Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2568

ประเทศเติร์กเมนิสถาน (Turkmenistan)

 

ประเทศเติร์กเมนิสถาน (Turkmenistan)



เติร์กเมนิสถาน (Turkmenistan) เป็นหนึ่งในประเทศที่น้อยคนจะได้รู้จักหรือเดินทางไปเยือน ตั้งอยู่ในเอเชียกลางและมีพรมแดนติดกับประเทศอิหร่าน อัฟกานิสถาน อุซเบกิสถาน และคาซัคสถาน แม้ว่าเติร์กเมนิสถานจะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกล้ำ แต่ความปิดกั้นของรัฐบาลและการควบคุมทางการเมืองทำให้ประเทศนี้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ท้าทายที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก


ความลึกลับของเติร์กเมนิสถาน

แนะนำประเทศเติร์กเมนิสถานที่น้อยคนนักจะรู้จัก

เติร์กเมนิสถาน (Turkmenistan) เป็นประเทศหนึ่งในเอเชียกลางที่น้อยคนนักจะรู้จักหรือเคยเยือน มีพรมแดนติดกับอิหร่าน อัฟกานิสถาน อุซเบกิสถาน และคาซัคสถาน แม้ว่าจะมีภูมิประเทศและประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง แต่การปิดกั้นทางการเมืองและการเข้าถึงที่จำกัดทำให้เติร์กเมนิสถานยังคงเป็นประเทศลึกลับและยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวงการท่องเที่ยว ถึงกระนั้น เติร์กเมนิสถานก็เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร

เติร์กเมนิสถาน

วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเติร์กเมนิสถาน

เติร์กเมนิสถานมีวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและมีรากฐานมาจากอารยธรรมโบราณ อิทธิพลจากจักรวรรดิโรมัน เปอร์เซีย และอิสลามต่างก็ได้หล่อหลอมวัฒนธรรมของประเทศนี้ให้เป็นเอกลักษณ์ เติร์กเมนิสถานเคยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญบนเส้นทางสายไหม (Silk Road) ซึ่งเชื่อมต่อการค้าระหว่างเอเชียและยุโรป นอกจากประวัติศาสตร์การค้าแล้ว ประเทศนี้ยังมีตำนานและเรื่องราวทางศาสนาที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน

หนึ่งในแง่มุมที่น่าสนใจของวัฒนธรรมท้องถิ่นคือการใช้ชีวิตแบบเร่ร่อนในทะเลทราย ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชนเผ่าต่าง ๆ ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้ นอกจากนี้ ประเทศยังมีสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงอารยธรรมอิสลามอย่างเช่นสุเหร่าที่สวยงามและอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าความเป็นมาอันยาวนาน

ประตูสู่นรก (Darvaza Gas Crater)

การแนะนำสถานที่ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเติร์กเมนิสถาน

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเติร์กเมนิสถานคือ “ประตูสู่นรก” หรือ “Darvaza Gas Crater” หลุมไฟขนาดยักษ์ที่ยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่องและไม่เคยดับตั้งแต่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน หลุมไฟนี้ตั้งอยู่ในทะเลทรายคาราคุม (Karakum Desert) และเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกในฐานะสัญลักษณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งของเติร์กเมนิสถาน

เติร์กเมนิสถาน

ความเป็นมาของปล่องแก๊สที่ลุกไหม้ต่อเนื่องหลายทศวรรษ

ประตูสู่นรกเกิดขึ้นในปี 1971 เมื่อทีมสำรวจโซเวียตขุดเจาะหาก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ทะเลทราย แต่เมื่อขุดลงไปถึงแหล่งก๊าซใต้ดิน ปรากฏว่าแผ่นดินใต้ดินเริ่มยุบตัวลงและเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ก๊าซมีเทนที่หลุดออกมาจากหลุมสร้างความกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อคนในพื้นที่ ทีมสำรวจจึงตัดสินใจจุดไฟเผาก๊าซ โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่กี่วันก๊าซจะหมดไป แต่ผิดคาด ไฟในหลุมนี้กลับลุกไหม้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 70 เมตร และความลึกประมาณ 30 เมตร หลุมไฟนี้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง หลุมไฟที่ลุกไหม้ตลอดเวลาในยามค่ำคืนสร้างภาพที่น่าประทับใจจนมีชื่อเล่นว่า “ประตูสู่นรก” และกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเติร์กเมนิสถาน

