ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky) สุนัขหน้าตาน่ารักที่ใครเห็นก็ต้องอยากเลี้ยง

ใครเห็นก็ต้องอยากเลี้ยงเพราะ ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่ดูอบอุ่น เป็นมิตร และสามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ดี

ทำความรู้จักกับเจ้าหมาไซบีเรียนกันก่อน

สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดจากแถบตะวันออกของไซบีเรีย จึงเป็นที่มาของชื่อ ไซบีเรีย

ส่วน ฮัสกี้นั้น ได้มาจากชื่อของชาวอินูอิต (ชนพื้นเมืองของอลาสก้า) ที่ถูกเรียกว่า Huskies (ฮัสกี้ส์) นั่นเอง

และเนื่องจากเป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในดินแดนเขตหนาว ทำให้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่สามารถอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นๆ ถึงขั้นอุณหภูมิติดลบได้เป็นอย่างดี

และด้วยความสามารถในการใช้ชีวิตอยู่กับความหนาวเย็นได้ ก็เลยถูกนำมาเป็นสัตว์ลากเลื่อนตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1900ก่อนที่หลังจากนั้นจะกลายมาเป็นสุนัขเลี้ยงตามบ้านที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สุนัขพันธุ์อื่นๆ

ลักษณะทั่วไปของเจ้า ไซบีเรียน ฮัสกี้

สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้  เป็นสุนัขที่มีขนาดกลาง  เมื่อโตเต็มวัยตัวจะไม่ใหญ่หรือเล็กมาก

มีขนฟูนุ่มและแน่นทำให้สามารถอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นได้ มีหางรูปเคียวและหูเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้งชันไม่พับลง

นอกจากนี้ยังเป็นสุนัขที่มีลายเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนสุนัขพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งก็จะมีโทนสีของขนที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นขนสีดำ, สีเทาขาว, สีแดง, สีขาวล้วน, สีซาเบิล, สีหินอ่อนและอีกมากมาย

โดยสีขนที่ได้นั้นก็มาจากการผสมพันธุ์ทำให้เกิดเป็นขนที่มีหลากสีสันไม่ซ้ำกันในแต่ละตัว

ไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นสุนัขที่ดูเผินๆ แล้วอาจจะเหมือนหมาป่า เพราะมีสายพันธุ์ของหมาป่าเข้ามาผสม

แต่ด้วยนิสัยของมันจัดเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรต่อมนุษย์มาก

อีกทั้งลักษณะทางกายภาพของไซบีเรียนฮัสกี้ก็มีความแตกต่างจากหมาป่าอย่างเห็นได้ชัด ด้วยลักษณะของโครงสร้างทางร่างกายที่มีชั้นความหนาของขนมากกว่า และตัวใหญ่กว่าหมาป่า

นิสัยของเจ้า ไซบีเรียน ฮัสกี้

ไซบีเรียน ฮัสกี้ นิสัยเป็นอย่างไร หลายคนคงอาจจะเกิดความสงสัยก่อนเลี้ยงว่าจะสามารถรับมือได้หรือไม่

จริงๆ แล้วไซบีเรียนฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีความเป็นตัวเองสูงมาก รักอิสระ ชอบทำกิจกรรม ไม่ชอบถูกบังคับ และไม่ชอบอยู่ในพื้นที่จำกัด

ดังนั้น หากคุณต้องการจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้จึงจำเป็นต้องหาพื้นที่โล่งให้กับไซบีเรียน ฮัสกี้ หรือพาออกไปเปิดหูเปิดตานอกบ้านบ้าง

ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาอาจจะเกิดความหงุดหงิดใจขึ้นมาได้หากต้องถูกเลี้ยงในพื้นที่แคบและอุดอู้

นอกจากนี้ความน่ารักของสุนัขพันธุ์นี้ที่ทำให้สาวกเจ้าตูบหลายคนหลงรักก็คือ หน้าตาที่เป็นมิตร และมีความขี้เล่นซุกซน

