ฝึกเทคนิคการหายใจ ช่วยให้วิ่งได้ไกลเกินคาด

อึด ถึก ทน! ชวนฝึกเทคนิคการหายใจ ช่วยให้วิ่งได้ไกลเกินคาด

แต่ละวินาทีในขณะวิ่ง มันช่างแสนยาวนานสุดท้ายเหนื่อยแทบตายผ่านไปได้แค่ 5 นาทีไม่อยากวิ่งแล้ว อยากจะเดินแล้ว หรือว่าทางนี้มันไม่ใช่ทางของเรา……

นักวิ่งมือใหม่ทั้งหลายคงเคยประสบปัญหานี้กันอยู่ใช่ไหม ยิ่งวิ่งยิ่งเหนื่อย หายใจไม่ทัน ยิ่งออกแรงวิ่งเท่าไหร่ปอดก็ทำงานหนัก หายใจถี่ขึ้นจนทำให้รู้สึกเหมือนหายใจเอาออกซินเจนเข้าไปไม่เพียงพอ นั่นทำให้เวลาแค่ 10-15 นาทีในการวิ่งนั้นนานแสนนาน ทุกวินาทีที่ผ่านไปมันฝืนใจเหลือเกิน

นั่นอาจไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายเราที่ไม่ไหว แต่ใจและสมาธิของเราก็มีส่วนที่ทำให้รู้สึกไม่ไหวไม่อยากวิ่งต่อแล้วเช่นกัน จนทำให้วิ่งไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้พาลให้หลาย ๆ คนท้อแท้และล้มเลิกกันได้ง่าย ๆ

รู้ไหมว่าการวิ่งนอกจากจะมีรองเท้าดี ๆ สักคู่แล้ว เทคนิคการจับจังหวะหายใจและการสร้างสมาธิขณะวิ่งก็มีส่วนช่วยให้วิ่งได้ดี ได้นานไม่แพ้กัน วันนี้ Healthy Living มีเทคนิคการจับจังหวะหายใจง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณไม่เหนื่อยง่ายแถมยังไม่วอกแวกขณะวิ่งมาฝาก รับรองว่าทำตามแล้วการวิ่งครั้งต่อไปจะกลายเป็นเรื่องชิว ๆ แน่นอน

In 3 Out 2

In 3 Out 2 คือเทคนิคการสร้างจังหวะการหายใจให้สัมพันธ์กับการลงเท้าทำให้เราวิ่งได้นานขึ้น เทคนิคนี้จะช่วยให้มีลมหล่อเลี้ยงได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ปอดและกล้ามเนื้อกระบังลมทำงานสัมพันธ์กัน

วิธีการหายใจ

- จังหวะที่ก้าวเท้าขวาลง ให้หายใจเข้า(In) นับ 1
- ก้าวขาซ้ายลง หายใจเข้านับ 2
- ก้าวขาขวาลง หายใจเข้านับ 3
- ก้าวขาซ้าย หายใจออก (Out) นับ 1
- ก้าวขาขวา หายใจออก นับ 2

เทคนิคนี้จะเห็นได้ว่าจังหวะการหายใจเข้าจะสลับกันระหว่างซ้ายและขวา ทำให้กระบังลมไม่ต้องรับแรงกระแทกอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ลดอาการบาดเจ็บ จุก ขณะวิ่งได้ และทำให้ไม่หมดแรงเอาได้ง่าย ๆ แถมยังช่วยให้วิ่งได้นานขึ้นด้วย อีกทั้งการหายใจเข้าถึง 3 ช่วง ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอเพื่อไปเผาผลาญสร้างพลังงานมากขึ้นจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เบิร์นได้ดีขึ้นอีกด้วย

- เข้า-เข้า-เข้า-ออก-ออก วิ่งได้นานกว่า

ไม่เพียงแค่หายใจแบบ In 3 Out 2 เท่านั้น แต่ให้กำหนดในใจเป็นคำพูด เข้า-เข้า-เข้า-ออก-ออก หรือ In-In-In-Out-Out ก็ได้ เพื่อเป็นการรวมสติ และสมาธิของเราให้อยู่ในทุก ๆ ก้าวที่เราวิ่ง

การที่เราได้โฟกัสกับทุกก้าวเป็นส่วนสำคัญ ที่จะไม่ทำให้เราเหม่อลอย ไม่วอกแวก สามารถลดสิ่งเร้าไม่ว่าจะมาจากสิ่งแวดล้อมภายนอก หรือภายในจิตใจเรา ความคิดที่มักจะผุดขึ้นมาขณะวิ่ง เช่น “วิ่งเสร็จไปกินไรต่อดี เอ๊ะ! ไปเลยดีไหมเดี๋ยวร้านปิด” “โอ้ยเมื่อย นั่งพักดีไหม” “ทำไมเราต้องมาเหนื่อยแบบนี้ด้วย”

ถ้าเราปล่อยให้จิตใจว่าง สามารถคิดอะไรฟุ้งซ่านขณะวิ่ง ความคิดเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย และเป็นเหตุที่จะทำให้ล้มเลิกการวิ่งกลางคันกันได้ง่าย ๆ เช่นกัน การมีสมาธิอยู่ในทุก ๆ ก้าวจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถวิ่งได้นาน วิ่งได้ทน วิ่งจบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้โดยไม่หมดกำลังใจนั่นเอง

อ่านมาจนถึงตอนนี้แล้ว อย่าอ่านจบ ปิดบทความนี้ไปแล้วไถหน้าจอต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะ ไม่อย่างงั้นที่อ่านมาทั้งหมดนี้จะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ไปออกไปวิ่งกันเลยไม่ต้องรออะไรแล้ว ชุดก็มีพร้อมแล้ว รองเท้าก็พร้อม อุปกรณ์ก็มีแล้ว แถมยังมีเทคนิคการวิ่งได้นาน วิ่งให้มีความสุขเพิ่มเข้าไปอีก ตอนนี้ก็เหลือแค่คุณแล้วล่ะ ที่จะสู้

ไปกัน ลุกเลย ไปวิ่งกัน
ถ้าคุณสู้เราก็สู้ไปกับคุณ

ที่มา  ::   https://www.luckrunningshop.com/article/11/%E0%B8%AD%E0%B8%B6%E0%B8%94-%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%81-%E0%B8%97%E0%B8%99-%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%94