วิธีกินแอปเปิลไซเดอร์ให้ได้ประโยชน์และปลอดภัย
แอปเปิลไซเดอร์ หรือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทว่าบางคนอาจไม่รู้วิธีรับประทานอย่างกระจ่างชัด และกำลังกังวลว่าจะได้รับสรรพคุณจากแอปเปิลไซเดอร์ไม่ครบถ้วน ดังนั้น ลองมาดูวิธีกินแอปเปิลไซเดอร์ให้ได้ประโยชน์และปลอดภัยกัน
แอปเปิลไซเดอร์ คืออะไร

แอปเปิลไซเดอร์ ภาษาอังกฤษ คือ Apple Cider Vinegar เป็นน้ำส้มสายชูหมักประเภทหนึ่ง ที่นำแอปเปิลหรืออาจใช้ผลไม้ชนิดอื่นด้วยก็ได้มาคั้นเป็นน้ำ แล้วนำไปหมักกับยีสต์และน้ำตาล เพื่อให้เกิดกรดอะซิติก ซึ่งกรดตัวนี้ทำให้แอปเปิลไซเดอร์มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นอกจากนี้ในการหมักก็ยังให้สารอาหารอื่น ๆ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส พรีไบโอติก เป็นต้น
แอปเปิลไซเดอร์ สรรพคุณดียังไง

ประโยชน์ของแอปเปิลไซเดอร์ที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ
- ช่วยย่อยอาหาร ในแอปเปิลไซเดอร์มีกรดอะซิติกที่ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำย่อย ทำให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากอาหารไม่ย่อยไปด้วย
- มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิด โดยสามารถเจือจางแล้วกลั้วคอเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียในลำคอได้ หรือผสมน้ำแล้วใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อตามพื้นที่ต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน
- อาจช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยจากการศึกษาพบว่า การกินแอปเปิลไซเดอร์หลังมื้ออาหารมีส่วนช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้ ทว่าการศึกษานี้ยังอยู่ในกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นนะคะ ไม่ควรหวังผลหรือใช้แทนยาลดน้ำตาลในเลือดไปเลย
- อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด จากการศึกษาขนาดเล็กชิ้นหนึ่งพบว่า การรับประทานแอปเปิลไซเดอร์มีส่วนช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ แต่ยังจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
แอปเปิลไซเดอร์ ลดพุง
ลดน้ำหนักได้จริงไหม

จากการศึกษาวิจัยของหลาย ๆ แห่งพบว่า การรับประทานแอปเปิลไซเดอร์มีส่วนช่วยลดไขมันและลดน้ำหนักในกลุ่มอาสาได้ ทว่าส่วนใหญ่เป็นการศึกษาขนาดเล็กที่มีกลุ่มทดลองจำนวนน้อย หรือทดลองในระยะเวลาสั้นเกินไป จึงยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์แน่ชัดว่าแอปเปิลไซเดอร์ช่วยลดพุง ลดน้ำหนักได้จริง ดังนั้น จึงไม่ควรมุ่งหวังประโยชน์ข้อนี้จากแอปเปิลไซเดอร์ หรือใช้แอปเปิลไซเดอร์เพียงอย่างเดียวในการลดความอ้วน
วิธีกินแอปเปิลไซเดอร์ ให้ได้ประโยชน์

1. ใช้ปรุงอาหาร
ไม่ควรกินแอปเปิลไซเดอร์เพียว ๆ แต่ควรนำมาเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารแทน เช่น ใช้เป็นน้ำสลัด หรือใช้ในการทำมายองเนสโฮมเมด เป็นต้น
2. ผสมน้ำดื่ม
นำแอปเปิลไซเดอร์ปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ (15-30 มิลลิลิตร) ผสมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว (ประมาณ 200-240 มิลลิลิตร) โดยสามารถดื่มก่อนอาหาร หลังอาหาร หรือก่อนนอนก็ได้ แต่ควรจำกัดปริมาณเพียงแค่ 1 แก้วต่อวัน เพื่อเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้จากการรับประทานแอปเปิลไซเดอร์มากเกินไป
3. ผสมน้ำผึ้งหรือน้ำผลไม้
หากไม่ชอบรสชาติเปรี้ยวสามารถนำแอปเปิลไซเดอร์มาผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำผลไม้ก็ได้ แต่ควรเจือจางทั้งสองอย่างกับน้ำเปล่า และใช้ในปริมาณไม่เกิน 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน อีกทั้งควรระวังปริมาณน้ำตาลในน้ำผึ้งหรือน้ำผลไม้ด้วยนะคะ
4. รับประทานแบบเม็ดหรือแบบกัมมี่
