Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

9 ทักษะที่ควรสอนให้เด็กเรียนรู้ ก่อนถึงวัยเข้าโรงเรียน

9 ทักษะที่ควรสอนให้เด็กเรียนรู้ ก่อนถึงวัยเข้าโรงเรียน







แม่และเด็ก




          

เห็นลูกเดินเตาะ ๆ แตะ ๆ ร้องอ้อแอ้ได้ไม่เท่าไหร่ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็ต้องไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วหรือเนี่ย เวลาผ่านไปไวจริง ๆ เลยนะ ทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนฝันถึงวันแรกที่ลูกใส่ชุดนักเรียนกันแล้ว แต่ก่อนจะถึงวันนั้น กระปุกดอทคอมก็อยากจะชวนคุณแม่และลูก ๆ มาเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนกันหน่อยดีกว่า เพราะมีแค่อุปกรณ์การเรียน เครื่องเขียน เสื้อผ้าคงไม่พอ คุณแม่นั้นควรฝึกทักษะของลูกให้พร้อมด้วย ถ้าตอนนี้คุณแม่กำลังสงสัยว่ามีอะไรควรฝึกเพิ่มเติมให้กับลูกบ้างก็ตามไปดูกันเลย

1. การเขียนชื่อ 
          

คุณควรเขียนตัวอย่างชื่อเล่น ชื่อจริง และนามสกุล ให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง จากนั้นคุณแม่จับมือลูก ๆ แล้วลากเส้นตามตัวอักษร หรือจะทำชื่อเป็นเส้นประ แล้วให้ลูก ๆ ลากไปตามเส้นประก็ได้ ฝึกไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะเขียนคล่อง แล้วค่อยเปลี่ยนให้ลูกเขียนชื่อตัวเองบนกระดาษเปล่าดู ถ้าเขียนได้แล้ว แสดงว่าลูกของคุณพร้อมที่จะไปโรงเรียนได้แล้วค่ะ


2. การล้างมือ
          

การล้างมือเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะในชีวิตประจำวันคุณแม่ใช้มือจับสิ่งของต่าง ๆ มากมาย อาจมีเชื้อโรคติดมากับมือ ดังนั้นเพื่อช่วยป้องกันเชื้อโรคให้กับลูก ๆ ก็ควรสอนให้เขารู้จักวิธีล้างมือด้วย คุณแม่ควรสอนไปทีละขั้นตอน ทั้งวิธีฟอกสบู่ และวิธีล้างมือ เพื่อปลูกฝังสุขอนามันที่ดีให้กับลูก ๆ ของคุณ



3. การติดกระดุม

          

ในเช้าที่เร่งรีบคุณแม่ทั้งหลายคงหัวปั่นกันน่าดู ถ้าไม่สอนให้ลูก ๆ ใส่เสื้อด้วยตัวเอง อาจจะเริ่มจากวิธีการสวมเสื้อยืดธรรมดาก่อน วิธีนี้จะช่วยให้เขาเรียนรู้การใส่เสื้อด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้น และเมื่อลูก ๆ ใส่เสื้อยืดจนชำนาญ ก็เปลี่ยนจากเสื้อยืด เป็นเสื้อแบบที่มีกระดุม อย่างเช่น เสื้อเชิ๊ต หรือเสื้อโปโล เป็นต้น



4. การกินข้าว

          

หลาย ๆ โรงเรียนนิยมใช้จานหลุมมากกว่าจานธรรมดา เพราะสามารถใส่ทั้งอาหารคาว อาหารหวานได้ในถาดเดียว ดังนั้นคุณแม่ทั้งหลายก็ควรฝึกให้ลูก ๆ เคยชินกับการกินข้าวแบบจานหลุมด้วย



5. การเปิดปิดสิ่งของ

          

