10 เกร็ดความรู้ กับ 'วันชาติอเมริกัน'
ก้าวแรกของสหรัฐอเมริกาในฐานะประเทศที่เป็นอิสระจากอาณานิคมอังกฤษ ผ่านคำประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกา หรือ Declaration of Independence ที่ถูกประกาศขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคม คริสตศักราช 1776
ผ่านมากว่า 244 ปี มีหลากหลายประเด็นที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันนี้
คนอเมริกัน รู้จัก "The 4th of July" ในฐานะวันชาติของตน ในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ.1776 หรือตรงกับปีพุทธศักราชของไทยคือ 2319 ทำให้ปีนี้ (2563) อเมริกามีอายุครบ "244 ปี
อันดับที่ 1 มีการถกเถียงกันถึงวันชาติอเมริกันที่แท้จริง โดยนักวิเคราะห์การเมืองอเมริกันบางส่วน ระบุว่า วันชาติอเมริกาควรเป็นวันที่ 2 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่รัฐสภาลงมติเห็นชอบคำประกาศอิสรภาพ หรือ Declaration of Independence เพื่อผลักดันการแยกตัวจากเครือจักรภพอังกฤษ
แต่กว่าที่ 13 ดินแดนในอาณานิคมของอังกฤษจะประกาศอิสรภาพนั้น เกิดขึ้นในอีก 2 วันต่อมา นั่นคือวันที่ 4 กรกฏาคม ทำให้การเฉลิมฉลองเริ่มต้นในวันนั้นเป็นต้นมา
อันดับที่ 2 คือ วันประกาศอิสรภาพ หรือ Independence Day ไม่ได้ยาวนานเพียงแค่วันเดียว เพราะกว่าจะใช้เวลาลงนามทั้งหมดนั้น กินเวลานานถึง 2 สิงหาคมในปี 1776 หรือจะเรียกได้ว่าเป็น Independence month ก็ไม่ผิดแปลกอะไร
อันดับที่ 3 คือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดในวันที่ 4 กรกฎาคม คือ Calvin Coolidge ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 30 เกิดในวันที่ 4 กรกฎาคม 1872
และในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสียชีวิตถึง 3 คน นั่นคือ ประธานาธิบดี James Monroe ประธานาธิบดี John Adams และประธานาธิบดี Thomas Jefferson
อันดับที่ 4 ว่าด้วยกิจกรรมของชาวอเมริกัน โดยในวันนี้ของปีคาดการณ์ว่าจะมีชาวอเมริกันราว 219 ล้านคน ที่จะร่วมเฉลิมฉลองวันชาติอเมริกัน
เฉพาะในปี 2017 สำนักสำมะโนประชากรรายงานว่า ประชาชน 44% จะชมดอกไม้ไฟ 13% ไปท่องเที่ยว 66% ไปงานเลี้ยงสังสรรค์ 14% ไปชมพาเหรดฉลองวันชาติอเมริกัน 12% ไม่ร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลอง และ 8% เลือกทำกิจกรรมอย่างอื่น
อันดับที่ 5 ว่าด้วยการท่องเที่ยวในวันชาติอเมริกัน มีการประเมินว่าในแต่ละปี จะมีชาวอเมริกัน 3 แสนคน เดินทางมายังกรุงวอชิงตัน ในวันที่ 4 กรกฎาคม ถือว่าเป็นส่วนน้อยหากเทียบกับจำนวนประชากร 320 ล้านคนทั่วประเทศ
อันดับที่ 6 สมาคมค้าปลีกสหรัฐฯ หรือ National Retail Federation ระบุว่า จะมีเงินสะพัดกว่า 7 พัน 1 ร้อยล้านดอลลาร์ หรือราว 2 แสน 4 หมื่น 1 พันล้านบาท ในการจับจ่ายซื้ออาหารเพื่อฉลองวันชาติอเมริกัน
นั่นเท่ากับว่าชาวอเมริกันจะใช้เงินหมดไปกับการกินราว 73 ดอลลาร์ หรือราว 2 พัน 4 ร้อยบาทต่อคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีเงินสะพัดในภาคอาหารเพื่อการเฉลิมฉลอง 6 พัน 8 ร้อยล้านดอลลาร์ หรือราว 2 แสน 3 หมื่น 1 พันล้านบาท
อันดับที่ 7 คือ การแข่งขันอันเก่าแก่ที่ Nathan’s Famous ที่ Coney Island ในเขต Brooklyn ของนครนิวยอร์ก เริ่มต้นตั้งแต่ปีคริสตศักราช 1980 ซึ่งมีผู้ทำลายสถิติกับแทบทุกปี และสามารถชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันกิน Hot Dog วิบากนี้ได้ ทางช่อง ESPN
อันดับที่ 8 จากการสำรวจเดียวกันของสมาคมค้าปลีกสหรัฐฯ พบว่า 65% ของชาวอเมริกันมีธงชาติเก็บไว้ที่บ้าน 53% มีเสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่มีสัญลักษณ์ธงชาติอเมริกัน และ 28% เป็นเจ้าของสินค้าที่สะท้อนถึงความรักชาติ
อันดับที่ 9 เกี่ยวข้องกับการชมดอกไม้ไฟ ในปีนี้สมาคมผู้ค้าดอกไม้ไฟ คาดว่า ยอดขายพลุและดอกไม้ไฟในอเมริกาจะสูงถึง 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2 หมื่น 8 พัน 9 ร้อยล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
และความนิยมในดอกไม้ไฟ นำไปสู่อันตรายกับชีวิตและทรัพย์สินของชาวอเมริกัน โดยมีชาวอเมริกันบาดเจ็บจากดอกไม้ไฟเฉลี่ย 250 คนต่อปี เฉพาะในวันชาติอเมริกัน
อันดับที่ 10 ในวันที่ 4 กรกฎาคม มีชาติอื่นที่ๆ ฉลองวันชาติด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟิลิปปินส์ ที่ประกาศเอกราชจากสหรัฐฯ
ที่มา :: https://www.voathai.com/a/3928716.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น