เรอ..ไล่ลม..ชิ้ว..ชิ้ว !
เรอ..ไล่ลม..ชิ้ว..ชิ้ว ! (รักลูก)
ถ้าเจ้าตัวเล็กงอแงบ่อย หลับไม่ค่อยสนิท เดี๋ยวตื่น เดี๋ยวตื่น ลองสำรวจดูสิว่า เป็นเพราะคุณไม่ได้จับลูกเรอทุกครั้ง หลังมื้อนมหรือเปล่า ?
ใครที่คิดว่าการเรอเอิ้ก ๆ ของลูกไม่สำคัญ ทำบ้างไม่ทำบ้างก็ได้ คุณคิดผิดนะคะ โดยเฉพาะในวัยแรกเกิด-3 เดือน เพราะเวลาที่เจ้าตัวเล็กกินนม ไม่ว่าจะนมแม่หรือนมขวด ลูกไม่ได้กินนมอย่างเดียวค่ะ แต่กินลมเข้าไปด้วย กระเพาะลูกก็เล็กนี้ดเดียว แถมระบบการย่อยก็ยังทำงานไม่ดี พอมีอากาศเข้าไปในท้อง เลยไปสร้างความปั่นป่วนให้เจ้าตัวเล็ก ทำให้...
สำรอก (คือการแหวะนมที่กินเข้าไปออกมานิดหน่อย ไมใช่อาเจียนนะคะ)
ร้องกวนคุณแม่บ่อย ๆ
นอนหลับไม่สนิท โดยปกติเด็กเล็กมักจะมีช่วงที่หลับยาว ๆ ถึง 3-4 ชั่วโมง แต่ถ้ามีลมในท้องลูกจะตื่นเร็วขึ้นค่ะ
ไล่ลม..ชิ้ว..ชิ้ว
วิธีไล่ลมก็คือการทำให้เจ้าตัวเล็กเรอ...เอิ้ก ออกมานั่นเอง ซึ่งพอลูกกินนมเสร็จก็ลงมือได้เลยค่ะ อาจใช้เวลาครั้งละ 5-10 นาที ส่วนมากไม่เกิน 5 นาที โดยมีท่าสบายๆ สำหรับไล่ลมอยู่ 2 ท่า
1. อุ้มลูกพาดบ่า มือข้างหนึ่งของคุณแม่ค่อยๆ ลูบขึ้นลูบลงที่หลังลูก ทำซ้ำๆ จนได้ยินเสียงดังเอิ้ก แสดงว่าลมไปแล้ว
2. อุ้มลูกนั่งบนตัก มือข้างหนึ่งของคุณแม่ประคองคอลูกไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ลูบหลังลูก พอมีเสียงเรอปุ๊บ ลมก็หายปั๊บค่ะ
เรอบ้าง..ไม่เรอบ้าง..ไม่ดีนะ
อย่าเห็นว่าลูกตื่นกลางดึก กินนมไปแป๊บเดียว หรือลูกกินเสร็จก็หลับไปแล้ว กลัวจะตื่น ก็เลยไม่จับลูกเรอก่อนให้นอน อย่างนี้ไม่ดีค่ะ
คุณควรให้ลูกเรอทุกครั้งหลังกินนม แต่อาจปรับได้บ้างตามสไตล์ของเด็กค่ะ คือเด็กบางคนเลี้ยงง่าย ตื่นมากินนมตอนกลางคืนก็กินไม่เยอะ แล้วก็นอนหลับได้ทีละยาว ๆ การไม่ได้เรอบ้างก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กเลี้ยงยาก กินยาก นอนยาก แถมตื่นง่าย งอแงเก่งอีกต่างหาก แบบนี้ควรจับเรอทุกมื้อนมนะคะ เพราะการตื่นง่าย ร้องงอแง และหลับยากนั้น สาเหตุส่วนหนึ่งก็เพราะมีลมในท้อง ทำให้เด็กรู้สึกไม่สบายตัวนั่นเอง
อ้อ...แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าหลังกินนมลูกหลับไปแล้ว มาจับเรอเดี๋ยวลูกจะตื่นนะคะ เด็ก ๆ สามารถเรอออกมาได้ทั้ง ๆ ที่หลับอยู่ค่ะ
ป้องกันลมเข้า
ไม่มีวิธีที่ป้องกันเจ้าตัวเล็กกินลมได้ 100% หรอกค่ะ แต่พอจะทำได้บ้างด้วยการ..
