Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน

 

สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน



ถ้าหากการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเครื่องบินกำลังใกล้เข้ามา ถึงเวลาเตรียมตัวให้พร้อมแล้ว โดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารมือใหม่ที่อาจรู้สึกตื่นเต้นและกังวลเล็กน้อย การเตรียมพร้อมจะช่วยลดความกังวลได้อย่างดี เพราะฉะนั้นมาทำความเข้าใจกฎการนำสิ่งของขึ้นเครื่องกันดีกว่า

สายการบินมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนเครื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การปฏิบัติตามกฎไม่เพียงช่วยให้การเดินทางราบรื่น แต่ยังปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารทุกท่านด้วย

ขอแนะนำให้ตรวจสอบสัมภาระอย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง หากมีข้อสงสัยว่าสิ่งใดนำขึ้นเครื่องได้หรือไม่ บทความนี้เป็นคำตอบให้ได้

การละเมิดกฎอาจนำมาซึ่งผลร้ายที่ไม่คาดคิด ทั้งด้านความปลอดภัยและกฎหมาย ไม่มีใครอยากให้การเดินทางที่น่าตื่นเต้นต้องมาสะดุดเพราะเรื่องเช่นนี้

ดังนั้น ขอให้ทุกท่านใส่ใจกับกฎระเบียบ เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยและสบายใจของทุกคน หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมตัวเดินทาง ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยว!

ของห้ามขึ้นเครื่องบิน มีอะไรบ้าง?

