พัฒนาศักยภาพลูกรักกับทฤษฎี 10-5-5-10
How to start…!!! ? พัฒนาศักยภาพลูกรักกับทฤษฎี 10-5-5-10
(Mother & Care)
จากแนวคิดสร้างเสริมศักยภาพลูกน้อยตามหลักรหัสศักยภาพ 10-5-5-10 ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลไปตั้งแต่ฉบับที่แล้วว่าเป็นทฤษฎีที่จะช่วยให้ลูกน้อยมีศักยภาพล้ำหน้า ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับคำแนะนำจาก Adjunct Full Professor ERIC LOUIS LIEN, PH.D. นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการสำหรับเด็กระดับโลก จาก Department of Food science and Human nutrition, University of Illinois สำหรับฉบับนี้คุณแม่พร้อมแล้วหรือยังคะที่จะพัฒนาศักยภาพของลูกรักให้ล้ำหน้า ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มต้นกับเทคนิคที่เราได้นำมาฝากคุณแม่ตามคำสัญญาค่ะ
เคล็ดลับเสริมสร้างศักยภาพกับทฤษฎี 10-5-5-10
10 เทคนิคสร้างพัฒนาการสมองและสายตาที่ดี
สำหรับลูกน้อยวัย 1 ปีขึ้นไปนั้น ปัจจัยสำคัญของการพัฒนาศักยภาพสมองลูกรัก คือ สายตาที่คมชัด เพื่อการรับรู้ข้อมูลประสบการณ์ที่หลากหลายได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงการเรียนรู้ที่รุดหน้าและต่อเนื่องของลูก มาติดตามกันสิคะว่าการส่งเสริม 10 พัฒนาการสมองและสายที่ดีมีอะไรบ้าง
1.โภชนาการที่ดีสร้างสมอง ให้ลูกได้รับอาหารครบ 3 มื้อ เป็นเมนูที่ให้ลูกได้รับประโยชน์จากสารอาหารที่หลากหลายทั้ง 5 หมู่ เสริมด้วยนม 1-2 แก้ว เพื่อช่วยให้ลูกได้รับสารอาหาร เพื่อการพัฒนาสมองอย่างครบถ้วนเพียงพอ
2.ให้ลูกเล่นอิสระตามธรรมชาติ ได้เล่นสำรวจสิ่งต่าง ๆ ได้ใช้สมองคิดวิเคราะห์ เพื่อเรียนรู้ สังเกตปฏิกิริยาสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง
3.เปิดประสบการณ์ใหม่ พาลูกไปเที่ยวนอกบ้าน เพื่อให้มีประสบการณ์กับสิ่งต่าง ๆ และพบผู้คนใหม่ ๆ
4.เล่าเรื่องให้ลูกฟัง หมั่นพูดคุยให้ลูกฟัง เช่น เล่าเรื่องจากข่าว เพื่อเพิ่มคำศัพท์ใหม่ให้กับสมองน้อย ๆ ของลูก
5.ชวนลูกทำกิจกรรม โดยทำกิจวัตรง่าย ๆ ให้ลูกเรียนรู้ จดจำประสบการณ์จากสิ่งที่ทำ และฝึกวินัยไปในตัว
6.หมั่นแสดงความรัก โดยโอบกอด สัมผัส หอมแก้ม เพื่อพัฒนาระบบประสาท ความจำ ทำให้ลูกอารมณ์ดี
7.เล่นกับลูกด้วยตัวเอง โดยเล่นขี่ม้าส่งเมือง จ๊ะเอ๋ ทายคำศัพท์ให้ลูกเรียนรู้สนุก สร้างความสุขให้ครอบครัว