นอกจากการดื่มน้ำแอปเปิลไซเดอร์แล้ว เดี๋ยวนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเม็ดและเยลลี่กัมมี่ที่ช่วยให้รับประทานแอปเปิลไซเดอร์ได้สะดวกขึ้น เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นแรงและรสเปรี้ยว และยังไม่ต้องกลัวว่ากรดในน้ำส้มสายชูหมักจะมาทำลายเคลือบฟันหรือระคายเคืองกระเพาะอาหาร เพียงแต่ต้องเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ มีเครื่องหมาย อย. และยังต้องระวังเรื่องน้ำตาล รวมทั้งสารเติมแต่งต่าง ๆ ที่เป็นส่วนประกอบของขนม ถ้าจะให้ดีควรเลือกแบบน้ำตาลต่ำ มีสารเติมแต่งน้อยที่สุด และต้องรับประทานตามปริมาณที่ระบุไว้บนฉลาก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง
เคล็ดลับในการกินแอปเปิลไซเดอร์
- ควรเจือจางกับน้ำก่อนทุกครั้ง อย่ากินทั้งช้อนโต๊ะ เพราะแอปเปิลไซเดอร์มีความเป็นกรดสูง อาจทำให้เคลือบฟันสึกกร่อน เกิดการระคายเคืองช่องปาก ลำคอ หรือกระเพาะอาหารได้ในบางคน
- ใช้หลอดดูดแทนการดื่มจากแก้วโดยตรง เพื่อป้องกันกรดในแอปเปิลไซเดอร์ทำลายสารเคลือบฟัน
- หลังจากดื่มแอปเปิลไซเดอร์ให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของฟัน
ข้อควรระวังในการกินแอปเปิลไซเดอร์

- ร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน หากเพิ่งเคยกินแอปเปิลไซเดอร์ครั้งแรก ควรใช้ในปริมาณเล็กน้อย และเข้มข้นน้อยที่สุด เมื่อร่างกายปรับสภาพได้แล้วค่อยเพิ่มความเข้มข้นไปทีละสเต็ป
- ไม่ควรรับประทานตอนท้องว่าง เพราะกรดในแอปเปิลไซเดอร์จะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคือง การรับประทานหลังอาหารจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้
- ควรกินแอปเปิลไซเดอร์ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป และไม่ควรกินแอปเปิลไซเดอร์ในปริมาณสูงต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เพราะความเป็นกรดอาจทำให้ปริมาณโพแทสเซียมในเลือดต่ำ และลดความหนาแน่นของมวลกระดูกได้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคกระเพาะ กรดไหลย้อน เบาหวาน โรคไต ผู้ที่มีระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องความหนาแน่นของมวลกระดูก เช่น กระดูกพรุน รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเรื่องเคลือบฟัน ไม่ควรรับประทาน หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- แอปเปิลไซเดอร์อาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาเบาหวาน ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิต ยาถ่าย ยารักษาโรคหัวใจบางชนิด ฯลฯ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
- เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานแอปเปิลไซเดอร์
แม้ว่าแอปเปิลไซเดอร์จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง ทว่าก็มีโทษที่ควรระวังด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงควรใช้อย่างเหมาะสม และไม่ควรดูแลสุขภาพด้วยแอปเปิลไซเดอร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรกินอาหารให้ดี นอนให้ดี และเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ ด้วยนะคะ
Apple Cider Vinegar , แอปเปิ้ลไซเดอร์ , คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ , ประโยชน์
#วิธีกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ #ประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์ #CiderVinegar #แอปเปิ้ลไซเดอร์กินตอนไหน #วิธีกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ #ลดพุงแอปเปิ้ลไซเดอร์ #สรรพคุณแอปเปิ้ลไซเดอร์
CR :: https://health.kapook.com/view283794.html
วิธีกินแอปเปิลไซเดอร์ให้ได้ประโยชน์และปลอดภัย
ตอบลบ1. ช่วยลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมัน
หากสาวๆ ดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำเปล่าเป็นประจำ จะได้รับสารสำคัญ คือ เพคติน (Pectin) ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ สามารถดูดซับน้ำตาลและไขมัน ไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย จึงมีส่วนช่วยลดน้ำหนัก นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ร่วมกับวิตามิน แร่ธาตุ และซุปเปอร์ฟู้ดตัวอื่นๆ จะส่งผลให้การเผาผลาญไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยให้พุงยุบได้ด้วย
2. ช่วยชะลอความแก่
แอปเปิ้ลไซเดอร์มีความเป็นกรดประมาณ 5% มีส่วนประกอบของธาตุโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการแบ่งเซลล์ของร่างกาย ทำให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้รวดเร็ว ช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ ดังนั้นจึงช่วยชะลอความชราได้ ช่วยลดอาการผมร่วงและผมหงอกได้อีกด้วย
3. ดีท็อกซ์และขับของเสีย
แอปเปิ้ลไซเดอร์ มีคุณสมบัติเป็นยาปฏิชีวนะ ช่วยยาฆ่าเชื้อโรค และทำลายแบคทีเรียตัวร้าย ที่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ช่วยดีท็อกซ์ และช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร ช่วยกระตุ้นกระบวนการล้างพิษตามธรรมชาติของร่างกาย โดยเฉพาะการขับสารพิษของตับ เนื่องจากในแอปเปิ้ลไซเดอร์ มีกรดมาลิกและกรดทาร์ทาริก ซึ่งช่วยให้กระบวนการย่อยโปรตีนและไขมันทำงานได้ดี ส่งผลให้ "สุขภาพ" ดีขึ้น
4. ช่วยย่อยอาหาร
เมื่อดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำเปล่าเป็นประจำ จะช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดี ฟื้นฟู "สุขภาพ" ในช่องท้อง เช่น แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้ลำไส้บีบตัวได้ดีขึ้น ป้องกันอาการอาหารไม่ย่อย โดยทานก่อนรับประทานอาหารมื้อหนักๆ เช่น อาหารที่มีเนื้อสัตว์ย่อยยาก อย่างเช่น สเต็กเนื้อ หรือพวกอาหารบุฟเฟ่ต์ต่างๆ
5. บรรเทาโรคเบาหวาน
แอปเปิ้ลไซเดอร์ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ส่งผลดีต่อ "สุขภาพ" ของผู้ป่วยเบาหวาน โดยมีงานวิจัยจากต่างประเทศระบุว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่รับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์วันละ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาดก่อนนอน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนเวลาอาหารเช้าได้ 4-6%
แอปเปิ้ลไซเดอร์รับประทานอย่างไร
ตอบลบเพียงแค่ใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ 1-2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 แก้ว ดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือก่อนอาหารเช้า กลางวัน และเย็น ราว 30 นาที จะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น กระตุ้นการขับถ่าย นอกจากนี้ยังสามารถดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำเปล่าก่อนนอนได้ด้วยเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด หลายคนอาจสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่ควรดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์แบบเข้มข้นแต่ต้องผสมน้ำเปล่าด้วยทุกครั้ง เนื่องมาจากแอปเปิ้ลไซเดอร์มีความเป็นกรดสูงและอาจทำให้เคลือบฟันและหลอดอาหารเสียหายได้จึงต้องทำให้เจือจางก่อนดื่มนั่นเอง
7 คุณประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์
โรคเบาหวาน
แอปเปิ้ลไซเดอร์มีสารต้านไกลซีมิกจึงเป็นผลดีกับระดับน้ำตาลในเลือด กรดไกลซีมิกในแอปเปิ้ลไซเดอร์อาจมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เนื่องจากทำให้การย่อยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นไปอย่างช้า ๆ บางทฤษฎีบอกว่า แอปเปิ้ลไซเดอร์จะไปขัดขวางเอนไซม์การย่อยบางชนิดทำให้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนถูกย่อยไปเป็นน้ำตาลช้าลงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ และยังเพิ่มความไวของอินซูลิน (insulin sensitivity) ซึ่งส่งผลให้ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ การทดลองพบว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่ดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์วันละ 2 ช้อนโต๊ะโดยผสมน้ำสะอาดก่อนนอน พบว่า สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ 4-6%
