วันอีสเตอร์คืออะไร (Easter Day) วันพระเยซูทรงคืนพระชนม์ชีพ
วันอีสเตอร์คืออะไร มาทำความรู้จักประวัติ วันอีสเตอร์ วันสำคัญของชาวคริสต์ เฉลิมฉลองพระเยซูทรงคืนพระชนม์ชีพจากความตาย วันนี้เรามีเกร็ดประวัติเล็ก ๆ น้อย ๆ ของ Easter Day มาฝากกัน
ถือว่าเป็นวันสำคัญที่สุดในปฏิทินของชาวคริสตชนเลยก็ว่าได้ สำหรับ "วันอีสเตอร์" (Eeaster Day) ซึ่งวันนี้ เป็นวันที่ชาวคริสต์ทุกคนต่างชื่นชมยินดี แต่งตัวสวยงาม และตกแต่งไข่ด้วยสีสันต่าง ๆ มามอบให้แก่กันและกัน เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องจากในวันที่พระเยซูคริสต์ทรงคืนพระชนม์ชีพจากความตาย
ประวัติวันอีสเตอร์
วันอีสเตอร์ หรือวันปัสกา เป็นวันเฉลิมฉลองพระเยซูคริสต์ทรงคืนพระชนม์ชีพจากความตาย และเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลมหาพรต ที่ชาวคริสต์ต้องระลึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซูก่อนที่จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน โดยตลอด 40 วันของเทศกาลนี้ เริ่มตั้งแต่วันแรก (วันปาล์มซันเดย์ - Palm Sunday) ชาวคริสต์จะต้องตั้งจิตอธิษฐานรำลึกเหตุการณ์อันทรมานของพระเยซูตามพระคัมภีร์ รวมไปถึงสวดภาวนา บริจาคสิ่งของ อดอาหาร และไม่ฟุ่มเฟือย ดำเนินชีวิตอย่างสมถะที่สุด
ทั้งนี้ วันอีสเตอร์นั้น ไม่มีวันที่ระบุตายตัว แต่ชาวคริสต์ได้ถือเอาวันอาทิตย์แรกหลังพระจันทร์เต็มดวงในเดือน 4 เป็นตัวกำหนด หลังจากเฉลิมฉลองวันอีสเตอร์แล้ว จะเข้าสู่เทศกาลปัสกา ซึ่งเทศกาลนี้ เป็นเทศกาลที่ให้ชาวคริสต์ได้รื้อฟื้นความเชื่ออีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตในพระคริสตเจ้า
กิจกรรมวันอีสเตอร์
ชาวคริสต์แต่ละครอบครัวจะแต่งตัวสวยงาม มาร่วมพิธีกรรมในโบสถ์ พร้อมร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นอกจากนี้ บางครอบครัวก็มักจะตกแต่งไข่เป็นลวดลายสีสันต่าง ๆ เพื่อนำมามอบให้แก่กันและกัน ส่วนบางโบสถ์ก็จัดกิจกรรม ร่วมรับประทานอาหารเพื่อเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ รวมไปถึงจัดเกมสนุก ๆ ให้แต่ละครอบครัวหาไข่อีสเตอร์ ที่ถูกซ่อนเอาไว้ในพุ่มไม้หรือกอหญ้าต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เฉลิมฉลองได้ช่วยกันค้นหา และได้ใช้เวลาแห่งความสุขในวันอีสเตอร์ร่วมกัน
สัญลักษณ์วันอีสเตอร์
สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเฉลิมฉลอง คือ ไข่ โดยชาวคริสต์จะเรียกว่า ไข่อีสเตอร์หรือไข่ปัสกา ทั้งนี้ ก็เพื่อสื่อถึงการเกิดใหม่ ชีวิตที่กำลังเริ่มต้นใหม่ และสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น เต็มไปด้วยความชื่นบานและความดี โดยชาวคริสต์มักจะวาดรูปตกแต่งลวดลายไข่ให้สวยงามอย่างสนุกสนาน และนิยมกินไข่ในวันดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าหากกินไข่แล้วจะนำสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาสู่ชีวิตของเรา
#วันอีสเตอร์คืออะไร #EasterDay #วันพระเยซูทรงคืนพระชนม์ชีพ #วันอีสเตอร์
#วันปัสกา #HappyEasterWishes #คำอวยพรวันอีสเตอร์ #HappyEaster!
CR :: https://prinkotakoon.blogspot.com/2024/03/easter-day.html , https://hilight.kapook.com/
วันอีสเตอร์: Easter day คือวันอะไร
ตอบลบวันอีสเตอร์ คือ วันอะไร?