ซึ่งถือเป็นเสน่ห์หลักของสุนัขพันธุ์นี้เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ คนใกล้ชิด หรือคนแปลกหน้า เจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ ก็พร้อมที่จะเล่นกับผู้คนเหล่านั้นอยู่เสมอๆ

 

การดูแลสุขภาพไซบีเรียน ฮัสกี้ เบื้องต้น

การดูแลสุขภาพของไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้มีความแตกต่างจากสุนัขบ้านพันธุ์อื่น ๆ เพราะมีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองเขตหนาว อีกทั้งลักษณะทางกายภาพก็แตกต่างจากสุนัขพันธุ์อื่น ๆ เพราะฉะนั้นจึงมีวิธีดูแลที่เป็นวิธีเฉพาะมากขึ้นจากสุนัขโดยทั่วไปดังต่อไปนี้

1.เน้นให้อาหารสุนัขที่สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย

เนื่องจากไซบีเรียน ฮัสกี้ เติบโตมากับสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็น ทำให้จำเป็นต้องได้รับอาหารที่สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย และเพื่อช่วยเสริมสร้างพลังงานที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยควรให้อาหารอย่างน้อยวันละ 2 มื้อ

2.หมั่นพาไปเดินเล่นออกกำลังกาย

ไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นสุนัขที่ชอบทำกิจกรรม รักสนุก และไม่ชอบอยู่เฉย ๆ ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรพาน้องหมา ออกไปผ่อนคลายนอกบ้าน ทำกิจกรรมต่าง ๆ บ้าง เช่น วิ่งเล่นในสวนสาธารณะ, พาไปว่ายน้ำ หรือเล่นเกมสนุกๆ เช่น เก็บจานร่อน เป็นต้น

3.ดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ

สิ่งสำคัญในการดูแลไซบีเรียน ฮัสกี้ คือ การดูแลทำความสะอาดขนและผิวหนังอยู่เสมอ เนื่องด้วยเป็นสุนัขที่มีขนถึง 2 ชั้น

ถ้าเกิดละเลยในการทำความสะอาดเป็นประจำ ก็อาจจะทำให้น้องหมาติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ นอกจากนี้ควรใส่ใจความสะอาดของเล็บเท้า, ฟัน, ดวงตาและหูอยู่ตลอดเวลาด้วย

4.พาไปตรวจสุขภาพบ้าง

ผู้เลี้ยงควรหมั่นพาน้องหมาไซบีเรียนไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์อย่างน้อยทุก 6 เดือน เพื่อเช็คสภาพร่างกายว่าปกติดีหรือไม่ เพราะน้องหมาของคุณอาจจะกำลังป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่งที่ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอยู่ก็เป็นได้ โดยโรคที่พบได้ในไซบีเรียนฮัสกี้บ่อยๆ ก็คือ ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ, โรคข้อสะโพกเสื่อม, โรคท้องเสียเรื้อรัง, โรคต้อกระจกและโรคลมชัก

อาหารการกินของไซบีเรียน ฮัสกี้

อาหารสุนัขที่เหมาะสมในการเลี้ยงดูไซบีเรียนฮัสกี้ แบ่งเป็นตามช่วงวัยหลักๆ ดังนี้

1.อาหารสำหรับช่วงเป็นลูกสุนัข

ช่วงนี้ควรให้อาหารไซบีเรียนฮัสกี้ วันละ 4 มื้อ โดยให้เป็นอาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับลูกสุนัข หรืออาหารกระป๋องที่มีเนื้อสัตว์ชิ้นเล็กๆ เป็นส่วนผสมก็ได้

