Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562

เรียนภาษาฝรั่งเศสด้วยตนเอง

เรียนภาษาฝรั่งเศสด้วยตนเอง

เรื่อง การทักทาย การกล่าวอำลา และการขอบคุณ
มาเริ่มที่การทักทายก่อนเลยละกัน
  • Bonjour (บงชูร์) 
แปลว่า สวัสดี(ใช้ได้ตั้งแต่เช้ายาวไปจนบ่ายๆ)
  • Bonsoir (บงซัวร์)
แปลว่า สวัสดี(ใช้ได้ตั้งแต่เย็นจนถึงหัวค่ำ)
  • Bonne nuit (บอนนุย) 
แปลว่า สวัสดี(ใช้ได้ตอนค่ำถึงดึกดื่นเที่ยงคืน
  • Salut (ซาลู)
แปลว่า สวัสดี(ใช้กับคนคุ้นเคย สนิทสนมกันแล้ว)

การกล่าวอำลา มีอะไรบ้างมาดูกัน
  • Au revoir (โอ เฮรอวัวร์) 
แปลว่า ลาก่อน(ใช้ได้ทั่วไป)
  • A tout à l’heure (อา ตุ ตา เลอร์) 
แปลว่า แล้วเจอกันนะ(เช่น จากกันแค่ 10 นาที แล้วมาเจอกัน)
  • A bientôt (อา เบียงโต) 
แปลว่า ลาก่อน/เจอกันในไม่ช้า(ใช้เมื่อเราจากกันแบบไม่รู้ว่าจะเจอกันเมื่อไหร่)
  • A la prochaine (อา ลา โพรแชน)
แปลว่า เจอกันคราวหน้านะ
การขอบคุณ
  • Merci(แมร์ซี่)    
แปลว่า ขอบคุณ
  • Merci beaucoup(แมร์ซี่ โบกู) 
แปลว่า ขอบคุณมาก
  • Merci mille fois(แมร์ซี่ มิล ฟัว)
แปลว่า ขอบคุณพันครั้ง(ใช้ในกรณีที่ซาบซึ้งมากจริงๆ)

การทักทายภาษาฝรั่งเศส

(ถามทุกข์-สุข และการกล่าวอำลา)

มีด้วยกันสองแบบใหญ่ๆ คือแบบเป็นทางการ และ แบบไม่เป็นทางการ

1.การทักทายและการอำลาแบบเป็นทางการ

Sucha: Bonjour, Madame Sunee. (บงชูร์ มาดามสุนี)            สวัสดีครับ คุณสุนี
Sunee: Bonjour, Monsieur Sucha. (บงชูร์ เมอซิเออสุชา)       สวัสดีค่ะ คุณสุชา
Sucha: Comment allez-vous? (กัมมังตัลเลวู๊)                          สบายดีไหมครับ?
Sunee: Je vais bien, merci. Et vous? (เฌอเวเบียง แมร์ซี่ เอวู๊)  สบายดีค่ะ ขอบคุณค่ะ แล้วคุณหละค่ะ?
Sucha: Je vais bien, merci. (เฌอเวเบียง แมร์ซี่)                     ผมสบายดี ขอบคุณครับ
…(หลังจากคุยธุระเสร็จแล้ว)
Sucha: Au revoir, Madame Sunee. (โอ เฮรอวัวร์ มาดามสุนี)        ลาก่อนครับ คุณสุนี
Sunee: Au revoir, Monsieur Sucha. (โอ เฮรอวัวร์ เมอซิเออสุชา)   ลาก่อนค่ะ คุณสุชา

2.การทักทายและการอำลาแบบไม่เป็นทางการ(สนิทสนมกัน)

Toto: Bonjour, Jane. (บงชู เจน)          สวัสดี เจน
Jane: Bonjour, Toto. (บงชู โตโต้)        สวัสดี โตโต้
Toto: Comment vas-tu? (กัมมัง วาตู๊)    สบายดีมั้ย?
Jane: Je vais bien, merci. Et toi? (เฌอเวเบียง แมร์ซี่ เอตั๊ว)    สบายดี แล้วเธอหละ?
Toto: Très bien, merci. (แทร๊เบียง แมร์ซี่)    ดีมากๆเลยหละ ขอบใจนะ
…(หลังจากคุยธุระเสร็จแล้ว)
Toto: A bientôt. (อาเบียงโต)    แล้วเจอกันนะ
Jane: A bientôt. (อาเบียงโต)    จ้า แล้วเจอกัน
หรือ
Mimi:  Salut. (ซาลู)    หวัดดี
Jean: Salut. (ซาลู)     หวัดดี
Mimi:  Ça va? (ซาว๊า)    เป็นไงมั่ง?
Jean:  Bien. Ça va? (เบียง ซาว๊า)    ก็ดีนะ แล้วเธอหละ?
Mimi:  Comme çi comme ça. (กอมซี๊ กอมซ่า)    ก็งั้นๆอะ …(หลังจากคุยธุระเสร็จแล้ว)
Jean: Salut. (ซาลู)    บ๊ายบาย
Mimi: Salut. (ซาลู)    บาย
*คำว่า Salut ใช้กับเพื่อนที่สนิทกัน และสามารถใช้ทักทายและร่ำลาได้


เวลา

Quelle heure est-il? (แกล-เลอร์-เอ-ติล) กี่โมงแล้วนะ?


