Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ไมยราบ (Sensitive Plant) ต้นไม้มหัศจรรย์

 

ไมยราบ (Sensitive Plant) ต้นไม้มหัศจรรย์  



https://youtu.be/YGqivZVWLdQ


บอนไซไมยราบ สุดฮิตในญี่ปุ่น

บอนไซ ไมยราบ
บอนไซ ไมยราบ

บอนไซมือใหม่ ท่านรู้หรือไม่ว่า การปลูกบอนไซนั้น สามารถนำต้นไม้ทุกชนิดมาทำบอนไซได้ และในบ้านเราเองนั้น ก็ใช้ต้นไม้หลายขชนิดมาทำบอนไซ  ไม่ว่าจะเป็น โมก,ทับทิม,ชวนชม ฯลฯ และก็มีความสวยงามที่หลากหลาย แต่ในบางประเทศ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น นั้นมีความนิยมสูงมาก ในการนำเอาต้นไมยราบ ที่เรามักเห็นขึ้นตามพื้นดิน มีดอกสีชมพูดูมุ้งมิ้งน่ารัก นำมาทำเป็นบอนไซ ไมยราบ ที่ดูสามารถเพิ่มมูลค่าพร้อมกับความสวยงามให้กับ บอนไซไมยราบ ที่ญี่ปุ่นค่อนข้างนิยมนำต้นไมยราบ มาเลี้ยงเป็นบอนไซ ไมยราบกันมาก เพราะความอ่อนไหวของต้นไมยราบที่จะหุบใบเมือ่มีการสั่นสะเทือน นอกจากจะสวยงามน่ารักแล้วยังมีประโยชน์ในการแจ้งเตือนแผ่นดินไหวได้อีกด้วย

บอนไซ ไมยราบ

ต้นไมยราบ เป็นยังไง ไหนเล่าซิ

ต้นไมยราบนบ้านเราจัดเป็นวัชพืชประเภทหนึ่ง ซึ่งเมื่อประมาณ 40 ปีก่อนหน้านี้ มีการระบาดรุนแรงของไมยราบยักษ์เกิดขึ้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ตามบริเวณอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ รอบลำน้ำปิงในภาคเหนือ และบริเวณเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง เนื่องจากต้นไมยราบชอบความชุ่มชื้น ชอบบริเวณที่มีน้ำ อีกทั้งเมล็ดยังฝังและสามารถฟักตัวอยู่ในดินได้ถึง 5 ปี จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเจ้าต้นไมยราบถึงได้สามารถแพร่กระจายได้เอง

แม้คนไทยจะเห็นว่าต้นไมยราบเป็นวัชพืช แต่รู้หรือไม่ว่า ด้วยความสวยงามของดอกสีชมพูเป็นพุ่ม ๆ ปอม ๆ  นั้น เป็นเสน่ที่ทำให้คนยุโรปนิยมค่อนข้างมาก ทั้งในเอเชีย เช่นประเทศญี่ปุ่นของ ก็นำไปปลูกเพื่อเตือนภัยแผ่นดินไหว และพัฒนาต่อไปเป็น บอนไซ ไมยราบ อีกด้วย

ต้นไมยราบที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆ มีอยู่2 ชนิด ดังนี้ ชนิดแรก ต้นไมยราบหนาม ลำต้นมีหนามลักษณะลำต้นราบ และเลื้อยไปตามผิวดิน ดอกสีชมพู ใบหุบง่าย ๆ นั่นแหละค่ะ อีกชนิดเรียกว่า ต้นไมยราบยักษ์ ดอกสีชมพู ลำต้นตั้งตรง ลำต้นมีหนามขนาดใหญ่กว่าต้นไมยราบหนาม และมีหนามทั่วต้น เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีความสูงอยู่ประมาณ 1 เมตร – 2 เมตร ชอบน้ำท่วมขังจึงมีการแพร่ขยายพันธ์บริเวณแหล่งน้ำ 

บอนไซ ไมยราบ

https://board.postjung.com/1223240


การสร้างบอนไซ

คือ การนำต้นไม้ที่เราต้องการมาเลี้ยงในกระถางที่มีความลึกไม่มาก แต่มีหน้ากว้างของกระถางค่อนข้างมาก เพื่อให้รากมีพื้นที่ได้โชว์ความสวยงามของเค้าและได้ชอนไชสารอาหารในดินได้สะดวก