15 ของห้ามขึ้นเครื่องบิน มีอะไรบ้าง?
  1. ของเหลว เครื่องสำอาง เจล สเปรย์ 100 มล.
    ข้อกำหนด: ของเหลว เครื่องสำอาง เจล และสเปรย์ใน Carry-on ต้องบรรจุในภาชนะไม่เกิน 100 มล. และต้องใส่ในถุงพลาสติกใสที่สามารถปิดได้
    ข้อยกเว้น: สินค้าปลอดภาษีที่ซื้อในเขตปลอดภาษี, ยาเหลวที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างเดินทาง (พร้อมใบรับรองแพทย์), อาหารทารกหรือนมสำหรับผู้ที่ต้องการโภชนาการพิเศษ
    เคล็ดลับการแพ็ค: ใช้ขวดขนาดเล็กหรือซื้อผลิตภัณฑ์ขนาดเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
  2. แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)
    ข้อกำหนด: แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ต้องพกใน Carry-on และมีความจุไม่เกิน 100 วัตต์ชั่วโมง หากเกินต้องได้รับอนุญาตพิเศษจากสายการบิน
    เหตุผล: เพื่อป้องกันการเกิดไฟลุกไหม้ที่อาจเกิดจากความร้อนสูงหรือการลัดวงจร
    คำแนะนำ: ตรวจสอบความจุของแบตเตอรี่ก่อนเดินทางและเก็บในที่ที่ง่ายต่อการหยิบใช้
  3. อาวุธและของมีคม
    ข้อกำหนด: อาวุธและวัตถุมีคม เช่น มีด, กรรไกรที่มีใบมีดยาวกว่า 6 ซม., และของที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ ห้ามพกใน Carry-on
    เหตุผล: เพื่อป้องกันอันตรายในระหว่างการบิน
    ทางเลือก: หากจำเป็น ให้เก็บในกระเป๋าโหลดใต้เครื่องหรือใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนที่ปลอดภัยกว่า เช่น กรรไกรตัดเล็บขนาดเล็ก
  4. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
    ข้อกำหนด: ห้ามพกสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น ของปลอม, กระเป๋า, นาฬิกา
    ผลกระทบทางกฎหมาย: การพกสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์สามารถนำไปสู่การถูกปรับหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย
    คำแนะนำ: หลีกเลี่ยงการซื้อหรือพกสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย
  5. วัตถุไวไฟและวัตถุระเบิด
    ข้อกำหนด: วัตถุไวไฟ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง, ไฟแช็ก, สเปรย์สี ห้ามทั้งใน Carry-on และกระเป๋าโหลด
    อธิบายอันตราย: วัตถุเหล่านี้สามารถทำให้เกิดไฟไหม้หรือระเบิดในเครื่องบิน
    คำแนะนำ: เลี่ยงการพกวัตถุไวไฟ และตรวจสอบรายการสิ่งของต้องห้ามของสายการบิน
  6. อาหารที่มีกลิ่นแรง
    ตัวอย่าง: ทุเรียน, กะปิ, ปลาแห้ง
    คำแนะนำ: หากจำเป็นต้องพก ควรบรรจุในภาชนะที่ปิดสนิทและใส่ในกระเป๋าโหลดเพื่อไม่ให้รบกวนผู้อื่น
  7. สัตว์มีพิษและสัตว์ดุร้าย
    ข้อกำหนด: ห้ามนำสัตว์มีพิษและสัตว์ดุร้ายขึ้นเครื่อง
    คำแนะนำ: สำหรับสัตว์เลี้ยงทั่วไป สามารถขึ้นเครื่องได้ตามกฎของสายการบิน โดยต้องเตรียมกรงและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
  8. สารอันตรายและสารเสพติด
    ข้อกำหนด: สารเคมีอันตราย เช่น กรด, น้ำยาล้างท่อ, และยาเสพติด
    ผลกระทบทางกฎหมาย: พกสารเสพติดและสารอันตรายอาจทำให้ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย
    คำแนะนำ: หลีกเลี่ยงการพกพาสารอันตรายและตรวจสอบกฎระเบียบก่อนเดินทาง
  9. บุหรี่ไฟฟ้า
    ข้อกำหนด: บุหรี่ไฟฟ้าสามารถพกใน Carry-on แต่ห้ามใส่ในกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง
    คำแนะนำ: ถอดแบตเตอรี่ออกและเก็บในถุงที่สามารถเปิดให้ตรวจได้ง่าย
  10. แม่เหล็กและวัตถุที่แตกหักง่าย
    ข้อกำหนด: แม่เหล็กที่มีความแรงสูงและวัตถุที่แตกหักง่ายอาจรบกวนระบบการบินและเสียหาย
    คำแนะนำ: แพ็คในกระเป๋าที่มีการรองรับแรงกระแทกและไม่เก็บใกล้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  11. ของประดับมูลค่าแพง
    ความเสี่ยง: สิ่งของมีค่ามีความเสี่ยงที่จะสูญหายหรือถูกขโมย
    คำแนะนำ: เก็บใน Carry-on และหมั่นตรวจสอบกระเป๋าอย่างสม่ำเสมอ
  12. เนื้อสัตว์ของสดหรือแช่แข็ง
    ความเสี่ยง: เนื้อสัตว์สดหรือแช่แข็งต้องเก็บในภาชนะที่เหมาะสมและตามข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน
    คำแนะนำ: ตรวจสอบกฎของประเทศปลายทางเกี่ยวกับการนำเข้าเนื้อสัตว์
  13. อุปกรณ์กีฬาและเครื่องดนตรี
    ความเสี่ยง: อุปกรณ์กีฬาขนาดใหญ่และเครื่องดนตรีต้องโหลดใต้เครื่อง
    คำแนะนำ: ใช้กระเป๋าเฉพาะสำหรับป้องกันการกระแทกและแจ้งสายการบินล่วงหน้า
  14. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่
    ความเสี่ยง: อุปกรณ์ขนาดใหญ่เช่น โทรทัศน์, โปรเจคเตอร์ ต้องโหลดใต้เครื่อง
    คำแนะนำ: ห่อด้วยวัสดุกันกระแทกและทำเครื่องหมายว่าเป็นของที่แตกหักง่าย
  15. ของใช้ส่วนตัวที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
    ความเสี่ยง: เครื่องม้วนผม, เตารีดพกพา
    คำแนะนำ: ตรวจสอบว่าของใช้ส่วนตัวของคุณปลอดภัยและอนุญาตให้พกขึ้นเครื่องได้ตามกฎของสายการบิน
*** สิ่งของขึ้นเครื่องบินได้  US! ✈️ 





เคล็ดลับจัดกระเป๋า : ห้ามพลาด สิ่งของขึ้นเครื่องบินที่คุณต้องรู้

เคล็ดลับจัดกระเป๋า : ห้ามพลาด สิ่งของขึ้นเครื่องบินที่คุณต้องรู้

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการเดินทางโดยเครื่องบิน

การเตรียมตัวและจัดกระเป๋าเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การเดินทางของคุณราบรื่นและไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการนำของต้องห้ามขึ้นเครื่องบิน ด้านล่างนี้คือเคล็ดลับเพิ่มเติมที่มีประโยชน์สำหรับนักเดินทาง:

