แป้งทำอาหาร
แป้งทำอาหาร มีกี่ชนิด แป้งชนิดไหนเหมาะจะนำมาทำอะไร เราไปดูกันเลยค่ะ
1. แป้งข้าวเจ้า (Rice flour)
แป้งข้าวเจ้า หรือบางทีก็เรียกว่า แป้งญวณ ทำมาจาก เมล็ดข้าวจ้าว จับแล้วสากมือ เมื่อใช้มือสัมผัสจะมีความหยาบเล็กน้อย แต่สากมือกว่าแป้งสาลี พอทำให้สุกแล้วตัวแป้งจะมีสีขาวขุ่น จับตัวกันเป็นก้อน เหมาะสำหรับนำไปทำอาหารที่ต้องการความอยู่ตัว เนื้อขนมจะมีความแข็งร่วน
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวจ้าว ได้แก่ ขนมกล้วย ขนมเบื้อง ขนมดอกจอก ลอดช่อง ขนม ขนมตาล ขนมชั้น ขนมถ้วยตะไล (ขนมถ้วย) ซึ่งแป้งข้าวเจ้าถือว่าเป็นแป้งที่ถูกนำมาทำขนมไทยมากที่สุด
แป้งข้าวเจ้า
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวจ้าว
2. แป้งข้าวเหนียว (Glutinous flour)
แป้งข้าวเหนียว ทำมาจากเมล็ดข้าวเหนียว มีลักษณะคล้าย ๆ กับแป้งข้าวเจ้าคือเป็นผงสีขาวๆ เมื่อใช้มือสัมผัสจะมีความหยาบเล็กน้อยกว่าแป้งข้าวเจ้า พอทำให้สุกแล้วตัวแป้งจะมีสีขาวขุ่นข้น มีความเหนียว
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว ได้แก่ ขนมต้ม บัวลอย ขนมถั่วแปบ ข้าวเหนียวตัด ขนมเทียน ขนมเข่ง ข้าวเหนียวเปียก ขนมบ้าบิ่น ขนมโก๋ แป้งจี่ ขนมโค ซึ่งบางเมนูที่ไม่ต้องการความเหนียวมากนักก็ให้ผสมแป้งข้าวเจ้าลงไปค่ะ
แป้งข้าวเหนียว
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว
3. แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca starch / Cassava starch)
แป้งมันสำปะหลังหรือแป้งมัน บางทีก็เรียกว่า แป้งมันสิงคโปร์ ทำมาจาก หัวมันสำปะหลัง เป็นผงสีขาว เนื้อแป้งมีความละเอียด ลื่นมือ เมื่อถูกทำให้สุกแล้วตัวแป้งจะเหนียวหนืด มีสีใส เหมาะกับการนำไปทำอาหารที่มีความเหนียวแต่ใสและดูขึ้นเงา แต่ข้อเสียของแป้งมันสำปะหลังคือ เมื่อถูกทำให้เย็นลงจะคืนตัวง่ายมาก จึงมีการนำแป้งชนิดอื่นมาผสมเพื่อทำให้ขนมมีความเหนียวนุ่มขึ้น
เมนูที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง ได้แก่ ลอดช่องสิงโปร์ เต้าส่วน บัวลอย ครองแครงแก้ว ทับทิมกรอบ ขนมชั้น ขนมปลากริมไข่เต่า เป็นต้น ส่วนอาหารคาว ได้แก่ กุยช่ายทอดหรือหอยทอด ซึ่งต้องผสมแป้งผสมแป้งสาลีลงไปเพื่อให้ได้ความกรอบและนุ่ม เพราะถ้าใช้แป้งมันสำปะหลังอย่างเดียวอาหารทอดจะไม่กรอบ
แป้งมันสำปะหลังหรือแป้งมัน
เมนูที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง
4.1 แป้งข้าวโพด บดละเอียด (Corn starch)
แป้งข้าวโพด บดละเอียด ทำมาจากเมล็ดข้าวโพด เป็นผงสีขาวเหลืองนวล เนื้อแป้งเนียนและลื่นมือ ข้อดีของแป้งข้าวโพดคือ เมื่อถูกทำให้สุกแล้วเนื้อแป้งจะข้นเหนียว มีความใสและไม่คืนตัว
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวโพด บดละเอียด ได้แก่ ราดหน้า ไส้ขนม รวมถึงซอสต่างๆ ด้วย