 และการสร้างบอนไซ ก็เกิดจากการแตกกิ่งก้านจากลำต้น ส่วนมากบอนไซจะมัรูปทรงลำต้นคล้ายพีระมิดคือปลายเรียวแหลม เพื่อโชว์การแตกกิ่งก้าน และการจัดแต่งทรงของกิ่งก้านของเจ้าบอนไซนั่นเอง 



วิธีทํา บอนไซไมยราบ

บอนไซมือใหม่ หรือท่านที่สนใจสามารถ ขุดต้นไมยราบจากพื้นดิน โดยขุดต้นมาพร้อมตุ้มราก ให้ยังมีดินมาด้วย และนำมาลงกระถาง หากต้นไมยราบที่นนำมาลงกระถางมีเปอร์เซนต์การรอดสูง ก็สามารถนำมาดัดกิ่งตกแต่งต่อไป ซึ่งต้นที่จะนำมาดัดกิ่งให้เป็นบอนไซ ไมยราบนั้น รากต้องมีความสมบูรณ์ มีการงอกของรากฝอย เพราะหากรากไม่สมบูรณ์ ต้นไมยราบจะไม่รอดแน่นอน 

เมื่อถึงขั้นตอนการดัดกิ่งต้นไมยราบนั้น ปกติต้นไมยราบจะมีลักษณะต้นโน้มลง เวลาดัดเราต้องดัดให้ลำต้นหลักตั้งขึ้นให้ได้ก่อน แล้วค่อยปล่อยให้กิ่งไมยราบได้แผ่ออกไป ก็จะได้บอนไซไมยราบที่

สวยงามค่ะ
เห็นไหมคะ วัชพืชที่เรามองข้าม ปัจจุบันเป็นไม้สุดฮิตในญี่ปุ่นไปแล้ว ดันนั้นหากอยากเพิ่มมูลค่าให้กับต้นไมยราบธรรมดา ก็ลองฝึกทำบอนไซ


ไมยราบ วัชพืชที่มีประโยชน์




ไมยราบ หรือ Sensitive plant เป็นพืชล้มลุก ลำต้นสูงมักจะแผ่ไปตามหน้าดิน แต่มันก็สามารถสูงขึ้นได้ประมาณ 1 เมตร ลำต้นมีสีน้ำตาลแดง ขนาดเล็ก มีขนปกคลุมไปทั่วทั้งลำต้น แกนใบ ท้องใบ รวมทั้งช่อดอก ใบมีขนาดเล็กลักษณะคล้ายกับขนนก

ไมยราบ วัชพืชที่มีประโยชน์

และลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของใบคือ เมื่อมีแรงสะเทือนมันจะหุบลงอย่างรวดเร็ว ดอกมีสีชมพูสวยงาม ออกดอกบริเวณซอกใบ ส่วนผลนั้นจะอยู่ในฝักสีน้ำตาล

ไมยราบ มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบอเมริกาใต้ โดยในอดีตนั้นประเทศไทยได้มีการนำเข้ามาปลูกเพื่อใช้เป็นพืชยึด คลุม หน้าดินไม่ให้ดินตามถนนทางหลวงทลายลง แต่เนื่องจากมันมีการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกินความต้องการจนกลายเป็นวัชพืชที่ต้องกำจัดทิ้ง

ไมยราบ วัชพืชที่มีประโยชน์

อยางไรก็ตามได้มีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับไมยราบ จนทำให้เราได้รู้ว่ามันเป็นต้นไม้ที่มีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายมากมาย ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

1. ช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้เจริญอาหาร และยังช่วยให้ลดอาการอ่อนเพลียได้อีกด้วย
2. รักษาโรคเบาหวาน และเป็นตัวช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาล รวมถึงลดคอลเลสเตอรอลในร่างกาย
3. ช่วยรักษาโรคในเด็กเช่น โรคตาลขโมย โรคตาลซาง และแก้ปัญหาระบบย่อยอาหารในเด็ก
4. ช่วยรักษาระบบประสาท โดยใช้เป็นยาระงับประสาท ทำให้ระบบประสาทสงบลงเพื่อช่วยในการนอนหลับ อีกทั้งยังช่วยลดอาการปวดหัวได้อีกด้วย
5. รักษาอาการไข้ อาการไอ หลอดลมอักเสบ
6. ขับของเสียออกจากร่างกายเช่น ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ และขับนิ่ว เป็นต้น

