1. IQ : Intelligence Quotient คือ ความฉลาดทางสติปัญญา คือระดับเชาวน์ปัญญาที่วัดออกมาเป็นค่าสถิติ ระดับ IQ ปกติของคนเราอยู่ที่ช่วง 90 - 110 สูงกว่าคือสติปัญญาดีหรือถึงระดับอัจฉริยะอย่างที่เราเรียกๆ กัน แต่ถึงแม้จะมีการทดสอบ IQ จนได้ผลมาในระดับหนึ่งแล้ว ก็ยังต้องดูปัจจัยอื่นๆ เช่น ตอนทำการทดสอบกำลังป่วย แบบทดสอบไม่น่าเชื่อถือ ฯลฯ ด้วย ถึงจะบอกได้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นบุคคลที่มีระดับสติปัญญาอยู่ในกลุ่มพิเศษใดหรือไม่ (ไม่ว่าด้อยหรือสูง) ซึ่งต้องมีการจัดการดูแล จัดการศึกษาให้เหมาะสมต่อไป ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คือ ทฤษฏีพหุปัญญา ของโฮวาร์ด การ์ดเนอร์ ที่แบ่งความฉลาดของคนเราออกเป็นหลายๆ ด้าน เช่น ดนตรี กีฬา การเข้าใจตนเอง ก็เป็นทฤษฏีที่คุณหนูดี วนิษา เรซ นำมาเผยแพร่ให้เราคนไทยรู้จักกันในวงกว้าง
2. EQ : Emotional Quotient คือ ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถในการดูแลกำกับอารมณ์ความคิดที่ส่งผลไปสู่พฤติกรรมตนเอง คนมีอีคิวสูงจะมีมนุษยสัมพันธ์ดี ทำงานเป็นทีมได้ค่ะ เจ้า EQ นี้มีมานานแล้ว โดยนักจิตวิทยาชาวอิสราเอลชื่อ Reaven Bar-on ที่สังเกตว่าผู้มี IQ สูง มักไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเพราะไม่มี Emotion Maturity หรือความเป็นผู้ใหญ่ทางอารมณ์ คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต้องมีความสามารถในการควบคุมตนเอง มีแรงกระตุ้นตนเองที่จะทำสิ่งดีๆ มีความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้ รวมถึงสามารถเข้ากับสังคมได้และรักษาความสัมพันธ์กับคนในสังคม อีคิวดีจะทำให้เรามีความสุข
3. MQ : Moral Quotient คือ ความฉลาดทางคุณธรรม เรียกว่าการมีคุณธรรมนั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และถูกปลุกฝังกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เป็นความฉลาดที่เกิดจากการหล่อหลอมจากสภาพสังคมค่ะ และต้องได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างต่อเนื่องด้วย คนที่มี MQ สูงจะเป็นคนที่ควบคุมตนเองไม่ให้ทำสิ่งผิดได้ ตั้งแต่กิริยาวาจา กาลเทศะ ความคิดและพฤติกรรม ไม่คอรัปชั่น ไม่รับสินบน เชื่อมั่นในเกียรติ ศักดิ์ศรี ความถูกต้องและเชื่อมั่นในคำพูดตนเอง
4. SQ : Social Quotient คือ ความฉลาดในการเข้าสังคม มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี คล้ายคลึงกับ EQ แต่ SQ หมายรวมถึงเรื่องกายภาพที่จำเป็นต่อการเข้าสังคมด้วย ตั้งแต่เรื่องวาจา บุคลิกภาพ จนถึงการแต่งตัวเพื่อเข้าสังคมเลยทีเดียว SQ เป็นเรื่องใหม่ที่มีขึ้นในกลุ่ม Quotient นี้ โดยเฉพาะในกลุ่มสังคมการทำงาน เพราะเจ้า SQ นี้ หมายความถึงคุณลักษณะในการทำงาน ความซื่อสัตย์และความเข้าใจต่อหน่วยงาน คนที่มี SQ จะเข้ากับผู้อื่นได้ ทำงานได้บรรลุผลของหน่วยงาน (ถ้าเป็นนักเรียน แก้ปัญหาการบ้านได้ถูกต้องและนำไปใช้ประโยชน์ได้) สามารถปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของสังคมได้ ซึ่งลักษณะที่จะทำให้เรามี SQ ก็ต้องปรับบุคลิกให้เหมาะสม ยิ้มแย้มแจ่มใส ท่าทางดี อ่อนน้อม ให้ความร่วมมือ และรับผิดชอบ