แป้งข้าวโพด บดละเอียด
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวโพด บดละเอียด
4.2 แป้งข้าวโพด บดหยาบ (Corn Meal)
แป้งข้าวโพด บดหยาบ ทำมาจากเมล็ดข้าวโพดบด แต่ไม่ละเอียดเท่ากับ Corn starch เนื้อจะหยาบกว่า
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวโพด บดหยาบ (Corn Meal) ได้แก่ มัฟฟิน และขนม
แป้งข้าวโพด บดหยาบ
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวโพด บดหยาบ
5. แป้งเท้ายายม่อม (Arrowroot Starch)
แป้งเท้ายายม่อม ทำมาจากหัวมันเท้ายายม่อม เป็นแป้งที่มีราคาสูงกว่าแป้งชนิดอื่นๆ เพราะหัวมันเท้ายายม่อมนั้นสามารถเก็บเกียวได้แค่ปีละครั้ง แถมวิธีการทำแป้งก็ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน ตัวแป้งจะมีลักษณะเป็นเมล็ดสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีขาว เนื้อสัมผัสจะมีความหยาบมากเมื่อเทียบกับแป้งชนิดอื่นๆ ก่อนนำมาทำอาหารต้องนำมาบดให้ละเอียดและร่อนเสียก่อน เมื่อโดนความร้อนจนสุกแล้ว ตัวแป้งจะมีลักษณะข้น เหนียวหนืดและมีความใส นิยมนำมาผสมกับแป้งชนิดอื่นแล้วนำไปทำอาหารที่ต้องการความข้นเหนียวและมันวาว
เมนูที่ทำจากแป้งเท้ายายม่อม ได้แก่ ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ขนมน้ำดอกไม้ ลอดช่องต่างๆ แต่จะต้องผสมกับแป้งข้าวเจ้าลงไปด้วย
แป้งเท้ายายม่อม
เมนูที่ทำจากแป้งเท้ายายม่อม
6. แป้งถั่วเขียว (Mung bean Starch)
แป้งถั่วเขียว ทำมาจากเมล็ดถั่วเขียว เป็นผงสีขาว เนื้อแป้งสากมือเล็กน้อย ตัวแป้งเมื่อสุกแล้วจะมีลักษณะใสคล้ายกับวุ้น มีความมันเงา เมื่อพักให้เย็นตัวลงก็จะจับตัวเป็นก้อนแข็งแต่เด้ง อยู่ตัว
เมนูที่ทำจากแป้งถั่วเขียว ได้แก่ อาหารที่มีความอยู่ตัว อย่าง ตะโก้ ซ่าหริ่ม ลอดช่องแก้ว ขนมลืมกลืน
แป้งถั่วเขียว
เมนูที่ทำจากแป้งถั่วเขียว
7.1 แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง (Bread Flour / Hard Flour)
แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง ลักษณะเป็นผงสีขาวนวล เมื่อเอามือจับดูเนื้อจะค่อนข้างหยาบ ทำมาจากข้าวสาลีชนิดหนัก มีปริมาณโปรตีน 12-13%
เมนูที่ทำจากแป้งสาลีทำขนมปัง ได้แก่ โดนัทยีสต์ ปาท่องโก๋ โรตี พิซซ่า หรือเมนูทำขนมปังต่างๆ เพราะแป้งชนิดนี้จะดูดซับน้ำได้ดี มีความเหนียวและยืดหยุ่นดี
แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง
เมนูที่ทำจากแป้งสาลีทำขนมปัง
7.2 แป้งสาลีอเนกประสงค์ (All purpose Flour)
แป้งสาลีอเนกประสงค์ เนื้อแป้งจะละเอียดกว่าแป้งสาลีชนิดที่ใช้ทำขนมปังเล็กน้อย ราคาถูกกว่า ทำมาจากข้าวสาลีชนิดหนักและชนิดเบาผสมกัน มีปริมาณโปรตีน 9-10%
