ประวัติความเป็นมาของ ชุดไทย ชุดไทยพระราชนิยม
ประวัติความเป็นมาของ ชุดไทย
ชุดไทย นั้นคือ ชุดประจำชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนกับชาติอื่นๆ ด้วยการออกแบบและการตัดเย็บที่ประณีต บวกกับการสร้างสรรค์ลวดลายบนผืนผ้าที่เกิดจากงานฝีมือของช่างไทยที่มีความโดดเด่น
นั่นจึงทำให้ชุดไทยดูแตกต่างและถือได้ว่าเป็นงานศิลปะหนึ่งเดียวในโลกที่หาใครมาเทียบเท่าได้ยาก ทุกวันนี้ชุดไทยอาจไม่ได้รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากนัก เนื่องมาจากยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนส่วนใหญ่ต่างชื่นชมและหลงใหลอยู่ในวัฒนธรรมต่างชาติ ทำให้รสนิยมการแต่งกายเริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่ความศิวิไลซ์มากขึ้น
ทำให้ชุดไทยจึงถูกลดความสำคัญไปโดยปริยาย ถึงแม้ในว่าทุกวันนี้ชุดไทยไม่ได้ถูกนำมาสวมใส่ในชีวิตประจำวัน แต่ว่าก็ได้มีการยกขึ้นมาเอกลักษณ์การแต่งกายประจำชาติ อีกทั้งยังมีการรณรงค์ให้สวมใส่กันในวันสำคัญ หรือเทศกาลสำคัญต่างๆ อาทิ วันแต่งงาน, วันสงกรานต์, งานเข้าเฝ้า งานราตรีในต่างประเทศ เป็นต้น
ชุดไทย ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นเพราะกระแสนิยมที่สืบเนื่องมาจากที่ สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริและทำการส่งเสริมผ้าไทยอย่างจริงจัง จนเปิดเป็นมาตรฐานเครื่องแต่งกายที่เป็นผ้าไทย และชุดประจำชาติไทยที่สามารถแสดงออกถึงเอกลักษณ์อันวิจิตรตระการตา งดงามด้วยลวดลายไทยอันอ่อนช้อย ปักและทอลงบนผืนผ้าอย่างประณีตงดงาม
ชุดไทยพระราชนิยม
ชุดไทยพระราชนิยม คือ ชุดประจำชาติไทยที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรม เชื้อชาติ ประเพณี หรือเอกลักษณ์ด้านอื่นๆ ที่แสดงออกถึงความเป็นไทยเอาไว้อย่างชัดเจน
เมื่อครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์และได้อภิเษกสมรสแล้ว พระองค์ทรงได้รับคำกราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จไปเยือนยังประเทศต่างๆ ทั้งใน ทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป เพื่อเป็นการเจริญสัมพันธไมตรี อีกทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังได้มีโอกาสตามเสด็จไปเยือนยังประเทศใกล้เคียงอีกด้วย ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จไปเยือนยังพื้นที่ต่างๆ หลายเดือน หลายฤดูกาล
แต่ก็ทรงเห็นว่าไทยเรายังไม่มีชุดประจำชาติที่จะบ่งบอกถึงความเป็นไทยได้อย่างเช่นในประเทศอื่นๆ อาทิ ชุดกิโมโน ประเทศญี่ปุ่น ชุดส่าหรีของชาวอินเดีย เป็นต้น
ด้วยเหตุนั้นเอง จึงเป็นเหตุจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องแต่งกายประจำชาติของสุภาพสตรีไทย สำหรับใช้เป็นฉลองพระองค์ของพระองค์เอง รวมถึงยังใช้เป็นเครื่องแต่งกายสำหรับข้าราชบริพารฝ่ายในอีกด้วย
ด้วยเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ทรงมีพระราชอัธยาศัย และ พระราชนิยมของประองค์ในการนำเอามาไทยมาตัดเย็บเป็นฉลองพระองค์ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์กันอยู่แล้วว่าพระองค์นั้นทรงมีพระราชนิยมในการใช้ผ้าไทยมาตั้งแต่ครั้งยังเป็น ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมโคราช หรือผ้าไหมเชียงใหม่ ที่เป็นชนิดผ้าพื้นและชนิดผ้าพิมพ์เป็นต้น