2.อาหารสำหรับช่วงโตเต็มวัย

ช่วงนี้ลดมื้ออาหารลงมาเป็น 1-2 มื้อต่อวัน อาจจะเป็นช่วงเช้าและเย็นอย่างละมื้อ และควรให้อาหารที่มีประโยชน์เช่น เนื้อสัตว์เพื่อช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและมีพลังงานเพียงพอในการทำกิจกรรมต่างๆ และถ้าหากคุณกำลังมองหาวิธีเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้ให้อ้วนในช่วงวัยนี้ด้วยการกิน ควรเน้นไปที่อาหารเสริมประเภทอื่นๆ ควบคู่กับอาหารเม็ด เช่น ไข่ต้ม, กล้วยน้ำว้า, ฟักทองต้มและผลไม้ จะทำให้น้องหมาอ้วนขึ้นแบบสุขภาพดีได้

3.อาหารสำหรับช่วงแก่ตัวอาหารที่เหมาะสำหรับไซบีเรียน

ฮัสกี้ในช่วงนี้ควรเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและมีโปรตีนสูงเพื่อช่วยบำรุงร่างกายน้องหมาที่กำลังเสื่อมถอย ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกไขมัน เพราะอาจทำให้เกิดโรคไขมันอุดตันเส้นเลือดได้

 

วิธีเลี้ยงดูไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่เหมาะสม และข้อควรระวังในการเลี้ยง

ผู้เลี้ยงที่ต้องการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ จำเป็นต้องมีพื้นที่ภายในบ้านที่เตรียมเอาไว้สำหรับน้องหมาด้วยอาณาเขตที่เหมาะสม และต้องเข้าใจธรรมชาติของมันให้มากที่สุด เพราะสุนัขพันธุ์นี้ไม่ชอบถูกบังคับด้วยคำสั่ง หรือถูกบังคับให้อยู่ติดในบ้านในห้องแคบ ๆ ทำให้จำเป็นต้องมีพื้นที่ที่เอาไว้สำหรับทำกิจกรรม

รวมถึงอากาศภายในบ้านจะต้องไม่ร้อนอบอ้าวมากจนเกินไป เพราะไซบีเรียนฮัสกี้เป็นสุนัขที่ชอบอากาศเย็น ๆ ถ้าเลี้ยงในที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง หรือสภาพแออัดอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งกาย และใจของน้องหมาได้

นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงไม่ควรขี้เกียจในการพาน้องหมาออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน อย่างน้อยทุก ๆ สัปดาห์ต้องหมั่นพาไซบีเรียน ฮัสกี้ ของคุณออกไปวิ่งเล่นอย่างน้อย 10 นาทีบ้าง

อีกทั้งผู้เลี้ยงต้องจัดข้าวของในบ้านให้อยู่เป็นที่เป็นทางมากที่สุด ไม่ควรวางของมีค่าระเกะระกะ หรือของที่หล่นแตกง่ายเอาไว้ในบริเวณที่เลี้ยงน้องหมา เพราะความซนของเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้ที่อะเลิร์ทอยู่ตลอดเวลานั้น อาจจะทำให้ข้าวของของคุณเสียหายได้ง่าย และเมื่อไรก็ตามที่มันพังข้าวของของคุณ ก็ไม่ควรที่จะดุหรือตีด้วยความรุนแรงเด็ดขาด ให้คุณรู้ไว้ว่า นั่นคือนิสัยธรรมชาติในการเล่นสนุกของมัน ดังนั้น ควรจัดพื้นที่ที่มีบริเวณกว้างขวางในการอยู่อาศัย และไม่เสี่ยงต่อการทำข้าวของเครื่องใช้แตกหัก จึงเป็นการดีที่สุดในการเลี้ยงดูไซบีเรียนฮัสกี้

ผู้เลี้ยงควรตระหนักไว้เสมอว่า การเลี้ยงดูไซบีเรียน ฮัสกี้ นั้น มาพร้อมความรับผิดชอบและการเอาใจใส่ที่มีความแตกต่างจากการเลี้ยงสุนัขพันธุ์อื่นๆ