เทศกาลอีสเตอร์ คือเทศกาลสำคัญของชาวคริสต์ เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู ตามประวัติศาสตร์ของคริสเตียน พระเยซูถูกตรึงในวันศุกร์ หรือที่รู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า “Good Friday” จากการสิ้นพระชนม์ในวันศุกร์ ต่อมา 3 วัน พระเยซูก็ได้ฟื้นคืนพระชนม์ในวันอาทิตย์ และนั้นก็คือวันอีสเตอร์ (Easter Sunday)
สำหรับชาวคริสต์ทั่วโลกแล้ว การเฉลิมฉลองทางศาสนาในเทศกาลอีสเตอร์ ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองที่สำคัญที่สุดในปฏิทินของชาวคริสต์ เนื่องจากเป็นการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู คือสัญลักษณ์ของความหวังในชีวิตใหม่ และการให้อภัย
เมื่อย้อนกลับไปในปีค.ศ. 325 ผู้นำคริสเตียนกลุ่มหลัก ได้ตัดสินใจว่าเทศกาลอีสเตอร์ควรเป็นวันหยุดอย่างเป็นทางการ ณ เมืองไนเซีย ประเทศตุรกี พวกเขาตกลงกันว่าควรจัดขึ้นในวันอาทิตย์แรกหลัง วันที่ 21 มีนาคม และหลังพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นช่วงเวลาที่การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูได้เกิดขึ้น ดังนั้นวัน Good Friday และวัน Easter Sunday ของแต่ละปีจึงเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โดยอยู่ระหว่างช่วงวันที่ 22 มีนาคม ถึง 25 เมษายน ขึ้นอยู่กับปฏิทินของแต่ละปี
และในปีนี้ ค.ศ. 2024 วันอีสเตอร์ก็คือวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 และ วัน Good Friday คือวันที่ 29 มีนาคม 2567
ที่มาของไข่อีสเตอร์ : Easter Eggs
ตอบลบไข่เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่ สำหรับชาวคริสต์จะใช้ไข่อีสเตอร์เป็นสัญลักษณ์แทนการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู ชาวคริสต์เชื่อว่าพระเยซูทรงเอาชนะความตายและบาปผ่านการฟื้นคืนพระชนม์ สิ่งนี้ให้สัญญาแก่ผู้คนเกี่ยวกับชีวิตนิรันดร์หากพวกเขาปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์
ไข่อีสเตอร์ยังได้เชื่อมโยงกับ อาหารมื้อเย็นมื้อสุดท้าย (The Last Supper) ซึ่งเป็นมื้ออาหารที่พระเยซูร่วมรับประทานกับอัครสาวกก่อน ที่พระองค์จะถูกยูดาสทรยศ และประหารชีวิต อาหารมื้อสุดท้ายเป็นมีความเกี่ยวข้องกับ เทศกาลของชาวยิวที่รู้จักกันในชื่อ “ปัสกา” (Passover) และอาหารในพิธีปัสกา มักจะใส่ไข่ขาว จึงคาดได้ว่า ประเพณีของชาวคริสต์ที่เกี่ยวกับไข่อีสเตอร์ มาจากไข่ปัสกานี้ ซึ่งในอดีตไข่อีสเตอร์ จะถูกย้อมเป็นสีแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของพระโลหิตของพระเยซูที่หลั่งออกมา และสีทองซึ่งแสดงถึงไม้กางเขนสีทอง ที่มาจากภาพวาดของไม้กางเขนที่พระเยซูสิ้นพระชนม์
ปัจจุบันไข่อีสเตอร์ส่วนใหญ่ทำจากช็อคโกแลตและปิดด้วยกระดาษฟอยล์สี แต่ถ้าตามธรรมเนียมต้นตำรับแล้ว ไข่อีสเตอร์คือ ไข่ไก่ที่ต้มสุก แล้วทาสีตกแต่งด้วยมือ
วันอีสเตอร์คืออะไร?
ตอบลบเกี่ยวข้องอะไรกับพระเยซู?
ไข่กับกระต่ายมีความเกี่ยวข้องอย่างไร?
เมื่อพูดถึงเทศกาลอีสเตอร์ (Easter Day) สิ่งแรกๆที่หลายคนนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นกระต่ายหรือเป็นไข่ที่มีลวดลายแปลกตาจากการทาสีที่ไม่ซ้ำกัน แต่แท้จริงแล้วยังมีความหมายลึกซึ้งซึ่งเกี่ยวข้องกับพระเยซูที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
จริงๆแล้วพระเยซูคือใคร ?