8.หมั่นชมเชย เมื่อลูกทำสิ่งต่าง ๆ ได้ควรชม ให้กำลังใจ เช่น เก็บของเล่นเอง กินผักได้ หยิบของให้พ่อแม่
9.พาลูกเข้าสังคม ชวนลูกเล่นกับเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านได้ออกกำลัง วิ่งเล่น ปีนป่าย กระโดด เรียนรู้การใช้ร่างกายได้พัฒนากล้ามเนื้อ ฝึกให้รู้จักกฎกติกาการเล่นกับผู้อื่น
10.ชวนลูกอ่านหนังสือ พร้อมตั้งคำถามให้ลูกตอบจากเรื่องที่อ่าน เพื่อฝึกใช้สมองคิดวิเคราะห์หาคำตอบ
1.โภชนาการที่ดีสร้างสมอง ให้ลูกได้รับอาหารครบ 3 มื้อ เป็นเมนูที่ให้ลูกได้รับประโยชน์จากสารอาหารที่หลากหลายทั้ง 5 หมู่ เสริมด้วยนม 1-2 แก้ว เพื่อช่วยให้ลูกได้รับสารอาหาร เพื่อการพัฒนาสมองอย่างครบถ้วนเพียงพอ
2.ให้ลูกเล่นอิสระตามธรรมชาติ ได้เล่นสำรวจสิ่งต่าง ๆ ได้ใช้สมองคิดวิเคราะห์ เพื่อเรียนรู้ สังเกตปฏิกิริยาสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง
3.เปิดประสบการณ์ใหม่ พาลูกไปเที่ยวนอกบ้าน เพื่อให้มีประสบการณ์กับสิ่งต่าง ๆ และพบผู้คนใหม่ ๆ
4.เล่าเรื่องให้ลูกฟัง หมั่นพูดคุยให้ลูกฟัง เช่น เล่าเรื่องจากข่าว เพื่อเพิ่มคำศัพท์ใหม่ให้กับสมองน้อย ๆ ของลูก
5.ชวนลูกทำกิจกรรม โดยทำกิจวัตรง่าย ๆ ให้ลูกเรียนรู้ จดจำประสบการณ์จากสิ่งที่ทำ และฝึกวินัยไปในตัว
6.หมั่นแสดงความรัก โดยโอบกอด สัมผัส หอมแก้ม เพื่อพัฒนาระบบประสาท ความจำ ทำให้ลูกอารมณ์ดี
7.เล่นกับลูกด้วยตัวเอง โดยเล่นขี่ม้าส่งเมือง จ๊ะเอ๋ ทายคำศัพท์ให้ลูกเรียนรู้สนุก สร้างความสุขให้ครอบครัว
8.หมั่นชมเชย เมื่อลูกทำสิ่งต่าง ๆ ได้ควรชม ให้กำลังใจ เช่น เก็บของเล่นเอง กินผักได้ หยิบของให้พ่อแม่
9.พาลูกเข้าสังคม ชวนลูกเล่นกับเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านได้ออกกำลัง วิ่งเล่น ปีนป่าย กระโดด เรียนรู้การใช้ร่างกายได้พัฒนากล้ามเนื้อ ฝึกให้รู้จักกฎกติกาการเล่นกับผู้อื่น
10.ชวนลูกอ่านหนังสือ พร้อมตั้งคำถามให้ลูกตอบจากเรื่องที่อ่าน เพื่อฝึกใช้สมองคิดวิเคราะห์หาคำตอบ
5 เทคนิคสร้างพลังเรียนรู้
เพราะการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ลูกต่อยอดความคิดที่ดี ทำให้มีความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น แถมยังช่วยให้ลูกรู้จักสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้มากกว่าใคร ส่วนจะส่งเสริมอย่างไรให้ลูกมี 5 พลังเรียนรู้นั้น ไปติดตามกันค่ะ
