วิธีบีบน้ำนมและการเก็บนมแม่ต้องทำอย่างไร
การบีบน้ำนมไม่เพียงแต่ช่วยเก็บน้ำนมส่วนที่ดีไว้เท่านั้น แต่ยังทำให้มีอิสระในการให้ลูกกินนมในเวลาที่คุณสะดวกอีกด้วย นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถเก็บน้ำนมไว้เพื่อใช้ในเวลาอื่นได้อีกด้วยค่ะ
ทำไมคุณแม่จึงควรบีบน้ำนมเก็บไว้
การบีบน้ำนมเก็บไว้เหมาะเป็นอย่างยิ่งในกรณีที่คุณไม่สามารถให้ลูกกินนมได้ตามต้องการ หรือคุณแม่ต้องการพักหรือต้องการให้ลูกทานอาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก รวมถึงกรณีที่คุณแม่ไม่สามารถอยู่กับลูกได้ในเวลานั้น แต่ต้องการให้ลูกได้รับสารอาหารจากนมแม่ เหตุผลที่ดีอีกประการหนึ่งก็คือเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้สามีได้สร้างความผูกพันกับลูก โดยมีส่วนร่วมในการให้นมลูก
การบีบน้ำนมด้วยมือ
คุณแม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบเต้านมหรืออาบน้ำ หรือนวดเต้านมเพื่อบรรเทาอาการคัดก่อนเริ่มบีบน้ำนม เมื่อล้างมือและทำความสะอาดภาชนะที่จะเก็บน้ำนมโดยการฆ่าเชื้อแล้ว คุณก็เริ่มบีบน้ำนมได้
การบีบน้ำนมด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้า
การใช้เครื่องปั๊มนมช่วยให้คุณแม่บีบน้ำนมได้เร็วขึ้นและไม่เหนื่อยเท่าการบีบด้วยมือ แต่คุณแม่ต้องใช้น้ำอุ่นประคบที่เต้านมหรือนวดก่อนเพื่อลดอาการคัด และต้องแน่ใจว่าเครื่องปั๊มนมปราศจากเชื้อโรคก่อนนำไปใช้ โดยการบีบน้ำนมด้วยเครื่องควรใช้เวลาประมาณ 15 - 45 นาทีและไม่ควรทำให้คุณรู้สึกเจ็บที่เต้านม แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับเครื่องปั๊มที่คุณใช้ด้วย
การเก็บน้ำนมที่บีบออก
คุณแม่สามารถเก็บน้ำนมไว้โดยใส่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาหรือช่องแช่แข็ง ส่วนน้ำนมที่นำมาอุ่นให้ร้อนแล้วแต่ไม่ได้ใช้นั้น ควรทิ้งทันที และอย่าลืมเขียนวันที่ที่บีบน้ำนมเก็บไว้ด้วย โดยน้ำนมส่วนใหญ่จะเก็บได้ประมาณ:
ที่มา :: http://www.dumex.co.th/feeding_and_nutrition/breastfeeding/article/how_do_i_express_and_store_breast_milk
การบีบน้ำนมเก็บไว้เหมาะเป็นอย่างยิ่งในกรณีที่คุณไม่สามารถให้ลูกกินนมได้ตามต้องการ หรือคุณแม่ต้องการพักหรือต้องการให้ลูกทานอาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก รวมถึงกรณีที่คุณแม่ไม่สามารถอยู่กับลูกได้ในเวลานั้น แต่ต้องการให้ลูกได้รับสารอาหารจากนมแม่ เหตุผลที่ดีอีกประการหนึ่งก็คือเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้สามีได้สร้างความผูกพันกับลูก โดยมีส่วนร่วมในการให้นมลูก