  1. จัดกระเป๋าอย่างมีประสิทธิภาพ
    • ใช้กระเป๋าที่แบ่งช่องเป็นสัดส่วน: เลือกใช้กระเป๋าที่มีช่องแบ่งภายใน จะช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บสิ่งของได้เป็นระเบียบและค้นหาได้ง่าย
    • แพ็คของที่จำเป็นไว้ด้านบน: วางของที่ต้องใช้บ่อยหรือจำเป็น เช่น ของเหลวที่ต้องผ่านการตรวจ, เอกสารการเดินทาง ไว้ด้านบนของกระเป๋าเพื่อความสะดวกในการหยิบใช้
    • ใช้ถุงสุญญากาศสำหรับเสื้อผ้า: ถุงสุญญากาศช่วยลดพื้นที่และทำให้คุณสามารถนำเสื้อผ้าไปได้มากขึ้นในกระเป๋าเดียวกัน
  2. วิธีประหยัดพื้นที่ในกระเป๋า
    • ม้วนเสื้อผ้าแทนการพับ: การม้วนเสื้อผ้าแทนการพับจะช่วยประหยัดพื้นที่และลดรอยยับได้
    • ใช้กระเป๋าเสริมสำหรับของเหลว: ใส่ของเหลวในถุงพลาสติกใสที่สามารถปิดได้ เพื่อป้องกันการรั่วไหลและช่วยให้ผ่านการตรวจได้ง่ายขึ้น
    • แพ็คของที่ใช้ร่วมกันได้: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้หลายแบบ เช่น ครีมทาผิวที่สามารถใช้เป็นครีมทาหน้าหรือแชมพูที่ใช้เป็นสบู่ได้
  3. ตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินและสนามบิน
    • ตรวจสอบกฎของสายการบิน: ก่อนเดินทาง ควรตรวจสอบกฎและข้อกำหนดเกี่ยวกับสิ่งของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องจากเว็บไซต์ของสายการบินที่คุณเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
    • ศึกษากฎของสนามบินปลายทาง: บางประเทศมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสิ่งของต้องห้าม เช่น อาหารสดหรือยาเสพติด การศึกษาข้อมูลก่อนจะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ดีขึ้น
  4. ตรวจสอบน้ำหนักและขนาดของกระเป๋า
    • เช็คน้ำหนักและขนาดกระเป๋า: ตรวจสอบน้ำหนักและขนาดกระเป๋าของคุณให้ตรงตามข้อกำหนดของสายการบิน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
    • ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักแบบพกพา: เครื่องชั่งน้ำหนักแบบพกพาจะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบน้ำหนักกระเป๋าก่อนถึงสนามบินได้
  5. เตรียมเอกสารและสิ่งของจำเป็นสำหรับการตรวจความปลอดภัย
    • จัดเตรียมเอกสารการเดินทางให้พร้อม: เตรียมบัตรประชาชน, พาสปอร์ต และบัตรโดยสารให้อยู่ในที่ที่หยิบสะดวก
    • เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการตรวจความปลอดภัย: ถอดเครื่องประดับ, เข็มขัด, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกจากกระเป๋าและวางในถาดตรวจให้เรียบร้อย
  6. กระเป๋าเดินทางได้รับความเสียหาย
    • ตรวจสอบกระเป๋าทันทีหลังรับสัมภาระ: หลังจากรับกระเป๋าที่จุดรับสัมภาระ ให้ตรวจสอบความเสียหาย เช่น รอยขาด, ล้อที่หัก, หรือซิปที่เสียหาย พร้อมถ่ายรูปความเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นคำร้อง
    • ป้องกันความเสียหายในอนาคต: เพื่อป้องกันความเสียหายของกระเป๋าเดินทางในอนาคต ควรเลือกใช้กระเป๋าที่มีคุณภาพดีและแข็งแรงทนทาน และพิจารณาทำประกันเดินทางที่ครอบคลุมถึงความเสียหายของสัมภาระ เพื่อให้ได้รับการชดเชยได้ง่ายขึ้นในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน.