เมืองโบราณ Merv

สำรวจซากปรักหักพังของเมืองโบราณที่เคยรุ่งเรืองที่สุดในเส้นทางสายไหม

เมืองโบราณ Merv เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO) ที่ตั้งอยู่ในเติร์กเมนิสถานและถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในเส้นทางสายไหม เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างตะวันออกและตะวันตก และมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างอาณาจักรต่าง ๆ เมือง Merv เคยรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยจักรวรรดิโรมันและจักรวรรดิเปอร์เซีย

ปัจจุบัน ซากปรักหักพังของเมือง Merv ยังคงหลงเหลืออยู่ แม้จะมีการทำลายและย่อยสลายตามกาลเวลา นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเดินชมกำแพงโบราณ สุเหร่า และปราสาทที่เหลือเพียงร่องรอย แต่ยังคงบอกเล่าเรื่องราวของเมืองที่เคยเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจและความมั่งคั่งในอดีต

เมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ Ashgabat

การสำรวจสถาปัตยกรรมที่งดงามและความโดดเด่นของ Ashgabat

อาชกาบัต (Ashgabat) เมืองหลวงของเติร์กเมนิสถาน เป็นหนึ่งในเมืองที่โดดเด่นที่สุดในเอเชียกลาง ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างเป็นระบบหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1948 และตั้งแต่นั้นมาก็มีการพัฒนาและสร้างอาคารที่ทันสมัย รวมถึงอนุสาวรีย์ที่สะท้อนถึงความมั่งคั่งของประเทศ หนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของอาชกาบัตคือการใช้หินอ่อนสีขาวในการก่อสร้างอาคาร ทำให้เมืองนี้ได้รับการบันทึกในสถิติโลกกินเนสส์ว่าเป็นเมืองที่มีการใช้หินอ่อนสีขาวมากที่สุดในโลก

สถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจในเมืองนี้รวมถึงอนุสาวรีย์แห่งความเป็นกลาง (Monument of Neutrality) ที่มีความสูงถึง 95 เมตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการที่เติร์กเมนิสถานประกาศเป็นประเทศที่เป็นกลางทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีพระราชวัง Ruhyyet ที่สร้างขึ้นอย่างหรูหราเพื่อใช้ในงานรัฐพิธีสำคัญต่าง ๆ และมัสยิด Turkmenbashi Ruhy ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แสดงถึงการผสมผสานของสถาปัตยกรรมอิสลามและสมัยใหม่

ทะเลทราย Karakum ความงามอันเงียบสงบ

ความเป็นมาของทะเลทรายที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ

ทะเลทรายคาราคุม (Karakum Desert) เป็นทะเลทรายที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่เกือบ 70% ของเติร์กเมนิสถาน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 350,000 ตารางกิโลเมตร คาราคุมหมายถึง “ทรายดำ” ในภาษาท้องถิ่น เนื่องจากมีสภาพดินที่เข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ ทะเลทรายแห่งนี้ไม่เพียงแค่เงียบสงบและสวยงาม แต่ยังมีความสำคัญในเชิงเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศอีกด้วย

ภูมิประเทศของทะเลทรายคาราคุมมีลักษณะเป็นเนินทรายสูงต่ำและทะเลสาบเค็มที่เกิดจากการระเหยของน้ำในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ทะเลทรายแห่งนี้ยังมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย รวมถึงแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สำคัญ ทำให้ทะเลทรายคาราคุมกลายเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อประเทศ แม้ว่าจะมีความแห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงในช่วงกลางวัน แต่ทะเลทรายนี้ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับความงามของธรรมชาติที่เงียบสงบและไม่ถูกรบกวน