เมนูที่ทำจากแป้งสาลีทำอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารและขนมต่างๆ เช่น แพนเค้ก คุ้กกี้ พาย โดนัท กะหรี่พัฟ รวมทั้งยังสามารถนำไปผสมน้ำเพื่อชุบอาหารต่างๆ ก่อนนำไปทอด
แป้งสาลีอเนกประสงค์
เมนูที่ทำจากแป้งสาลีทำอเนกประสงค์
7.3 แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก (Cake Flour / Soft Flour)
แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก บางคนอาจเรียกว่าแป้งเค้ก เนื้อแป้งมีสีขาวนวล และมีความเนียนละเอียดกว่าแป้งสาลีชนิดอื่น ๆ ดูดซับน้ำไม่ค่อยดี ไม่ค่อยเหนียวเมือเทียบกับแป้งทำขนมปัง ทำมาจากข้าวสาลีชนิดเบา มีปริมาณโปรตีน 6-9%
เมนูที่ทำจากแป้งสาลีสำหรับทำเค้ก สามารถนำไปทำขนมเค้กทุกชนิด ส่วนเมนูที่ทำจากแป้งสาลีสำหรับทำเค้ก ได้แก่ ขนมปุยฝ้าย ขนมกลีบลำดวน ขนมสาลี่
แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก
เมนูที่ทำจากแป้งสาลีสำหรับทำเค้ก
8. แป้งมันฮ่องกง (Potato starch)
แป้งมันฮ่องกง ชื่อนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหู เป็นแป้งที่ทำจากมันฝรั่ง ตัวแป้งเมื่อสุกแล้วจะมีความเหนียวข้น สีใสกว่าแป้งมันสำปะหลังหรือแป้งข้าวโพด ข้อดีของแป้งมันฮ่องกงจะมีความเหนียวไม่คืนตัว แม้จะเย็นตัวลงแล้วก็จะคงความเหนียว
เมนูที่ทำจากแป้งมันฮ่องกง ส่วนใหญ่มักจะเป็นเมนูอาหาร อย่าง ราดหน้า เป็นแป้งที่คนจีนนิยมใช้ในการทำอาหาร
แป้งมันฮ่องกง
เมนูที่ทำจากแป้งมันฮ่องกง
รู้จักวิธีการใช้แป้งชนิดต่าง ๆ ในการทำอาหารกันไปแล้ว คิดว่าต้องถูกใจคนชอบทำอาหารและเบเกอรีกันไม่มากก็น้อย แต่อย่าลืมอาวุธสำคัญอย่างชุดอุปกรณ์เบเกอรีครบเซต เหมาะสำหรับมือใหม่อยากทำขนมในยามว่าง หรือทำขายก็รุ่งนะ! นอกจากนี้เรายังมีสาระดี ๆ อีกเพียบไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการแกะซีฟู้ด วิธีเก็บอาหารในตู้เย็น ให้ได้นานและ เรื่องอื่นๆ เพียบ
Cr. http://www.thaikasetsart.com/ , www.wongnai.com/
"แป้ง" วัตถุดิบที่คนชอบทำอาหารต้องรู้
ตอบลบแป้งที่ใช้ทำอาหาร และทำขนมในท้องตลาดมีมากมายหลายชนิดให้เลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ แต่ถ้าหากเป็นมือใหม่หัดเข้าครัว อาจจะยังแยกไม่ออกว่าแป้งชนิดไหนใช้ทำอาหารอะไรได้บ้าง วันนี้เราจะมาเล่าว่าแป้งแต่ละชนิดใช้ทำอาหารแบบไหนกันค่ะ
1. แป้งข้าวเจ้า (Rice flour)
แป้งข้าวเจ้า หรือบางทีก็เรียกว่าแป้งญวณ เป็นแป้งที่ทำจากเมล็ดข้าวเจ้า มีลักษณะเป็นผงสีขาว จับแล้วสากมือเล็กน้อย เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะขุ่นร่วน ถ้าทิ้งให้เย็นจะอยู่ตัวเป็นก้อน ร่วน ไม่เหนียว เหมาะที่จะประกอบอาหารที่ต้องการความอยู่ตัว ร่วน ไม่เหนียวหนืด สมัยก่อนนิยมโม่กันเอง โดยล้างข้าวสารก่อน แช่ข้าวโดยใส่น้ำให้ท่วม แช่จนข้าวนุ่ม จะโม่ง่าย แต่ในปัจจุบันนิยมบดด้วยเครื่องบดไฟฟ้า บดให้ละเอียดแล้วจึงห่อผ้าขาวบางทับน้ำทิ้ง ก็จะได้แป้งข้าวเจ้าที่เรียกว่าแป้งสด
