คุณสมบัติของเพื่อนแท้
คุณสมบัติของเพื่อนแท้นั้น ควรมีดังนี้คือ
1. เป็นคนรักเพื่อน
- เวลาเห็นเพื่อนได้ดีก็ดีใจด้วย
– เวลาเห็นเพื่อนตกทุกข์ได้ยากหรือเจ็บไข้ได้ป่วยก็สงสารและเป็นทุกข์แทน และพยายามหาทางช่วยเหลือทุกวิถีทาง
– ทั้งอาจยอมเสียสละให้กันได้เมื่อึงคราวจำเป็น
2. ไม่เอาเปรียบคน
– ไม่เห็นแก่ตัว
– แต่เป็นผู้ยอมเสียสละและเห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวม
3. มีใจเมตตากรุณา โอบอ้อมอารี
4. มีวาจาอ่อนหวานนิ่มนวล- อ่อนน้อมกับคนทั่วไป
5. พูดจามีศีลมีสัตย์
– คือพูดแต่ความจริงเชื่อถือได้ ไม่เหลวไหล เหลาะแหละ
– และต้องรักษาคำพูด
6. มีความขยันหมั่นเพียร -มานะอดทน
7. เป็นคนรักเกียรติของตน
– ทั้งเคารพในเกียรติของคนอื่น
– รู้จักเคารพยกย่องคนที่ควรเคารพ
– แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ทับถมคนที่ทำผิดหรือคนชั่ว
8. มีความหวังดีต่อเพื่อนมนุษย์
9. คอยชักนำเพื่อนให้ทำและคิดแต่ในสิ่งที่ดี
– กับคอยตักเตือน และกีดกันเพื่อน เมื่อเห็นเพื่อนทำผิดคิดไม่ดี
10. ไม่นินทาว่าร้ายคน
11. ไม่อิจฉาริษยา-และผูกพยาบาทคน
12. มีความซื่อสัตย์สุจริต- กตัญญูรู้คุณ
13. ไม่ถือตัว -ไม่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น โดยเห็นคนอื่นเลวไปเสียหมด
14. เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย – เคยอย่างไรก็อย่างนั้น
15. มีความเคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่
– มีกิริยาสุภาพเรียบร้อย- ไม่แข็งกระด้าง
16. ไม่เสียในเรื่องการเงิน
- ต้องไม่เป็นคนชอบหยิบยืมเงินคนอื่นใช้
-ไม่เป็นหนี้สินใคร
– ขณะเดียวกันต้องรู้จักค่าของเงิน
– ต้องรู้จักว่าอะไรควรใช้ และอะไรไม่ควรใช้
– ไม่ใช่คนขี้เหนียว แต่ก็ไม่ใช่คนสุรุ่ยสุร่าย
17. ไม่เป็นที่รังเกียจของสังคม และของคนทั้งหลาย
18. มีคนนิยมรักใคร่และเคารพนับถือ
19. เป็นคนมีศีลธรรมดี
20. ไม่เป็นคนเจ้าชู้ชนิดพร่าผู้หญิง
21. ไม่เป็นนักการพนัน
22. ไม่เป็นคนกินเหล้าเมาหยำเป ครองสติไม่ได้ และกินจนติดเป็นนิสัย
23. เป็นคนมีสามัคคีธรรม
24. เป็นคนยุติธรรม -ซื่อตรง
25. เป็นคนหนักแน่น -เยือกเย็น
26. ไม่เป็นคนหูเบาเชื่อคนง่าย
27. ไม่เป็นคนโอ้อวด – ไม่อวดรู้ อวดฉลาด อวดมั่งมี ฯลฯ
28. ไม่เป็นคนปากบอน ชอบยุแหย่และส่อเสียด
29. ไม่เป็นคนเกะกะเกเรมีนิสัยพาล
30. เป็นคนกล้ารับผิดชอบ และกล้ารับผิดเมื่อตนผิด
_________________________________________________________________
_________________________________________________________________
หลักการคบเพื่อน
– เราต้องคบกันเป็น 3 ระยะ คือ
1. ระยะที่ 1 – คบไว้ในฐานะคนรู้จักกัน – อย่า คบให้สนิทกัน ให้คบกันเพียงพูดจาทักทายปราศรัยกันเมื่อพบเห็นเท่านั้น – อย่าถึงกับกินด้วยกัน นอนด้วยกัน เที่ยวกัน – ขณะเดียวกันก็ต้องคอยสังเกตดูนิสัยใจคอและความประพฤติตลอดจนความเป็นอยู่ของ เขาด้วยความถี่ถ้วน และรอบคอบ
– ถ้าเป็นเขาเป็นคนเลว ไม่มีคนนิยมรักใคร่ มีนิสัยไม่ดี – ก็ให้คบเขาไว้เพียงคนรู้จักกันเท่านั้น – ไม่ว่าเราจะรู้จักเขามานานสักเท่าใด ก็อย่าตีตัวของเราให้สนิทไปกว่านี้