เนื่องด้วยนิสัยและลักษณะเฉพาะตามธรรมชาติที่ไม่เหมือนสุนัขพันธุ์ไหน ๆ ทำให้ต้องมีความพร้อมเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของอาหารการกิน, การดูแลปฏิบัติต่อน้องหมา และการหาที่อยู่อาศัยรวมไปถึงสภาพอากาศภายในบ้านที่เลี้ยงด้วย เพื่อให้น้องหมาไซบีเรียนมีสุขภาพทั้งกายที่แข็งแรง และมีสุขภาพจิตที่ดีนั่นเอง

สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ 

(Siberian Husky) 

ไซบีเรียน ฮัสกี้ สุนัขหน้าตาน่ารักที่ใครเห็นก็ต้องอยากเลี้ยง

ที่มา  ::     https://boxmeaww.com/

การเตรียมตัวก่อนที่จะมีลูกสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้มาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน

ก่อนอื่นที่จะมีไซบีเรียน ฮัสกี้เป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว เราคงต้องหาข้อมูลเสียก่อนว่า การเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ซักตัวนั้น เราต้องเตรียมตัวอะไรก่อนบ้าง

• พื้นที่ในการเลี้ยง เนื่องด้วยไซบีเรียน ฮัสกี้เป็นสุนัขขนาดกลาง ถูกพัฒนาและเพาะพันธุ์มาเพื่อใช้งานในการลากเลื่อนหิมะ จึงรักการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ พื้นที่ในการเลี้ยงจึงต้องการบ้านที่มีพื้นที่มากพอสมควร เพื่อที่จะให้พวกเขามีที่วิ่งออกกำลังกาย สภาพพื้นผิวในการเลี้ยงที่ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงพวกเขาคือสภาพพื้นที่ลื่นเช่นในบ้านที่ปูกระเบื้องลื่น ๆ ปูหินอ่อนหินขัด หรือกระเบื้องปูพื้นภายนอกอาคารที่มีความลื่น เพราะนั่นจะเป็นการทำร้ายเค้า ทำให้ขาของเค้าเสียได้ จึงควรปล่อยให้พวกเขาวิ่งเล่นในสนามหญ้า หรือพื้นซีเมนต์ที่ไม่ขัดมันจึงจะดีกว่า อีกประการที่สำคัญคือการมีรั้วรอบขอบชิด เนื่องจากการชอบวิ่ง สำรวจและผจญภัย ไซบีเรียน ฮัสกี้จึงเป็นหนึ่งในสุนัขพันธุ์ที่มีสถิติหนีหายออกจากบ้านมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งบางทีออกจากบ้านไปแล้วก็จะวิ่งเพลินไปเรื่อย ๆ จนหาทางกลับบ้านได้ช้าหรือกลับไม่ถูก หรือถ้ามากไปกว่านั้นอาจจะหนีไปอยู่กับคนอื่นได้ด้วยความใจง่าย ใครเปิดประตูรถรับก็อาจจะขึ้นไปเลย อย่างร้ายที่สุดอาจจะเป็นการหนีหายออกไปแล้วเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