1.เป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ภาษาและคำพูดที่เหมาะสม การแสดงอารมณ์ เพราะลูกจะจับตามอง และเรียนรู้ทุกอย่างจากการกระทำของพ่อแม่เป็นหลักค่ะ
2.การถามตอบ ลูกวัยนี้เริ่มพัฒนาการสื่อสารได้ 2 ทาง คือ ฟังอย่างเข้าใจ และพูดโต้ตอบได้มากขึ้น ดังนั้นฝึกลูกถาม-ตอบเรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน
3.ชวนลูกสำรวจ ให้เวลาลูกเรียนรู้ สำรวจผู้คน สิ่งของต่าง ๆ ที่พบเห็น เช่น เมื่อพาไปซูเปอร์มาร์เก็ตชี้ชวนให้ลูกสังเกตผัก-ผลไม้หลากชนิด สอนเรียกชื่อ บอกลักษณะต่าง ๆ
4.เล่นสมมติ ชวนลูกเล่นบทบาทสมมติเป็นอาชีพต่าง ๆ เช่น เล่นขายของ เป็นคุณหมอ เพื่อให้ลูกเรียนรู้การปฏิบัติบทบาทหน้าที่ และการอยู่ร่วมกันในสังคม
5.ให้ลูกเล่นคนเดียวบ้าง เพื่อให้ลูกมีอิสระในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว และมีความเป็นตัวของตัวเอง เพราะได้ลองจับสัมผัสด้วยตัวเอง
1.เป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ภาษาและคำพูดที่เหมาะสม การแสดงอารมณ์ เพราะลูกจะจับตามอง และเรียนรู้ทุกอย่างจากการกระทำของพ่อแม่เป็นหลักค่ะ
2.การถามตอบ ลูกวัยนี้เริ่มพัฒนาการสื่อสารได้ 2 ทาง คือ ฟังอย่างเข้าใจ และพูดโต้ตอบได้มากขึ้น ดังนั้นฝึกลูกถาม-ตอบเรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน
3.ชวนลูกสำรวจ ให้เวลาลูกเรียนรู้ สำรวจผู้คน สิ่งของต่าง ๆ ที่พบเห็น เช่น เมื่อพาไปซูเปอร์มาร์เก็ตชี้ชวนให้ลูกสังเกตผัก-ผลไม้หลากชนิด สอนเรียกชื่อ บอกลักษณะต่าง ๆ
4.เล่นสมมติ ชวนลูกเล่นบทบาทสมมติเป็นอาชีพต่าง ๆ เช่น เล่นขายของ เป็นคุณหมอ เพื่อให้ลูกเรียนรู้การปฏิบัติบทบาทหน้าที่ และการอยู่ร่วมกันในสังคม
5.ให้ลูกเล่นคนเดียวบ้าง เพื่อให้ลูกมีอิสระในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว และมีความเป็นตัวของตัวเอง เพราะได้ลองจับสัมผัสด้วยตัวเอง
5 เทคนิคสร้างการเติบโตแข็งแรง
เพราะร่างกายที่แข็งแรงจะช่วยให้ลูกเติบโตดีมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นอีกมาก ทั้งการใช้ร่างกายเคลื่อนไหวที่ดี มีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง และอื่น ๆ อีกมาก ส่วนจะส่งเสริมอย่างไรให้ลูกมี 5 การเติบโตแข็งแรงไปติดตามกันค่ะ