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวจ้าว: เส้นขนมจีน ขนมขี้หนู ขนมไข่หงส์ ขนมกล้วย ขนมเบื้อง ขนมดอกจอก ลอดช่อง ขนม ขนมตาล ขนมชั้น ตะโก้ ขนมถ้วยตะไล ซึ่งแป้งข้าวเจ้าถือว่าเป็นแป้งที่ถูกนำมาทำขนมไทยมากทที่สุด
2. แป้งข้าวเหนียว (Glutinous Rice flour)
แป้งที่ทำมาจากเมล็ดข้าวเหนียวที่มีลักษณะเป็นผงสีขาว จับแล้วสากมือเล็กน้อย เมื่อนำไปทำให้สุกจะมีลักษณะขุ่นข้น จับตัวเป็นก้อนค่อนข้างเหนียว เหมาะในการนำมาประกอบอาหารที่ต้องการความเหนียวเกาะตัว
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว: ขนมเทียน ขนมเข่ง บัวลอย ขนมต้ม ขนมถั่วแปบ ข้าวเหนียวตัด ข้าวเหนียวเปียก ขนมบ้าบิ่น ขนมโก๋ แป้งจี่ ขนมโค ซึ่งบางเมนูที่ไม่ต้องการความเหนียวมากนัก สามารถผสมแป้งข้าวเจ้าลงไปได้ค่ะ
3. แป้งมันสำปะหลัง (Cassave Starch)
ทำมาจากหัวมันสำปะหลัง มีลักษณะเป็นผงสีขาว จับผิวสัมผัสของแป้งจะเนียน ลื่นมือ เมื่อทำให้สุกจะเหลวเหนียวหนืด เมื่อพักให้เย็นจะมีลักษณะเหนียว หนืด คงตัว นิยมนำมาผสมกับอาหารที่ต้องการความเหนียวหนืด มีสีใส และดูขึ้นเงา ในการทำขนมหวานนิยมนำแป้งมันสำปะหลังมาผสมกับแป้งชนิดอื่นๆ เพื่อให้ขนมมีความเหนียวนุ่มขึ้น
เมนูที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง: ขนมชั้น ขนมกล้วย เต้าส่วน ลอดช่องสิงโปร์ บัวลอย ครองแครงแก้ว ทับทิมกรอบ ขนมปลากริมไข่เต่า ส่วนอาหารคาว ได้แก่ กุยช่ายทอด หรือหอยทอด ซึ่งต้องผสมแป้งผสมแป้งสาลี ลงไปเพื่อให้ได้ความกรอบ และนุ่ม เพราะถ้าใช้แป้งมันสำปะหลังอย่างเดียว อาหารทอดจะไม่กรอบ
4. แป้งข้าวโพด (Corn Starch)
สกัดมาจากเมล็ดข้าวโพด มีลักษณะเป็นผงสีขาวเหลืองนวล จับแล้วผิวสัมผัสของแป้งเนียน ลื่นมือ เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะข้น และใส ไม่คืนตัวง่าย เมื่อเป็นตัวแป้งจะอยู่ตัวจับเป็นก้อนแข็ง ร่วน เป็นมันวาว
เมนูที่ทำจากแป้งข้าวโพด: ราดหน้า ไส้ขนม รวมถึงซอสต่างๆ ด้วย
5. แป้งถั่วเขียว (Mung bean Starch)
ตอบลบแป้งที่สกัดมาจากถั่วเขียวเมล็ดแห้ง มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ จับผิวสัมผัสแล้วจะสากมือเล็กน้อย ก่อนใช้ควรนำมาบดให้เป็นผงก่อน เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะข้น ค่อนข้างใส เมื่อพักให้เย็นจะจับตัวเป็นก้อนแข็ง แต่เด้ง อยู่ตัว ค่อนข้างเหนียว เหมาะในการทำอาหารที่ต้องการความใส และอยู่ตัว
เมนูที่ทำจากแป้งถั่วเขียว: อาหารที่มีความอยู่ตัว อย่าง ตะโก้ ซ่าหริ่ม ลอดช่องแก้ว ขนมลืมกลืน
6. แป้งท้าวยายม่อม (Arrowroot Starca)
