ภัยคุกคาม
ที่ผู้หญิงต้องเดินทางคนเดียว (เหตุเกิด ณ ประเทศอังกฤษ)
ภัยคุกคาม ที่ผู้หญิงต้องเดินทางคนเดียว (เหตุเกิด ณ ประเทศอังกฤษ)
แม่ปลาต้องเดินไปส่ง-รับลูกทุกวัน
โรงเรียนลูกค่อนข้างไกลประมาณ 1.5 กิโลเมตร
ไป-กลับ ก็ 3 กิโลเมตร แต่มีทางลัด...ต้องเดินตัดผ่านโบสถ์และเดินเลาะข้างโรงเรียนมีถนนเดิน 1.5
เมตร แม่ปลาเลือกเดินทางลัด
เพราะต้องเดินเช้า-เย็น 4 ครั้ง เหนื่อยเหมือนกัน
เดินแบบนี้มา 2 ปีกว่าไม่มีอะไร
เพราะผู้ปกครองเดินไปส่งลูกก็เดินเส้นนี้กัน
จนกระทั่งเทอมนี้น้องปริญญ์เรียน ป.1
แล้วต้องเลือกเรียนชุมนุมวิทยาศาสตร์ ต้องเรียนหลังเลิกเรียนเย็นวันอังคาร
เลิกเรียนประมาณ บ่าย 3.45
6 พฤศจิกายน 2018 แม่ปลาก็เดินไปรับลูกตามปกติ วันนั้นเดินไปรับช่วงเย็นไม่มีผู้ปกครองเดินไปรับลูกเลย...และเป็นช่วงเวลาที่เด็กมัธยมเลิกเรียนพอดี
และเด็กมัธยมเดินกลับบ้าน...เด็กก็เดินเป็นกลุ่มก็เดินผ่านแม่ปลาไปเรื่อยๆ จนถึงกลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่มเด็กชายเดินมา 4
คนอายุ 14-15 ปี แม่ปลาก็เดินไปปกติ เหตุการณ์ก็ไม่คาดฝันมีเด็กหนึ่งในกลุ่มที่เดินมาตรงดิ่งเข้ามาหาแล้วเด็กคนนั้นก็ออกท่าทางกระโดดเตะถีบต่อยรอบแม่ปลาและตะโกนใส่หน้า....เป็นไงหละ...ช็อคซิค่ะ...มันคุกคามเสร็จ
มันและพวกก็หัวเราะอย่างชอบใจแล้วเดินจากไป...เอาไงหละที่นี้...จะบอกทางโรงเรียนและพ่อน้องปริญญ์ดีไหม...แม่ปลาเลือกเก็บไว้คนเดียว
และให้อภัยพวกมันซะ (คิดว่า...เพราะเด็กอาจคึกคะนองที่ทำแบบนั้น)
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2018 วันอังคารอีกแล้วต้องไปรับลูกเย็นกว่าปกติ วันนั้นเดินไปตามปกติ พอใกล้ถึงจุดเกิดเหตุก็อดคิดไม่ได้ว่า ...ถ้าเด็กพวกนั้นทำอีกทำอย่างไร?...คิดยังไม่จบเลย...เดินถึงมุมก็เจอเด็กกลุ่มนั้นพอดี...ตั้งสติ...แม่ปลาจำเด็กคนนั้นได้แม่นเลย......พอเด็กคนนั้นมันเห็นแม่ปลามันรีบเดินตรงดิ่งเข้ามาหาแม่ปลามันก็ทำท่าทางเตะต่อยแล้วตะโกนใส่หน้าแม่ปลาดังมากๆ
หน้ามันห่างจากหน้าแม่ปลาประมาณ 2-3 นิ้ว พอมีตะโกนเสร็จ...แม่ร้องกรี๊ดสุดเสียงแบบไม่รู้ตัว พวกมันก็คงคาดไม่ถึง เงียบไป 3 วิแล้วพวกมันก็หัวเราะชอบใจ...แล้วเดินจากไป
ปลาแม่ดูสายตาพวกมันแล้วชีวิตคงไม่ปลอดภัยแล้วมันคงแค้นแม่ปลาน่าดูเลยรับลูกกลับถึงบ้านเล่าเรื่องให้พ่อน้องปริญญ์ฟัง
และวันรุ่งขึ้นพ่อน้องปริญญ์ต้องลางานเพื่อมาร้องเรียนทางโรงเรียน ทางโรงเรียนรับปากจะประสานกับทางโรงเรียนมัธยมและตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ให้....