ที่มา    ::    https://www.kasikornbank.com/th/personal/insure/article/pages/prohibited-items-airport.aspx


3 ความคิดเห็น:

  1. 9 สิ่งของ "ต้องห้าม" ขึ้นเครื่องบิน เช็กไว้ก่อนเดินทาง
    1. เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ของเหลว เจล สเปรย์
    ของเหลวทุกชนิดที่มีความจุต่อชิ้นเกิน 100 มล. รวมไม่เกิน 1 ลิตร (1,000 มล.) เช่น เจล น้ำหอม สบู่เหลว สเปรย์ ห้ามพกติดตัวขึ้นเครื่องบิน แต่สามารถนำใส่กระเป๋าที่จะโหลดได้ ทั้งนี้เป็นมาตรการป้องกันการก่อการร้าย ที่เข้มงวดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ 911 แต่ถ้าเป็นยาที่จำเป็นต้องพกติดตัว ก็สามารถพกพาได้ในปริมาณที่เหมาะสม เช่น ชุดยาแก้เบาหวาน

    2. แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)
    ไม่สามารถนำแบตเตอรี่สำรองทุกชนิดใส่กระเป๋าที่นำไปเช็คอิน แต่สามารถพกพาใส่กระเป๋าถือขึ้นไปได้ โดยต้องเป็นแบตเตอรี่สำรองที่มีค่าความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh ไม่เกินคนละ 2 ชิ้น

    3. อาวุธ ของมีคม
    ปืน และอาวุธทุกชนิด รวมถึงอาวุธโดยสภาพ เช่น มีด สนับมือ ดาบ ทวน กระบอง และสิ่งเทียมอาวุธ เช่น ปืนไฟแช็ก ระเบิดไฟแช็ก ปืนเด็กเล่น ไม้บรรทัดเหล็ก คัตเตอร์ กรรไกรตัดเล็บ เข็มเย็บผ้า มีด มีดพับ มีดพก และของมีคมทุกชนิด ที่อาจทำให้เกิดอันตราย แต่หากเป็นของใช้ที่จำเป็น อาจอนุญาตให้เก็บไว้ในกระเป๋าใบใหญ่ที่โหลดใต้เครื่องบินได้ แต่ไม่อนุญาตให้พกพาขึ้นเครื่องบิน

    4. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
    หากประเทศที่กำลังเดินทางไป มีกฎหมายในเรื่องลิขสิทธิ์ อาจถูกยึดสิ่งของนั้นได้ในกรณีที่เราพกพาของที่ผิดลิขสิทธิ์ขึ้นเครื่องบินไปด้วย

    5. วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด
    เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระเบิดหรือเพลิงไหม้ เช่น น้ำมันไฟแช็ก เชื้อเพลิงแข็ง สีน้ำมัน ไม้ขีดไฟ ฯลฯ

    6. อาหารที่มีกลิ่นแรง
    อาหารต่าง ๆ เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์สด/แช่แข็ง ทุเรียน ปลาร้า ต้องแพ็กมาอย่างเหมาะสม

    7. สัตว์มีพิษ สัตว์ดุร้าย
    รวมถึงสัตว์ขนาดใหญ่ สัตว์สงวน นอกจากอาจรบกวนผู้อื่นแล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วย

    8. สารอันตรายต่างๆ หรือสารเสพติด
    เช่น สารกำจัดแมลง สารหนู วัตถุออกซิไดซ์ เช่น แอมโมเนียไนเตรท แคลเซียมเปอร์ออกไซด์ วัตถุก๊าซกัมมันตรังสี เช่น ธาตุยูเรเนียม วัตถุกัดกร่อน เช่น แบตเตอรีที่บรรจุสารกัดกร่อน น้ำกรด ปรอท ฯลฯ

    9. สิ่งของอื่นๆ
    เช่น แม่เหล็ก น้ำแข็งแห้ง วัตถุที่แตกง่ายและอื่น ๆ


    ตอบลบ
  2. 10 สิ่งของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน

    1. เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ของเหลว เจล สเปรย์
    แค่ของเหลวทำไมต้องกลัวขนาดนั้น ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าของเหลวหรือเรียกอีกอย่างนึงว่า LAGs ย่อมาจาก Liquids ,Aerosols and Gels หรือ ของเหลว เจล สเปรย์

    เป็นการกำหนดโดยองค์การบินพลเรือน ให้เป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินเนื่องจากของเหลวปริมาณ 100 มิลลิลิตรขึ้นไป สามารถนำไปใช้เพื่อการเป็นสารตั้งต้นของการทำระเบิดได้

    แน่นอนว่าทางสายการบินไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น จึงทำให้มีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่า ห้ามนำเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ของเหลว เจล สเปรย์ ขึ้นเครื่องบินตามข้อกำหนดดังนี้

    - ต้องมีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อ 1 ชิ้น
    - เมื่อของเหลวมารวมกันต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร
    - ต้องแบ่งของเหลวทุกอย่างไว้ในขวดขนาดเล็กหรือใส่ถุงซิปล็อกหรือถุงใสเอาไว้
    - การบรรจุของเหลวต้องไม่มีรอยเปิด แกะ หรือฉีกขาด