สกัดมาจากหัวมันท้าวยายม่อม มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ สีขาวเป็นเงา เนื้อสัมผัสจะมีความหยาบมาก เมื่อเทียบกับแป้งชนิดอื่นๆ เวลาใช้ต้องบดให้ละเอียดเป็นผงก่อนนำไปประกอบอาหาร เมื่อโดนความร้อนจนสุก จะให้ความข้นเหนียว หนืด และใส เมื่อทำให้เย็นจะเหนียวตัวกว่าแป้งมันสำปะหลัง นิยมนำมาใช้ร่วมกับแป้งชนิดอื่นๆ เพื่อให้ได้อาหารที่มีความข้นเหนียว เป็นมันวาว
เมนูที่ทำจากแป้งเท้ายายม่อม: ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ขนมน้ำดอกไม้ ลอดช่องต่างๆ แต่จะต้องผสมกับแป้งข้าวเจ้าลงไปด้วย
7. แป้งสาลี (Wheat Flour)
ทำจากเมล็ดข้าวสาลี มีลักษณะเป็นผงสีขาว เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะร่วน เหลว ไม่อยู่ตัว คุณภาพของแป้งสาลีขึ้นอยู่กับปริมาณโปรตีนในเมล็ดข้าวสาลี ซึ่งทำให้ได้ลักษณะของขนมต่างกัน แป้งสาลียังแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ ตามคุณสมบัติของแป้งคือ
7.1 แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง (Bread Flour)
ทำจากข้าวสาลีชนิดหนัก มีปริมาณโปรตีน 12-13% แป้งมีสีขาวนวล เมื่อสัมผัสผิวแป้งจะหยาบกว่าแป้งสาลีชนิดอื่น ปริมาณโปรตีนสูง ทำให้แป้งขนมปังสามารถดูดน้ำได้มาก มีความยืดหยุ่น เหนียว
เมนูที่ทำจากแป้งสาลีทำขนมปัง: โดนัทยีสต์ ปาท่องโก๋ โรตี พิซซ่า หรือเมนูทำขนมปังต่างๆ ไม่นิยมนำมาขนมหวานไทย
7.2 แป้งสาลีอเนกประสงค์ (All purpose Flour)
ทำจากข้าวสาลีชนิดหมัก และชนิดเบาผสมรวมกัน มีโปรตีน 9-10% แป้งมีสีขาวนวล ลักษณะหยาบแต่น้อยกว่าแป้งขนมปัง ให้ความเหนียวพอสมควร แต่คุณภาพจะสู้แป้งขนมปังไม่ได้ ใช้ทำผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด
เมนูที่ทำจากแป้งสาลีทำอเนกประสงค์: กรอบเค็ม แพนเค้ก คุ้กกี้ พาย โดนัท กะหรี่พัฟ รวมทั้งยังสามารถนำไปผสมน้ำเพื่อชุบอาหารต่างๆ ก่อนนำไปทอด
7.3 แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก (Cake Flour / Soft Flour)
บางคนอาจเรียกว่าแป้งเค้กที่ทำมาจากข้าวสาลีชนิดเบา มีปริมาณโปรตีน 6-9% เนื้อแป้งมีสีขาวนวลละเอียด เมื่อนำมาผสมน้ำจะดูดซึมน้ำได้น้อย ไม่ค่อยเหนียวเมื่อเทียบกับแป้งทำขนมปัง
เมนูที่ทำจากแป้งสาลีสำหรับทำเค้ก: สามารถนำไปทำขนมเค้กทุกชนิด ส่วนเมนูที่ทำจากแป้งสาลีสำหรับทำเค้ก ได้แก่ ขนมปุยฝ้าย ขนมกลีบลำดวน ขนมสาลี่
8. แป้งมันฮ่องกง (Potato starch)
เป็นแป้งที่ทำจากมันฝรั่ง ตัวแป้งเมื่อสุกแล้วจะมีความเหนียว ข้น สีใสกว่าแป้งมันสำปะหลัง หรือแป้งข้าวโพด ข้อดีของแป้งมันฮ่องกงจะมีความเหนียว ไม่คืนตัว แม้จะเย็นตัวลงแล้วก็จะคงความเหนียว คนจีนนิยมใช้ในการทำอาหาร
เมนูที่ทำจากแป้งมันฮ่องกง: ส่วนใหญ่มักจะเป็นเมนูอาหาร เช่น ราดหน้า
แป้งทำอาหารมีทั้งหมดกี่ประเภท?
