Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565

ลิซ ทรัสส์: นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ของอังกฤษ จากนักศึกษาล้มเจ้า สู่ผู้นำฝ่ายขวา

 

ลิซ ทรัสส์: นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ของอังกฤษ

 จากนักศึกษาล้มเจ้า สู่ผู้นำฝ่ายขวา



การเฟ้นหาหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมล่วงเลยมา จนเหลือแคนดิเดตเพียง 2 คน คือ ‘ริชี ซูนัค’ กับ ‘ลิซ ทรัสส์’ สื่ออังกฤษหลายสำนักต่างก็ปักใจเชื่อว่า ‘ทรัสส์’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศภายใต้ บอริส จอห์นสัน จะได้นั่งเป็นนายกฯ สหราชอาณาจักรคนต่อไป

 

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ – พรรคอนุรักษนิยมประกาศเมื่อเวลา 12.30 ของวันนี้ (5 ..) ตามเวลาท้องถิ่น ว่าผู้ชนะในการแข่งขันเพื่อขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมคนใหม่ ก็คือ ‘ลิซ ทรัสส์’ ปูทางสู่การขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่แห่งสหราชอาณาจักร

โดยที่พรรคอนุรักษนิยมประกาศคะแนนของทรัสส์ คือ 81,326 คะแนน หรือ 57.4% เทียบกับคู่แข่งอย่าง ริชี ซูนัค ที่ได้ 60,399 คะแนน หรือ 42.6%

The MATTER ชวนย้อนดูประวัติของ ลิซ ทรัสส์ ว่าที่นายกฯ สหราชอาณาจักรคนใหม่ ผู้ได้รับขนานนามจากสื่อว่าเป็น ‘shapeshifter’ หรือผู้ที่กลายร่างได้เรื่อยๆ จากการ ‘เปลี่ยนใจ’ หลายๆ ครั้งบนเส้นทางการเมือง สะท้อนความไม่แน่นอนที่ต้องจับตาต่อไปในรัฐบาลชุดใหม่แห่งสหราชอาณาจักร

 

https://youtu.be/DAWQphbw1Jo
https://youtu.be/49xpE72QysA

จากนักศึกษาล้มเจ้า สู่หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม


‘ลิซ ทรัสส์’ หรือชื่อเต็ม ‘แมรี เอลิซาเบธ ทรัสส์’ เกิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 1975 ในครอบครัวที่เธอพูดเองว่า เป็น ‘ฝ่ายซ้าย’ โดยมีพ่อเป็นศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยลีดส์ แม่เป็นพยาบาล และนักเคลื่อนไหวใหกับแคมเปญยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์

นั่นจึงอาจจะไม่แปลกประหลาดนัก หากบนเส้นทางการเมือง เธอจะเกิดอาการ ‘เปลี่ยนใจ’ หลายครั้ง เริ่มต้นจากปี 1994 ที่เธอในวัย 19 ปี เคยออกมาเรียกร้องให้ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ เมื่อครั้งเป็นผู้นำฝ่ายนักศึกษาของพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democrats) ที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด

“มีเพียงครอบครัวเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐได้ เราชาวเสรีประชาธิปไตยเชื่อในโอกาสที่เป็นของทุกคน เราไม่เชื่อในการที่จะมีใครเกิดมาเพื่อปกครอง” ทรัสส์กล่าวในการประชุมของพรรคครั้งนั้น

ต่อมาภายหลัง เธอเปิดใจถึงจุดยืนดังกล่าวว่า เธอแทบจะเปลี่ยนใจในทันทีหลังจากกล่าวสุนทรพจน์นั้นออกไป

ทรัสส์จบการศึกษาในสาขาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ จากอ็อกซ์ฟอร์ด ชีวิตการเมืองของเธอเกือบจะได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2001 จากการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.พรรคอนุรักษนิยม เขตเฮมส์เวิร์ต ในเมืองเวสต์ยอร์กเชียร์ แต่ก็พ่ายแพ้ ก่อนจะลงสมัครอีกครั้งในปี 2005 และพ่ายแพ้อีกครั้ง

