Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

7 สูตรชงกาแฟลาเต้ อร่อยละมุนพร้อมเปิดร้านคาเฟ่

 

7 สูตรชงกาแฟลาเต้ อร่อยละมุนพร้อมเปิดร้านคาเฟ่




ประวัติลาเต้

           ต้นกำเนิดกาแฟชนิดนี้เชื่อกันว่ามาจากเมืองซีแอตเติล ประเทศสหรัฐอเมริกา จากร้านกาแฟที่ชื่อว่า “Espresso Vivace” ของเดวิด โชเมอร์ (David Schomer) ซึ่งหลังจากเกษียณจากการเป็นทหารจึงมาเปิดร้านกาแฟ ประมาณปี ค.ศ. 1988 เขาชื่นชอบการทำกาแฟใส่นม โดยการสร้างสรรค์หน้าตาโฟมนมขึ้นมาในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะลายหัวใจและใบเฟิร์น จนถูกเรียกว่า ลาเต้อาร์ตและได้รับความนิยมตั้งแต่ ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา

กาแฟลาเต้คืออะไร

          ลาเต้ คือกาแฟใส่นมทำให้มีรสชาติอ่อนนุ่ม กลมกล่อม ดื่มง่ายขึ้น โดยลาเต้เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า “นม” ดังนั้น “กาแฟลาเต้” หมายถึง กาแฟนมนั่นเอง

ลาเต้มีส่วนผสมอะไรบ้าง

           ลาเต้มีส่วนผสมของเอสเปรสโซ ประมาณ 1-2 ชอต หรือในปริมาณเหมาะสม และนมอุ่นที่เทตามลงไปปริมาณมากจนเกือบเต็มแก้ว สุดท้ายใส่โฟมนมไล่ระดับชั้นบาง ๆ ที่ด้านบน หรืออาจสร้างลวดลายด้านบน เรียกว่า ลาเต้อาร์ต (Latte Art)

ลาเต้ อาร์ต (Latte Art) คืออะไร

          ลาเต้อาร์ต คือ การสร้างลวดลายบนกาแฟ ซึ่งใช้โฟมนมในการสร้างสรรค์ นับว่าเป็นศิลปะที่สวยงาม มีความพิถีพิถัน สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ดื่มกาแฟ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ ได้แก่
  1. การเทอิสระ (Free Pour) การเทโฟมนมเพื่อสร้างลวดลายบนกาแฟ ที่ต้องมีความนิ่ง มีสมาธิ และความอดทนสูง สามารถสร้างลวดลายต่าง ๆ ได้ตามชอบ เช่น รูปหัวใจ รูปแอปเปิล รูปใบไม้เดี่ยว รูปใบไม้คู่ รูปปลา เป็นต้น
  2. การลาก (Drag) ใช้การลาก แกะ เขี่ย วาด หรือหยอดนม เป็นวิธีที่ไม่ยากเพราะไม่ต้องใช้เทคนิคมากมาย ด้วยอุปกรณ์ง่าย ๆ เช่น ไม้จิ้มฟัน ช้อน หรือหลอด เช่น ลายดอกเบญจมาศ ดอกเฟื่องฟ้า ดอกกุหลาบ ลายปลาดาว เป็นต้น 
  3. การผสมผสาน ใช้ทั้งเทคนิคการเทและการลาก ช่วยให้ได้ลวดลายที่มีความซับซ้อนสร้างลายที่ยากขึ้น เช่น รูปสัตว์หรือการ์ตูน เป็นต้น
ลาเต้

ความแตกต่างระหว่างลาเต้และคาปูชิโน่

          แม้ว่ากาแฟทั้งสองชนิดจะเป็นกาแฟฟองนมเช่นกัน แต่ลาเต้จะมีส่วนผสมของนมอุ่นมากกว่าเอสเปรสโซ รสชาติของกาแฟจะอ่อนหน่อย ส่วนคาปูชิโน่จะมีสัดส่วนของกาแฟกับนมใกล้เคียงกัน รสชาติจะเข้มข้นมากกว่า