5. CQ : Creativity Quotient คือ เป็นความฉลาดด้านความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการในทางที่ดี เป็นความสามารถความฉลาดที่จะพัฒนาสมองซีกขวาได้ดีทีเดียว และเป็นความสามารถภายใน ที่บางครั้งก็เกิดจากการปิ๊งแวบ หลายครั้งที่เราใช้สมองคิดอะไรไม่ได้ แต่พอเราปล่อยวางมันสักครู่ หรือทำลืมๆ จู่ๆ เราก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาได้ แต่การที่จะฝึกให้เราความสามารถด้านนี้ก็ต้องฝึกการคิดเป็นภาพ กล้าคิดฉีกกรอบ จินตนาการเรื่องต่างๆ อย่างมีจุดมุ่งหมาย
6. PQ : Play Quotient คือ ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น เป็นหลักการศึกษาข้อหนึ่งเลยทีเดียวที่ว่าด้วยการเล่นทำให้เกิดการเรียนรู้ Play + Learn = Plearn (เพลิน) เป็นศัพท์ใหม่ที่เข้าใจเด็กไทยโดยแท้จริง ฮ่าๆๆ พ่อแม่ต้องควรเล่นกับลูกเล็ก พอโตขึ้นก็ได้เล่นกับเพื่อน เป็นวัยรุ่นได้ทำกิจกรรมที่โรงเรียน/มหาวิทยาลัย ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดคุณสมบัติที่ดีในตัวคนคือเป็นได้ทั้งผู้นำและผู้ตามที่ดี เป็นหลักสำคัญที่จะทำให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นคนทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพราะการเล่นของเด็กก็เหมือนการทำงานจริงของผู้ใหญ่ เป็นภาพจำลองของกันและกัน
7. AQ : Adversity Quotient คือ เป็นความสามารถในการเอาชนะต่ออุปสรรค มุ่งมั่นต่อไปแม้ต้องอดทนอดกลั้นฝ่าฟันต่อปัญหา AQ เป็นปัจจัยที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จ ซึ่งขึ้นอยู่กับทั้งสิ่งที่มาแต่เกิดอย่างเรื่องพันธุกรรม และสิ่งที่เรียนรู้ภายหลังจากการการเลี้ยงดูและสังคมที่จะทำให้คนคนหนึ่งมีความสามารถในการอดทนต่อความยากลำบากได้ ทั้งร่างกายและจิตใจ ว่ากันว่าคนมี AQ สูงจะสุขภาพแข็งแรง พร้อมสู้ต่อทุกงานเสมอ ต่างจาก MQ ในแง่ที่ว่าไม่ใช่แค่เรื่องจิตใจเท่านั้น แต่รวมถึงเรื่องร่างกายด้วย แต่ก็ไม่ถึงกับภาวะใส่ใจสุขภาพร่างกาย
8. HQ : Health Quotient คือ เป็นความสามารถในการดูแลสุขภาพของตนเอง กินอาหารที่ดี อยู่ในที่ที่ดี ไม่แออัด ขับถ่ายดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ ดูแลรักษาความสะอาด คำนึงถึงเรื่องสุขอนามัยรอบตัว รวมถึงมีงานอดิเรกที่ดี ทำแล้วได้ประโยชน์ รู้จักผ่อนคลายตนเองให้หายเครียดอีกด้วย
9. OQ : Optimist Quotient คือ ความฉลาดในการมองโลก พร้อมเปลี่ยนมุมมองใหม่เพื่อเผชิญหน้าต่อทุกสถานการณ์ คนที่มี OQ จะเป็นคนที่เชื่อในตนเอง ไม่มองตนเองด้อยค่า กล้าคิดใหม่ทำใหม่ เมื่อผิดพลาดก็พร้อมยอมรับสิ่งผิดและแก้ไขตนเอง เป็นการมองทุกสิ่งในแง่ดีมากกว่าแง่ร้าย
10. TQ : Thinking Quotient คือ ความสามารถในการคิด และคิดเป็นประโยชน์ก่อคุณค่า ในแง่ของการคิดแล้วผู้รู้เขาก็แบ่งการคิดออกเป็นหลายลักษณะที่ทำให้การคิดนั้นมีคุณค่านำไปใช้ได้เกิดประโยชน์ต่อการงานต่างๆ อย่างความสามารถในการคิดวิเคราะห์เแล้ว คิดสังเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ คิดประยุกต์ ฯลฯ ซึ่งคนที่มี Q หรือฉลาดในการคิดนี้ จะเป็นคนที่แก้ปัญหาต่างๆ ในทุกสถานการณ์ได้ สามารถคิดไตร่ตรองสิ่งถูกผิด และคิดเลือกทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นได้
แหล่งข้อมูล:
สมชาติ กิจยรรยง.12 Q ที่ดี เพื่อสร้างชีวีให้มีความสุข.กรุงเทพฯ : พาวเวอร์ฟูล ไลฟ์, 2554.
http://web.childrenhospital.go.th/kmpeople/images/stories/Media_Knowledge/mc003.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น