 

 

https://youtu.be/qEmovaRnZx4

จนมาถึงปี 2010 เธอจึงได้เข้าสภาฯ ในฐานะ ส.ส.พรรคอนุรักษนิยม เขตเซาธ์เวสต์นอร์ฟอล์ก  ก่อนจะเริ่มก้าวกระโดดขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยด้านการศึกษาและดูแลเด็กเมื่อปี 2012 และได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหารและชนบท เมื่อปี 2014

การ ‘เปลี่ยนใจ’ ทางการเมืองของทรัสส์ เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อปี 2016 ในขณะที่สหราชอาณาจักรกำลังลงประชามติเพื่อออกจากสหภาพยุโรป (EU) ที่รู้จักกันในชื่อ ‘Brexit’

ครั้งนั้น ทรัสส์เป็นฝ่ายสนับสนุนให้สหราชอาณาจักร ‘อยู่ต่อ’ ใน EU เธอเคยบอกว่า การอยู่ต่อถือเป็น ‘ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ’ ของอังกฤษ และเป็นวิธีที่จะทำให้อังกฤษมุ่งหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมภายในบ้านตัวเองได้ – แต่เมื่อผลการลงประชามติออกมาเป็นอีกอย่าง ทรัสส์ก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เธอผิดพลาดไป

ต่อมา ภายใต้รัฐบาลของ เทเรซา เมย์ เธอดำรงตำแหน่งอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ ประธานฝ่ายตุลาการและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อปี 2016-2017 และตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในปี 2017-2019

จนกระทั่ง บอริส จอห์นสัน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาล ทรัสส์ก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศ ในช่วงปี 2019-2021 จนสุดท้ายเมื่อปี 2021 ได้ไต่เต้าขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในที่สุด เป็นผู้หญิงคนที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่อาวุโสที่สุดในรัฐบาล

 

 

นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3

การได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมคนใหม่ในครั้งนี้ จะปูทางให้ทรัสส์ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรคนต่อไป เธอจะเป็นนายกฯ หญิงคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ต่อจากมาร์กาเรต แทตเชอร์ ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 1979-1990 และ เทเรซา เมย์ ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2016-2019

แต่การเปลี่ยนใจในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาบนเส้นทางการเมืองของเธอ ก็ยิ่งทำให้คาดเดาได้ยากว่า รัฐบาลภายใต้การนำของทรัสส์จะดำเนินนโยบายอย่างไร เรื่องนี้ยิ่งตอกย้ำว่า ไม่แปลกเลย  ถ้าสื่อหลายสำนัก เช่น The Washington Post และ CNN จะขนานนามเธอว่าเป็น ’shapeshifter’ หรือเป็นผู้ที่กลายร่างได้เรื่อยๆ

แต่สิ่งที่แน่นอนสำหรับเก้าอี้นายกฯ คนใหม่ ก็คือ ‘วิกฤตเศรษฐกิจ’ เป็นปัญหาอย่างแรกๆ ที่ต้องรับมือ CNN รายงานว่า ค่าไฟและแก๊สหุงต้มรายปีโดยเฉลี่ยจะเพิ่มสูงถึง 80% นับตั้งแต่เดือน ต.ค. นี้เป็นต้นไป ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะพุ่งสูงถึง 13% ในช่วงปลายปีนี้

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา ทรัสส์ไม่ได้เปิดเผยว่าจะรับมือกับปัญหานี้อย่างไร แต่ได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “สิ่งที่ดิฉันอยากจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนก็คือ ดิฉันจะลงมือทำตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ได้รับเลือกเป็นนายกฯ” ก่อนจะมีกระแสข่าวว่า ตัวเลือกหนึ่งคือ เธออาจจะประกาศพักการชำระค่าไฟและแก๊สหุงต้ม

กับอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจะพอคาดเดาได้คือ รัฐบาลสหราชอาณาจักรภายใต้การนำของ ลิซ ทรัสส์ น่าจะสนับสนุนยูเครนให้ทำสงครามกับรัสเซีย ไม่แพ้ บอริส จอห์นสัน เธอเคยย้ำว่าเธอจะเป็น ‘เพื่อนที่ดีที่สุด’ ของยูเครน ถ้าชนะเก้าอี้นายกฯ และจะรีบโทรหา โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง

ลำดับต่อไป ทรัสส์จะต้องเดินทางไปที่ปราสาทแบลมอรัล ในสกอตแลนด์ เพื่อเข้ารับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันอังคารที่ 6 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ก่อนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่หน้าทำเนียบนายกฯ คือ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง เพื่อเริ่มเดินหน้าการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่

 

จึงจะนับว่าปิดฉากรัฐบาลของ บอริส จอห์นสัน โดยสมบูรณ์ – อย่างน้อยก็ในตอนนี้

 

"ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ 

ลิซ ทรัสส์ รมว.ต่างประเทศ ได้คะแนนนำคู่แข่ง อดีต รมว.คลัง 57.4% ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงอังกฤษ ต่อจากนายบอริส จอห์นสัน ในวันอังคาร (6 ก.ย.) นี้ ประกาศชัด พร้อมลุยงานในทันที

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที

หลังจากที่ นายบอริส จอห์นสัน ประกาศลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี นางลิซ ทรัสส์ หรือ ‘แมรี่ เอลิซาเบท ทรัสส์’ ก็กลายเป็นหนึ่งในตัวเต็ง ว่าที่หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมคนใหม่ ซึ่งจะขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ โดยอัตโนมัติ เนื่องจากทางพรรคครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร โดยชื่อของเธอเบียดมากับ นายริชี ซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลัง คู่แข่งเพียงคนเดียวในขณะนี้ แต่พอเข้าช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน ทรัสส์ ก็เริ่มแซงหน้า และจะรู้ผลกันในวันที่ 5 กันยายนนี้ ว่าเธอจะเป็นผู้ชนะหรือไม่

 

ว่ากันถ้า นางลิซ ทรัสส์ ซึ่งปัจจุบันครองตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้รับชัยชนะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมคนใหม่ขึ้นมาจริงๆ เธอก็จะกลายเป็น ‘นายกรัฐมนตรีหญิง’ ของอังกฤษคนที่สาม ถัดจากนางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ และนางเทเรซา เมย์

 

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที

 

สื่อดังเมืองอังกฤษเผยรายงานวงใน ระบุว่า ก่อนที่จะมีการประกาศว่าใครจะได้ดำรงตำแหน่งแทนที่นายบอริส จอห์นสัน อดีตหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมและอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในวันนี้ (5 ก.ย. ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 18.30 น. ตามเวลาไทย) นางลิซ ทรัสส์ เต็งหนึ่งที่สื่ออังกฤษคาดว่าจะได้ครองตำแหน่งดังกล่าว ได้กล่าวย้ำถึงคำมั่นสัญญาผ่านทาง หนังสือพิมพ์ซันเดย์ เทเลกราฟ สื่อท้องถิ่นว่า เธอมีภารกิจเร่งด่วน ที่จะต้องจัดการหากชนะการเลือกตั้ง นั่นคือ ปัญหาเศรษฐกิจของอังกฤษ ซึ่งกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงถึง 10% และภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ลิซ ทรัสส์ รมว.ต่างประเทศอังกฤษ ให้คำมั่นว่า พร้อมจะดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นในทันที หากได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมแทนนายบอริส จอห์นสัน และเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษที่จะทราบผลในเย็นวันจันทร์นี้ (5 ก.ย. 65)

ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นางลิซ ทรัสส์ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของสหราชอาณาจักรในวันนี้ (5 ก.ย.) โดยเธอได้รับคะแนนเสียง 81,326 คะแนน หรือคิดเป็น 57.4% ของผู้ลงคะแนน เฉือนคู่แข่งคือ “ริชี สุนัค” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลจอห์นสันที่ได้คะแนนเสียง 60,399 คะแนน หรือคิดเป็น 42.6% ของผู้ลงคะแนน

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที

ย้อนไปในช่วงกลางเดือนกรฎาคม ที่ผ่านมา พรรคอนุรักษนิยมของอังกฤษได้ลงคะแนนเลือกผู้สมัคร 2 คนสุดท้ายที่จะเข้าสู่การแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค

2 คนที่ว่านั้นก็คือ นายริชี ซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นตัวเต็งเบอร์ 1 ได้คะแนนเสียงสูงสุด 137 คะแนน จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวน 358 คนที่เป็นผู้ลงคะแนน ขณะที่นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบันตามมาด้วยคะแนน 113 คะแนน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางทรัสส์ ว่าที่นายกฯ คนใหม่ ที่รอการประกาศอย่างเป็นทางการวันนี้ ระบุว่า เธอเข้าใจดีว่าวิกฤตค่าครองชีพส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างไร พร้อมยืนยันจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อรับประกันว่า ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจจะสามารถผ่านพ้นฤดูหนาวในปีนี้และปีหน้าไปได้

ทั้งนี้ นางทรัสส์ ผงาดในฐานะผู้ชนะหลังการลงคะแนนเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม (หรือพรรคคอนเซอร์เวทีฟ) ได้ปิดฉากลง ทำให้เธอออกมาเปิดใจเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจรวมทั้งปัญหาราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูง เป็นภารกิจเร่งด่วนหลังได้รับตำแหน่ง

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที

ทั้งเธอและนายริชิ ซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ เป็น 2 ผู้สมัครที่ฟันฝ่ากันมาจนถึงการแข่งขันในรอบสุดท้ายของแคมเปญการเลือกตั้ง (ที่มีผู้แข่งขันทั้งหมด 11 คน) เพื่อควานหาหัวหน้าพรรคคนใหม่แทนนายบอริส จอห์นสันที่ลาออกไป การตัดสินรอบสุดท้ายจะมาจากการลงคะแนนของสมาชิกพรรคจำนวน 160,000 คน และการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในเวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันนี้ (5 ก.ย.) หรือตรงกับเวลาไทย 18.30 น.

 

ผู้ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ต่อจาก บอริส จอห์นสันโดยอัตโนมัติ เนื่องจากทางพรรคครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จากนั้น นายกฯคนใหม่จะได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษในวันอังคารนี้(6 ก.ย.)

 

ในระหว่างการหาเสียงนั้น นางทรัสส์ให้คำมั่นสัญญาว่า จะเสนอการปรับลดภาษีมูลค่าหลายพันล้านปอนด์ในงบประมาณฉุกเฉิน ขณะที่นายซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลังที่เป็นคู่แข่ง ประกาศว่าเขาจะลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในราคาเชื้อเพลิงลงเป็นเวลา 1 ปี ส่วนการลดภาษีแบบถาวรอย่างที่นางทรัสส์เสนอนั้น เขาเห็นว่าสมควรต้องรอไปก่อนจนกว่าวิกฤตเงินเฟ้อของอังกฤษจะดีขึ้น

 

นอกจากนี้ เธอยังประกาศความมุ่งมั่นที่จะออกมาตรการปฏิบัติฉุกเฉินเพื่อแก้ปัญหาราคาเชื้อเพลิง และเพิ่มปริมาณสินค้าพลังงานให้มากขึ้น 

 

“หากได้รับการเลือกตั้ง ดิฉันวางแผนว่า ภายในสัปดาห์แรกของรัฐบาลใหม่ ดิฉันจะออกมาตรการเชิงปฏิบัติฉุกเฉินด้านราคาน้ำมันและสินค้าพลังงาน” ทรัสส์กล่าวถึงแผนภารกิจเร่งด่วนที่จะลงมือจัดการเป็นเรื่องแรก 