– ถ้าเห็นเขาเป็นคนดีพอสมควร – ไม่มีความเสียหายอันจะเป็นที่รังเกียจ หรือจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ตัวเรา และไม่เป็นที่ตำหนิติฉินแก่คนทั้งหลายแล้ว – เราก็คบเขาเข้าในระยะที่ 2
– ถ้าเป็นเขาเป็นคนเลว ไม่มีคนนิยมรักใคร่ มีนิสัยไม่ดี – ก็ให้คบเขาไว้เพียงคนรู้จักกันเท่านั้น – ไม่ว่าเราจะรู้จักเขามานานสักเท่าใด ก็อย่าตีตัวของเราให้สนิทไปกว่านี้
– ถ้าเห็นเขาเป็นคนดีพอสมควร – ไม่มีความเสียหายอันจะเป็นที่รังเกียจ หรือจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ตัวเรา และไม่เป็นที่ตำหนิติฉินแก่คนทั้งหลายแล้ว – เราก็คบเขาเข้าในระยะที่ 2
2. ระยะที่ 2 – คบไว้เป็นเพื่อนเล่น – ไปเที่ยวด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน เล่นด้วยกันได้เป็นครั้งคราวตามโอกาสและกรณี
– ต่อไปเมื่อเราคบเขามานานปี ได้เห็นอกเห็นใจกันดี รักใคร่กันดี จนสามารถสละให้กันได้ – ประกอบกับเขาเป็นคนมีนิสัยดี (มีคุณสมบัติดีเป็นส่วนมาก 30 ข้อ) ก็ให้คบเขาเข้าในระยะที่ 3 คือเป็นเพื่อนแท้
3. ระยะที่ 3 – คบเป็นเพื่อนแท้ -เราจะต้องใช้เวลาคบกันมานานแรมๆ ปีทีเดียว
– การคบเพื่อนแต่ละคน แต่ละประเภท และแต่ละระยะนี้ – เราจะต้องใช้เวลาศึกษาถึงอุปนิสัยใจคอ และประวัติความเป็นอยู่ของเขาเป็นเวลานานๆ และให้ใช้ความสังเกตด้วยความรอบ
– เพื่อนที่ดีนั้น เมื่อคบกันแรกๆ – เรามักไม่ค่อยสนใจในตัวเขาเท่าใดนัก – ต่อเมื่อได้คบกันนานๆไป เราจึงจะชอบเขา
– เพื่อนที่รู้จักกันเร็ว และรู้สึกชอบเขาเร็วนั้น – ให้พึงระวัง อย่าคบให้ใกล้ชิดนัก – ให้ใช้เวลาศึกษานิสัยและความเป็นอยู่ของเขานานๆ
– คบพาล พาลพาไปหาผิด – คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
– เพื่อนที่รู้จักกันเร็ว และรู้สึกชอบเขาเร็วนั้น – ให้พึงระวัง อย่าคบให้ใกล้ชิดนัก – ให้ใช้เวลาศึกษานิสัยและความเป็นอยู่ของเขานานๆ
– คบพาล พาลพาไปหาผิด – คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
– หลักสำคัญที่สุดอีกข้อหนึ่งในการคบเพื่อน – เราจะต้องดูด้วยว่าเพื่อนคนที่เราคบนั้น ในสายตาคนอื่นเขาเห็นเป็นอย่างไร – และเขามีเพื่อนหรือมั่วสุมสมาคมกับคนชนิดใด
– ถ้าในสายตาของคนอื่น เห็นว่าเขาเป็นคนเลว เป็นที่ตำหนิติฉันของคนทั้งหลาย- และเขามีเพื่อนส่วนมากเป็นคนเลวที่สังคมที่ดีเขารังเกียจแล้ว – เราต้องสันนิษฐานได้ในทันทีว่า เพื่อนคนที่เราคบอยู่นั้นต้องเป็นคนไม่ดีด้วย – เพราะหงส์จะอยู่ในฝูงกาไม่ได้ฉันใด – คนดีก็จะมั่วสุมกับคนชั่วไม่ได้ฉันนั้น
– แต่ถ้าในสายตาของคนอื่นส่วนมากเห็นว่าเขาเป็นคนดี – และเขาผู้นั้นมีเพื่อนส่วนมากเป็นคนดี ล้วนมีผู้นิยมนับถือมากแล้ว – เราก็ควรแน่ใจได้ว่าเพื่อนคนที่เราคบนั้น น่าจะเป็นคนดีด้วย – เราควรคบเขาต่อไปได้
– ถ้าในสายตาของคนอื่น เห็นว่าเขาเป็นคนเลว เป็นที่ตำหนิติฉันของคนทั้งหลาย- และเขามีเพื่อนส่วนมากเป็นคนเลวที่สังคมที่ดีเขารังเกียจแล้ว – เราต้องสันนิษฐานได้ในทันทีว่า เพื่อนคนที่เราคบอยู่นั้นต้องเป็นคนไม่ดีด้วย – เพราะหงส์จะอยู่ในฝูงกาไม่ได้ฉันใด – คนดีก็จะมั่วสุมกับคนชั่วไม่ได้ฉันนั้น
– แต่ถ้าในสายตาของคนอื่นส่วนมากเห็นว่าเขาเป็นคนดี – และเขาผู้นั้นมีเพื่อนส่วนมากเป็นคนดี ล้วนมีผู้นิยมนับถือมากแล้ว – เราก็ควรแน่ใจได้ว่าเพื่อนคนที่เราคบนั้น น่าจะเป็นคนดีด้วย – เราควรคบเขาต่อไปได้