1.เพิ่มกิจกรรมออกกำลังกาย ให้ลูกเล่นหรือทำในสิ่งที่ต้องการ แม้อาจเลอะไปบ้าง พ่อแม่แค่ดูแลความปลอดภัย และความเหมาะสมก็พอค่ะ เช่น ให้ลูกลองเล่นปีนป่าย เล่นดินเล่นทราย ช่วยแม่ปรุงอาหาร ตักอาหารกินเอง เพื่อให้ลูกได้ฝึกฝนทักษะการใช้กล้ามเนื้อได้คล่องขึ้น
2.คุมอารมณ์ ตอบคำถามลูกด้วยท่าทีที่ดี ไม่ดุไม่แสดงท่ารำคาญเมื่อลูกถามซ้ำ แต่พูดคุยด้วยคำพูดที่ชัดเจนให้ลูกได้เรียนรู้และฝึกฝนการพูด โดยไม่เครียดไม่กดดัน เพราะถ้าถูกดุ หรือโดนต่อว่า ลูกจะกลัวจนไม่กล้าพูดค่ะ
3.ส่งเสริมอาหาร ให้ลูกได้รับอาหารที่มีคุณค่าหลีกเลี่ยงลูกอม ขนมหวาน เพื่อป้องกันฟันผุ ให้ลูกกินครบทั้ง 3 มื้อ เสริมด้วยนมอย่างน้อยวันละ 2 แก้ว ฝึกให้ลูกกินผัก-ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
4.สอนให้รักความสะอาด สอนให้ลูกรู้จักดูแลความสะอาดร่างกาย เพื่อป้องกันโรคภัย ช่วยให้ลูกมีสุขภาพอนามัยที่ดี เช่น "หนูต้องแปรงฟันก่อนเข้านอน เพราะเชื้อโรคในปากจะทำให้ฟันผุ ไม่สวย"
5.ส่งเสริมการใช้ร่างกาย โดยให้ลูกไปวิ่งเล่นนอกบ้านในที่ที่ปลอดภัย เช่น สวนสาธารณะ เตรียมกระดาษดินสอให้ลูกขีดเขียนตามใจ หัดลูกแปรงฟันเอง แต่งตัวเอง
1.เพิ่มกิจกรรมออกกำลังกาย ให้ลูกเล่นหรือทำในสิ่งที่ต้องการ แม้อาจเลอะไปบ้าง พ่อแม่แค่ดูแลความปลอดภัย และความเหมาะสมก็พอค่ะ เช่น ให้ลูกลองเล่นปีนป่าย เล่นดินเล่นทราย ช่วยแม่ปรุงอาหาร ตักอาหารกินเอง เพื่อให้ลูกได้ฝึกฝนทักษะการใช้กล้ามเนื้อได้คล่องขึ้น
2.คุมอารมณ์ ตอบคำถามลูกด้วยท่าทีที่ดี ไม่ดุไม่แสดงท่ารำคาญเมื่อลูกถามซ้ำ แต่พูดคุยด้วยคำพูดที่ชัดเจนให้ลูกได้เรียนรู้และฝึกฝนการพูด โดยไม่เครียดไม่กดดัน เพราะถ้าถูกดุ หรือโดนต่อว่า ลูกจะกลัวจนไม่กล้าพูดค่ะ
3.ส่งเสริมอาหาร ให้ลูกได้รับอาหารที่มีคุณค่าหลีกเลี่ยงลูกอม ขนมหวาน เพื่อป้องกันฟันผุ ให้ลูกกินครบทั้ง 3 มื้อ เสริมด้วยนมอย่างน้อยวันละ 2 แก้ว ฝึกให้ลูกกินผัก-ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
4.สอนให้รักความสะอาด สอนให้ลูกรู้จักดูแลความสะอาดร่างกาย เพื่อป้องกันโรคภัย ช่วยให้ลูกมีสุขภาพอนามัยที่ดี เช่น "หนูต้องแปรงฟันก่อนเข้านอน เพราะเชื้อโรคในปากจะทำให้ฟันผุ ไม่สวย"
5.ส่งเสริมการใช้ร่างกาย โดยให้ลูกไปวิ่งเล่นนอกบ้านในที่ที่ปลอดภัย เช่น สวนสาธารณะ เตรียมกระดาษดินสอให้ลูกขีดเขียนตามใจ หัดลูกแปรงฟันเอง แต่งตัวเอง
10 เทคนิคสร้างพัฒนาการสมวัย