1. ให้ลูกกินนมแม่ค่ะ การกินนมแม่จะช่วยลดการเอาลมเข้าปากได้มากกว่ากินนมจากขวด
2. เดี๋ยวนี้มีขวดนมแบบที่สามารถกันลมเข้าได้ โดยจะเป็นขวดที่มีลักษณะโค้ง เมื่อลูกยกขวด น้ำนมในขวดจะไหลออกมากันอากาศเข้าค่ะ
3. เวลาป้อนนมจากขวด เอาลูกเข้าอกเหมือนกับเวลาให้นมแม่นะคะ เพราะท่านี้ นอกจากน้ำนมจะเต็มขวดอยู่เสมอทำให้ลดการดูดอากาศของลูกได้แล้ว ยังให้ความรู้สึกอบอุ่น สานสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกด้วย และอย่าปล่อยให้ลูกนอนแล้วยกขวดป้อนนมลูก เพราะท่านี้มีโอกาสที่ลูกจะดูดอากาศเข้าไปได้มากเลยค่ะ
ไล่ลม..เลิกได้เมื่อไหร่?
คำตอบก็คือไม่ตายตัวค่ะ บางคนอาจจะยาวไปถึง 6-7 เดือน แต่ส่วนใหญ่ พอลูกเริ่มพลิกคว่ำพลิกหงายได้เอง คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องมาไล่ลมให้ลูกทุกมื้อนมแล้วล่ะค่ะ แต่ขอย้ำนะคะว่า ช่วง 0-3 เดือน คุณแม่ต้องไล่ลมให้ลูกหลังมื้อนมเสมอ
เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะลม นม หรือเรอ ก็เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ทำให้เจ้าตัวเล็กไม่งอแง หลับสบาย และมีสุขภาพดีแล้วล่ะค่ะ
การไล่ลมให้ทารก
ตอบลบวิธีการและเหตุผลที่ต้องไล่ลมให้ทารก
เหตุผล
• อากาศอาจเข้าไปจุกอยู่ในท้องลูกขณะดูดนม ซึ่งอาจทำให้ลูกอึดอัดไม่สบายตัวและดูดนมได้ไม่มากเท่าที่ควร หากลูกได้รับนมแม่ไม่เพียงพออาจทำให้นอนไม่หลับ และหากให้นมทั้งที่ยังจุกเสียดก็อาจทำให้ลูกปวดท้องได้
• เด็กบางคนอาจไม่เคยมีปัญหาเรื่องลมในท้อง แต่บางคนอาจแน่นท้องทุกครั้งหลังดูดนม
ควรทำเมื่อใด
• โดยมากมักต้องไล่ลมในช่วงครึ่งทางของการให้นม และทำอีกครั้งหลังให้นมเสร็จ
• การไล่ลมก่อนให้นมอาจช่วยบรรเทาอาการได้หากเด็กมีอาการแน่นท้องมากหรือแหวะนมออกมามากหลังให้นม
• อากาศอาจไหลย้อนลงไปในท้องระหว่างที่ร้องไห้และทำให้เด็กแน่นท้องได้
ทำได้อย่างไร
สามารถทำได้ 2 ท่า ได้แก่
• ท่าพาดไหล่
• ท่านั่งตัก โดยใช้มือข้างหนึ่งประคองหลังและอีกข้างคอยรองใต้คาง
จัดลูกให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม
ค่อยๆ ลูบหลังจนกว่าลูกจะเรอออกมา ให้ทำอย่างใจเย็นเพราะอาจต้องใช้เวลาบ้าง
ลองให้นมลูกอีกครั้ง
เมื่อเรอลมออกมาแล้วเด็กจะท้องว่างและอาจต้องการนมเพิ่ม
*** ลูกอาจสำรอกนมออกมาระหว่างไล่ลม ควรเตรียมผ้ารองป้องกันเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าและคอยซับสิ่งสกปรก ***
.