โรคหัวใจ
สารโพลิฟีนอลที่อยู่ในแอปเปิ้ลไซเดอร์จะช่วยป้องกันการรวมตัวของไขมันเลวกับออกซิเจนจึงมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่พบว่า แอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในหนูทดลองได้ และกรดอะซิติกในน้ำส้มสายชูยังทำให้ระดับความดันโลหิตหนูของลดลงได้
ลดความอ้วน
แอปเปิ้ลไซเดอร์มีผลดีต่อการลดความอ้วนเพราะมี “เพคติน” ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้จึงทำให้อิ่มเร็ว รับประทานอาหารได้น้อยลง อีกทั้งยังช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดด้วย ได้มีการทดลองกับกลุ่มอาสาสมัครให้รับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงร่วมกับการดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์พบว่า ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลงแต่อิ่มไปทั้งวันและสามารถลดน้ำหนักกลุ่มผู้ทดลองได้ถึง 0.6 กรัมในแต่ละเดือน
ใช้เป็นยาชูกำลัง
แอปเปิ้ลไซเดอร์มีโพแทสเซียมอยู่สูงและมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดความอ่อนเพลีย แถมยังมีกรดอะมิโนที่ช่วยป้องกันการต่อตัวของกรดแลคติกซึ่งเป็นของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญพลังงานจากการออกกำลังกายได้ ทั้งนี้หากร่างกายสะสมกรดแลคติกมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าได้
ดีท็อกซ์และขับของเสีย
ด้วยความที่อุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ แอปเปิ้ลไซเดอร์จึงสามารถฆ่าเชื้อโรคได้หลายชนิดจึงมีผู้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์เพื่อดีทอกซ์ ทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร และช่วยกระตุ้นการขับสารพิษของตับ
ช่วยย่อยอาหาร
แอปเปิ้ลไซเดอร์มีกรดมาลิกและกรดทาร์ทาริกช่วยให้กระบวนการย่อยโปรตีนและไขมันทำงานได้ดี แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อยได้ แนะนำให้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ก่อนอาหารมื้อหนัก เช่น บุฟเฟ่ต์ หมูกระทะชุดใหญ่ หรือก่อนการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ย่อยยากๆ เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ
ทำความสะอาด
นอกจากนี้น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ยังสามารถนำมาเช็ดหน้าเพื่อความสะอาดหมดจดได้ ทาหน้าเพื่อรักษาสิวและฝ้า ได้ เพียงแต่ต้องนำมาผสมกับน้ำในปริมาณเท่าๆ กัน
วิธีใช้เพียงแค่นำสำลีมาชุบเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าให้ทั่ว แต่หากต้องการรักษาสิวและฝ้าแนะนำให้ทาเฉพาะจุด หรือใช้สำลีชุบมาแปะไว้บนใบหน้าได้ บางคนยังนำแอปเปิ้ลไซเดอร์มาหมักผมเพื่อแก้ปัญหารังแคด้วย โดยการนำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1-2 ช้อนโต๊ะผสมน้ำสะอาด 1 แก้ว แล้วไปหมักผมหลังสระผมเสร็จ
โทษและข้อควรระวังการกินแอปเปิ้ลไซเดอร์
น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลนั้น เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันโรคร้ายหลายโรคด้วยกัน หรือจะนำมาล้างผักผลไม้ให้สะอาดก็ทำได้เช่นกัน
ที่สำคัญยังสามารถนำมาใช้สำหรับลดความอ้วนได้ อย่างไรก็ดี มีรายงานถึง “โทษจากการดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์” ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นกรดต้องเจือจางก่อนรับประทาน เพื่อป้องกันการระคายเคืองของเนื้อเยื่อต่างๆ เคลือบฟันเสียหาย อาการแสบร้อนในท้อง ปวดท้อง รับประทานในขนาดที่เหมาะสม และไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกินไป นอกจากนี้ผู้เป็นโรคไทรอยด์ ไม่ควรดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ทั้งก่อนและหลังกินยารักษาไทรอยด์