ยิ่งลักษณ์ เข้าเฝ้าฯ พระราชินีอลิซาเบธ ที่ 2 ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮม ปี 2012
การเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายกฯได้รับพระราชทาน พระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้สอบถามพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีในระดับราชวงค์ นอกจากนี้ นายกฯยังเป็นตัวแทนประชาชนไทยแสดงความยินดี เนื่องในโอกาส สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงครองสิริราชครบ 60 ปี
วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได่ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนักธุรกิจสหราชอาณาจักรและนักธุรกิจไทยที่ร่วมคณะ จัดโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และ United Kingdom Trade and Investment รวมทั้งกล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งว่า ไทยและสหราชอาณาจักรต่างยึดมั่นในคุณค่าประชาธิปไตยและเคารพต่อสิทธิมนุษยชน อีกทั้ง รัฐบาลได้นำประชาธิปไตยกลับสู่ระบบแล้ว
“ดิฉันยืนยันว่าจะสร้างความมั่นคงทางการเมืองและพื้นฐานประชาธิปไตยที่เข้มแข็งต่อไป โดยยึดหลักนิติรัฐและธรรมาภิบาล ประชาชนได้ให้อำนาจที่เป็นเอกฉันท์แก่รัฐบาลผ่านการเลือกตั้ง และด้วยการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ รัฐบาลจะดำเนินการกับอำนาจที่ต่อต้านประชาธิปไตยที่ยังมีอยู่ในประเทศไทย” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ความมั่นคงทางการเมืองเป็นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี รัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมการปรองดองบนพื้นฐานนิติรัฐ และการเจรจาระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ข้อขัดแย้งทางการเมืองจะต้องแก้ปัญหาในรัฐสภา ไม่ใช่การประท้วงบนถนนและความรุนแรง
ทั้งนี้ ประชาชนไทยและสหราชอาณาจักรต่างร่วมได้ประโยชน์จากการส่งเสริม ความมั่นคงและความรุ่งเรืองของโลก ซึ่งในการหารือกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะร่วมกันสร้าง ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ใหม่ ซึ่งไม่เพียงแต่การขยายความร่วมมือในประเด็นระหว่างประเทศที่สำคัญ แต่ยังเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจโดยการส่งเสริมการเติบโตและการจ้างงานร่วมกัน ความร่วมมือจะครอบคลุมทุกด้านทั้ง เศรษฐกิจการศึกษา การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและสังคม
นายกฯได้กล่าวเน้นถึงความสำคัญเร่งด่วน ของประเทศไทยในปี 2556 คือ การดำเนินการตามวิสัยทัศน์ประเทศไทยเพื่อความมั่นคงและความมั่งคั่งที่ต่อเนื่อง รัฐบาลไทยจะเริ่มการลงทุนนสาธารณูปโภคและโครงการบริหารจัดการน้ำในปี 2556 ซึ่งจะช่วยให้ ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และโลจิสติกส์ในภูมิภาคและสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงในภูมิภาค และโครงการนี้ถือเป็นการเตรียมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่มีศักยภาพเพื่อการแข่งขันด้วยการเชื่อมโยงกัน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่เข้มแข็ง อาเซียนจะมีบทบาทนำสำคัญยิ่งขึนในเรื่องที่อาเซียนเป็นหลักในการดำเนินการเช่น การประชุมผู้นำเอเชียตะวันออก โดยจะเป็นประตูสู่ความมั่งคั่งในภูมิภาคร่วมกัน
ดังนั้น ปี 2556จึงเป็นปีที่สำคัญของไทยที่จะนำวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ สร้างความมั่นคงทางการเมือง และประชาธิปไตย การดำเนินการโครงการสาธารณูปโภค และเสริมสร้างศักยภาพการบริหารจัดการข้าว ซึ่งถือเป็นปีแห่งโอกาสของนักลงทุนสหราชอาณาจักรเพื่อสร้างความมั่งคั่งและการเติบโตร่วมกันด้วย
ยิ่งลักษณ์ เข้าเฝ้าฯ พระราชินีอลิซาเบธ ที่ 2 แล้ว เผยเป็นนายกฯ ไทยคนแรกที่ได้เข้าเฝ้าฯ ด้านเอกอัครราชทูตไทย ชี้เป็นเรื่องน่าภูมิใจที่ไทยสามารถกลับเข้าสู่เวทีประชาคมโลกได้อีกครั้ง