เคล็ดลับการไล่ลมลูกวัยทารกในท่าต่างๆ
ตอบลบการไล่ลมขณะลูกกินนมหรือหลังกินนมเสร็จเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลูกวัยทารก ขณะลูกกินนม คุณแม่อย่าลืมให้ลูกหยุดกินนมสักครู่ เพื่อไล่ลมให้ลูก เพื่อป้องกันลูกท้องอืดจากการมีลมเข้าไปและการแหวะนม ซึ่งทำได้ดังนี้
อุ้มลูกพาดบ่า คุณแม่อุ้มลูกหันหน้าเข้าหาตัว วางศีรษะลูกบนบ่าหันหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง ใช้มือข้างที่ถนัดประคองต้นคอลูก ส่วนมืออีกข้างประคองก้นลูกไว้ ท่านี้ ไหล่ของคุณแม่จะช่วยนวดลิ้นปี่ของลูกไปโดยปริยายอย่างเบาๆ ทำให้ลูกเรอได้
• ท่าอุ้มลูกนั่งบนตัก คุณแม่ใช้มือข้างที่ถนัดประคองช่วงคางของลูก จากนั้นก็โน้มตัวลูกมาข้างหน้าเล็กน้อย หลังตรง อุ้งมือคุณแม่จะอยู่บริเวณลิ้นปี่ลูก ให้ทิ้งน้ำหนักตัวลูกมากดทับที่มือคุณแม่ เป็นการช่วยคลึงท้องลูกเพื่อช่วยไล่ลมออก ส่วนมืออีกข้างก็ลูบหลังลูกเบาๆ
• อุ้มลูกวางพาดบนขา คุณแม่อุ้มลูกให้นอนคว่ำโดยช่วงหน้าอก (ลิ้นปี่) ของลูกอยู่บนหน้าขา (คุณแม่นั่งบนเก้าอี้ชันเข่า) ใช้มือข้างที่ถนัดประคองช่วงไหล่ลูก และใช้มืออีกข้างหนึ่งลูบหลังลูกเบาๆ หน้าขาคุณแม่จะช่วยนวดเบาๆ ที่ท้องลูก เพื่อช่วยไล่ลมได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ขณะที่ไล่ลมให้ลูก คุณแม่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ไว้ด้วย คือ
• เตรียมผ้าอ้อมสะอาดไว้ใกล้มือ เวลาที่ลูกแหวะนมออกมาจะได้หยิบใช้สะดวก
• ทุกครั้งที่อุ้มลูก ต้องใช้มือข้างที่ถนัดประคองต้นคอลูกไว้เสมอ เพราะกล้ามเนื้อต้นคอของลูกยังไม่แข็งแรงพอนั่นเอง
ไล่ลมกินนมท้องอืดแหวะนม
ที่มา :: http://www.enfababy.com/พัฒนาการลูกน้อย
.