• อุปนิสัยของไซบีเรียน ฮัสกี้ ไซบีเรียน ฮัสกี้เป็นสุนัขที่เป็นมิตรกับคนทุกคน ไม่ก้าวร้าว ไม่มีการแสดงออกถึงการหวงเจ้าของซึ่งเป็นลักษณะนิสัยของสุนัขเฝ้ายาม เพราะฉะนั้นไซบีเรียน ฮัสกี้จึงไม่เหมาะแก่จุดประสงค์ในการเฝ้าบ้าน เฝ้าทรัพย์สิน ด้วยหน้าตาแล้วอาจจะพอใช้การได้ แต่ด้วยนิสัยแล้วไม่ใช่เลย ไซบีเรียน ฮัสกี้ชอบสังคม ขี้เล่น แต่จะไม่มาคลอเคลียประจบประแจงเจ้าของเหมือนกับสุนัขพันธุ์เล็ก มีความเป็นตัวของตัวเองสูงซึ่งในบางครั้งจะออกทำท่าทางหยิ่ง ๆ เสียด้วยซ้ำ นอกไปเสียจากบางครั้งที่เรามีขนมหรือของเล่น ไซบีเรียนบางตัวอาจจะอยู่เล่นกับเราโดยไม่เบื่อ นอกจากนี้ยังเป็นสุนัขที่ไฮเปอร์ พลังงานเยอะ รักการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ หลาย ๆ ตัวเมื่อได้ออกไปวิ่งออกกำลังกายแล้วจะหายเครียด เพราะได้ปลดปล่อยพลังงาน พวกมันจะไม่ค่อยเห่าซักเท่าไหร่ แต่จะหอนมากกว่า แต่การหอนนี้ไม่ใช่การหอนพร่ำเพรื่อ แต่จะหอนเมื่อมีความรู้สึกหว้าเหว่ หรือหอนในช่วงติดสัดเพราะอยากจะมีคู่
• การจัดการสถานที่ต่าง ๆ ที่สำคัญ ในที่นี้หมายถึงการเตรียมสถานที่สำหรับอยู่อาศัยของสุนัขนี่เอง สุนัขก็ต้องการพื้นที่และอาณาเขตของตัวเอง คุณจึงควรเตรียมความพร้อมสำหรับตรงนี้ไว้ด้วย คิดไว้ก่อนล่วงหน้าได้เลยว่าสุนัขของคุณจะต้องนอนบริเวณไหน วิ่งเล่นที่ใด ขับถ่ายตรงไหน เตรียมการไว้ล่วงหน้า อาจจะมีการจัดหากรงไว้ให้สุนัข ขนาดควรจะใหญ่พอสมควรให้สุนัขได้ยืนหมุนตัวไปมาเมื่อเขาโตเต็มที่ได้ ถ้าเป็นกรงที่มีพื้นสแลท ควรจะใช้แบบขนาด 4 สแลทเป็นอย่างน้อย (สแลท 1 แผ่นจะ = 30x100 ซม. ถ้า 4 แผ่นก็จะมีความกว้าง 100 ซม. ยาว 120 ซม. ส่วนความสูงก็ควรจะสูงประมาณ 120 ซม. เป็นอย่างน้อยครับ) หรือถ้าไม่มีกรง อาจจะจัดหาห้องจัดหามุมให้เขาเพื่อที่จะให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เอาไว้กินข้าว นอนกัดของเล่น และเอาไว้นอน ส่วนสถานที่ที่ปล่อยวิ่งเล่ีนและขับถ่ายอาจจะเป็นบริเวณเดียวกันได้ ควรจัดที่ทางและย้ายหนีสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการให้สุนัขเล่นหรือกัดแทะทำลายให้ออกห่างจากรัศมีไว้ เพื่อป้องกันความเสียหาย อ่างบัว โอ่งน้ำ เป็นของโปรดของเจ้าไซบีเรียนพวกนี้ หลาย ๆ ตัวจะลงไปแช่ ขุดดึงต้นไม้ จับปลา ฯลฯ ควรหาข้อมูลและตระเตรียมไว้ให้ดี