          เอาล่ะ… ต่อไปนี้เรามาดูสูตรชงกาแฟลาเต้กันเลยเผื่อใครคันไม้คันมืออยากลองทำกันจ้า

สูตรชงลาเต้

1. ลาเต้ร้อน

ลาเต้

          เริ่มกันที่สูตรชงกาแฟลาเต้ร้อน สูตรนี้ใช้เอสเปรสโซตามด้วยนมสด ด้านบนแต่งด้วยโฟมนมโดยตักหยอดหรือทำเป็นลายต่าง ๆ ได้ตามชอบ

ส่วนผสม ลาเต้ร้อน

  1. เอสเปรสโซ 1 ชอต (30 มิลลิลิตร)

  2. นมสด 6 ออนซ์ (180 มิลลิลิตร)

  3. โฟมนม

วิธีทำลาเต้ร้อน

  1. ชงกาแฟเอสเปรสโซ

  2. เทกาแฟลงไปในแก้วกาแฟขนาด 8 ออนซ์

  3. ใส่นมลงในเหยือกสเตนเลส สตรีมนมจนร้อน เทลงไปในแก้วกาแฟ 

  4. แต่งด้วยโฟมนมหรือลาเต้อาร์ตตามชอบ

2. ลาเต้เย็น

ลาเต้

           ลาเต้เย็น อีกทางเลือกของลูกค้าที่ไม่ชอบลาเต้ร้อน สูตรนี้ใส่นมข้นหวานกับนมข้นจืด สุดท้ายแต่งด้วยโฟมนม

ส่วนผสม ลาเต้เย็น

  1. เอสเปรสโซ 3 ออนซ์ (90 มิลลิลิตร)

  2. นมข้นหวาน 1.5 ออนซ์ (45 มิลลิลิตร)

  3. นมข้นจืด 1 ออนซ์ (30 มิลลิลิตร)

  4. นมสด 1 ออนซ์ (30 มิลลิลิตร)

วิธีทำลาเต้เย็น

  1. ชงกาแฟเอสเปรสโซ

  2. ผสมกาแฟ นมข้นหวาน และนมข้นจืด คนให้เข้ากัน เตรียมไว้

  3. ตักน้ำแข็งใส่แก้ว เทกาแฟลงไป 

  4. ใส่นมลงในเหยือกสเตนเลส สตรีมนมจนร้อน แต่งด้วยโฟมนม ราดซอสตามชอบ

3. ลาเต้ปั่น

ลาเต้

          มาต่อกันที่เมนูลาเต้ปั่น สูตรนี้ใส่นมข้นหวาน นมข้นจืด และนมสดปั่นจนเนียนแล้วเทใส่แก้ว ด้านบนแต่งวิปครีมเพิ่มเติมได้

ส่วนผสม ลาเต้ปั่น

  1. เอสเปรสโซ 2 ชอต (60 มิลลิลิตร)

  2. นมข้นหวาน 2 ออนซ์ (60 มิลลิลิตร)

  3. นมข้นจืด 1 ออนซ์ (30 มิลลิลิตร)

  4. นมสด 3 ออนซ์ (90 มิลลิลิตร)

  5. น้ำแข็ง 1 แก้ว (แก้วขนาด 22 ออนซ์)

วิธีทำลาเต้ปั่น

  1. ชงกาแฟเอสเปรสโซ

  2. ผสมกาแฟ นมข้นหวาน นมข้นจืด และนมสด คนให้เข้ากัน 

  3. ใส่น้ำแข็งลงในเครื่องปั่น เทกาแฟลงไป ปั่นจนเนียนละเอียด เทใส่แก้ว 

  4. แต่งด้วยโฟมนม ราดซอสตามชอบ 

4. ลาเต้คาราเมลร้อน

ลาเต้

           สำหรับลูกค้าที่เบื่อกับลาเต้แบบเดิม ๆ ทั้งลาเต้ร้อน ลาเต้เย็น หรือลาเต้ปั่น ลองมาทำลาเต้คาราเมลร้อนเป็นทางเลือกกันดู รสหวานหอมกลมกล่อม แต่งด้วยไซรัปคาราเมลเพิ่มสีสัน

ส่วนผสม ลาเต้คาราเมลร้อน

  1. เอสเปรสโซ 1 ชอต (30 มิลลิลิตร)

