Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ

การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ 


เรื่องการสอบใบขับขี่มี 4 ตอน




ตอน 1 Provisional Driving Licence
ตอน 2 การเตรียมตัว
ตอน 3 Theory Test
ตอน 4 Practical Test



ขั้นต่อไป คือสอบปฏิบัติ หรือ Practical test ครับ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีคนสอบตกมากที่สุด ค่าเฉลี่ยในการสอบไม่ผ่าน มีมากกกว่า 50%  แปลง่ายๆ คือว่าค่าเฉลี่ยในการสอบของคนทั่วไป คือสอบ 2 ครั้งถึงผ่าน ฮือ ๆ


แม้แต่ผมก็อยู่ในค่าเฉลี่ยนี้ด้วย คือสอบครั้งแรกตกเหมือนกันครับ ขนาดขับรถเป็นมา 20 ปีแล้ว มีใบขับขี่เมืองไทยมา 17 ปี สอบรอบแรกยังตกเลย เพราะการสอบที่นี่มาตรฐานเค้าสูงครับ 



หลังจากผ่าน Theory Test แล้ว เราก็ต้องจองคิวสอบ Practical test ครับ ผ่านเว็บเช่นกัน เว็บเดียวกับที่จอง Theory test นั่นแหละครับ

//www.direct.gov.uk/en/Motoring/Motoringtransactions/DG_066356

เราก็เข้าไปจอง ข้อมูลที่ใช้ในการจองคือเบอร์ใบขับขี่ชั่วคราวของเรา และ Code ที่ได้มาพร้อมกับใบ Certificate ที่สอบผ่าน Theory ครับ เราก็เลือกศูนย์สอบที่ใกล้บ้านเราที่สุด เค้าจะมีเวลาให้เลือกได้ครับว่าจะสอบกี่โมง ค่าสมัครสอบ 62 ปอนด์ครับ

การสอบแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที สอบบนถนนจริง ตามเส้นทางที่กรรมการสอบจะเลือกให้เราครับ


ในวันสอบจริง ถ้าใครที่ลงเรียนขับรถ ก็ใช้รถของโรงเรียนนั่นแหละ แต่ถ้ามีรถเอง เราใช้รถเราได้ครับ รถทั่วไปจะใช้สอบได้ เช่นพวกรถ Hatchback 5 ประตู แต่รถเล็ก ๆ บางคันเช่น Ford KA จะไม่แนะนำนะครับ เค้าห้ามเลยแหละ ตามนี้ครับ

//www.direct.gov.uk/en/Motoring/LearnerAndNewDrivers/PracticalTest/DG_4022543

และเราต้องเตรียมอุปกรณ์ไปด้วย ได้แก่

1. กระจกมองหลังสำรองสำหรับให้กรรมการสอบครับ แบบติดกับกระจกหน้ารถ ซื้อได้ที่ Halfords ประมาณ 7 ปอนด์ ผมเตรียมไปด้วยกันเหนียว กรรมการบางคนใจดี เค้าจะใช้กระจกจากที่บังแดดแทนก็มีครับ แต่เตรียมไปจะดีกว่า พลาดพลั้งขึ้นมา เค้าไม่ให้สอบ เราจะเสียเงินฟรีๆ ครับ

2. ตัว L Plate ห้ามลืมครับ แปะหน้ารถหลังรถให้เรียบร้อย


3. ต้องมั่นใจว่ารถมีประกัน เสียภาษีถูกต้องนะครับ เพราะก่อนสอบเราจะต้องเซ็นชื่อรับรองว่ารถเราถูกกฎหมายทุกประการ


4. เอกสารที่ต้องพกไปในวันสอบ คือใบขับขี่ Provisional Licence ทั้งแบบบัตรแข็งและแบบกระดาษครับ Passport อยากพกไปก็ได้ แต่เค้าไม่ขอดูหรอก แต่ผมก็พกกันเหนียวไว้