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบการแก้ไขปัญหาภาวะท้องอืดในเด็กทารก
ตอบลบนอกจากความไม่สมดุลระหว่างจำนวนบุคลากรทางการแพทย์กับจำนวนประชาชนแล้ว ภาวะสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบันยังทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถใช้บริการของสถานพยาบาลได้ทุกครั้ง การดูแลตนเองหรือดูแลซึ่งกันและกันเมื่อมีความผิดปกติบางอย่างจึงมีความสำคัญ ที่จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือบรรเทาภาวะวิกฤตก่อนที่จะไปสถานพยาบาลได้ และปัญหาบางอย่างต้องการเพียง พยาบาลในบ้าน
มีปัญหาที่พบบ่อยในทารก ไม่ว่าจะแรกเกิด หรือในระยะเวลาต่อมา คือ “อาการแน่นท้อง ท้องอืด มีลมในท้อง” ทำให้ทารกร้องกวน บางครั้งในกระเพาะมีลมมาก ทารกจะร้องเป็นพัก ๆ เมื่อให้ดูดนมก็จะดูด แต่พอถึงระยะปวดท้องเพราะลมดัน จะคายหัวนมออกและร้องดิ้นไม่ยอมหลับ ถ้าทารกไม่อาเจียน ไม่มีอาการถ่ายอุจจาระเหลว อาจเป็นอาการ “ท้องอืด” เพราะทารกดูดลมเข้าไปในกระเพาะ ซึ่งแม่หรือผู้เลี้ยงดูจะต้องช่วยพยาบาลให้ทารกทุเลาอาการลง
อย่างไรก็ตาม อาการท้องอืดในเด็กสามารถป้องกันได้ ด้วยการ อุ้มทารกขณะให้นม และหลังให้นมแล้ว ทำให้ทารกเรอ พบว่า ในทารกที่ดื่มน้ำนมแม่ไม่ค่อยพบว่ามีอาการท้องอืดเหมือนทารกที่ดื่มน้ำนมผสมจากขวด ทั้งนี้เพราะน้ำนมแม่ย่อยง่ายกว่า น้ำนมแม่ไม่มีปฏิกิริยาที่ทำให้ทารกบางคนปวดท้อง และทารกบางคนเวลาให้ดูดนมจากขวด ดูดเอาลมเข้าไปมาก เพราะผู้ให้นมปฏิบัติไม่ถูกต้อง หรือให้ทารกดูดขวดนมเปล่า ๆ เป็นต้น
วิธีปฏิบัติ เพื่อทุเลาอาการท้องอืดในทารก คือการไล่ลม ซึ่งทำได้หลายลักษณะแล้วแต่ท่าที่ผู้เลี้ยงดูจะถนัด คือ
1. การอุ้มพาดบ่า อุ้มทารกพาดบ่าข้างที่ถนัด มืออีกข้างหนึ่งประคองตรงคอและศีรษะไว้ ลูบหลังเบา ๆจากล่างขึ้นบน หรือตบหลังเบา ๆ จนกว่าจะเรอ
2. นอนคว่ำบนตัก วางทารกนอนคว่ำบนตัก ประคองศีรษะไว้แล้วลูบหรือตบหลังเบา ๆ
3. ให้ทารกนั่ง จับทารกนั่งห้อยขาบนตักหันหน้าไปด้านใดด้านหนึ่งประคองหน้า และหลังทารกด้วยมือทั้งสอง เอนตัวทารกไปข้างหน้า ให้ส่วนของท้องทารกพาดกับหน้าแขนของผู้อุ้มแล้วลูบหรือตบหลังเบา ๆ
การใช้มหาหิงส์ ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้ โดยทารกจะสูดเอากลิ่นของมหาหิงส์เข้าไป ช่วยให้ขับลมออกมา มหาหิงส์ควรทาเบา ๆ (นิยมทาหน้าท้อง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า) และทิ้งให้แห้ง ก่อนปิดเสื้อหรือห่มผ้า เพราะถ้ามหาหิงส์ยังเปียกอยู่จะติดเสื้อผ้า เวลาดึงเสื้อผ้าออกจากผิวหนัง ทารกจะเจ็บ คนจีนนิยมใช้มหาหิงส์แห้งผูกข้อมือทารกไว้ เพื่อให้ทารกสูดกลิ่นได้ตลอดเวลานั่นเอง
ยาน้ำช่วยย่อย มีส่วนผสมของขิงช่วยในการระบายลมได้เล็กน้อย ราคาขวดละหลายบาท ควรป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องอืดมากกว่าการดูแลเมื่อเกิดท้องอืดแล้วจะดีกว่า
.