เมื่อพระองค์ทรงเห็นความจะเป็นที่จะต้องมีเครื่องแต่งกายที่บ่งบอกถึงความเป็นชาติไทยแล้ว พระองค์ได้ทรงสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของเครื่องแต่งกายโดยทรงศึกษาจากเครื่องแต่งกายก่อนสมัยสุโขทัย มาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ และจากพระบรมฉายาลักษณ์ รวมถึงฉายาลักษณ์พระบรมวงศ์ฝ่ายใน
พระองค์ได้ทรงมีพระราชวินิฉัยถึงความเหมาะควรต่างๆ ในอันที่จะทรงเลือกนำมาใช้เป็นแบบอย่างในการตัดเย็บฉลองพระองค์ ซึ่งแบบชุดไทยที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงเลือกไว้นั้น พระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ คุณไพเราะ พงษ์เจริญ ตัดเย็บเป็นฉลองพระองค์ถวาย
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ คุณหญิงอุไร ลืออำรุง ช่างฉลองพระองค์ในขณะนั้นช่วยเลือกแบบและนำมาผสมผสานกันจนเกิดเป็นชุดไทยแบบต่างๆ ขึ้นหลายชุด แต่ยังมิได้มีชื่อเรียกขานเฉพาะ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงฉลองพระองค์โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีทั้งแบบผ้าไหมและสากลที่เหมาะสม งดงามตามสมัยนิยม ซึ่งการเสด็จไปเจริญสัมพันธไมตรีในครั้งนั้นถือได้ว่าฉลองพระองค์ได้เป็นเครื่องชูเกียรติให้ปรากฏต่อนานาอารยประเทศ จนบรรดาผู้เชียวชาญด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายสตรีทั้งหลาย อาทิ ฝรั่งเศส อิตาลี ต่างก็ยกย่องพระเกียรติว่าทรงเป็นสตรีที่แต่งกายได้ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบปี
ครั้นเมื่อ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จนิวัติพระนคร พระองค์ก็ยังทรงฉลองพระองค์ชุดไทยแบบต่างๆ ตามโอกาส และได้ทรงมีพระราชวินิจฉัยเลือกแบบชุดไทย 8 ชุด โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค เป็นผู้ตั้งชื่อชุดให้เหมาะสมกับแบบ นับได้ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นผู้นำในการแต่งกายชุดไทยตามแต่โอกาสต่างๆ อยู่เสมอ
อีกทั้งประชาชนก็ได้เริ่มหันให้มาสวมใส่ชุดไทยตามเสด็จพระองค์อย่างแพร่หลายมากขึ้นและนิยมเรียกชุดไทยแบบต่างๆ ว่า ชุดไทยพระราชนิยม
ทุกวันนี้ในละครบ้านเราก็ได้มีการนำเอาชุดไทยมาประยุกต์ให้เข้ากับบริบทเนื้อเรื่องอย่างแพร่หลาย ยิ่งช่วงนี้ไม่ว่าจะเปิดทีวีช่องไหนก็เจอแต่ละครไทยย้อนยุค จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าในวงการบันเทิงมีดาราสาวหลายคนที่ใบหน้าสวยอย่างไทย ยิ่งเวลาใส่ชุดไทยยิ่งเปล่งประกายความงาม
ช่วงนี้เปิดทีวีช่องไหนเจอละครไทยย้อนยุค จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าในวงการบันเทิงมีดาราสาวหลายคนที่ใบหน้าสวยอย่างไทย ยิ่งเวลาใส่ชุดไทยยิ่งเปล่งประกายความงาม วันนี้เราจะขอพาสาวๆ ไปดูกันสิว่านางเอกของไทยตั้งแต่ตัวแม่แกนนำนางเอกละครไทยไปจนถึงนางเอกรุ่นใหม่ๆ เวลาใส่ชุดไทยแล้วจะสวยสะกดตาเหมือนหลุดออกมาจากวรรณคดีมากขนาดไหน
