป็นจิ้งจอกสีทองตัวมหึมามีเก้าหาง เหาะหลบหนีไปบนท้องฟ้า กองทหารของจักรพรรดิ์โทบะได้ไล่ตามไปจนถึงที่ราบสูงนาสุ และต่อสู้กับปิศาจจิ้งจอกเก้าหาง และสามารถสยบจิ้งจอกเก้าหางลงและกลายเป็นหินเซ็ทโชเซกิ ซึ่งปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นมาจนปัจจุบันนี้


    ตอบลบ