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2018 วันอังคารอีกแล้วพ่อน้องปริญญ์ลางานครึ่งวัน
เพื่อต้องการถ่ายรูปเด็กคนนั้นให้ตำตรวจ
มาดักรอไม่เจอ...ไปรับลูกและกลับมาดักรออีกรอบ รอ 1
ชั่วโมงก็ไม่เจอ...
วันที่ 21
พฤศจิกายน 2018 ไปส่งลูกตอนเช้า ขาเดินกลับเจอเด็กคนนั้นเดินมากับเพื่อน
2 คน พอพวกเขาเห็นแม่ปลา พวกเขาข้ามฝั่งมาหาและมองหน้า
แม่ปลามองให้แน่ใจเหมือนกัน...มีคนเดินตามหลังมา 2-3 คน เขาไม่กล้าทำอะไร
(ในที่แจ้งและมีคนพวกนี้ไม่กล้า อิอิอิ)
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2018 ไปส่งลูกตอนเช้า
ขาเดินกลับเจอเด็กคนนั้นเดินมากับเพื่อน 2 คนอีก เดินผ่านกัน ต่างคนต่างมองไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เพราะมีคนเดินตามหลังมาเยอะเลย
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2018 ไปส่งลูกตอนเช้า
เสร็จภายในโรงเรียนลูกเจอเด็กคนนี้มากับผู้ปกครอง พอเดินผ่านก็คนต่างมอง ใจอยากวิ่งไปบอกครูฝ่ายปกครองแต่ก็ไม่ทัน
เพราะมันเดินไปแล้ว...วันนี้พ่อน้องปริญญ์เลิกงานบ่าย....แม่ปลาและพ่อน้องปริญญ์มาสอบถามทางโรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ทางโรงเรียนดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ครูรับเรื่องไม่อยู่ แต่ทางโรงเรียนบอกว่าแจ้งโรงเรียนมัธยมแล้ว...หลังจากนั้นแม่ปลาและพ่อน้องปริญญ์ก็ไปโรงเรียนมัธยมเพื่อแจ้งรายละเอียดด้วยตนเองอีกรอบ...ทางโรงเรียนรับปากว่าจะแจ้งและนัดเจอภายในสัปดาห์หน้า และทางโรงเรียนมีมาตรการว่า ประสานตำรวจที่รับผิดชอบไปคุยกับผู้ปกครองเด็กคนนี้
และเด็กคนนี้โดนภาคทัณฑ์กับทางโรงเรียน
และบันทึกข้อความที่สถานีตำรวจ
และตำรวจจะพาเด็กคนนี้มาขอโทษ หรือทำหนังสือมาขอโทษอีกครั้ง...เขาบอกถ้าเด็กคนนี้ไม่หยุด
หรือถูกตัวแม่ปลา ตำรวจจะจับทันที...
โปรดติดตามตอนต่อไป....
ปล.
หลังจากเกิดเรื่อง แม่ปลาซื้อแว่นตามีกล้อง Spy HD 1080 จุดซ่อนกล้องบันทึกภาพขนาดเล็ก DVRDV พร้อมฟังก์ชั่นบันทึกภาพ
มาใส่เวลาเดินไปไหนมาไหนคนเดียว
-สัญญาณเตือนภัยแบบพกพา
ป้องกันตัว และขอความช่วยเหลือ และพกนกหวีด
บทความที่เกี่ยวข้อง
.