 

ที่กล่าวกันว่า ลิซ ทรัสส์ จะขึ้นเป็นนายกรัฐมตรีหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษนั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้อังกฤษมีนายกฯหญิงมาแล้ว 2 คน คือ นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ (ดำรงตำแหน่ง 4 พฤษภาคม 2522 – 28 พฤศจิกายน 2533) และนางเทเรซา เมย์ (ดำรงตำแหน่ง 13 กรกฎาคม 2559 – 24 กรกฎาคม 2562)

 

หากเธอได้รับการประกาศชื่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษวันนี้ (5 ก.ย.) ลิซ ทรัสส์ ก็จะได้ครองตำแหน่งไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ม.ค. ปี 2568

 

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที

ทว่า เกมเริ่มพลิกหลังจากที่ทั้งสองคนเริ่มการรณรงค์หาเสียงเพื่อเรียกคะแนนจากบรรดาสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมทั่วประเทศจำนวนราว 200,000 คน เริ่มเห็นแววว่าเทพีแห่งโชคและชัยชนะกำลังมาอยู่ฝั่งของทรัสส์ สาเหตุหลัก ๆก็คือ สมาชิกพรรคฝ่ายฝักใฝ่ขั้วการเมืองแบบอนุรักษนิยม นับตั้งแต่นายเดวิด คาเมรอน นางเทเรซา เมย์ รวมทั้งนายบอริส จอห์นสัน มีท่าทีไม่ปลื้มหากนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะมีเชื้อชาติอื่นที่ไม่ใช่อังกฤษ ทำให้คะแนนความนิยมของนายซูแนค ที่มีเชื้อสายอินเดีย ลดลงชัดเจน และแสงไฟก็สาดส่องมาที่นางลิซ ทรัสส์ แทน

แม้กระทั่ง YouGov ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่ทำการสำรวจความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ ได้ทำการสำรวจเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ก็พบว่า นายซูแนค อาจจะต้องพ่ายแพ้ต่อนางทรัสส์ แม้ว่าเขาจะมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ในการลงคะแนนทุกรอบของ ส.ส. พรรคอนุรักษนิยมก็ตาม

 

YouGov เผยว่า จากการสำรวจสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมทั่วอังกฤษ พบว่า นางทรัสส์จะได้รับคะแนนเหนือกว่านายซูแนค 54 ต่อ 35

อย่างไรก็ตาม เหตุผลไม่เกี่ยวกับเชื้อชาติของเขา แต่เป็นเพราะที่ผ่านมา นายซูแนคมีความเห็นคัดค้านการปรับลดอัตราภาษี โดยเขามองว่า ภารกิจสำคัญของรัฐบาลคือการสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ซูแนคยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ผลงานระหว่างที่ครองตำแหน่งรัฐมนตรีคลังภายใต้การนำของนายกฯ บอริส จอห์นสันด้วย อีกทั้งประชาชนส่วนหนึ่ง ยังมีความไม่พอใจที่นายซูแนค เป็นผู้หนึ่งที่ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี (บอริส จอห์นสัน) ขณะที่อังกฤษยังคงมีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที

การประกาศรายชื่อผู้ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมจะมีขึ้นในวันที่ 5 ก.ย.นี้ ผู้ชนะนอกจากจะได้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่แล้ว ยังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ด้วย เนื่องจากพรรคอนุรักษนิยมครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

เปิดประวัติ หญิงแกร่ง ‘ลิซ ทรัสส์’ ตัวเต็งเบอร์หนึ่ง ว่าที่หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมและนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ ซึ่งหากไม่พลิกโผ ที่จะมีการประกาศผลวันที่ 5 ก.ย. นี้ เธอก็จะเป็นนายกฯหญิง คนที่สามของประเทศอังกฤษ