การบีบน้ำนมด้วยมือ
คุณแม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบเต้านมหรืออาบน้ำ หรือนวดเต้านมเพื่อบรรเทาอาการคัดก่อนเริ่มบีบน้ำนม เมื่อล้างมือและทำความสะอาดภาชนะที่จะเก็บน้ำนมโดยการฆ่าเชื้อแล้ว คุณก็เริ่มบีบน้ำนมได้
- ประคองเต้านมด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วนวดคลึงไล่ตั้งแต่ส่วนบนลงมา และคลึงรอบเต้านมรวมทั้งส่วนล่างด้วย
- ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กดบนบริเวณรอบลานหัวนม (บริเวณที่เป็นสีเข้มรอบหัวนม) เบาๆ
- บีบพร้อมกันแล้วกดเข้าหาตัวเพื่อให้นมไหลออก แต่ควรระวังน้ำนมพุ่งกระจายออกมา
การบีบน้ำนมด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้า
การใช้เครื่องปั๊มนมช่วยให้คุณแม่บีบน้ำนมได้เร็วขึ้นและไม่เหนื่อยเท่าการบีบด้วยมือ แต่คุณแม่ต้องใช้น้ำอุ่นประคบที่เต้านมหรือนวดก่อนเพื่อลดอาการคัด และต้องแน่ใจว่าเครื่องปั๊มนมปราศจากเชื้อโรคก่อนนำไปใช้ โดยการบีบน้ำนมด้วยเครื่องควรใช้เวลาประมาณ 15 - 45 นาทีและไม่ควรทำให้คุณรู้สึกเจ็บที่เต้านม แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับเครื่องปั๊มที่คุณใช้ด้วย
คุณแม่สามารถเก็บน้ำนมไว้โดยใส่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาหรือช่องแช่แข็ง ส่วนน้ำนมที่นำมาอุ่นให้ร้อนแล้วแต่ไม่ได้ใช้นั้น ควรทิ้งทันที และอย่าลืมเขียนวันที่ที่บีบน้ำนมเก็บไว้ด้วย โดยน้ำนมส่วนใหญ่จะเก็บได้ประมาณ:
- 72 ชั่วโมงในตู้เย็นช่องธรรมดา
- หนึ่งเดือนในช่องแช่แข็งของตู้เย็นแบบประตูเดียว
- สามเดือนในช่องแช่แข็งของตู้เย็นแบบสองประตู (แม้ว่าจำนวนแอนติบอดี้ในน้ำนมจะลดลงแล้วก็ตาม)
ที่มา :: http://www.dumex.co.th/feeding_and_nutrition/breastfeeding/article/how_do_i_express_and_store_breast_milk
การบีบน้ำนม
วิธีบีบน้ำนมและประโยชน์ที่ได้
ผลดี
- ลดอาการคัดตึงเต้านม
- สำรองน้ำนมแม่กรณีมีผู้ช่วยให้นม
- ให้ลูกดื่มนมแม่จากขวด
- กระตุ้นการสร้างน้ำนม
ผลเสีย
- หากบีบน้ำนมมากเกินไปอาจยิ่งทำให้เจ็บคัดเต้านม เพราะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างน้ำนมออกมามากขึ้น
- ทารกส่วนใหญ่สามารถดูดนมออกจากเต้าได้ดีกว่าอุปกรณ์ใดๆ
ควรทำเมื่อใด
ทำได้อย่างไร
บีบด้วยมือ – บาทเดียวก็ไม่ต้องเสีย!