วันสอบจริงก็ไปก่อนเวลาเล็กน้อย ไปนั่งรอให้ห้องรอครับ เราจะเห็นเพื่อนร่วมชะตากรรมคนอื่นๆ มานั่งรอเต็มไปหมด ตอนผมไปสอบ คนอื่นๆ จะมาพร้อมครูสอนขับ และใช้รถ ร.ร. ทั้งนั้น ผมเป็นคนเดียวที่ขับรถไปเอง พอถึงเวลา กรรมการสอบจะทยอยเดินมาแล้วเรียกชื่อเราครับ เราก็เดินออกไปพร้อมกรรมการ


ขั้นตอนแรกของการสอบคือการตรวจสายตาครับ กรรมการจะพาเราไปข้างนอก แล้วชี้ไปที่รถที่จอดริมถนนซักคันนึง แล้วให้เราอ่านป้ายทะเบียนรถให้ฟังครับ ตามกฎหมายเราต้องอ่านป้ายทะเบียนรถที่จอดห่างไป 20 เมตรได้ครับ ซึ่งรถที่กรรมการชี้ อาจจะจอดไกลกว่า 20 เมตร ถ้าเราอ่านไม่ได้หรือไม่ถูกก็ไม่เป็นไรครับ เราสามารถเดินขยับเข้าไปได้ รู้สึกว่าจะขยับไปได้ 3 ครั้ง ถ้ายังอ่านไม่ได้ มองไม่เห็น คราวนี้ต้องทดสอบที่ระยะ 20 เมตรตามกฎครับ ผมไม่เคยต้องทดสอบขนาดนี้เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง


แต่ถ้าทดสอบสายตาไม่ผ่านหละ ก็กลับบ้านครับ ไปตัดแว่นซะ สมัครใหม่ จ่ายเงินใหม่ แล้วถึงจะไปสอบอีกได้ครับ ซึ่งต้องเริ่มต้นทางตรวจสายตาก่อนเสมอ


ถ้าสายตาไม่มีปัญหา กรรมการจะให้เราพาไปที่รถครับ กรรมการจะตรวจก่อนว่ารถเราเหมาะสมที่จะใช้สอบไหม เดินดูรอบคัน ตรวจดูว่าเรามี L Plate เรียบร้อย แล้วจึงให้เราเซ็นเอกสารรับรองรถ


จากนั้นกรรมการอาจจะให้เราเปิดฝากระโปรงรถ แล้วถามถึงวิธีการตรวจสอบซ่อมบำรุงเบื้องต้น เช่นการตรวจระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก หม้อน้ำ น้ำที่ฉีดกระจก หรือกรรมการอาจจะเชิญเราเข้าไปในรถ แล้วถามคำถามอื่นๆ เช่น เราจะดตรวจสอบว่าไฟเบรกเราใช้ได้อย่างไร หรือจะรู้ได้ไงว่าเบรกเราไม่มีปัญหาครับ จะตรวจเช็คลมยางตอนไหน


จากนั้น ก็จะเป็นการสอบขับรถจริงครับ กรรมการจะอธิบายให้ฟังว่า เค้าจะบอกเราเองว่าจะให้ไปทางไหน เลี้ยวไหน หรือจะให้ทำอะไร เค้าจะบอกล่วงหน้า เราจะได้ไม่เกร็งครับ


เมื่อเราพร้อมแล้ว ก่อนอื่นเราต้องรัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยครับ ตั้งแต่ก่อน start เครื่อง และก่อน start เราควรเช็คก่อนว่าเกียร์รถอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง โดยการทดลองขยับคันเกียร์ไปมา อ้อ รถเราที่จอดอยู่ในช่องจอด ต้องติดเบรกมือไว้เสมอด้วยนะครับ ทำทุกอย่างให้ถูกต้องครบถ้วนให้กรรมการเห็นครับ เค้าจะไม่พูดไม่ถาม แต่จะสังเกตเราอย่างเดียว


พอเราเปิด switch on แล้ว รอแป๊บนึง ทำเป็นมองไฟเตือนต่างๆ บนหน้าปัดว่าทุกอย่าปกติก่อนครับ แล้วค่อย start เครื่อง เมื่อเครื่องติดแล้ว รอซักพัก มองไฟเตือนต่างๆ อีกรอบครับ กรรมการจะจ้องดูว่าเราทำอะไรบ้างอยู่แล้ว