เปิดประวัติ ว่าที่นายกฯคนใหม่ของอังกฤษ 

ลิซ ทรัสส์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2021 โดยก่อนหน้านั้น เธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสตรีและความเท่าเทียมในปี 2019 เธอเป็นสมาชิกสภาจากนอร์โฟล์คตะวันตกเฉียงใต้มาตั้งแต่ปี 2010 และเคยร่วมงานคณะรัฐบาลมาตั้งแต่ยุคการบริหารประเทศของนายเดวิด คาเมรอน นางเทเรซา เมย์ และนายบอริส จอห์นสัน

 

ผู้หญิงเก่งมากความสามารถคนนี้ จบการศึกษาจากวิทยาลัยเมอร์ตัน ในออกซ์ฟอร์ด สมัยเรียนเธอเคยเป็นประธานของพรรคเสรีประชาธิปไตยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เมื่อจบการศึกษาในปี 1996 เธอก็เข้าร่วมกับพรรคอนุรักษนิยม และในเวลาเดียวกันก็ทำงานประจำที่บริษัทเชลล์ เคเบิล แอนด์ ไวร์เลส ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายปรับโครงสร้างใหม่ของบริษัท

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที

ลิซ ทรัสส์ ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2010 ทำให้เธอกลายเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหน้าใหม่ แต่เธอก็ได้แสดงศักยภาพและมีบทบาทในการปฏิรูประบบสุขอนามัยเด็ก การศึกษาคณิตศาสตร์ รวมทั้งการปฏิรูปเศรษฐกิจ เธอก่อตั้งกลุ่ม สส. อิสระ ของพรรคอนุรักษนิยม และได้เขียนหนังสือออกมาหลายเล่ม อาทิ After the Coalition (2011) และ Britannia Unchained (2012)

 

เธอขยับขึ้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยาวชนและการศึกษา ในปี 2012-2014 จากนั้นก็เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมในสมัยของนายเดวิด คาเมรอน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการปรับเก้าอี้รัฐมนตรีในปี 2014

 

ในช่วงที่มีการถกประเด็นการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือที่เรียกว่า ‘เบร็กซิท’ (Brexit) นั้น ตอนแรกเธอแสดงจุดยืนสนับสนุนกลุ่ม ‘บริเทน สตรองเกอร์’ ที่เห็นว่าอังกฤษควรจะอยู่ในอียูต่อไป ต่อเมื่อผลการโหวต(ประชามติ) ออกมาว่า ชาวอังกฤษต้องการจะเลือกแยกตัวออกจากอียู เธอก็ไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใด

 

หลังนายคาเมรอน ประกาศลาออกในปี 2016 และนางเทเรซา เมย์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ทรัสส์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งนับเป็นสตรีรายแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ของอังกฤษในรอบหนึ่งพันปี ต่อมาในปี 2017 เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีคลังจนกระทั่งถึงเดือน ก.ค. 2019

 

หลังจากที่นางเทเรซา เมย์ ประกาศลาออกในปี 2019 ทรัสส์สนับสนุนให้นายบอริส จอห์นสันขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคอนุรักษนิยม และเขาก็แต่งตั้งให้เธอเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ ก่อนจะย้ายมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแทนนายโดมินิก ร้าบ ในปี 2021 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ เธอยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะผู้เจรจาในเวทียุโรป-สหราชอาณาจักร อีกด้วย

เผยชีวิตส่วนตัว

ลิซ ทรัสส์ เธอเกิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 1975 (พ.ศ. 2518) ปัจจุบันอายุ 47 ปี เธอสมรสแล้วกับนายฮิวจ์ โอเลียรี และมีบุตร 2 คน

ตามคาด "ลิซ ทรัสส์" นายกฯหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ลั่น พร้อมลุยงานทันที


อ้างอิง

BBC (1) (2)   ,  The Washington Post  ,  CNN (1) (2)  ,  www.nationtv.tv/