เริ่นต้นคนแรกกันที่ "มัดหมี่" พิมดาว พานิชสมัย นางเอกจากละครเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ที่กำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้ หลายคนคงได้เห็นแล้วว่ามัดหมี่นั้นมีโครงหน้าที่สมกับเป็นหญิงไทยได้สมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องศัลยกรรม
ต่อด้วยนางเอกหน้าหวานจากช่อง 3 มิว นิษฐา จากละครเรื่อง ชาติพยัคฆ์ กับชุดไทยสมัยก่อน ด้วยใบหน้าที่สวยหวาน กริยา ท่าทาง ดูแล้วเชื่อเลยว่ามีความเป็นกุลสตรีไทยมากเลยทีเดียว
จุ๋ย วรัทยา คนนี้ไม่ต้องพูดอะไรมากแค่เห็นหน้าก็สวยเลอค่าทุกท่วงท่า ไม่ว่าจะเป็นละครหรือถ่าบแบบนิตยสารในชุดไทย เธอจะเหมือนหลุดออกมาจากนางวรรณคดี ด้วยใบหน้าที่สวยคม มีรอบยิ้มสยามที่งดงามจริงๆ
คนนี้สร้างความตะลึงในงานช่อง 3 แต้ว ณฐพร โชว์รำจากละครเรื่อง นาคี สวยเลอค่างดงามตั้งแต่หัวจรดเท้า เก็บทุกรายละเอียด คอสตูม เสื้อผ้าหน้าผมสะกดทุกสายตาและเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากว่าเมื่อไหร่ที่ละครเรื่องนี้ออนแอร์คงจะได้เห็นความงามของสาวแต้วกันอย่างแน่นอน
มาถึงนางเอกจากช่อง 7 กันบ้าง มิน พีชญา ในชุดไทยจากละครล่ารักสุดขอบฟ้า และอีกหลายเรื่อง ที่เธอส่วมใส่ชุดไทยทรงเครื่องและชุดแขนยาวในสมัยก่อน ดูแล้วเข้ากับใบหน้าของเธอได้อย่างลงตัว
ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ มีดีกรีเป็นถึง มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส พ.ศ. 2553 แน่นอนว่าความงามอย่างไทยได้เต็มร้อย ด้วยใบหน้าสวยคมมีเสน่ห์และรูปร่างที่เป๊ะเวอร์ เวลาเธอใส่ชุดไทยแล้วบอกเลยว่าเหมือนผู้หญิงในสมัยก่อนที่มีความงามแบบที่บรรยายออกมาเป็นความรู้สึกไม่หมดจริงๆ
ทุกครั้งที่เห็น เชอรี่ เข็มอัปสร ในชุดไทย แอบคิดในใจว่าอยากให้เธอมาเล่นละครพีเรียตย้อนยุคอีกจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นชุดไทยสมัยนางทาสที่ไม่มีเครื่องประดับใดๆ ยังสวยได้ หรือเป็นชุดสไบเฉียง งดงามไร้ที่ติ
มาถึงมาดาม นุ่น วรนุช ที่จะใส่ชุดอะไรก็ดูดีตลอดเวลา ยิ่งในชุดไทยที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ของนาง ทุกครั้งที่เห็นสาวนุ่น ใส่ชุดไทย กริยาท่าทางสวยสง่ามากๆ เหมือนนางในวรรณคดียังไงอย่างงั้นเลย
แอฟ ทักษอร ถึงจะเป็นคุณแม่ไปแล้วแต่ถ้าย้อนวันวานไปตอนที่เธอแสดงในบท มณีจันทร์ ใน ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คงจะจำกันได้ว่าเธองดงามสมกับบทพระมเหสีของพระนเรศวรมากขนาดไหน
กบ สุวนันท์ ปิดท้ายด้วยตัวแม่ของวงการเรื่องการใส่ชุดไทย ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนในบท เจ้าหญิงแสนฝาง จากเรื่อง ศิลามณี ที่ทำเอาคนทั้งประเทศชื่นชอบให้กับความสวยของนางเอกหน้าสวยหวานอย่างไทยและยังคงเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ
Costume Traditionnel Thai , ชุดไทย , Traditional Thai Costume - ชุดไทยดั้งเดิม , Preserve culture , ชุดรักษาวัฒนธรรม , Retro , ชุดย้อนยุค , Ancient (เอนเชินท) , ชุดโบราณ , Contemporary , ชุดร่วมสมัย , Thai Dress , Chut Thai , Thai national costume
CR :: https://www.sanook.com/women/47347/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น