Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สถิติผู้ใช้ดิจิทัลทั่วโลก “ไทย” เสพติดเน็ตมากสุดในโลก-“กรุงเทพ” เมืองผู้ใช้ Facebook สูงสุด

สถิติผู้ใช้ดิจิทัลทั่วโลก “ไทย” เสพติดเน็ตมากสุดในโลก-“กรุงเทพ” เมืองผู้ใช้ Facebook สูงสุด


“We Are Social” ดิจิทัลเอเยนซี่ และ “Hootsuite” ผู้ให้บริการระบบจัดการ Social Media และ Marketing Solutions ได้รวบรวมสถิติการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก เพื่อฉายภาพการเปลี่ยนแปลงทั้งภาคธุรกิจออนไลน์ และพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ได้เผยว่าขณะนี้มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 4,000 ล้านคนทั่วโลก

การเติบโตของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ได้แรงหนุนมาจาก “สมาร์ทโฟน” ที่ปัจจุบันมีรุ่นราคาไม่แพงออกมาวางจำหน่ายมากมายหลากรุ่น หลายแบรนด์ ทำให้ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย และสะดวกขึ้น

โดยประมาณการณ์ว่าในปี 2017 ทั่วโลกมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องแรกในชีวิต ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านคน และ 2 ใน 3 ของจำนวนประชากรโลกกว่า 7,600 ล้านคน มีโทรศัพท์มือถือ

การเพิ่มขึ้นของจำนวนสมาร์ทโฟน และผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต-สมาร์ทโฟน ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้งาน Social Media โดยปัจจุบันประชากรกว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลก ใช้ Social Media เป็นประจำทุกเดือน โดย 9 ใน 10 คนของผู้ใช้งาน Social Media เลือกเข้าผ่าน Mobile Device

ส่องการใช้งานอินเทอร์เน็ตโลก 




จาก 3 กราฟฟิกข้างต้น ชี้ให้เห็นว่า…
– ปัจจุบันทั่วโลกมีประชากร 7.593 ล้านคน (55% อาศัยอยู่ในเขตเมือง)
– จากจำนวนประชากรโลกทั้งหมด มี 4.021 พันล้านคน เข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ต
– มีผู้ใช้งาน Social Media เป็นประจำ มากถึง 3.196 พันล้านคน
– ทวีปที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากสุดในโลก คือ ยุโรปเหนือ (94%) ตามมาด้วย ยุโรปตะวันออก (90%), อเมริกาเหนือ (88%) ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 58% ของจำนวนประชากรในภูมิภาคนี้
– ทวีปที่มีผู้ใช้ Social Media มากสุดในโลก คือ อเมริกาเหนือ (70%) ตามมาด้วย ยุโรปเหนือ (66%), เอเชียตะวันออก (64%) ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้ใช้ Social Media 55% ของจำนวนประชากรในภูมิภาคนี้


กราฟิกข้างต้น แสดงให้เห็นว่าปัจจุบัน เรากำลังอยู่ในยุค “Mobile First” ที่การใช้งานอินเทอร์เน็ตของคนทั่วโลก หันมาเลือกเข้าผ่าน Mobile Device กันมากขึ้น โดย 3 อันดับภูมิภาคที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน Mobile Device มากสุด คือ ยุโรปตะวันออก (157%) ตามมาด้วย แอฟริกาใต้ (147%) และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (141%)



จากกราฟิกข้างต้น แพลตฟอร์ม Social Media ยอดนิยมทั่วโลก ยังคงเป็น “Facebook” ตามมาด้วย “YouTube” ส่วนอันดับ 3 คือ “Whatsapp” ต่อด้วย “Facebook Messenger” และ “WeChat”

ขณะที่ 5 อันดับภาษาที่นิยมสื่อสารกันบน Facebook แน่นอนว่าอันดับ 1 เป็นภาษาอังกฤษ รองลงมาคือ ภาษาสเปน, ภาษาฮินดี, อินโดนีเซีย, ภาษาโปรตุกีส ทั้งนี้ “ภาษาไทย” ติดอันดับ 12 ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน 52,000,000 คน


คราวนี้มาดูโปรแกรมแชทสุดฮิตกันบ้างว่าทั่วโลกนิยมใช้อะไรมากที่สุด พบว่า “Whatsapp” มานำเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย “Facebook Messenger”, “Viber”, “WeChat” และอันดับ 5 “LINE”



เจาะลึกพฤติกรรมใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย

จากตลาดโลกแล้ว เรามาดูภาพรวมการใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยกันบ้างว่าเป็นอย่างไร