จากนั้น ปลดเบรกมือครับ มองซ้ายสองขวาเช็คกระจก ก่อนให้สัญญาณไฟ แล้วก็ออกตัวได้ครับ เราเริ่มต้นสอบขับจริงๆ แล้ว


การขับรถที่นี่ ต้องเคารพกฎ MSM ครับ คือ Mirror Sign Maneuver คือก่อนทำอะไร เช่นออกตัว เปลี่ยนเลน ต้องดูกระจกก่อน แล้วจึงให้สัญญาณ เมื่อปลอดภัยแล้วจึงเปลี่ยนเลนหรืออกตัว หรือหยุดครับ


ซึ่งในการสอบจริง ก่อนเปลี่ยนเลน ก่อนหยุด ก่อนเลี้ยว เราต้องมองกระจกก่อน แล้วจึงให้สัญญาณ ถึงจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลนได้ครับ ถ้าเราทำไม่ครบ หรือเผลอ เช่นเปิดไฟเลี้ยวก่อนที่จะมองในกระจกมองหลัง กรรมการจะบันทึกไว้ครับ ถือเป็น Driving Fault ซึ่งเราจะทำผิดแบบนี้ได้ไม่เกิน 15 ครั้งตลอดการสอบ


การสอบ Practical test จะมีระดับความผิดพลาด 3 ระดับครับ คือ


1 Dangerous Fault ขับอันตราย เช่นเราตัดหรือปาดหน้าชาวบ้าน หรือกรรมการเห็นว่าการขับของเราอันตราย เค้าจะให้เราหยุดสอบแล้วกลับศูนย์สอบเลยครับ การทำ Dangerous Fault แค่ครั้งเดียว ก็ตกเลยครับ ไม่มีโอกาสแก้ตัว



2 Serious Fault อันนี้รองจาก Dangerous Fault ครับ เช่น การกลับรถหรือถอยหลังโดยไม่มีการเช็คจุดบอดหรือ Blind spot ก่อน ใช้แต่กระจกมองข้างหรือมองหลัง ถือว่าระมัดระวังไม่เพียงพอ หรือเวลาถอยหรือกลับรถ รถเราชนขอบถนนครับ ผิดแบบนี้แค่ครั้งเดียวก็สอบตกเลยเช่นเดียวกับ Dangerous Fault ครับ ผิดแบบนี้เศร้า เพราะกรรมการจะให้เราขับต่อไปจนสอบเสร็จ ถึงจะบอกเราตอนหลังครับ ระหว่างนั้นจะไม่บอกเราเลย



3 Driving Fault เช่นการเข้าเลนผิด ลืมเช็คกระจกก่อนให้สัญญาณ จอดรถติดไฟแดงล้ำเส้นหยุด ฯลฯ แบบนี้ผิดได้ไม่เกิน 15 ครั้งครับ


การสอบ กรรมการจะให้เราขับไปตามเส้นทางต่างๆ แล้วแต่กรรมการจะเลือกครับ ในการสอบ กรรมการจะให้เราทำอย่างใดอย่างหนึ่ง 2 อย่างจากทั้งหมดนี้ครับคือ

1 กลับรถบนถนน (the turn in the road) กรรมการจะให้เราเข้าซอย แล้วให้กลับรถกลางถนนเลยครับ เราต้องระวังไม่ให้ชนขอบถนน รวมทั้งก่อนและระหว่างกลับรถ เราต้องมองซ้ายมองขวาเช็คจุดบอดต่างๆ ทุกครั้งก่อนออกตัวหรือขยับรถครับ ถ้ากลับรถอย่างเดียว ไม่ได้เหลียวมองรอบๆ ก่อนและระหว่างการกลับรถ ถือว่า observation ไม่พอ เป็น Serious Fault ตกเลยครับ ผมตกมาแล้ว