    2. แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)
    อีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน ที่มีความอันตรายซ่อนอยู่ เนื่องจากแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)หากเก็บในห้องสัมภาระอาจเกิดการระเบิดได้ เนื่องจากห้องสัมภาระเป็นห้องที่มีความร้อนสูง

    จึงมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่าสามารถนำแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)พกติดตัวขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องอยู่ในความจุที่สายการบินนั้นกำหนดไว้ดังนี้

    - แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)ต้องมีความจุไม่เกิน 20,000 มิลลิแอมป์
    - แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)ความจุตั้งแต่ 20,000- 32,000 มิลลิแอมป์ นำขึ้นเครื่องบินได้ไม่เกิน 2 ก้อน
    - แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)ความจุมากกว่า 32,000 มิลลิแอมป์ ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้


    3. อาวุธ ของมีคม
    อาวุธ ของมีคม ถือว่าเป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินระดับต้น ๆ เนื่องจากอาวุธ ของมีคมอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการทำร้ายร่างกายหรือก่อการร้ายในการเดินทางได้ ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่าห้ามนำอาวุธ ของมีคม หรือสิ่งเทียมอาวุธเข้าสนามบินหรือขึ้นเครื่องบินเด็ดขาด โดยอาวุธ ของมีคม ที่ห้ามจะมีด้วยกันดังนี้

    - ปืน
    - สนับมือ
    - คัตเตอร์​
    - ดาบ
    - กระบอง
    - ระเบิด
    - ปืนเด็กเล่น
    - มีดพก
    - สนับมือ

    4. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
    มาทำความเข้าใจก่อนว่า แต่ละประเทศมักจะมีกฎหมายในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กลายเป็นอีกหนึ่งของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน

    เนื่องจากสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์คือการนำผลงานของผู้อื่นมาใช้ เผยแพร่ ดัดแปลง ทำซ้ำ โดยผู้เป็นเจ้าของผลงานไม่อนุญาตหรือไม่ได้รับทราบ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายของแต่ละประเทศนั้น ๆ หากเจ้าหน้าที่ตรวจเจออาจโดนยึดหรือถึงขั้นถูกดำเนินคดีได้

    จึงทำให้สายการบินมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่าห้ามนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด ซึ่งสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ยกตัวอย่างเช่น

    - สินค้าการแบรนด์ดัง
    - สิ่งประดิษฐ์
    - วรรณกรรม
    - ศิลปกรรม
    - และอื่นๆ

    5. วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด
    วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด เนื่องจากวัตถุไวไฟ วัตถุระเบิดเป็นต้นตอของปัญหาที่อาจส่งผลต่อผู้โดยสารและความเสียหายบนเครื่องบินได้

    กรณีร้ายแรงอาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ทำให้การเดินทางล่าช้า แย่ไปกว่านั้นอาจส่งผลทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต จึงทำให้มีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินก็คือ ห้ามนำวัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด ขึ้นเครื่องบิน เช่น ก๊าซ​ ดอกไม้ไฟ และระเบิด

    อีกสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินเลย คือ ห้ามเล่นอะไรแผลง ๆ เช่น การตะโกนหลอกเพื่อนร่วมทริปว่า “มีระเบิด, ในกระเป๋ามีระเบิด, ระวังเจอระเบิดบนเครื่องบินนะ, เดี๋ยวจะระเบิดสนามบินซะเลย เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย มีโทษตามกฏหมาย


    ตอบลบ

  3. 6. อาหารที่มีกลิ่นแรง ​

    การเดินทางที่ดี คือการเดินทางที่ไม่รบกวนผู้อื่น ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ซึ่งกลิ่นถือว่าเป็นสิ่งรบกวนอย่างหนึ่งในการนั่งเครื่องบิน ดังนั้นสำหรับของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินอาหารที่มีกลิ่นแรงเป็นอีกหนึ่งข้อห้ามที่คุณควรให้ความสำคัญ

    ดังนั้นทางสายการบินจึงมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน คือ ไม่อนุญาตให้นำอาหารที่มีกลิ่นแรงขึ้นเครื่องบิน เพราะอาจส่งกลิ่นรบกวนต่อผู้โดยสารท่านอื่น ๆ อาทิเช่น ทุเรียน ปลาร้า น้ำพริก น้ำปลา และอาหารแห้งบางชนิด แต่ถ้าเป็นสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ ควรบรรจุอยู่ในภาชนะหีบห่ออย่างมิดชิด อย่าให้มีกลิ่นออกมาและไม่หกเลอะเทอะ