• การกินและขับถ่าย ไซบีเรียน ฮัสกี้ไม่ได้กินมากอย่างที่คิดแต่ก็ไม่ได้น้อยซักเท่าไหร่ การขับถ่ายจะสัมพันธ์กับการกินด้วย และค่าอาหารก็เป็นอีกเรื่องที่ควรคำนวณไว้ล่วงหน้าว่าค่าอาหารต่อเดือนจะต้องเตรียมตัวไว้อย่างไรบ้าง ในช่วงเจริญเติบโต อาจจะใช้ปริมาณมากเสียหน่อย เฉลี่ย ๆ แล้วในลูกสุนัขอายุ 3 เดือน อาจจะกินอาหารในปริมาณประมาณวันละ 240 กรัม หรือ 3 ถ้วยตวง (ใช้ถ้วยตวงสำหรับการทำอาหาร หรือถ้วยตวงสำหรับตักข้าวสาร เพราะว่าหาง่าย และขนาดค่อนข้างมาตรฐานกว่าที่ตักอาหารที่เป็นของแถมมาจากอาหารสำเร็จยี่ห้อต่าง ๆ) เท่ากับว่าลูกสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ จะกินอาหารเดือนนึงประมาณ 7,200 กรัม หรือ 7.2 กิโลกรัม (จะเท่ากับอาหาร 15 กิโลกรัมครึ่งถุง) เมื่อโตประมาณ 6-9 เดือนจะกินประมาณวันละ 400-480 กรัม หรือ 5-6 ถ้วยตวง 12-15 กิโลกรัมต่อเดือน ในสุนัขโต 2 ขวบไปแล้ว จะกินน้อยลงเหลือซักประมาณวันละประมาณ 160-320 กรัม หรือ 2-4 ถ้วยตวง บางตัวกินอาหาร 15 กิโลกรัมถุงเดียว ได้ถึง 3 เดือนกันเลยทีเดียว แต่เรื่องของอาหาร เป็นการคำนวณจริง ๆ แล้วอาหารสำเร็จรูปแต่ละยี่ห้อ แต่ละเกรด ก็จะมีปริมาณสารอาหาร และอัตราในการดูดซึม การย่อยสลายต่าง ๆ กันด้วย อาหารที่ราคาย่อมเยาหน่อย อาจจะต้องใช้ปริมาณที่มากขึ้น และก็ต้องเจอกับปริมาณของสิ่งขับถ่ายที่มากขึ้นไปด้วย เทียบกับอาหารเกรดพรีเมี่ยม หรือซุปเปอร์พรีเมี่ยม ที่บางตัวอาจจะใช้ปริมาณการกินที่น้อยกว่าที่ผมได้กล่าวมาแล้วอีกด้วย การขับถ่ายก็จะน้อยและเบาแรงของเราลง ในราคาที่กระเป๋าเงินอาจจะเบาตามไปด้วยเหมือนกัน) การให้ใช้อาหารพรีเมี่ยมเกรดขึ้นไป เพราะมีผลกับเรื่องสุขภาพในระยะยาว กินน้อยขับถ่ายน้อยสะดวกเก็บ โดยอาหารพรีเมี่ยมเกรดของไทยราคาต่อถุง 15 กิโลกรัม จะตกอยู่ประมาณ 800-1,200 บาท ส่วนถ้าเป็นอาหารพรีเมี่ยมนำเข้าจะตกประมาณ 1,500-2,500 และถ้าเทพ ๆ หน่้อย อาจจะเจอถุงเล็ก ๆ 12 กิโลกรัม ในราคาเกือบ ๆ จะ 3 พันบาท ก็ลองเลือกอาหารให้เหมาะให้สมกับตัวเองกันได้
• 
  