2 Reverse around Conner ครับ กรรมการจะให้เราจอดรถแล้วเลยทางแยกซ้ายมือ แล้วให้เราถอยท้ายเข้าไปในถนนแยกทางซ้ายนั้นครับ โดยให้รถเราไม่อยู่ห่างขอบถนนมากเกินไป เช่นเดียวกันอันแรก เราต้องมองซ้ายมองขวาเช็คจุดบอดต่างๆ ทุกครั้งก่อนออกตัวหรือขยับรถครับ ถ้ากลับรถอย่างเดียว ไม่ได้เหลียวมองรอบๆ ก่อนและระหว่างการกลับรถ ถือว่า observation ไม่พอ เป็น Serious Fault ตกเลยครับ ผมตกมาแล้ว เจอสองอันนี้ ตกจากทั้งสองอัน

3 Parallel Parking คือถอยจอดเข้าระหว่างรถที่จอดริมถนนครับ กรรมการจะให้เราไปจอดตีคู่ข้างๆ รถที่จอดริมถนนซักคัน แล้วให้เราถอยเข้าจอดหลังรถนั้นนั้นครับ

4 ถอยจอดเข้าซองครับ คือการถอยท้ายเข้าจอดตามช่องจอดรถในลานจอดทั่วไปครับ อันนี้มักจะสอบสุดท้ายเลย


5 Emergency Stop ครับ กรรมการจะให้ขับไปเรื่อยๆ แล้วยกมือให้สัญญาณให้เราหยุดรถทันที เราก็หยุดให้เร็วที่สุดครับ มือทั้งสองกำแน่นบนพวงมาลัยไว้ ไม่ต้องมองหลังเช็คกระจก หรือให้สัญญาณใด ๆ ก่อนหยุดครับ กรรมการจะเช็คให้ก่อนแล้ว แค่หยุดให้เร็วที่สุดครับ แล้วก็ควบคุมรถให้ได้ ไม่สะบัดหรือไถล


นอกจากพวกนี้แล้ว กรรมการจะขอให้เราจอดรถข้างทางหลังคันอื่นครับ อาจจะเป็นบนเนินด้วย แล้วให้ออกตัวใหม่ เค้าจะเช็คว่าในการจอด เราทำขั้นตอนถูกต้องไหม เช่น มีการใช้เบรคมือตอนจอดไหม ซึ่งควรจะใช้นะครับ และก่อนออกตัวใหม่ เราได้เช็คจุดบอดต่างๆ โดนการเหลียวหลังหรือไม่ การใช้แต่กระจกมองหลังและมองข้างไม่เพียงพอครับ มีการให้สัญญาณถูกต้องหรือเปล่า

เค้าจะให้เราหยุดและออกตัวแบบนี้ 2 ครั้งครับ อีกอย่างที่ต้องระวังคือการขับผ่านวงเวียนครับ ที่อังกฤษมีวงเวียนเยอะมาก เราต้องใช้ให้ถูกเลนและให้สัญญาณให้ถูกกฎนะครับ



สำหรับข้อมูลคำแนะนำเพิ่มเติม แนะนำ link เหล่านี้ครับ มีตัวอย่างและคำแนะนำต่างๆ ให้ดูด้วย
//www.2pass.co.uk/pract.htm

อันนี้เป็นประโยชน์มากครับ จะมีสอน How to do //www.2pass.co.uk/cockpit.htm จะบอกว่าเทคนิคต่างๆ เราควรทำอย่างไร มีรูปประกอบให้เข้าใจง่ายด้วย

//www.squidoo.com/practical-driving-test อันนี้เช่นการ มีคำอธิบายต่างๆ เป็นประโยชน์

//athingforcars.com/driving-safety/why-people-fail-driving-tests/ อันนี้บอกว่าทำไมคนถึงสอบตกกันครับ ดูไว้ จะได้ไม่ทำ

นี่เป็นตัวอย่าง Link ต่างๆ จริงๆ แล้วมีมากกว่านี้ครับ แต่เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้น


เมื่อสอบเสร็จ กลับมาศูนย์สอบแล้ว กรรมการจะแจ้งเราเลยว่าเราผ่านหรือตก ถ้าเราตก เค้าจะบอกว่าเราตกเพราะอะไร มีใบเอกสารบอกข้อผิดพลาดของเราให้ ซึ่งเราสามารถสอบใหม่ครั้งต่อไปได้หลังจาก 10 วันครับ ต้องสมัครและเสียตังค์ใหม่นะครับ 62 ปอนด์