เติร์กเมนิสถาน (Turkmenistan)



เติร์กเมนิสถาน (Turkmenistan)

Map_Turkmenistan

  • มีก๊าซธรรมชาติสำรองมากเป็นอันดับ 6 ของโลก ประมาณ 26.5 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร
  • มีนโยบายวางตัวเป็นกลางอย่างถาวร (Permanent Neutrality)  
  • เป็นประเทศมุสลิมสายกลาง
  • เป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สำคัญในเขตทะเลแคสเปียนสู่ทวีปยุโรป เอเชียตะวันออก เอเชียใต้และมีความสัมพันธ์อันดีกับรัสเซีย จีน อิหร่าน อาเซอร์ไบจาน อัฟกานิสถาน อินเดีย และปากีสถาน

 


ข้อมูลทั่วไป

พื้นที่

488,100 ตร.กม.
(มีขนาดใกล้เคียงกับประเทศไทย)

ประธานาธิบดี

นายเซียร์ดาร์ เบียร์ดีมูฮาเมดอฟ
(Mr. Serdar Berdimuhamedov)

เมืองหลวง

กรุงอาชกาบัต

นายกรัฐมนตรี

-

ประชากร

6.6 ล้านคน (ปี 2567)

รมว. กต.

นายราชิด เมเรดอฟ
(Mr. Rashid Meredov)

ภาษาราชการเติร์กเมนวันชาติ

27 กันยายน

ศาสนา

อิสลามนิกายซุนนี คริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ และอื่น ๆ หรือไม่มีศาสนา

วันสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย

6 กรกฎาคม 2535

ข้อมูลเศรษฐกิจ

GDP

59.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2566)
(ไทย: 514.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

สกุลเงิน

มานัท (Manat) (1 มานัท = 9.65 บาท)(สถานะ ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2567)

GDP per capita

8,906.40 ดอลลาร์สหรัฐ (2566)
(ไทย: 7,171.8 ดอลลาร์สหรัฐ)

อัตราเงินเฟ้อ

ร้อยละ 5.9 (2566)
(ไทย: ร้อยละ 1.23)

Real GDP growth

ร้อยละ 6.2 (2566)
(ไทย: ร้อยละ 1.9)

อุตสาหกรรมหลัก

ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม สิ่งทอ อาหารแปรรูป

ทรัพยากรธรรมชาติ

ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ซัลเฟอร์ และเกลือ

  

สินค้านำเข้าสำคัญ

เครื่องจักรและส่วนประกอบ เหล็ก อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะ ระบบรางและชิ้นส่วนยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ยา

  

ตลาดนำเข้าสำคัญ

ตุรกี รัสเซีย จีน เยอรมนี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เกาหลีใต้

  

สินค้าส่งออกสำคัญ

แร่เชื้อเพลิง ปุ๋ย ฝ้าย ผลิตภัณฑ์พลาสติก เกลือ ซัลเฟอร์ หินปูน ซีเมนต์ และทองแดง

  
ตลาดส่งออกสำคัญจีน อุซเบกิสถาน รัสเซีย ตุรกี อิตาลี โรมาเนีย อาเซอร์ไบจาน จอร์เจีย  

 

สถิติที่สำคัญ

มูลค่าการค้า

ในปี 2566 ไทยและเติร์กเมนิสถานมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 3.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยไทยได้ดุลการค้า 3.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สินค้านำเข้า

ในปี 2566 ไทยนำเข้าสินค้าจากทาจิกิสถานมูลค่า 872 ดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าจากทาจิกิสถาน ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ทำจากยาง เคมีภัณฑ์ กระดาษ