คนทั่วไปมักเข้าใจว่าพระเยซูคริสต์เป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระเยซูคริสต์ไม่ได้เป็นศาสดาหรือผู้ก่อตั้งศาสนาเพราะความเชื่อของชาวคริสต์ไม่ใช่แค่ศาสนา แต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง พระเจ้าผู้ทรงสร้าง และมนุษย์ผู้ถูกสร้าง พระเยซูจึงไม่ได้มาก่อตั้งคำสอน
บางตำรากล่าวไว้ว่า ความเป็นจริงแล้วพระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้ที่พระเจ้าส่งลงมาเพื่อที่จะเป็นตัวแทนของมนุษย์ในการรับโทษทัณฑ์ความผิดบาปแทนมนุษย์ ความผิดบาปเป็นเหตุทำให้มนุษย์ถูกตัดขาดจากพระเจ้าและต้องรับโทษทัณฑ์ของความผิดบาปในบึงไฟนรก แต่พระเยซูคริสต์เสด็จมาเพื่อที่จะชดใช้หนี้บาปนี้ แทนมนุษย์ทั้งหลาย
กิจกรรมวันอีสเตอร์
ชาวคริสต์แต่ละครอบครัวจะแต่งตัวสวยงาม มาร่วมพิธีกรรมในโบสถ์ พร้อมร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นอกจากนี้ บางครอบครัวก็มักจะตกแต่งไข่เป็นลวดลายสีสันต่าง ๆ เพื่อนำมามอบให้แก่กันและกัน ส่วนบางโบสถ์ก็จัดกิจกรรม ร่วมรับประทานอาหารเพื่อเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ รวมไปถึงจัดเกมสนุก ๆ ให้แต่ละครอบครัวหาไข่อีสเตอร์ ที่ถูกซ่อนเอาไว้ในพุ่มไม้หรือกอหญ้าต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เฉลิมฉลองได้ช่วยกันค้นหา และได้ใช้เวลาแห่งความสุขในวันอีสเตอร์ร่วมกัน
แล้วไข่กับกระต่ายเกี่ยวอะไรกับอีสเตอร์?
ความจริงแล้วอีสเตอร์เป็นเทศกาลที่ชาวคริสต์จะระลึกถึงการที่พระเยซูคริสต์ทรงคืนพระชนม์หรือเกิดใหม่หลังจากที่พระเยซูคริสต์ทรงถูกตรึงบนกางเขน จากนั้น 3 วันต่อมาซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ พระเยซูคริสต์ทรงตื่นขึ้นมาจากความตาย
โดยช่วงเวลาที่ตรงกับเทศกาลนั้นก็คือช่วงประมาณเดือนมีนาคมหรือเมษายน ซึ่งจะสอดคล้องกับฤดูใบไม้ผลิในทวีปยุโรป
ฤดูใบไม้ผลิสำหรับชาวยุโรปก็จะมีประเพณีดั้งเดิมอยู่แล้ว ในการที่จะเฉลิมฉลองชีวิตใหม่ เพราะก่อนหน้านี้คือฤดูหนาว เยือกเย็น ไร้ซึ่งความสุข เปรียบดั่งสัญลักษณ์ของความตายเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงก็เปรียบเสมือนชีวิตใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง มีชีวิตชีวา ออกไปเดินในทุ่งหญ้าก็เจอกระต่ายวิ่งกันเต็มไปหมดและโดยธรรมชาติของกระต่ายก็เป็นสัตว์ที่มีลูกได้เร็วอยู่แล้ว จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่
ในส่วนของไข่ที่ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ ไข่เป็ด ไข่นก ก็เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นเช่นกัน
บทความนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเทศกาลอีสเตอร์สำหรับทุกท่านจะเป็นมากกว่าเพียงเทศกาลกระต่าย เทศกาลหาไข่ หรือแม้กระทั่งเทศกาลเฉลิมฉลองเพื่อความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว แต่จะมีความหมายและมีสันติสุขต่อชีวิตเราเพิ่มมากขึ้นด้วย
และแน่นอน...เนื่องจากช่วงเทศกาลดังกล่าวเป็นวันหยุดยาวซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดทำการ! หากใครที่กำลังแพลนไปเที่ยวยุโรปอยู่ก็ควรวางแผนเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้วันเดินทางของเราไปตรงกับวันหยุดอีสเตอร์