อยากให้ลูกเฉลียวฉลาด เป็นคนเก่ง คนดี เป็นที่รักของใคร ๆ ในสังคม ควรส่งเสริมพัฒนาการสมวัยทั้ง 10Q เพราะทั้ง 10Q คือความฉลาดรอบด้าน เพื่อช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนจะส่งเสริมอย่างไรไปติดตามกันค่ะ
1.เป็นแบบอย่างที่ดี แสดงพฤติกรรมที่ดีต่างๆ ให้ลูกเห็น ทั้งการแสดงอารมณ์ การใช้ชีวิตกิจวัตรประจำวัน การรู้จักเข้าสังคม การมีมารยาท เช่น พบผู้ใหญ่ไหว้สวัสดี ชวนลูกทำงานบ้าน ตื่นเช้าออกกำลังกาย
2.โภชนาการที่ดี ให้ลูกได้รับอาหารหลัก 3 มื้อ ครบถ้วน 5 หมู่ที่หลากหลายสลับกัน ควรเป็นอาหารที่รสชาติไม่จัด ไม่มีสารปรุงแต่งมากเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพลูกได้ค่ะ
3.เสริมโภชนาการ ลูกควรได้รับอาหารว่างที่มีประโยชน์พร้อมเสริมนมอย่างน้อยวันละ 2 แก้ว เพื่อให้ลูกได้รับคุณค่าพลังงานจากสารอาหารอย่างเต็มที่ และมีการเจริญเติบโตที่ดีสมวัย
4.ตอบคำถามลูก โดยอธิบายให้ลูกเข้าใจง่าย ๆ เช่น ไก่บินสูงไม่ได้ เพราะปีกไม่แข็งแรงเท่านก เพื่อช่วยให้ลูกเรียนรู้เหตุและผลได้ง่ายขึ้น
5.สร้างประสบการณ์ เปิดโลกกว้างของการเรียนรู้โดยให้ลูกดูสิ่งต่าง ๆ เช่น พาไปสวนสนุก สวนสัตว์ ซึ่งเป็นที่ที่ทำให้ลูกสนุกที่จะเรียนรู้ พร้อมที่จะจดจำ คิดต่อยอดและมีจินตนาการที่ดีด้วยค่ะ
6.หมั่นชมเชย ชื่นชมและให้กำลังใจเมื่อลูกทำสิ่งใดได้ดี เช่น ปรบมือ หอมแก้ม กอด ให้ขนมที่ลูกชอบเป็นรางวัล จะทำให้ลูกภูมิใจ มีกำลังใจที่จะทำสิ่งใหม่ต่อไป
7.ฝึกทักษะศิลปะ สอนลูกใช้ดินสอ ฝึกขีดเขียน วาดรูประบายสี พัฒนาทักษะกล้ามเนื้อและความคิดสร้างสรรค์เสริมการเรียนรู้ด้านมิติสัมพันธ์ ให้ลูกมีทักษะด้านศิลปะ และคณิตศาสตร์ไปพร้อมกัน
8.ชวนทำกิจกรรมนอกบ้าน ชวนลูกเล่นและทำกิจกรรมออกกำลังกาย ชวนไปว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เตะฟุตบอล ฝึกการใช้ร่างกายให้คล่องแคล่ว ให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ แข็งแรงสูงใหญ่ในอนาคต
9.หัดร้องเพลง สอนลูกร้องเพลงที่สั้น ๆ ง่าย ๆ ชวนลูกเต้นตามจังหวะเพลงที่สนุกสนาน ฝึกฟังจังหวะ ซึ่งช่วยกระตุ้นสมองให้เรียนรู้จดจำดี มีอารมณ์แจ่มใส ไม่งอแงง่าย
10.ฝึกนับเลข ชวนอ่านหนังสือ รู้จักตัวอักษรหรือสัตว์ที่เข้าใจง่าย เพื่อฝึกการอ่าน เรียนรู้คณิตศาสตร์และสิ่งแวดล้อม พร้อมฝึกให้ลูกมีความมั่นใจ และกล้าแสดงออกด้วยนะคะ