ควรสอนให้ลูกรู้จักวิธีเปิดปิดสิ่งของ ทั้งอาหารและสิ่งของ โดยเริ่มจากของง่าย ๆ อย่างเช่น วิธีเปิดกล่องสี วิธีเปิดฝาขวดนม วิธีแกะถุงขนม หรือวิธีแกะเปลือกลูกอม เพื่อให้เขาสามารถช่วยตัวเองได้ ในช่วงเวลาที่ไปโรงเรียน



6. การระบายสี

          

สีสันต่าง ๆ นอกจากจะช่วยทำให้เด็ก ๆ จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้นแล้ว ยังมีผลต่อความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย ดังนั้นคุณควรให้ลูกรู้จักกับการระบายสีตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่เขาจะเข้าโรงเรียนโดยเริ่มจากสีที่ใช้ง่าย ๆ อย่างเช่น ดินสอสี หรือสีเทียน และถ้าหากลูก ๆ ของคุณแม่ชอบการระบาย ก็อาจจะฝึกการใช้สีอื่น ๆ เช่น สีน้ำ หรือสีโปสเตอร์เพิ่มเติม 



7. การวาดรูป

          

ควรเริ่มสอนจากการลากเส้นง่าย ๆ ก่อน เช่น เส้นตรง เส้นโค้ง และเส้นหยัก เมื่อลูกฝึกจนชินมือแล้ว ก็ต่อด้วยการวาดรูปทรงจากเส้นต่าง ๆ เช่น การใช้เส้นตรงวาดรูปสี่เหลี่ยม ใช้เส้นโค้งวาดรูปวงกลม เพื่อให้เขารู้จักการปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ และถ้าอยากจะเพิ่มระดับให้ยากขึ้น ก็ฝึกให้ลูก ๆ วาดภาพบ้าน ภาพคน ภาพต้นไม้ก็ได้   



8. การจับดินสอ

          

เด็กส่วนใหญ่จับดินสอผิดวิธี เพราะมักจะยึดเอาความสะดวกไว้ก่อน หากคุณแม่ไม่สอนวิธีจับดินสอที่ถูกวิธีให้กับลูก ลูกก็อาจจะติดนิสัย จับดินสอแบบผิด ๆ ไปจนโต ซึ่งคุณแม่ควรสอนวิธีจับที่ถูกวิธีให้กับลูกตั้งแต่ตอนนี้ โดยเริ่มจากใช้นิ้วกลางรองดินสอ และใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งบังคับทิศทาง ส่วนนิ้วนางกับนิ้วก้อยวางพักไว้บนโต๊ะ เห็นไหมล่ะว่าการจับดินสอแบบถูกวิธีนั้นไม่ยากเลย และยังได้ลายมือสวย ๆ เป็นของแถมอีกต่างหาก



9. การใช้กรรไกร

          

อาจจะดูอันตรายเกินไปหน่อย ถ้าจะปล่อยให้ลูกใช้กรรไกรตั้งแต่ครั้งแรก ดังนั้นคุณแม่ควรฝึกการใช้คีมคีบของไปก่อน โดยเริ่มจากการคีบของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ช่วยคุณแม่คีบผักใส่หม้อต้มซุป หรือคีบของเล่นเล็ก ๆ เก็บใส่กล่องก็ได้ หลังจากที่ใช้คีมคีบของจนคล่องแล้ว ก็ให้ลูก ๆ ตัดของกับกรรไกรดูบ้าง ในช่วงแรกอาจจะให้ฝึกตัดซองขนมไปก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนมาตัดรูปทรงต่าง ๆ จากกระดาษก็ได้ 

          


ว้าว... ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ และนี่ก็คือ 9 ทักษะที่จำเป็นสำหรับลูก เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาความรู้ความสามารถด้านอื่น ๆ ต่อยอดความรู้ เพื่อให้เขามีพัฒนาการที่สมวัย ไปพร้อมกับเพื่อนคนอื่น ๆ ค่ะ










ที่มา  ::          กระปุกดอทคอม









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น