จากกราฟฟิกข้างต้น ชี้ให้เห็นว่า…
– ประเทศไทยมีประชากร 69.11 ล้านคน (53% อยู่ในเขตเมือง) แบ่งเป็นประชากรผู้หญิง 51.3% – ผู้ชาย 48.7%
– รายได้ต่อหัวประชากรไทย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16,946 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี
– อัตราการรู้หนังสือของประชากรไทย คิดเป็นสัดส่วน 97% ของประชากรทั้งประเทศ
– มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 57 ล้านคน
– มีผู้ใช้งาน Social Media มากถึง 51 ล้านคน
– มีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ สูงถึง 93.61 ล้านเลขหมาย มากกว่าจำนวนประชากรทั้งประเทศ
– ในจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด มีผู้ใช้ Social Media เป็นประจำผ่าน Smart Device 46 ล้านคน



“คนไทย” ใช้เวลาเข้าอินเทอร์เน็ตต่อวันมากที่สุดในโลก – กรุงเทพฯ ยังคงครองแชมป์เมืองที่มีผู้ใช้ Facebook มากสุดในโลก




จากกราฟิกข้างต้น แสดงให้เห็นชัดเจนว่าปัจจุบัน “ประเทศไทย” เป็นประเทศที่ใช้เวลาต่อวันอยู่กับอินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก (รวมทุกอุปกรณ์) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ชั่วโมง 38 นาทีต่อวัน และถ้าวัดเฉพาะการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟน “ไทย” ยังคงเป็นประเทศที่ใช้เวลาท่องเน็ตต่อวันมากที่สุดในโลกเช่นกัน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 56 นาที

นอกจากนี้คนไทยยังใช้เวลาในการเล่น Social Media โดยเฉลี่ย 3 ชั่วโมง 10 นาทีต่อวัน และใช้เวลาไปกับการดูทีวี (Broadcast, Streaming, Video On Demand) ไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง 3 นาทีต่อวัน


ถ้าวัดทัศนคติในการใช้ดิจิทัลในกลุ่มคนไทย พบว่ามากถึง 68% เชื่อว่าเทคโนโลยีใหม่ จะช่วยสร้างโอกาส มากกว่าเป็นเรื่องของความเสี่ยง ขณะเดียวกันจากกราฟิกข้างต้น สะท้อนว่าคนไทยให้ความสำคัญกับการป้องกันข้อมูลส่วนตัว และระบบความปลอดภัยของดิจิทัล โดยมากถึง 75% บอกว่า Data Privacy และระบบป้องกันความปลอดภัยการใช้งานดิจิทัลมีความสำคัญอย่างมาก และ 40% จะลบ Cookies ออกจาก Internet Browser ทันที เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัว



“Google.co.th” เว็บไซต์ที่คนไทย นิยมเข้ามากสุด – คำค้นหามาแรงปี ’17 “บอล – ดูหนัง – ตรวจหวย” 


กราฟิกนี้จะชี้ให้เห็นถึงความถี่ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคนไทย โดยมากถึง 90% ใช้งานเน็ตทุกวัน / 8% เข้าเน็ตอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง / 2% เข้าเน็ตอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน




จากกราฟิกดังกล่าว ได้จัดอันดับเว็บไซต์ที่คนไทยเข้าใช้มากที่สุด โดยทั้งสถิติจาก “Similarweb” และ “Alexa” มีผลอันดับ 1 ตรงกันคือ คนไทยเข้าใช้งาน “Google.co.th” มากที่สุด แสดงให้เห็นว่าทุกวันนี้ Google.co.th เป็น Portal web อันดับหนึ่งของคนไทยไปแล้ว

ขณะที่ 5 อันดับ “คำ” ที่คนไทยค้นหามากที่สุดใน Google คือ บอล / หนัง / ผลบอล / Facebook / แปล นอกจากนี้ “ตรวจหวย” ติดอันดับเป็นหนึ่งในคำค้นหาสุดฮิตของคนไทยเช่นกัน



พฤติกรรมดูวิดีโออนไลน์ของคนไทย พบว่า
57% ดูวิดีโอออนไลน์ทุกวัน
27% ดูวิดีโอออนไลน์ทุกสัปดาห์
9% ดูวิดีโอออนไลน์ทุกเดือน
3% ดูวิดีโอออนไลน์น้อยกว่า 1 ครั้งต่อเดือน
3% ไม่เคยดูวิดีโอออนไลน์