- ล้างมือให้สะอาดทั่วถึง จับที่เต้านมและไล่นิ้วจากโคนหัวนมจนถึงบริเวณลานหัวนม
- ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้กดและนวดอย่างนิ่มนวล ในขั้นตอนนี้แม่ไม่ควรรู้สึกเจ็บ
- คลายนิ้วออกและทำซ้ำไปเรื่อยๆ เป็นจังหวะ พยายามอย่าให้นิ้วเลื่อนออกจากลานหัวนม น้ำนมจะเริ่มไหลออกมา
- หากน้ำนมยังไม่ไหลให้เลื่อนนิ้วกลับขึ้นไปทางหัวนมเล็กน้อย หรือลองเต้านมเบาๆ
- บีบน้ำนมใส่ขวดที่ฆ่าเชื้อเรียบร้อย หรือถุงเก็บน้ำนมแม่
บีบด้วยเครื่องปั๊มนม – แม่ควบคุมด้วยตัวเอง
- ประกอบเครื่องปั๊มนมตามคำแนะนำของผู้ผลิต (คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมการเลือกเครื่องปั๊มน้ำนม)
- สวมถ้วยดูดบนเต้านม
- บีบน้ำนมด้วยกลไกบังคับด้วยมือ (แม่อาจต้องรอสักครู่จึงจะมีน้ำนมไหลออกมา)
บีบด้วยเครื่องปั๊มนมไฟฟ้า – สะดวกและรวดเร็ว
- ประกอบเครื่องปั๊มนมตามคำแนะนำของผู้ผลิต (คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมการเลือกเครื่องปั๊มน้ำนม)
- สวมถ้วยดูดบนเต้านม
- เปิดเครื่อง เครื่องจะดูดน้ำนมออกมา (แม่อาจต้องรอสักครู่จึงจะมีน้ำนมไหลออกมา)
เคล็ดลับ
- ทำตัวให้ผ่อนคลาย เลือกช่วงเวลาที่ไม่ต้องเร่งรีบ
- วางรูปลูกน้อยหรือของใช้ลูกไว้ข้างตัว จะช่วยให้น้ำนมไหลออกมาดีขึ้น
- อาบน้ำอุ่นก่อนบีบน้ำนมจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปที่ทรวงอก และช่วยให้แม่รู้สึกผ่อนคลาย
- เตรียมน้ำดื่มไว้ใกล้มือ
ควรบีบน้ำนมเมื่อใด
เวลาที่เหมาะสมอาจแตกต่างกัน
ควรบีบน้ำนมเมื่อใด
*** พยายามเลือกช่วงเวลาที่ไม่ต้องเร่งรีบ และควรเริ่มบีบน้ำนมหลังจากที่กิจวัตรการดูดนมของลูกเริ่มเข้าที่ซึ่งมักอยู่ที่ราว 6 สัปดาห์ ***
การเก็บน้ำนม
วิธีเก็บน้ำนมเพื่อให้ใช้ได้คุ้มค่า
วิธีเก็บน้ำนม*
- เก็บในตู้เย็นแช่แข็งด้านใน 1ประตู ได้ไม่เกิน 5วันที่อุณหภูมิ 4องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่า
- เก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็น 1ประตูได้สูงสุดนาน 2สัปดาห์
- เก็บในช่องแช่แข็ง(แบบประตูแยก)ที่อุณหภูมิ -14องศาเซลเซียส เก็บได้นาน 3เดือน
- เก็บในตู้เย็นแช่แข็งพิเศษได้สูงสุด 6เดือน ที่อุณหภูมิ -20องศาเซลเซียส
เก็บในตู้แช่แข็ง
แช่แข็งน้ำนมแม่ทันทีหลังจากบีบน้ำนมเสร็จ
ละลายนมหลังแช่แข็ง
- นำนมแม่ที่ผ่านการแช่แข็งไปเก็บในตู้เย็นหรือแช่น้ำอุ่น และต้องใช้ภายใน 24 ชั่วโมง
- เมื่อละลายน้ำแข็งและปล่อยให้คืนตัวที่อุณหภูมิห้องแล้วให้นำมาใช้ทันที หรือนำไปทิ้งหากไม่ได้ใช้
- ห้ามนำมาแช่แข็งซ้ำ
- ห้ามละลายน้ำแข็งด้วยไมโครเวฟ เพราะความร้อนที่ไม่สม่ำเสมออาจทำให้นมลวกปากลูก
- อย่าลืมเขย่าขวดและวัดอุณหภูมิที่เหมาะสมก่อนนำไปป้อนเด็ก