ถ้าเราผ่านหละ หลังจากรอให้เราหุบยิ้มแล้ว กรรมการจะขอ Provisional Licence เราครั้ง ทั้งสองใบ แล้วเค้าจะถามเราเรื่องที่อยู่อีกที จากนั้นเค้าจะออกใบรับรองให้เรา 1 ใบว่าเราสอบผ่านแล้ว พร้อมหนังสือคู่มือสำหรับนักขับมือใหม่ แล้วเราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ กลับบ้านได้เลย เดินไปเอา L Plate ออกจากรถได้แล้ว


ใบขับขี่ใบใหม่ ทางกรรมการสอบจะจัดการส่งเอกสารต่างๆให้เรา และทาง DSA ที่ดูแลเรื่องอการออกใบขับขี่ จะส่งใบขับขี่ Full Driving Licence มาให้เราที่บ้านเองครับ เราแค่นอนตีพุงปุ ๆ รอที่บ้านเท่านั้น


คำแนะนำสำหรับการสอบนะครับ คือเค้าต้องการดูว่าเรามีมาตรฐานการขับถึง standard ที่นี่หรือยัง หัวใจของการสอบคือการระมัดระวังและรอบคอบที่สุดครับ ก่อนออกตัว ระหว่างขับ รถหว่างถอย ต้องเหลียวมองเช็คให้รอบเช็คตลอดครับ

ออก action มาก ๆ ให้เห็นว่าเรารอบคอบที่สุดแล้ว ป้ายสัญญาณเตือนต่างๆ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ขับเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คอยเช็คกระจกมองหลังบ่อยๆ ก็จะผ่านได้ไม่ยากครับ ที่นี่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก


ดังนั้นไม่แปลกใจเลยจากการขับรถที่นี่มา 2-3 เดือน ผมแทบจะไม่เจอการแซงลัดคิว หรือแย่งเลนกันแบบเมืองไทยเลยครับ รถติดยาวแค่ไหน คนที่นี่ก็จะรอในเลน ไม่มีแบบวิ่งขวาแซงยาวเข้ามาปาดแบบบ้านเรา มารยาทคนขับที่นี่โดยรวมผมว่าดีกว่าบ้านเราเยอะครับ ส่วนนึงอาจจะเพราะใบขับขี่เค้า ไม่ได้มาง่ายๆ แบบบ้านเราด้วย แต่ในเมืองใหญ่อย่างลอนดอนไม่ทราบนะครับ ผมขับแต่เมืองบ้านนอกเท่านั้น แต่ที่ขับแย่ที่สุดก็คล้ายๆ บ้านเรา พวก Taxi ครับ

จบแล้วครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องการสอบบ้างนะครับ



Pass mark and test result


You’ll get the result at the test centre after taking the theory test. You must pass both parts to pass the test.
Test part Pass mark Points available
Multiple-choice questions 43 50
Hazard perception 44 75
ค่าใช้จ่ายสำหรับสอบใบขับขี่ใน  UK


Driving test costs





A theory test costs £23 for cars, and the driving test costs £62. The full costs for lorries, buses, motorcycles and other vehicles are shown in the tables.
These are the prices to book your theory test and book your driving test through GOV.UK. Unofficial websites usually charge more.

Car

Test type Weekdays Evenings, weekends
and bank holidays
Theory test £23 £23
Abridged theory test - you must have a Safe Road User Award to take this £18 £18
Driving test £62 £75
Extended driving test for disqualified drivers £124 £150
























ตอน 1 Provisional Driving Licence
ตอน 2 การเตรียมตัว
ตอน 3 Theory Test






ที่มา  ::  การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ ตอน 4 Practical test   ; https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vijak&month=12-2009&date=16&group=5&gblog=6




ทความที่เกี่ยวข้อง
แนะนำตัวอย่างข้อสอบ Theory Driving Test in the UK
แนะนำตัวอย่างข้อสอบใบขับขี่ในสหราชอาณาจักร UK
ตัวอย่างข้อสอบ Hazard Perception Test in the UK
การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ

การทำใบขับขี่ชั่วคราวของอังกฤษ (Provisional Driving Licence).
การสอบใบขับขี่ของอังกฤษ(Booking your test)



3 ความคิดเห็น:

  1. การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ ตอน 3 Theory Test

    เรื่องการสอบใบขับขี่มี 4 ตอนนะครับ อนุญาตให้เผยแพร่ คัดลอก สำเนา ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ
    ตอน 1 Provisional Driving Licence
    ตอน 2 การเตรียมตัว
    ตอน 3 Theory Test
    ตอน 4 Practical Test




    เอาหละ ตอนนี้เราขับรถได้แล้ว พอรู้กฎแล้ว อยากได้ใบขับขี่จริงๆ แล้ว ต้องทำอย่างไร ก็ต้องไปสอบสิครับ การสอบใบขับขี่ที่นี่ จะมีสองขั้นตอน คือภาคทฤษฏี และปฏิบัติครับ


    การสอบภาคทฤษฎี หรือ Theory Test จะมีศูนย์สอบต่างๆ ตามเมืองใหญ่ๆ ให้เราเลือกสอบตามวันเวลาที่เราต้องการได้ ค่าสมัครสอบ 30 ปอนด์ จองวันเวลา สถานที่สอบผ่านเวบได้เลยที่

    //www.direct.gov.uk/en/Motoring/Motoringtransactions/DG_066356


    ในการสอบใช้เวลาสอบประมาณไม่เกิน 2 ชั่วโมงครับ การสอบจะมี 2 ส่วน

    ส่วนแรกเป็น Multiple Choices 50 ข้อ ให้เวลาประมาณ 50 หรือ 58 นาที ผมจำไม่ได้แล้ว ส่วนนี้ต้องทำถูกอย่างน้อย 43 จาก 50 ข้อครับ บางข้อมีหลาย Choices ที่ถูก ก็ต้องเลือกถูกทั้งหมดทุกอัน จึงจะได้คะแนนข้อนั้น ครับ ไม่ง่ายเลย ดังนั้นการเตรียมพร้อม ทำข้อสอบมาก ๆ เท่านั้น ที่จะช่วยเราให้ทำได้


    หลังจากสอบตรงนี้เสร็จ จะมีเวลาให้เราพักประมาณ 3 นาที แล้วสอบต่อในส่วนที่ 2 ครับ เรียกว่า Hazard Perception คือเค้าจะมี Clip จากภาพจริงเหมือนขับรถ แล้วให้เราคลิกเมาส์ทุกครั้งที่พบอะไรที่ต้องระวัง หรือสถานการณ์ในการขับรถเปลี่ยน
    เช่นเจอป้ายต่างๆ
    เห็นคนข้ามถนน
    เห็นคนเดินถนน
    เห็นรถเลี้ยวออกมา

    เราต้องคลิกให้เหมาะสมกับเวลาครับ เห็นอะไรน่าระวังปุ๊บ คลิกปั๊บ ถ้าคลิกช้าไป คะแนนจะลดลง

    แต่ถ้าคลิกบ่อยๆ คลิกตลอดเวลา ไม่มีอะไรก็ตะบี้ตะบันคลิกอยู่นั่นแหละ จะถูกถือว่าโกง จะถูกเตือนและอาจสอบตกได้ครับ

    ดังนั้นเราต้องระวัง มองจอให้ดีๆ เห็นอะไรที่ดูน่าสังเกตก็คลิกครับ ทุกครั้งที่คลิก จากมีธงแดงขึ้นบนจอให้รู้ว่าเราคลิกแล้ว Clip จะมีหลาย Clip นะครับ แต่ละ Clip ยาวประมาณ 2-3 นาที ทำจนเสร็จ ส่วนของ Hazard Perception นี่ เราต้องได้คะแนนอย่างน้อย 44 จากเต็ม 75 คะแนนครับ