ขณะที่พฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่อการดู “ทีวี” ยังพบว่ามากถึง 96% ดูทีวีผ่านเครื่องรับโทรทัศน์ อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ มี 21% ที่ดูคอนเทนต์ Online Streaming บนเครื่องรับโทรทัศน์ แสดงให้เห็นว่าปัจจุบัน “Smart TV” เริ่ม Penetrate เข้าไปอยู่ในครัวเรือนคนไทยมากขึ้น และมี 40% ดูคอนเทนต์ Online Streaming ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต



เปิดพฤติกรรมการใช้ “Social Media” คนไทย – “กรุงเทพฯ” ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีผู้ใช้ Facebook มากที่สุดในโลก




– คนไทย 51 ล้านคนใช้ Social Media
– ในจำนวนคนใช้ Social Media มีมากถึง 46 ล้านคนเข้าผ่าน “Mobile Device”
“Facebook” ยังคงเป็น Social Media ยอดนิยมอันดับ 1 ของคนไทย / ส่วนอันดับ 2 คือ “YouTube / อันดับ 3 “LINE” / อันดับ 4 “Facebook Messenger” / อันดับ 5 “Instagram”
– ยอดผู้ใช้งาน Facebook ในไทย อยู่ที่ 51 ล้านคน แบ่งเป็น 49% ผู้หญิง และ 51% ผู้ชาย
– จากยอดผู้ใช้ Facebook ในไทยโดยรวม มีมากถึง 90% เข้าผ่าน “Mobile Device”


5 เมืองที่มีผู้ใช้ Facebook มากที่สุดในโลก
อันดับ 1 กรุงเทพฯ 22,000,000 คน
อันดับ 2 ธากา (บังคลาเทศ) 20,000,000 คน
อันดับ 3 เบกาซิ (อินโดนีเซีย) 18,000,000 คน
อันดับ 4 จาการ์ต้า (อินโดนีเซีย) 16,000,000 คน
อันดับ 5 เม็กซิโก ซิตี้ 14,000,000 คน


กลุ่มผู้ใช้ “Facebook” มากที่สุดในไทย คือ คนกลุ่มอายุระหว่าง 18 – 34 ปี ซึ่งเป็นผู้บริโภคกลุ่ม Millennials ที่ใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน / ตามมาด้วยกลุ่มอายุ 35 – 44 ปี เป็นผู้บริโภคกลุ่ม Gen Y – Gen X



สองกราฟิกข้างต้น เป็นข้อมูลสำคัญสำหรับ Facebook FanPage เพราะแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันถ้าจะให้ผู้บริโภคเห็น Post ของเพจต่างๆ มากขึ้น บรรดาเพจต้องจ่ายเงิน (Paid Media) เพื่อเพิ่ม Reach ให้มากขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วมี 22.4% ของเพจ ที่จ่ายเงินให้กับ Facebook เพื่อเพิ่มการเข้าถึง

ขณะที่ประเภทคอนเทนต์ที่โพสต์บน Facebook แล้วจะได้ Engagement ดีที่สุด พบว่า อันดับ 1 คือ “วิดีโอ” (9.32%) รองลงมาคือ “โพสต์ลิงค์” (7.16%) ส่วนคอนเทนต์ที่จะได้ Engagement น้อยสุด คือ “รูป” (4.15%)  


– ปัจจุบันคนไทยใช้ Instagram 13 ล้านคน
– แบ่งเป็นผู้หญิง 60% และ ผู้ชาย 40%



ล้วงลึกในยุค “Mobile First” คนไทยใช้ชีวิตบนสมาร์ทโฟนอย่างไร ?!?


– ประเทศไทยมีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ 93.61 ล้านเลขหมาย (สูงกว่าจำนวนประชากรไทย)
– 79% เป็น Pre-paid และ 21% เป็น Post-paid
– 99% ของการใช้งานโทรศัพท์มือถือคนไทย สามารถเข้าถึง 3G และ 4G


5 อันดับกิจกรรมบนโทรศัพท์มือถือ
อันดับ 1 ส่งข้อความแชท (77%)
อันดับ 2 ดูวิดีโอ (75%)
อันดับ 3 เล่นเกม (66%)
อันดับ 4 ใช้ Mobile Banking (56%)
อันดับ 5 ใช้บริการ Mobile Map ค้นหาสถานที่ (64%)