*** อย่าลืม : เขียนวันที่และเวลาบีบน้ำนมบนขวดบรรจุหรือถุงเก็บน้ำนม ***
อย่าลืมนึ่งฆ่าเชื้อภาชนะที่จะใช้บรรจุน้ำนม คุณแม่สามารถเก็บน้ำนมในช่องแช่เย็นที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสหรือต่ำได้ไม่เกิน 5 วัน และสามารถเก็บได้ถึง 2 สัปดาห์หากเก็บในช่องแช่แข็ง หรือ 6 เดือนหากเก็บในตู้แช่แข็ง ปรึกษาข้อมูลจากเจ้าหน้าที่หากจำเป็นต้องเก็บน้ำนมแช่แข็งกรณีที่ลูกคลอดก่อนกำหนดหรือป่วย
การฆ่าเชื้อ
วิธีการและความสำคัญของการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ให้นม
วัตถุประสงค์
เพื่อลดความเสี่ยงที่ลูกจะไม่สบายและท้องเสีย การฆ่าเชื้อช่วยทำความสะอาดอุปกรณ์และกำจัดเชื้อแบคทีเรียซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่ออุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสกับนม
เมื่อใด
- จะต้องฆ่าเชื้ออุปกรณ์ให้นมลูกทั้งหมดก่อนนำมาใช้ทุกครั้งตลอด 6 เดือนแรกเป็นอย่างน้อย
- ขวดนมและจุกนมจะต้องฆ่าเชื้อก่อนใช้ทุกครั้งตราบเท่าที่ยังคงใช้อยู่
อุปกรณ์ที่จำเป็น
- เครื่องนึ่งไอน้ำ หม้อฆ่าเชื้อด้วยน้ำเย็น สารฆ่าเชื้อ หรือกระทะขอบตั้งใบใหญ่ที่ไม่เคยใช้ปรุงอาหาร
- แปรงล้างขวดนมและจุกนม
- คีมจับจุกนม
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ให้นมทุกชิ้นมีสภาพสมบูรณ์ (เช่น ไม่มีรอยขีดข่วนหรือร้าว)
วิธีทำ
ก่อนฆ่าเชื้อ- ล้างมือให้สะอาดและทำความสะอาดพื้นผิวที่ใช้เตรียมขวดนม
- ล้างอุปกรณ์ให้สะอาดทั่วถึงในน้ำร้อนที่ผสมน้ำยาทำความสะอาด
- ใช้แปรงขัดขวดนมทั้งด้านในและด้านนอก
- ใช้แปรงขัดจุกนมและบีบน้ำออกจากหัวจุกนมเพื่อชะล้างคราบนมตกค้าง
- ล้างอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยน้ำเปล่าอย่างทั่วถึง
หลังฆ่าเชื้อ
- ล้างมือก่อนหยิบจับอุปกรณ์ อย่าลืมทำความสะอาดพื้นผิวที่ใช้เตรียมขวดนม
- นำอุปกรณ์ทั้งหมดมาเก็บในภาชนะบรรจุ
- หากยังไม่ได้นำมาใช้ทันทีให้ประกอบขวดนมกับจุกนมและปิดฝาให้สนิท วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ขวดนมและจุกนมปนเปื้อนเชื้อโรคได้ระยะหนึ่ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวิธีการฆ่าเชื้อด้วย
*** ไม่ควรเตรียมนมเผื่อไว้ และควรฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทุกครั้งก่อนนำมาเตรียมนม ***
การฆ่าเชื้อด้วยวิธีต้ม
- ระวังน้ำร้อนลวกระหว่างการต้มอุปกรณ์
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์สามารถต้มได้หรือไม่
- เติมน้ำสะอาดลงในกระทะ ใบใหญ่ (ต้องไม่เคยใช้ปรุงอาหารมาก่อน)
- จุ่มอุปกรณ์ทั้งหมดรวมทั้งคีมจับจุกนมลงในน้ำ ระวังอย่าให้มีฟองอากาศขังอยู่