ไมยราบ วัชพืชที่มีประโยชน์
7. บำรุงรักษา และดูแลระบบย่อยอาหารไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ ลำไส้อักเสบ โรคบิด หรือ อาการท้องเสีย รวมทั้งยังช่วยรักษาระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบอีกด้วย
8. รักษาอาการริดสีดวงทวาร และรักษาโรคไส้เลื่อน
9. เหมาะสำหรับผู้หญิงเพราะ ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ขับระดูขาว และช่วยเพิ่มน้ำนมสำหรับสรีที่เพิ่งคลอด
10. รักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น ผื่นตามตัว ลมพิษ เริม และงูสวัด เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยรักษาแผลสด และแผลเรื่อรัง
11. บรรเทา รักษาอาการปวดตามจุดต่างๆ เช่น ปวดเนื้อตัว ปวดข้อ ปวดหลัง รวมทั้งลดอาการบวมได้

ไมยราบ วัชพืชที่มีประโยชน์

อย่างไรก็ตามไมยราบ เป็นพืชที่ควรใช้อย่างระมัดระวังไม่ควรใช้เป็นเวลานาน เนื่องจากมีฤทธิกดประสาทส่วนกลาง เด็ก และสตรีมีครรภ์ไม่ควรบริโภคเด็ดขาด

ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งในปัจจุบันนี้มันยังเป็นพืชที่นิยมปลูกเพื่อความสวยงาม เนื่องจากรูปทรงของต้น และดอกที่สวยงามของมันทำให้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในต่างประเทศ


“ไมยราบ” วัชพืชสมุนไพร สรรพคุณทางยาเด่น นำไปทำสิ่งประดิษฐ์ก็ยังได้


1


“ไมยราบ” วัชพืชสมุนไพร

เป็นพืชล้มลุกที่มีลักษณะพิเศษคือ หากได้รับแรงสั่นสะเทือน ก้านและใบก็จะตอบสนองด้วยการหุบตัวลงอย่างรวดเร็ว มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ พบเจอในประเทศไทย 3 ชนิด นำเข้าโดยกรมทางหลวง เพื่อช่วยคลุมหน้าดิน

มีชื่อสามัญ Sensitive plant ชื่อวิทยาศาสตร์ Mimosa pucida L. ชื่ออื่นๆ กระทืบยอด หนามหญ้าราบ(จันทนบุรี) กะหงับ(ภาคใต้) ก้านของ(นครศรีธรรมราช) ระงับ(ภาคกลาง) หงับพระพาย(ชุมพร) หญ้าจิยอบ หญ้าปันยอด(ภาคเหนือ) อยู่ในวงศ์ FABACEAE (LEGUMINOSAE - MIMOSOIDEAE)

2







ลักษณะพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี ทอดเลื้อยตามพื้นดิน บางครั้งสูงถึง 1 เมตร มีขนหยาบปกคลุมลำต้น แกนก้านใบ ท้องใบ และช่อดอก

“ใบ” เป็นใบประกอบแบบขนนก 2 ชั้น แกนกลางรวมก้านใบยาว 2.5-5 เซ็นติเมตร ใบประกอบย่อยมี 1-2 ใบ ยาว 1.5-7 เซ็นติเมตร ใบย่อยมี 12-25 คู่ รูปขอบขนานหรือคล้ายๆ รูปเคียว ยาว 0.5-1 เซนติเมตร

“ดอก” มีช่อดอกออกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ตามซอกใบ ก้านช่อดอกยาวประมาณ 2.5-4 เซ็นติเมตร ดอกจำนวนมาก ไร้ก้าน กลีบเลี้ยงเล็กมากประมาณ 0.1 มิลลิเมตร กลีบดอกรูประฆังแคบ ยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร กลีบดอกมนกลมยาว 0.5-0.8 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้มี 4 อัน รังไข่เกลี้ยงยาวประมาณ 0.5 มิลลิเมตร