สินค้าส่งออก

ในปี 2566 ไทยส่งออกไปเติร์กเมนิสถานมูลค่า 3.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ กระดาษ รถยนต์ เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง

การท่องเที่ยว

ในปี 2566 นักท่องเที่ยวเติร์กเมนิสถานเดินทางมาไทยจำนวน 233 คน และปี 2562 นักท่องเที่ยวไทยไปเติร์กเมนิสถาน 101 คน

คนไทยในเติร์กเมนิสถาน

ไม่พบข้อมูล

สำนักงานไทยที่มีอาณาเขตครอบคลุมเติร์กเมนิสถาน

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา

สำนักงานเติร์กเมนิสถานที่มี
อาณาเขตครอบคลุมไทย

สถานเอกอัครราชทูตเติร์กเมนิสถานประจำมาเลเซีย



สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศที่เติร์กเมนิสถา



Turkmenistan เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเอเชียกลาง ในเคยเป็นอดีตของสหภาพโซเวียต ที่ได้รับเอกราชจากสหภาพโซเวียตในปี 1991 และมีประชากรประมาณ 6 ล้านคน เมืองหลวงคือ Ashgabat และภาษาราชการคือ Turkmen

เศรษฐกิจของเติร์กเมนิสถานส่วนใหญ่เป็นก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่มากมาย และประเทศนี้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก

สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด

กรุงอาชกาบัตเป็นเมืองหลวงของเติร์กเมนิสถาน เมืองนี้มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน และมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม น่าประทับใจ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรเยี่ยมชมในอาชกาบัต ได้แก่

  • อนุสาวรีย์เอกราช ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพื่อเป็นการระลึกถึงอิสรภาพของเติร์กเมนิสถานจากสหภาพโซเวียต
  • พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเติร์กเมนิสถาน มีโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของประเทศ รวมถึงเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม อาวุธ และการค้นพบทางโบราณคดี
  • มัสยิด Turkmenbashi Ruhy เป็นมัสยิดขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้มากกว่า 10,000 คน และมีสถาปัตยกรรม และการออกแบบที่สวยงาม

Ancient Merv

ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเติร์กเมนิสถาน เป็นเมืองเส้นทางสายไหมโบราณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุด  ซึ่งมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมมากมายให้สำรวจ

Door to Hell

หรือ “ประตูนรก” เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในทะเลทราย Karakum ในเติร์กเมนิสถาน ปล่องภูเขาไฟถูกสร้างขึ้นในปี 1971 เมื่อวิศวกรโซเวียตเจาะเข้าไปในถ้ำที่เต็มไปด้วยก๊าซธรรมชาติโดยไม่ได้ตั้งใจ พื้นดินใต้แท่นขุดเจาะทรุดตัว ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนพื้นดิน และปล่อยก๊าซขึ้นสู่อากาศ

เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของพิษ วิศวกรจึงตัดสินใจจุดไฟโดยคิดว่ามันจะหมดภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่ก็ไม่ดับ ดั้งแต่นั้นป็นต้นมา Door to Hell ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ควรไปให้ได้

Yangykala Canyon

เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลทางตะวันตกของเติร์กเมนิสถาน หุบเขานี้มีลักษณะเฉพาะด้วยการก่อตัวของหินหลากสี ซึ่งก่อตัวขึ้นเป็นเวลาหลายล้านปีจากการกัดเซาะและสภาพดินฟ้าอากาศ หุบเขานี้อยู่ห่างจากเมืองบัลคานาบัตไปทางเหนือประมาณ 150 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจหุบเขาด้วยการเดินเท้าหรือขี่อูฐ

ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของหุบเขาคือชั้นหินที่ก่อตัวเป็นชั้นๆ ซึ่งประกอบด้วยหินทราย หินปูน และหินดินดาน สีของหินมีตั้งแต่สีแดงเข้มและสีส้ม ไปจนถึงสีเหลืองอ่อนและสีขาว ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงามและแปลกตา

Nisa

เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ใกล้ Ashgabat เมืองหลวงของเติร์กเมนิสถาน เป็นหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิ Parthian ซากของ Nisa ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 2550 นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และโบราณคดอีกสถานที่หนึ่ง

ในสถานที่ Nisa ประกอบด้วยซากอาคารอนุสรณ์สถานหลายแห่ง รวมถึงพระราชวัง Parthian และห้องโถงทรงกลมขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ “Round Hall”

อนุสาวรีย์ Arch of Neutrality

สถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงในเมืองอาชกาบัต เมืองหลวงของเติร์กเมนิสถาน เป็นหอคอยรูปจรวดสูง 75 เมตร มีรูปปั้นทองคําของ Saparmurat Niyazov เป็นอดีตประธานาธิบดี ซึ่งหมุนตลอดทั้งวันเพื่อให้ใบหน้าของเขาอาบแดดอยู่เสมอ สร้างขึ้นในปี 1998 เพื่อเป็นเกียรติแก่การยอมรับความเป็นกลาง ในนโยบายอย่างเป็นทางการของเขา และมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 12 ล้านดอลลาร์ในการสร้าง

Independence Monument

อนุสาวรีย์อิสรภาพเติร์กเมนิสถานเป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของอาชกาบัต สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเอกราชของประเทศจากสหภาพโซเวียตซึ่งเกิดขึ้นในปี 1991

อนุสาวรีย์ประกอบด้วยเสาสูง 36 เมตรที่ทำจากหินอ่อนสีขาว ด้านบนมีรูปปั้นชายถือนกพิราบสีทอง ชายคนนี้คือประธานาธิบดีคนแรกของเติร์กเมนิสถานที่ชื่อว่า Saparmurat Niyazov ซึ่งเป็นผู้นำประเทศสู่เอกราช

รอบๆ อนุสาวรีย์ จะมีเสาที่เป็นรูปปั้นหินอ่อน 27 รูป ซึ่งเป็นตัวแทนของภูมิภาค และกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ของเติร์กเมนิสถาน รูปปั้นจะถูกจัดเรียงเป็นวงกลม และหันหน้าไปทางศูนย์กลางของอนุสาวรีย์

รูปปั้นหนังสือ Ruhnama

หมายถึง “หนังสือแห่งจิตวิญญาณ” หรือ “หนังสือแห่งจิตวิญญาณ” แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Book of the Soul เป็นงานสองเล่มที่เขียนโดย Saparmurat Niyazov หนังสือ Ruhnama ได้รับการตีพิมพ์ในปี 2544 หนังสือเล่มนี้เป็นการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ ปรัชญา และคำสอนทางศีลธรรม โดยตั้งใจที่จะส่งเสริมอุดมการณ์ของเขาเองและสร้างเอกลักษณ์ประจำชาติของเติร์กเมนิสถาน

ในช่วงการปกครองของ Niyazov Ruhnama ได้รับการส่งเสริมอย่างมากในสังคมเติร์กเมนิสถานให้อ่านหนังสือ หนังสือ Ruhnama มีการบังคับให้อ่านในโรงเรียน สถาบันของรัฐ และแม้แต่ผู้ที่กำลังขอใบขับขี่หรือการจ้างงาน

ซึ่งในปัจจุบันนี้หนังสือ Ruhnama หรือ Monument to the Book Ruhnama มีรูปปั้นเป็นของตัวเอง ตั้งอยู่ใน Ashgabat เมืองหลวงของเติร์กเมนิสถาน รูปปั้นนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Ruhnama ที่เขียนโดยอดีตประธานาธิบดี Saparmurat Niyazov


ที่มา       ::    https://www.patourlogy.com/turkmenistan-countries-you-should-see/  ,   https://sameaf.mfa.go.th/th/  ,  https://www.patourlogy.com/turkmenistan-the-city-of-white-marble/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น