    //www.theory-test.co.uk/asp/hazard_perception_info.asp



    สอบเสร็จ เราก็จะรู้ผลเลย ถ้าผ่าน เราจะได้ใบ Certificate พร้อม code ที่เราต้องใช้ในการสอบขั้นต่อไป


    ผลการสอบ Theory Test จะมีอายุ 2 ปีครับ คือเราต้องไปสอบขั้นต่อไปให้ผ่านภายใน 2 ปี ไม่เช่นนั้นจะต้องสอบ Theory Test ใหม่ครับ

    ตอบลบ
  2. การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ ตอน 2 การเตรียมตัว

    เรื่องการสอบใบขับขี่มี 4 ตอนนะครับ อนุญาตให้เผยแพร่ คัดลอก สำเนา ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ
    ตอน 1 Provisional Driving Licence
    ตอน 2 การเตรียมตัว
    ตอน 3 Theory Test
    ตอน 4 Practical Test



    หลังจากมี Provisional Driving Licence แล้ว เราก็จะมีสิทธิ์ขับรถ หรือหัดขับรถใน UK ได้แล้ว แต่แค่หัดขับนะครับ ผู้ที่หัดขับจะไม่มีสิทธิขับบนมอเตอร์เวย์นะครับ แล้วก็ต้องไปซื้อแผ่นอักษรรูปตัว L (L Plate) มาแปะไว้ที่ฝากระโปรงรถและท้ายรถครับ เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่คนอื่นๆ รู้ว่า นี่มือใหม่(แม้จะเก่ามาจากเมืองไทยก็ตาม) ไม่แปะนี่ผิดกฎหมายนะครับ


    ถ้าใครอยากรู้ว่าไอ้ L Plate นี่หาซื้อได้ที่ไหน ก็ที่ร้าน Pound World หรือร้าน 1 ปอนด์นั่นแหละมีครับ เป็นแบบแม่เหล็กแปะรถได้เลย มีตัว P สำหรับใช้ประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่าสอบใบขับขี่ผ่านแล้วด้วย ทีแรกผมเดินร้าน 1 ปอนด์บ่อยๆ ไม่ยักกะเห็น ไปสั่งซื้อจาก Ebay 1.86 ปอนด์ ไปเห็นตอนหลังน้ำตาแทบร่วง ซื้อแพงไปตั้ง 86 เพนซ์



    แล้วเราจะเตรียมตัวสอบยังไงกันหละ จะแนะนำให้นะครับ สำหรับคนที่ขับรถไม่เป็น หรือขับเป็นแต่เกียร์ออโต้ แนะนำว่าโน่นเลยครับ ไปหา ร.ร. สอนขับรถซะ จะขับรถที่อังกฤษอย่าไปหวังหาเกียร์ออโต้ครับ คนที่นี่เค้าไม่ใช้กัน แถมถ้าหาได้ เราใช้รถเกียร์ออโต้ไปสอบใบขับขี่ เราจะได้ใบขับขี่ที่อนุญาตให้ขับแต่เกียร์ออโต้ได้เท่านั้น ดังนั้น ไปเรียนเลยครับ ค่าเรียนขับรถตอนนี้ ประมาณ 20-25 ปอนด์ต่อชั่วโมงครับ แล้วแต่โรงเรียน แล้วแต่โปรโมชั่น ราคานี้รวมค่ารถค่านำมันค่าครูสอนแล้วครับ


    ถ้าจะให้เพื่อนหรือคนรู้จักสอน ตามกฏหมายคนนั้นต้องมีใบขับขี่ Full UK มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปีครับ


    สำหรับคนที่ขับรถเกียร์กระปุกเป็นมาจากไทยแล้ว ขับมา 15 ปีไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ จะมาขับที่นี่ ถ้าพอมีทุนทรัพย์แนะนำให้ไปเรียนซัก 4-5 ชม เป็นอย่างน้อยครับ เพราะกฎเกณฑ์ต่างๆ หลายอย่าง มารยาท ข้อปฏิบัติต่างๆ หลายอย่างไม่เหมือนบ้านเราครับ จะมาปาดซ้ายแซงขวาขับแข่งแย่งเลนเบียดกันท่าไม่ให้เข้าเปิดไฟสูงไล่แบบบ้านเรา ที่นี่เค้าไม่ทำกันครับ ดังนั้นให้ผู้รู้จริงแนะนำจะประหยัดเวลาและรู้วิธีขับที่ถูกต้องได้มากกว่า


