หนุ่มเลิกเป็นลูกจ้างบริษัท หันเลี้ยงเห็ด “ถั่งเช่า” สร้างรายได้เรือนแสนเลี้ยงครอบครัว
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวสืบทราบว่า มีผู้เพาะพันธุ์เห็ดถั่งเช่าขายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้สื่อข่าวพบกับ นายสมชาย เชี่ยวชาญศิลป์ หรือคุณชาย วัย 45 ปี บัณฑิตสาขาวิชาโรคพืช คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยนายสมชายลาออกจากตำแหน่งพนักงานส่งเสริมการขายเคมีเกษตร หลังจากจบปริญญาตรี และทำงานเป็นพนักงานส่งเสริมการขายเคมีเกษตร ในบริษัทเอกชน โดยทำงานได้เพียง 8 ปี ก็ตัดสินใจกลับบ้านเกิด ที่ อ.เบตง จ.ยะลา
นายสมชาย บอกว่า “เริ่มต้นมาจากการที่ผมมองว่า กระแสสุขภาพขณะนี้มาแรง ผมก็เข้าไปค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ว่าเราควรทำตัวแบบไหนดี ดูไปดูมา ผมมาจบที่เห็ดถั่งเช่า ซึ่งที่ผ่านมามีงานวิจัย รองรับค่อนข้างมากและชัดเจน จากนั้น ผมไปซื้อน้ำเชื้อมาชุดแรก นำมาขยายพันธุ์เอง ทั้งนี้ผมมีความรู้ด้านโรคพืชอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้จึงไม่มีปัญหา ประกอบกับ ด้วยภูมิประเทศของอำเภอเบตงส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงจึงทำให้อำเภอเบตงมีอากาศดี เหมาะที่จะมาเริ่มต้นการเพาะเห็ดถั่งเช่า
เริ่มต้นโดยการนำน้ำเชื้อถั่งเช่า ชุดแรกมาขยายพันธุ์และเก็บเชื้อ โดยในระยะ 3 เดือน จะเก็บได้ 1 รุ่น ในส่วนของเชื้อเห็ดถั่งเช่านั่น “ถั่งเช่า มันเป็นเห็ด เห็ดตัวนี้จริงๆ แล้ว เกิดจากตัวหนอน ที่มีอยู่มากแถวทิเบตหรือหรือที่ภูฏาน คือเริ่มต้นหนอนตัวนี้ ช่วงหนาวมันจะมีการฟักตัว ช่วงฟักตัวนี้เองที่จะมีเชื้อราชนิดหนึ่ง เข้าไปโจมตีตัวหนอน ด้วยการไปเจริญเติบโตและดูดสารอาหารจากตัวหนอน จนเชื้อราเดินเต็ม เมื่ออากาศอุ่นขึ้น เชื้อราตัวนี้ที่ว่าก็เริ่มแทงดอก ออกเป็นเห็ดขึ้นมา ที่เราเรียกว่าเห็ดถั่งเช่านั่นเอง
นายสมชาย กล่าวอีกว่า เชื้อราที่ว่านี้ มีหลายสายพันธุ์ ถ้าเป็นของดีหายาก กิโลกรัมละเป็นล้านบาทที่มีการซื้อขายกันที่เมืองจีนกันทีเดียว แต่ที่ตนทำอยู่นี้ก็เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียง ที่มีสารออกฤทธิ์คล้ายกัน ซึ่งการทำในห้องปฏิบัติการ ก็สามารถควบคุมเรื่องธาตุอาหาร ให้ได้ผลดีกว่า
การเลี้ยงเชื้อรา ในห้องปฏิบัติการ เลี้ยงบนอาหารแข็ง (ที่ทำขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้หนอนแบบในธรรมชาติ) เมื่อเส้นใยเดินเต็ม แล้วแทงเป็นดอกได้ดอกออกมา ก็นำไปอบแห้ง ทำเป็นชาถั่งเช่า ซึ่งจริงๆแล้วนำไปใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม เช่นเครื่องสำอาง โดยตนมีโครงการนำไปผสมในอาหารไก่ เพื่อลดการใช้สารปฏิชีวนะไก่
“ในส่วนของผม เรารวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน กลุ่มบ้านเห็ดเบตง มีสมาชิก 17 คน ซึ่งกลุ่มเราจัดเป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง จนได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 2 กลุ่ม ของทั้งจังหวัดยะลา ทางภาครัฐโดยสํานักงานเกษตรจังหวัดยะลา และสํานักงานเกษตรอำเภอเบตง ได้เข้ามาส่งเสริมในเรื่ององค์ความรู้ใหม่ๆ และการบรรจุภัณฑ์ โดยตอนนี้เราทำเป็นในรูปแบบของชาและมีขายเป็นแคปซูล เป็นอาหารเสริม และทำเป็นชา เราใช้เห็ดราว 3-4 เส้น ต่อซอง ขายซองละ 50 บาท บรรจุกล่องละ 10 ซองราคา 500 บาท ส่วนแคปซูล ใน 1 กระปุกมี 60 แคปซูล ราคา 1500 บาท ทั้งนี้ ผมตั้งเป้าหมายว่า เราจะมีสินค้าทำนองนี้ขายลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะมาจากสิงคโปร์ หรือมาเลเซีย ที่ตอนนี้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้เข้ามาเที่ยวที่อ.เบตงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาล และวันหยุดสุดสัปดาห์ หากเราทำได้ ต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อไปเราจะเหมือนเกาหลี หรือจีน ที่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวและต้องซื้อโสม หรือบัวหิมะกลับไป” นายสมชาย กล่าว
สำหรับกำลังการผลิตต่อเดือนในช่วงนี้ นายชาย บอกว่า ทางกลุ่มสามารถผลิตดอกแห้งได้ราว 1.5 กิโลกรัม และแบบผงอีกราว 10 กิโลกรัม ซึ่งหากขายหมดจะมียอดรายได้ราว 5 แสนบาทต่อเดือนสำหรับใครที่สนใจ ติดต่อนายสมชาย ได้ที่ 126 ถ.ประชาธิปัตย์ อ.เบตง ยะลา 95110 โทร. 073-230132 หรือ 089-7764107 หรือเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กคุณสมชาย
CR :: .khaosod.co.th