8 ฟังก์ชั่นการใช้งานยอดนิยมบนสมาร์ทโฟน
อันดับ 1 ตั้งนาฬิกาปลุก (42%)
อันดับ 2 ตารางนัดหมายประจำวัน (25%)
อันดับ 3 เช็คสภาพอากาศ (18%)
อันดับ 4 ใช้แอปพลิเคชันเกี่ยวกับการออกกำลังกาย-สุขภาพ (7%)
อันดับ 5 ถ่ายรูป-วิดีโอ (54%)
อันดับ 6 เช็คข่าวสาร (26%)
อันดับ 7 อ่าน e-books / e-magazine (19%)
อันดับ 8 จดบันทึกต่างๆ เช่น รายการซื้อของ, ภารกิจในแต่ละวัน


10 อันดับแอปพลิเคชันที่มีการใช้งานสูงสุดในไทย
อันดับ 1 LINE
อันดับ 2 Facebook
อันดับ 3 Facebook Messenger
อันดับ 4 Instagram
อันดับ 5 K-Mobile Banking
อันดับ 6 Joox Music
อันดับ 7 LAZADA
อันดับ 8 Twitter
อันดับ 9 WHOSCALL
อันดับ 10 My AIS

10 อันดับแอปพลิเคชันที่มีผู้ดาวน์โหลดสูงสุดในไทย
อันดับ 1 Facebook Messenger
อันดับ 2 Facebook
อันดับ 3 LINE
อันดับ 4 Joox Music
อันดับ 5 Camera360
อันดับ 6 Instagram
อันดับ 7 4Share
อันดับ 8 LAZADA
อันดับ 9 YouTube
อันดับ 10 Shopee



เจาะลึกพฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์คนไทย 


ปัจจัยด้าน Financial Product/Service ของคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งจะสัมพันธ์กับพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ (E-Commerce) โดยพบว่า
78% ของคนไทยมีบัญชีเงินฝากธนาคาร
6% มีบัตรเครดิต
1% ทำธุรกรรม Mobile Payment
4% ชำระค่าสินค้า/จ่ายบิลผ่านออนไลน์
6% ของผู้หญิงใช้ Internet Payment
3% ของผู้ชายใช้ Internet Payment


พฤติกรรมผู้บริโภคต่อการซื้อสินค้า E-Commerce (ในช่วงระยะเวลา 30 วันที่ผ่านมา)
71% ค้นหาข้อมูลสินค้า-บริการก่อนตัดสินใจซื้อ
70% เข้าไปดูร้านค้าออนไลน์
62% ตัดสินใจซื้อสินค้า-บริการบนออนไลน์
52% ซื้อสินค้าออนไลน์ ผ่านแล็ปท็อป หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
52% ซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน

จากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นได้ว่าในยุคดิจิทัล การซื้อสินค้า-บริการใดก็ตามบนออนไลน์ ผู้บริโภคยุคนี้จะค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ ขณะเดียวกันแนวโน้มการซื้อของออนไลน์ จะสั่งซื้อผ่าน “สมาร์ทโฟน” มากขึ้น


ปัจจุบันมีคนไทย 11.92 ล้านคน ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคบน E-Commerce โดยคิดเป็นมูลค่าการยอดขายบนออนไลน์ 2.962 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโตโดยเฉลี่ย 22% ต่อปี) และยอดการใช้จ่ายต่อคนต่อปี อยู่ที่ 248 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณกว่า 8,600 บาท



มูลค่าการจับจ่าย และอัตราการเติบโตของแต่ละกลุ่มสินค้าที่คนนิยมซื้อบน E-Commerce
– เครื่องใช้ไฟฟ้า และ gadget 1,258 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 14%)
– สินค้าและบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว 1,449 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 29%)
– แฟชั่น/บิวตี้ 531.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 38%)
– ของเล่น และสินค้า DIY ต่างๆ 510.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 30%)
– เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน 475.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 23%)
– วิดีโอเกม 228.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 10%)
– อาหาร และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล 187.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 23%)
– ดิจิทัล มิวสิค 30.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 6%)


ปิดท้ายผลวิจัย 2018 Digital Yearbook สำหรับประเทศไทย ด้วยการใช้ “สื่อโฆษณา” เพื่อสร้าง Brand/Product Awareness ให้ได้ผล พบว่าสื่อ 5 อันดับแรกที่ “ทรงพลัง” ในการสร้างการรับรู้ในแบรนด์และสินค้า-บริการ คือ
อันดับ 1 สื่อโทรทัศน์
อันดับ 2 สื่อออนไลน์
อันดับ 3 สื่อสิ่งพิมพ์
อันดับ 4 สื่อในสโตร์
อันดับ 5 โปสเตอร์



Credit Photo (ภาพเปิด, ภาพรถติด) : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
CR  ::   https://www.brandbuffet.in.th/2018/02/global-and-thailand-digital-report-2018/




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น