“ฝัก” มีหลายฝักในแต่ละช่อดอก รูปขอบขนาน ตรง ยาว 1.5-1.8 เซนติเมตร มีขนแข็งตามขอบ


3
3

สรรพคุณของไมยราบใช้ทำยาพื้นบ้าน ใช้ทั้งต้นผสมกับรากสะเดาดินและไมยราบเลื้อยทั้งต้น ต้มน้ำดื่ม ขับปัสสาวะ สารสกัดทั้งต้นด้วยแอลกอฮอล์สามารถลดน้ำตาลในเลือดของสัตว์ทดลอง ทั้งในสภาวะปกติและเป็นเบาหวาน การให้ยาติดต่อกัน 5 เดือน ไม่พบอาการผิดปกติของสัตว์ทดลอง

ตำรายาไทยใช้ทั้งต้น ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ (โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ มีปัสสาวะขุ่นข้น เหลืองหรือแดง มีอาการแน่นท้อง กินอาหารไม่ได้) แก้กษัย (การป่วยที่เกิดจากหลายสาเหตุ ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม ซูบผอม โลหิตจาง ปวดเมื่อย) ราก แก้บิด ขับปัสสาวะ

ประโยชน์ของไมยราบ เดิมทีเดียวไมยราบใช้นำมาปลูกเพื่อคลุมหน้าดิน ที่สำคัญในส่วนของลำต้นสามารถใช้ดัดเป็นรูปทรงต่างๆ ได้ง่าย จึงนิยมนำมาใช้ดัดทำเป็นสิ่งประดิษฐ์ เช่น ใช้ในการทำกรอบรูป ทำเป็นกระถางต้นไม้ในรูปแบบต่าง ทำเป็นกระเช้าหรือกระถางใส่ไม้ดอกไม้ประดับหรือกล้วยไม้ รวมไปถึงโครงกระเป๋าต่างๆ เพื่อเป็นอาชีพรายได้เสริมอีกทางหนึ่งนะขอรับ




4
4


5
5


6
6


7
7


8
8


9
9


10
10


11
11


12
12


บรรณานุกรม

https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/siri/index.php?page=search_detail...id=319
- clgc.agri.kps.ku.ac.th/resources/weed/mimosa.html
- https://medthai.com/ไมยราบ/

-https://mgronline.com/south/detail/9620000028929




.




2 ความคิดเห็น:

  1. ไมยราบ

    ชื่อวิทยาศาสตร์ :
    Scientific name :

    Mimosa pudica L.
    ชื่อเรียกอื่น :
    Other name(s) :

    กระทืบยอด หญ้าปันยอด หนามหญ้าราบ กะหงับ
    ชื่อวงศ์ :
    Family name :

    FABACEAE (LEGUMINOSAE-MIMOSOIDEAE)
    ลักษณะ :
    ไม้ล้มลุกแผ่คลุมพื้นดิน สูงได้ถึง 1 เมตร ใบ เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ ใบย่อยชั้นแรก 2 หรือ 4 คู่ ยาว 2.5-6 ซม. ใบย่อยชั้นรอง 12-25 คู่ รูปขอบขนานโค้ง กว้าง 1.3-2 มม. ยาว 5-11 มม. ดอก สีม่วงแกมชมพู ออกเป็นช่อกลมที่ซอกใบ ขนาดประมาณ 1 ซม. ก้านช่อดอกยาว 2.5-3.8 ซม. กลีบรองดอก เล็กมาก กลีบดอกคล้ายเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 4 กลีบ ยาว 1.9-2.3 มม. เกสรผู้ 4 อัน รังไข่เกลี้ยง ผล เป็นฝักแบนรูปขอบขนาน ออกติดกันเป็นกระจุกกลม มีข้อปล้องชัดเจน ตะเข็บข้าง มีขนแข็ง
    Characteristics :