วานนี้ (13 พฤศจิกายน) สำนักพระราชวังอังกฤษ รายงานว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย เข้าเฝ้าฯ สมเด็จของพระบรมราชินีนาถอลิซาเบธ ที่ 2 ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮม เป็นที่เรียบร้อย ตามคำเชิญของ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน เนื่องในวโอกาสที่อังกฤษได้เฉลิมฉลองการครองสิริราชของพระราชินีอลิซาเบธ ที่ 2 ครบ 60 ปี และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 400 ปีระหว่างไทยและอังกฤษ
ทางด้าน สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน เปิดเผยว่า การมาเยือนของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่สามารถเรียกคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศกลับเข้าสู่เวทีประชาคมโลกได้ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยจะต้องเผชิญถึงความขัดแย้งในด้านการเมือง แต่ขณะนี้ทางนานาชาติได้หันกลับมายอมรับประเทศไทยแล้ว
ที่มา :: https://www.posttoday.com/politic/news/187977 , กระปุกดอทคอม
ยิ่งลักษณ์พบควีนเอลิซาเบธ
ตอบลบภารกิจเยือนสหราชอาณาจักรของ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย มีเป้าหมายเพื่อรื้อฟื้นความเชื่อมั่นทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจไทย และพร้อมกันนั้นยังได้พระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร
.
13 พฤศจิกายน 2555 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ได้โปรดเกล้าฯ ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย เข้าเฝ้าฯ ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมีภารกิจเดินทางเยือนประเทศอังกฤษตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ครบรอบ 400 ปีระหว่างไทยและอังกฤษ ระหว่างวันที่ 13 – 14 พฤศจิกายน 2555
.
สำหรับการเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน ได้มีการหยิบยกประเด็นที่จะกระชับความสัมพันธ์เชิงเศรษฐกิจในลักษณะการหารือเชิงยุทธศาสตร์ (strategic dialogue) ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขยายความร่วมมือต่างๆ ในหลายมิติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าให้กับนักธุรกิจไทยและนักเรียนไทยให้มากขึ้นด้วย
.
โดยตลอด 2 วันที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ เยือนสหราชอาณาจักร ได้เข้าหารือกับประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน รวมทั้งนักธุรกิจไทยจากสาขาต่างๆ ที่ร่วมเดินทางไปกับคณะฯ ได้แก่ สาขาการเงินการธนาคาร อาหารและสินค้าเกษตร พลังงาน การท่องเที่ยว สินค้าดีไซน์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อัญมณีและเครื่องประดับ ชิ้นส่วนยานยนต์ ตลอดจนสมาคมธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร
.
นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ยังพาทีมเศรษฐกิจจัดโรดโชว์นำเสนอนโยบายสำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2.27 ล้านล้านบาท หรือ โครงการลงทุนเพื่อป้องกันภัยน้ำท่วมมูลค่ากว่า 3.5 แสนล้านบาท เป็นต้น ให้กับกลุ่มนักลงทุนจากหลากหลายสถาบันฯ ในสหราชอาณาจักร โดยได้มีผู้บริหารกองทุนเข้าร่วมมากกว่า 80 ราย และได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนเป็นอย่างมาก
.
“ดิฉันยืนยันว่าจะสร้างความมั่นคงทางการเมืองและพื้นฐานประชาธิปไตยที่เข้มแข็งต่อไป โดยยึดหลักนิติรัฐและธรรมาภิบาล ประชาชนได้ให้อำนาจที่เป็นเอกฉันท์แก่รัฐบาลผ่านการเลือกตั้ง และด้วยการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ รัฐบาลจะดำเนินการกับอำนาจที่ต่อต้านประชาธิปไตยที่ยังมีอยู่ในประเทศไทย
ความมั่นคงทางการเมืองเป็นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน … รัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมการปรองดองบนพื้นฐานนิติรัฐ และการเจรจาระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง”
.
คือส่วนหนึ่งจากสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ระหว่างมื้ออาหารกลางวันร่วมกับนักธุรกิจสหราชอาณาจักร และนักธุรกิจชาวไทย จัดขึ้นโดย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และ United Kingdom Trade and Investment เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2555