• การดูแลประจำวัน ไม่ว่าจะสุนัขพันธุ์ไหน วัยไหน ก็ล้วนแล้วแต่ต้องการใช้เวลาร่วมกับเจ้าของทั้งนั้นครับ สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ส่วนใหญ่จะมีนิสัยรักการวิ่งการออกกำลังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงเป็นสุนัขที่ค่อนข้างจะเอาท์ดอร์พอสมควร พวกเขาชอบเที่ยว ชอบวิ่ง ชอบขึ้นรถ ชอบที่จะมีส่วนร่วมกับเจ้าของตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจึงควรจัดสรรเวลาให้พวกเขาสำหรับการออกกำลังกายซักวันละครึ่งชั่วโมง อาจจะเป็นการพาออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน (พร้อมใส่สายจูงทุกครั้ง  เพราะถ้าเขาวิ่งหนีคุณไป คุณอาจจะกลายเป็นคนที่ถูกพวกมันพาออกกำลังกายไปเสียเอง) หรือวิ่งเล่นกันในบ้าน  ส่วนเรื่องการดูแลอื่น ๆ ที่ต้องเอาใจใส่พอสมควรเลยก็คือเรื่องขน ไซบีเรียน ฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีขนยาวปานกลาง และต้องการการดูแลทำความสะอาดพอสมควร คุณจึงควรมีเวลาสำหรับการดูแลแปรงขนหวีขนให้พวกเค้าซักวันละ 10-20 นาที ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญก็คือเรื่องการอาบน้ำ การอาบก็ไม่ค่อยจะยากเท่าไหร่ แต่กว่าจะเป่าให้แห้งนั้นอาจจะต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงต่อตัว) โดยการอาบน้ำนี้แล้วแต่ความสะดวกของเจ้าของ และความสกปรกของสุนัขด้วย อย่างน้อย ๆ เดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย ส่วนสุนัขประกวดจะอาบอาทิตย์ละครั้ง
• การทำวัคซีน การป้องกันเห็บหมัด และการถ่ายพยาธิ เป็นการดูแลสุขภาพที่ควรจะทำตามตาราง และควรมีสัตวแพทย์ประจำไว้สำหรับคอยปรึกษาและดูแลสุขภาพของสุนัขไว้ด้วย ซึ่งคุณควรจะเตรียมตัวหาที่หาทางหาคลีนิคหรือโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้บ้านและมีความชำนาญ ทำความรู้จักคุณหมอไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะนำสุนัขเข้าบ้านเสียเลยจะดีมาก ๆ 
•  การทำวัคซีนนั้น ปกติถ้าเป็นลูกหมาเล็ก ๆ ทางคอกทางฟาร์มควรจะทำวัคซีนให้ลูกหมาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว อย่างน้อย 2 เข็ม ถ้าจะให้ดีควรจะเป็น 3 เข็ม นั่นหมายความว่าลูกสุนัขควรจะมีอายุอย่างน้อย 70 วัน(หลังจากทำวัคซีนเข็มที่ 2 เมื่ออายุ 60 วัน) หรือจะให้ดีควรจะรับลูกสุนัขเมื่ออายุ 3 เดือนไปแล้ว เนื่องจากว่า การทำวัคซีนเพียงเข็มเดียวไม่อาจจะการันตีได้ว่า ลูกสุนัขนั้นมีภูมิคุ้มกันแล้ว การกระตุ้นเข็มที่ 2 จึงเป็นเรื่องจำเป็นก่อนที่ลูกสุนัขจะถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่ในที่อยู่ใหม่ ส่วนเรื่องการถ่ายพยาธิสำหรับลูกสุนัขนั้นก็ควรจะทำตามตารางอย่างเคร่งครัด มิเช่นนั้นให้อาหารให้ดีอย่างไรก็ได้เอาไปแบ่งพยาธิด้วยเสียอีก การถ่ายพยาธิในลูกสุนัขจากทางคอกทางฟาร์มนั้น ควรจะถ่ายเมื่อลูกสุนัขอายุ 2,4,6,8 สัปดาห์ แล้วเมื่อลูกสุนัขอายุ 3 เดือน ส่วนเมื่อคุณรับสุนัขมาไว้ในการดูแลของคุณแล้ว ยังจะต้องมีการถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยซัก 6 เดือนครั้ง หรือถ้าจะให้ดีควรทำทุก 3 เดือน ส่วนเรื่องเห็บหมัด ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่ควรทำความรู้ความเข้าใจเอาไว้เสียแต่เนิ่น ๆ อย่าชะลาใจคิดว่าเป็นของคู่กันกับสุนัขเป็นอันขาด เห็บหมัดนี้ เป็นพาหะนำโรคที่น่ากลัว ซึ่งอาจทำให้สุนัขถึงตายได้ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องที่ต้องเตรียมการรับมือไว้เสียแต่เนิ่น ๆ กันไว้ดีกว่าแก้

ที่มา  : www.spartasiberians.com