    Low and often prostrate herb, up to 1 m high. Leaves subdigitate compound; pinnae 2 or 4 pairs, 2.5-6 cm long; leaflets 12-25 pairs per pinna, oblong to subfalcate, 5-11 mm long by 1.3-2 mm wide. Inflorescence pedunculate heads, in the axils of the distal leaves, ca 1 cm across; peduncle 2.5-3.8 cm long. Flowers pink-purplish; calyx inconspicuous; corolla 4, narrowly companulate, 1.9-2.3 mm long; stamens 4; ovary glabrous. Pod clustered, flattened, oblong, segmented at maturity, with setose margins. Seeds many, small.
    การกระจายพันธุ์ :
    พบกระจายทั่วไปในเขตร้อน ประเทศไทยพบได้ทั่วทุกภาค เป็นวัชพืชขึ้นได้ในที่ชื้นแฉะ และข้างทางเปิดโล่ง ออกดอกตลอดปี
    Distribution :

    Widely distributed throughout tropical regions. In Thailand, found throughout the country. Considered a weed in the wetland and open areas. Flowering all year round.
    ช่วงเวลาการออกดอก :
    Flowering Time :

    ประโยชน์ :
    ต้น ขับปัสสาวะ สารสกัดทั้งต้นด้วยแอลกอฮอล์ สามารถลดน้ำตาลในเลือดของสัตว์ทดลองได้
    Uses and Utilization :

    The whole plant used as a diuretic. The alcohol extraction has a positive hypoglycemic effect in animal testing.

    แหล่งอ้างอิง :
    หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 7


    ตอบลบ
  2. เรื่องควรรู้ ก่อนปลูก “บอนไซไมยราบ” น่าปลูกไว้ที่บ้านหรือไม่
    ในประเทศไทยบอนไซไมยราบนั้น ก็ขอบอกกันตรง ๆ เลยค่ะว่าไม่ได้เป็นที่นิยมเสียเท่าไหร่ เนื่องจากเราจะรู้จุกพืชชื่อนี้เป็นวัชพืชที่ไม่ได้มีปะโยชน์อะไร อีกทั้งยังแย่งแร่ธาตุในดินจากต้นไม้ที่เราปลูกไปเป็นสารอาหารให้กับตัวเองอีก จึงได้มีการกำจัดออกไปนั่นเอง แต่สิ่งที่พีคแล้วว้าวมาก ๆ ก็คือในประเทศทางเอเชียตะวันออกและแถบยุโรปนั้นกลับเป็นที่ชื่นชอบอีกทั้งยังเป็นที่นิยมในการปลูกเป็นบอนไซไมยราบกันอย่างมากมายเลยค่ะ

    ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่ประเทศที่อยู่ในแถบนี้ไม่ว่าจะเป็นประเทศ จีน , ฮ่องกง , เกาหลี , ญี่ปุ่นนั้น เป็นประเทศที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวค่อนข้างจะบ่อยครั้งเลยทีเดียว การที่ปลูกบอนไซไมยราบเอาไว้นั้นก็จะเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนภัยที่จะทำให้พวกเขาสามารถรู้เท่าทันได้ เนื่องจากจุดเด่นของไมยราบคือการไวต่อสิ่งเร้า กล่าวคือเมื่อปล่อยเอาไว้มันจะยังคงเป็นวัชพืชทั่วไปแต่เมื่อถูกสิ่งใด ๆ เข้ากระทบหรือสัมผัสมัน มันก็จะเกิดปฏิกิริยาที่หุบตัวลงนั่นเอง


    ซึ่งการคลายตัวและการหุบตัวของมันนี่แหละค่ะที่ทำให้ของทางแถบประเทศเหล่านั้นนิยมนำบอนไซไปเป็นไม้ประดับภายในบ้าน โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่มีความนิยมในบอนไซไมยราบสูงมาก ๆ ซึ่งเราก็ทราบกันดีอยู่แล้วใช่ไหมคะว่าบอนไซนั้นถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นศิลปะต้นไม้ย่อส่วนที่ทรงคุณค่าและนิยมทำกันอย่างแพร่หลาย และบอนไซไมยราบนี้ก็เช่นกัน อีกทั้งยังมีรูปร่างและรูปทรงที่มากมายจนเรารู้สึกว่าการที่เราเห็นว่าไมยราบนี้เป็นเพียงวัชพืชที่ดูด้อยค่านี้เมื่อไปอยู่ในเมืองของเขาทำไมมันจึงดูมีค่าขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อได้เพียงนี้กันนะ