ตอบลบหลายคนคงเคยสับสนกับประเภทของแป้งทำอาหาร ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วแป้งทำอาหารมีทั้งหมดกี่ประเภท แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร วันนี้เรารวบรวมมาให้แล้ว ไปดูกันเลย!
1. แป้งข้าวเจ้า (Rice flour) ทำจากเมล็ดข้าวเจ้า เหมาะกับการทำอาหารที่ต้องการความอยู่ตัว ไม่เหนียวหนืด เช่น ขนมขี้หนู ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมครก เป็นต้น
2. แป้งข้าวเหนียว (Glutinous flour) ทำจากเมล็ดข้าวเหนียว ไม่มีกลูเตน เมื่อสุกจะมีลักษณะเหนียวข้นและจับตัวเป็นก้อน เหมาะกับอาหารที่ต้องการความเหนียว นุ่ม เช่น ขนมเทียน ขนมถั่วแปบ บัวลอย บ้าบิ่น เป็นต้น
3. แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca starch) ทำจากหัวมันสำปะหลัง ถือเป็นแป้งกลูเตนฟรี มีสัมผัสที่เนียนลื่นมือ เมื่อสุกจะเหลวเหนียวหนืด นิยมผสมกับอาหารที่ต้องการความเหนียวแต่ดูใส ขึ้นเงา เช่น ทับทิมกรอบ เต้าส่วน ขนมชั้น เป็นต้น
4. แป้งข้าวโพด (Corn starch) ทำจากเมล็ดข้าวโพด มีสีเหลืองนวล เมื่อสุกจะมีลักษณะข้นเหนียวและใส ไม่คืนตัวง่าย นิยมนำมาใช้ทำขนมตะโก้ และนำมาผสมกับอาหาร เช่น ราดหน้า เป็นต้น
5. แป้งถั่วเขียว (Mung bean starch) สกัดจากเมล็ดถั่วเขียว เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะใส ขึ้นเงาเหมือนวุ้น เหมาะสำหรับทำอาหารที่ต้องการความใสอยู่ตัว เช่น ซาหริ่ม ลอดช่องแก้ว เป็นต้น
6. แป้งท้าวยายม่อม (Arrowroot starch) สกัดจากหัวมันท้าวยายม่อม เป็นแป้งทำอาหารที่มีราคาสูงกว่าแป้งชนิดอื่น มีลักษณะเป็นเมล็ดสี่เหลี่ยมเล็กๆ ก่อนนำไปทำอาหารต้องบดให้ละเอียดเสียก่อน แป้งชนิดนี้จะช่วยให้ขนมนุ่ม ใส ดูเงางาม จึงนิยมนำมาใช้ร่วมกับแป้งชนิดอื่น เช่น ผสมกับแป้งมันและแป้งข้าวเจ้าในการทำขนมชั้น ผสมกับแป้งข้าวเจ้าในการทำขนมเปียกปูน เป็นต้น
7. แป้งสาลี (Wheat flour) ทำจากเมล็ดข้าวสาลี เป็นแป้งทำอาหารที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด 3 ชนิด ได้แก่
7.1 แป้งเค้ก (Cake flour) เป็นแป้งสาลีที่มีปริมาณโปรตีนต่ำ คือ ประมาณ 6-9% เนื้อแป้งเนียนละเอียด นิยมใช้ทำขนมเค้ก จะได้เนื้อเค้กที่นุ่ม ฟู และปริมาณมากกว่าการใช้แป้งชนิดอื่น
7.2 แป้งขนมปัง (Bread flour) เป็นแป้งสาลีที่มีปริมาณโปรตีนสูงถึง 12-14% นิยมใช้ทำขนมปังชนิดต่างๆ เช่น เดนิช พิซซ่า ครัวซอง ปาท่องโก๋ เป็นต้น
7.3 แป้งสาลีอเนกประสงค์ (All purpose flour) เป็นแป้งสาลีที่มีปริมาณโปรตีนประมาณ 10-11% นิยมใช้สำหรับทำคุกกี้ พาย กะหรี่ปั๊บ กรอบเค็ม เป็นต้น
หากเราเลือกใช้แป้งทำอาหารหรือขนมให้ถูกต้องตามประเภท ย่อมทำให้ได้รสชาติอาหารและเนื้อสัมผัสที่อร่อยถูกใจผู้รับประทานอย่างแน่นอน!