เริ่มแรกเราควรจดจำคำศัพท์เบื้องต้นเกี่ยวกับเวลาและช่วงเวลากันก่อน
Le temps (เลอ-ตัง) เวลา               L’heure (เลอร์) เวลา(ตามนาฬิกา), ชั่วโมง
La minute  (ลา-มินุท) นาที            La seconde (ลา-เซอกงด์) วินาที
Le matin (เลอ-มาตัง) ตอนเช้า      Le midi (เลอ-มีดี) เที่ยงวัน
L’après-midi (ลัพแพร-มีดี) ตอนบ่าย  Le soir (เลอ-ซัวรฮ์) ตอนเย็น
La nuit (ลา-นุย) ตอนค่ำ                La minuit (ลา-มีนุย) เที่ยงคืน

เรามาเริ่มนับเวลาเป็นโยคกันเลยดีกว่า








Il est + chiffre(ตัวเลข) + heure(s)  =  มันเป็นเวลา…
Il est une heure (อิล-เล-อุน-เนอรฮ์)   มันเป็นเวลา 01.00 น.
Il est deux heures (อิล-เล-เดอ-เซอรฮ์) มันเป็นเวลา 02.00 น.
Il est onze heures (อิล-เล-อง-เซอรฮ์)  มันเป็นเวลา 11.00 น.
Il est douze heures (อิล-เล-ดุซเซอรฮ์) = Il est midi มันเป็นเวลาเที่ยงวัน
Il est seize heures (อิล-เล-แซสเซอรฮ์) มันเป็นเวลา 16.00 น. หรือ สี่โมงเย็น
Il est dix-sept heures (อิล-เล-ดิซแซ็ตเตอรฮ์)  มันเป็นเวลา 17.00 น. หรือ ห้าโมงเย็น

ประโยคต่อไปจะมีจำนวนของ “นาที(Minute)” เข้ามาด้วยนะครับ ลองมาดูกันเลย
Il est dix heures dix (อิล-เล-ดิซเซอรฮ์-ดิซ) มันเป็นเวลาสิบโมงสิบนาที

Il est quatorze heures et demie (อิล-เล-การ์ตอซเซอรฮ์-เอ-เดอมี) มันเป็นเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง
*Demie (เดอมี) หมายถึง 30 นาที/ครึ่งชั่วโมง หรือจะใช้คำว่า Trente (ทร็อง) แทนก็ได้เช่นกัน*

Il est minuit et quart (อิล-เล-มินุย-เอ-การ์) มันเป็นเวลาเที่ยงคืนสิบห้านาที
* Quart (การ์) หมายถึง 15 นาที หรือจะใช้คำว่า Quinze (แก๊งซ์) แทนก็ได้เช่นกัน*

Il est vingt-deux heures moins cinq (อิล-เล-แว็งเดอเซอรฮ์-มวง-แซ็งค์)  มันเป็นเวลาสามทุ่มห้าสิบห้านาที
*Moins (มวง) หมายถึง ลบ
ในรูปประโยคนี้ เราจะต้องทำความเข้าใจว่ามันคือการลบเลขกันครับ นั่นก็คือ เวลาสี่ทุ่มลบห้านาที  22.00 – 00.05 = 21.55 น.
ลองดูอีกประโยคนะครับ
Il est dix heures moins neuf (อิล-เล-ดิซเซอรฮ์-มวง-เนิฟ) มันเป็นเวลาเก้าโมงห้าสิบอ็ดนาที
ประโยคนี้ก็เป็นแบบเดียวกันกับด้านบนครับ เวลาสิบโมงลบเก้านาที 10.00 – 00.09 = 09.51 น.

ตัวอย่างประโยคสนทนา
Nut : Quelle heure est-il? (แกล-เลอร์-เอ-ติล)                                 กี่โมงแล้ว?
Mai : Il est sept heure et demie. (อิล-เล-แซ็ตเตอรฮ์-เอ-เดอมี)          เจ็ดโมงครึ่งแล้ว
Nut : Le supermarché ouvre à quelle heure? (เลอ-ซูแปร์มาร์เช่-อุฟวร์-อา-แกลเลอรฮ์)  ห้างสรรพสินค้าเปิดกี่โมงแล้วนะ?
Mai : Le supermarché ouvre à dix heures quarante (เลอ-ซูแปร์มาร์เช่-อุฟวร์-อา-ดิซเซอร์-กาค็อง) ห้างเปิดสิบโมงสี่สิบจ้ะ
ก่อนจะปิดท้ายบทเรียน ผมขอให้เพื่อนๆได้ลองทำแบบฝึกหัดจากรูปภาพของเวลากันนะครับ เริ่มเลย! (เฉลยอยู่ท้ายบทเรียน)
  1. Il est …..
 2. Il est …..

  1. ในข้อนี้สามารถกล่าวถึงเวลาได้ทั้งช่วงเช้า(Le matin)และ(Le soir)ช่วงเย็นครับ
Il est ….. du matin.
Il est ….. du soir.
ขอบคุณที่มา  ::   เว็บไซต์  Educatepark.com