1.เป็นแบบอย่างที่ดี แสดงพฤติกรรมที่ดีต่างๆ ให้ลูกเห็น ทั้งการแสดงอารมณ์ การใช้ชีวิตกิจวัตรประจำวัน การรู้จักเข้าสังคม การมีมารยาท เช่น พบผู้ใหญ่ไหว้สวัสดี ชวนลูกทำงานบ้าน ตื่นเช้าออกกำลังกาย
2.โภชนาการที่ดี ให้ลูกได้รับอาหารหลัก 3 มื้อ ครบถ้วน 5 หมู่ที่หลากหลายสลับกัน ควรเป็นอาหารที่รสชาติไม่จัด ไม่มีสารปรุงแต่งมากเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพลูกได้ค่ะ
3.เสริมโภชนาการ ลูกควรได้รับอาหารว่างที่มีประโยชน์พร้อมเสริมนมอย่างน้อยวันละ 2 แก้ว เพื่อให้ลูกได้รับคุณค่าพลังงานจากสารอาหารอย่างเต็มที่ และมีการเจริญเติบโตที่ดีสมวัย
4.ตอบคำถามลูก โดยอธิบายให้ลูกเข้าใจง่าย ๆ เช่น ไก่บินสูงไม่ได้ เพราะปีกไม่แข็งแรงเท่านก เพื่อช่วยให้ลูกเรียนรู้เหตุและผลได้ง่ายขึ้น
5.สร้างประสบการณ์ เปิดโลกกว้างของการเรียนรู้โดยให้ลูกดูสิ่งต่าง ๆ เช่น พาไปสวนสนุก สวนสัตว์ ซึ่งเป็นที่ที่ทำให้ลูกสนุกที่จะเรียนรู้ พร้อมที่จะจดจำ คิดต่อยอดและมีจินตนาการที่ดีด้วยค่ะ
6.หมั่นชมเชย ชื่นชมและให้กำลังใจเมื่อลูกทำสิ่งใดได้ดี เช่น ปรบมือ หอมแก้ม กอด ให้ขนมที่ลูกชอบเป็นรางวัล จะทำให้ลูกภูมิใจ มีกำลังใจที่จะทำสิ่งใหม่ต่อไป
7.ฝึกทักษะศิลปะ สอนลูกใช้ดินสอ ฝึกขีดเขียน วาดรูประบายสี พัฒนาทักษะกล้ามเนื้อและความคิดสร้างสรรค์เสริมการเรียนรู้ด้านมิติสัมพันธ์ ให้ลูกมีทักษะด้านศิลปะ และคณิตศาสตร์ไปพร้อมกัน
8.ชวนทำกิจกรรมนอกบ้าน ชวนลูกเล่นและทำกิจกรรมออกกำลังกาย ชวนไปว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เตะฟุตบอล ฝึกการใช้ร่างกายให้คล่องแคล่ว ให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ แข็งแรงสูงใหญ่ในอนาคต
9.หัดร้องเพลง สอนลูกร้องเพลงที่สั้น ๆ ง่าย ๆ ชวนลูกเต้นตามจังหวะเพลงที่สนุกสนาน ฝึกฟังจังหวะ ซึ่งช่วยกระตุ้นสมองให้เรียนรู้จดจำดี มีอารมณ์แจ่มใส ไม่งอแงง่าย
10.ฝึกนับเลข ชวนอ่านหนังสือ รู้จักตัวอักษรหรือสัตว์ที่เข้าใจง่าย เพื่อฝึกการอ่าน เรียนรู้คณิตศาสตร์และสิ่งแวดล้อม พร้อมฝึกให้ลูกมีความมั่นใจ และกล้าแสดงออกด้วยนะคะ
เมื่อคุณแม่ได้รับทราบ Tips ดี ๆ ของรหัสศักยภาพ 10-5-5-10 แล้ว อย่าลืมนำไปเสริมสร้างศักยภาพของลูกรัก เพื่อช่วยต่อยอดการเรียนรู้ให้ลูกรักคนเก่งของคุณแม่เป็นเด็กเฉลียวฉลาด และมีพัฒนาการที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นนะคะ