  2. ไซรัปคาราเมล 7 มิลลิลิตร

  3. นมสด 1 ออนซ์ (30 มิลลิลิตร)

วิธีทำลาเต้คาราเมลร้อน

  1. ชงกาแฟเอสเปรสโซ

  2. เตรียมกาแฟใส่ถ้วย ใส่ไซรัปคาราเมลลงไป 

  3. ใส่นมลงในเหยือกสเตนเลส สตรีมนมจนร้อน เทลงบนกาแฟหรือเทแต่งด้านบนกาแฟ หรืออาจแต่งด้วยไซรัปคาราเมล

5. ลาเต้คาราเมลเย็น

ลาเต้

           ถ้าได้ขายลาเต้คาราเมลร้อนลองเพิ่มเมนูลาเต้คาราเมลเย็นเป็นอีกทางเลือกดีไหม จับทุกอย่างผสมให้เข้ากันแล้วเทใส่แก้วน้ำแข็ง แต่งด้วยโฟมนม

ส่วนผสม ลาเต้คาราเมลเย็น

  1. เอสเปรสโซ 2 ชอต (60 มิลลิลิตร)

  2. ไซรัปคาราเมล 15 มิลลิลิตร

  3. นมข้นหวาน 20 มิลลิลิตร

  4. นมสด 70 มิลลิลิตร

  5. น้ำแข็ง

วิธีทำลาเต้คาราเมลเย็น

  1. ชงกาแฟเอสเปรสโซ

  2. ผสมไซรัปคาราเมล นมข้นหวาน และนมสด คนผสมให้เข้ากัน

  3. ใส่กาแฟลงไป คนผสมให้เข้ากัน เทใส่แก้วน้ำแข็ง 

  4. ใส่นมลงในเหยือกสเตนเลส สตรีมนมจนร้อน เทแต่งด้านบนกาแฟ

6. ลาเต้มินต์

ลาเต้

            กาแฟลาเต้แก้วนี้ชื่อว่า ลาเต้มินต์ ใส่ไซรัปมินต์สีสวยและกลิ่นหอมเย็นสดชื่น ชงดื่มเองง่าย ๆ หรือชงขายก็สร้างความต่าง

ส่วนผสม ลาเต้มินต์

  1. เอสเปรสโซ 2 ชอต (60 มิลลิลิตร)

  2. ไซรัปมินต์ 30 มิลลิลิตร

  3. นมสด 130 มิลลิลิตร

  4. น้ำแข็ง

วิธีทำลาเต้มินต์

  1. ชงกาแฟเอสเปรสโซ

  2. ผสมนมสดกับไซรัปมินต์ 

  3. เทใส่แก้ว ใส่น้ำแข็งจนเต็มถ้วย เทกาแฟลงไปจนหมด

7. ฮาเซลนัทลาเต้

ลาเต้

          อีกหนึ่งกาแฟลาเต้ที่น่าสนใจนั่นคือ ฮาเซลนัทลาเต้ ใส่ไซรัปฮาเซลนัทกลิ่นหอมหวาน เพิ่มความละมุนจากนมสด

ส่วนผสม ฮาเซลนัทลาเต้

  1. เอสเปรสโซ 1 ชอต (30 มิลลิลิตร)

  2. ไซรัปฮาเซลนัท 20 มิลลิลิตร

  3. นมสด 240 มิลลิลิตร

  4. โฟมนม ตามชอบ

วิธีทำฮาเซลนัทลาเต้

  1. ชงกาแฟเอสเปรสโซ

  2. ใส่กาแฟลงในถ้วย

  3. ผสมนมสดกับไซรัปฮาเซลนัท เทใส่แก้วกาแฟ 

  4. ใส่นมลงในเหยือกสเตนเลส สตรีมนมจนร้อน เทแต่งด้านบนกาแฟ

             ใครไม่ชอบกาแฟรสเข้มข้น กาแฟลาเต้อาจเป็นคำตอบ มีหลายสูตรให้ได้เลือกทำกินทำขายกัน จับคู่กับเบเกอรี่อีกสักชิ้นรับรองเด็ด


 Latte   ,     

ขอบคุณข้อมูลจาก
coffeeknown.comcoffeefavour.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น