    นอกจากประเทศทางฝั่งเอเชียตะวันออกจะนิยมปลูกบอนไซไมยราบเพื่อเป็นสัญญาณเตือนภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวเอาไว้แล้ว ทางฝั่งยุโรปเองก็ชื่นชอบในบอยไซไมยราบเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งหากมองเผิน ๆ แล้วเราคนไทยที่เห็นไมยราบมาจนชินชาแล้วก็คงรู้สึกว่าก็เป็นต้นไม้ที่บานหุบปกติ เรื่องความโดดเด่นก็ดูจะไม่มีอะไรมาก แต่ชาวยุโรปที่เลี้ยงไมยราบเขาคิดกันอีกแบบค่ะ เพราะการที่ทำมาเป็นบอนไซไมยราบนี้ ทำให้ต้นไม้ดูมีค่าขึ้นมา โดยเฉพาะส่วนของดอกกลม ๆ ฟุ้ง ๆ ที่มีสีสันสวยสดใสนี้ ยิ่งทำให้บ้านของพวกเขาดีสีสันขึ้นมาได้เป็นอย่างมากเลย


    และด้วยเหตุที่มันเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาตินี่แหละค่ะ ทำให้ผู้ที่ทำการเลี้ยงปลูกบอนไซไมยราบสามารถสร้างรายได้และสร้างอาชีพให้กับตัวเองได้ ซึ่งราคาของบอนไซไมยราบในการส่งออกไปต่างประเทศนั้นก็ต้องบอกเลยค่ะว่าราคาแพงใช้ได้เลย ซึ่งการปลูกและการดูแลบอนไซไมยราบนั้นก็ใช่ว่าจะง่ายเสียเมื่อไหร่ เพราะมันก็ยากพอ ๆ กับบอนไซชนิดอื่น ๆ เลยค่ะ เนื่องจากมันเป็นไม้เลื้อยดังนั้นเทคนิคการใช้ขดลวดให้ชำนาญจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คนเลี้ยงบอนไซไมยราบจะต้องรู้

    โดยจุดเด่นนั้นก็จะเกี่ยวข้องกับการใช้เทคนิคขดลวดที่เราได้กล่าวไปเมื่อครู่ ซึ่งก็จะทำให้บอนไซชนิดนี้มีการโค้งลงได้อย่างสวยงามและสมดุล เมื่อมองไปแล้วรู้สึกสบายตา อีกทั้งยังมีสีสันสวยงามและน่าจับตามองอีกด้วย นอกจากนี้บอนไซไมยราบก็ยังมีประโยชน์เกี่ยวกับทางสรรพคุณทางยาเกี่ยวกับการขับระดูขาวและปัสสาวะ ซึ่งเป็นของเสียให้ออกมา แก้อาการไตพิการ ส่วนของต้นนั้นสามารถนำมาต้มเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องจากการเป็นกระเพาะอาหารอักเสบ อีกทั้งใบของมันยังสามารถบดเพื่อนำมาทาบริเวณที่เป็นผดผื่นคันได้อีกด้วย


    เรียกได้ว่าของที่เรามองว่าไร้ค่าและดูไม่มีความสำคัญนั้นหากลองมองให้ลึกและศึกษาจนเข้าใจก็จะเห็นผลที่ตามมาได้อย่างดี อย่างการเลี้ยงบอนไซไมยราบที่เรามองว่าเป็นเพียงวัชพืชชนิดหนึ่งนั้น ก็ยังสามารถสร้างรายได้งาม ๆ ให้แก่ผู้ที่เลี้ยงหรือผู้ที่ปลูกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความสามารถในการบานหุบที่เป็นตัวช่วยที่ดีเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว และยังสามารถนำไปเป็นไม้ประดับที่ปลูกไว้ตามบ้านหรืออาคารได้อีกด้วย นอกจากนี้หากจะพูดถึงเรื่องประโยชน์หรือสรรพคุณนั้นก็มีความสามารถในการรักษาอาการต่าง ๆ ให้บรรเทาลงได้ ดังนั้นลองมองไมยราบกันอีกทีนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่ามันก็มีประโยชน์ไม่แพ้พืชชนิดอื่น ๆ เลย

    Credit : https://thaihitz.com/

    ตอบลบ