- ปิดกระทะและต้มอย่างน้อย 10 นาที ระวังอย่าต้มจนน้ำแห้ง อุปกรณ์ทั้งหมดจะต้องจมอยู่ในน้ำเดือด
- ปล่อยให้อุปกรณ์คลายความร้อนทีละน้อยและให้ปิดฝากระทะไว้ดังเดิม
- ใช้คีมจับจุกนมประกอบขวดนมเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ที่ฆ่าเชื้อแล้วปนเปื้อนเชื้อโรค
- อุปกรณ์ที่แช่อยู่ในน้ำโดยปิดฝาไว้จะอยู่ในสภาพปลอดเชื้อได้ราว 3 ชั่วโมง
การฆ่าเชื้อด้วยน้ำเย็น
- เติมน้ำลงในหม้อฆ่าเชื้อด้วยน้ำเย็น (ดูคำแนะนำของผู้ผลิต)
- เติมสารฆ่าเชื้อตามปริมาณที่กำหนด (ดูคำแนะนำของผู้ผลิต)
- จุ่มอุปกรณ์ทั้งหมดรวมทั้งคีมจับจุกนมลงในน้ำ ระวังอย่าให้มีฟองอากาศขังอยู่และปิดฝา (นำถาดมาวางทับเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ลอยขึ้นมาจากน้ำ)
- ต้มน้ำ
- แช่อุปกรณ์ไว้อย่างน้อย 30 นาที
- ก่อนนำมาใช้ให้ล้างอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยน้ำต้มที่คลายความร้อนแล้ว
- อุปกรณ์ที่แช่อยู่ในสารละลายจะอยู่ในสภาพปลอดเชื้อได้ราว 24 ชั่วโมง ทั้งนี้จะต้องเปลี่ยนน้ำทุก 24 ชั่วโมง
การนึ่งฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟ
- เติมน้ำตามปริมาณที่กำหนด (ดูคำแนะนำของผู้ผลิต)
- นำอุปกรณ์รวมทั้งคีมจับจุกนมใส่ภาชนะนึ่ง ระมัดระวังอย่าให้อุปกรณ์อยู่ในแนวตั้งและอุปกรณ์ทั้งหมดจะต้องแช่อยู่ในน้ำ (ดูคำแนะนำของผู้ผลิต)
- ปิดฝาหม้อนึ่งและนำเข้าตู้อบไมโครเวฟ ปรับกำลังไฟและเวลาตามที่ระบุ (ดูคำแนะนำของผู้ผลิต)
- ระวังไอร้อนลวก ห้ามเปิดฝาภาชนะนึ่ง ปล่อยให้อุปกรณ์คลายความร้อนลงเล็กน้อยก่อนเปิดฝา
- ใช้คีมจับจุกนมประกอบขวดนมเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ที่ฆ่าเชื้อแล้วปนเปื้อนเชื้อโรค
- อุปกรณ์จะอยู่ในสภาพปลอดเชื้อตราบเท่าที่ยังปิดฝาอยู่
เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อไอน้ำระบบไฟฟ้า
- เติมน้ำตามปริมาณที่กำหนด (ดูคำแนะนำของผู้ผลิต)
- นำอุปกรณ์รวมทั้งคีมจับจุกนมใส่เครื่องนึ่ง ระมัดระวังอย่าให้อุปกรณ์อยู่ในแนวตั้งและอุปกรณ์ทั้งหมดจะต้องแช่อยู่ในน้ำ (ดูคำแนะนำของผู้ผลิต)
- ปิดฝาและเปิดเครื่อง
- ระวังไอร้อนลวก ห้ามเปิดฝาเครื่องนึ่ง ปล่อยให้อุปกรณ์คลายความร้อนลงเล็กน้อยก่อนเปิดฝา
- ใช้คีมจับจุกนมประกอบขวดนมเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ที่ฆ่าเชื้อแล้วปนเปื้อนเชื้อโรค
- อุปกรณ์จะอยู่ในสภาพปลอดเชื้อตราบเท่าที่ยังปิดฝาอยู่
- ล้างคราบตกค้างในเครื่องนึ่งตามระยะเวลาที่กำหนด (ดูคำแนะนำของผู้ผลิต)
ที่มา :: https://www.s-26.co.th/know-how/baby/how-to-express-breast-milk/expressing-milk/information
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น