    7. สัตว์มีพิษ

    เนื่องจากสัตว์มีพิษ เป็นต้นตอของความวุ่นวายและเรื่องร้ายตามมา จึงทำให้สัตว์มีพิษเป็นอีกของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากอาจทำให้ผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บได้

    จึงได้มีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่า ห้ามนำสัตว์มีพิษหรือสัตว์ดุร้ายขึ้นมาในเครื่อง ยกเว้นสัตว์เลี้ยงเช่น หมา แมว กระต่าย ที่บางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้แต่ต้องมีอายุมากกว่า 2 เดือนขึ้นไป มีใบตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ โดยต้องระบุรายละเอียดของสัตว์เลี้ยงชัดเจนและเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบินนั้น ๆ ซึ่งทางสายการบินจะนำสัตว์เลี้ยงของเราบรรทุกไว้ที่สัมภาระพิเศษใต้ท้องเครื่อง

    8. สารอันตรายต่างๆ หรือสารเสพติด

    เป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินที่อาจส่งผลอันตรายต่อการเดินทางเลยก็ว่าได้ เนื่องจากสารอันตรายต่าง ๆ หรือสารเสพติด เป็นปัญหาที่อาจส่งผลต่อผู้โดยสารและความเสียหายบนเครื่องบินได้
    กรณีร้ายแรงอาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ทำให้การเดินทางล่าช้า แย่ไปกว่านั้นอาจส่งผลทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตได้ จึงทำให้มีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่าห้ามนำสารอันตรายต่าง ๆ หรือสารเสพติดขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด

    เพราะอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งสารอันตรายต่าง ๆ หรือสารเสพติด อย่างเช่น สารเสพติด สารติดเชื้อ วัสดุกัมมันตรังสี น้ำกรด ปรอท ไนโตรเจนเหลว สารพิษ ยาฆ่าแมลง สารหนู หรือวัตถุที่ระบุไว้ในข้อบังคับสินค้าอันตราย

    9. ของประดับมูลค่าแพง

    อย่าให้การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ใจด้วยของประดับมูลค่าแพง เพราะถ้าหายหรือถูกขโมยขึ้นมา อาจส่งผลให้การเดินทางครั้งนี้มีแต่ความทุกข์ใจ จะดีกว่าไหมถ้าคุณเอาของประดับมูลค่าแพงเอาไว้ที่บ้าน เพื่อการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัย

    ทางสายการบินเห็นถึงความสำคัญในข้อนี้จึงมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน คือ ไม่อนุญาตให้โหลดของที่มีมูลค่ามากกว่า 2,500 ดอลลาร์ เช่น อัญมณี สร้อยเพชร เงินสด และทรัพย์สินอื่น ๆ ที่มูลค่าสูง

    10. เนื้อสัตว์ของสดหรือแช่แข็ง

    ของต้องห้ามขึ้นเครื่องบินที่ไม่ควรมองข้าม เพราะว่าของสดเป็นสิ่งที่มีโอกาสสูงที่จะเน่าเสียและส่งกลิ่นเน่าเหม็นตามมา เป็นสิ่งอาจจะไปรบกวนผู้อื่นได้

    ดังนั้นทางสายการบินจึงมีข้อกำหนดห้ามเนื้อสัตว์ของสดหรือแช่แข็งขึ้นเครื่อง เพื่อความสงบสุขในการเดินทาง โดยเนื้อสัตว์ของสดหรือแช่เเข็งจะมีด้วยกันคือ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลาแช่แข็ง เป็นต้น

    ถือได้ว่าสิ่งของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินเป็นสิ่งที่คุณต้องรู้อย่างยิ่ง เพื่อให้การเดินทางด้วยเครื่องบินของคุณมีความราบรื่น ปลอดภัย

    สำหรับใครมีแผนที่จะเดินทางไปต่างประเทศหรือมีแผนที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น จะดีกว่าไหมถ้า ทริปญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายและประหยัดมากขึ้น ด้วยสมัครบัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม สามารถรับบริการ Airport Lounge ทุกสนามบินในประเทศญี่ปุ่น และเครดิตเงินคืน เมื่อใช้จ่ายที่ร้านอาหารทั่วโลก บอกเลยว่าสะดวก ง่าย และคุ้ม


    ตอบลบ