    แล้วถ้าทุนทรัพย์จางค่อนข้างมากเช่นผม หรือทรัพย์มีแต่ไม่อยากจ่าย ทำยังไงดี เอ่อ ผมใช้วิธีไปยืมหนังสือ CD DVD คู่มือต่าง ๆ จากห้องสมุดมหาวิทยาลัยครับ โชคดีมากที่มหา’ลัยที่มาเรียนเค้ามีหนังสือพวกนี้ในห้องสมุดด้วย ผมยืมมาหลายเล่ม


    เล่มแรกเป็นรวมข้อสอบ Theory test ทั้งหมด ของปี 2008-2009 ข้อสอบมีประมาณ 1000 ข้อ มาจากข้อสอบจริงทั้งหมดพร้อมเฉลย เอามาอ่านและลองทำดูครับ เราจะศึกษากฎจราจร ข้อควรปฏิบัติต่างๆ ได้จากการอ่านข้อสอบจริงเหล่านี้ ซึ่งเค้าแบ่งเป็นหมวดหมู่ให้หมด
    เช่นเรื่องกฎจราจร
    สัญญาณต่างๆ
    การระวัง
    ฯลฯ 10 กว่าหมวดครับ

    แล้วก็ยืม CD ตัวอย่างข้อสอบของปี 2009 มาด้วย 1 แผ่น ที่เราสามารถทดลองทำข้อสอบเหมือนสอบจริงได้ เรียกว่า Mock test ซึ่งจะกำหนดเวลาสอบ และจำนวนข้อสอบเหมือนจริง

    เราสามารถ review ดูผล ดูเฉลยตอนหลังได้ มีการวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งในการทำข้อสอบให้ด้วย


    และไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมข้อสอบพวกนี้เค้าถึงเปิดเผยได้ เพราะที่นี่เค้าอยากให้คนสอบผ่านครับ ไม่ใช่สอบตก ยิ่งคนเอาข้อสอบพวกนี้ไปอ่านไปทำมาก ก็ยิ่งรู้มาก จะได้ปฏิบัติตามข้อบังคับต่างๆ ได้ถูกต้องขึ้น นี่ link หนังสือ CD ต่างๆ ครับ

    //www.tsoshop.co.uk/bookstore.asp?FO=1162833&trackid=000177


    ข้อสอบพวกนี้ต้องหัดทำบ่อยๆ ครับ เพราะในการสอบจริง เราต้องได้อย่างน้อย 43 คะแนนจาก 50 คะแนน ใครที่เพิ่งมาอังกฤษใหม่ๆ ศัพท์แสงต่างๆ ยังไม่คุ้นเคย ต้องอ่านและทำพวกนี้มาก ๆ ครับ ไม่เตรียมตัวให้ดี โอกาสตกมีสูง ผมทำข้อสอบ Mock test มากกว่า 40 ครั้งครับ ก่อนไปสอบจริง ยังไม่เคยได้ 50 คะแนนเต็มเลยซักครั้ง ข้อสอบบางข้อง่าย แต่บางข้อต้องเดาครับ บางข้อทำแล้วลืม จำไม่ได้ ดังนั้นทำบ่อยๆ ทำเยอะ ๆ จึงจะได้เปรียบ


    อ้อ คนที่ไปเรียนขับกับครู ก็ต้องหาเอกสารพวกนี้ CD พวกนี้มาหัดทำเหมือนกันนะครับ เพราะเวลาไปสอบ เราเป็นคนสอบ ไม่ใช่ครู เรียนกับครูอย่างเดียว เราแค่รู้วิธีขับ ไม่รู้กฎพียงพอครับ

    ตอบลบ
  3. การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ ตอน 1 Provisional Driving Licence

    เรื่องการสอบใบขับขี่มี 4 ตอนนะครับ อนุญาตให้เผยแพร่ คัดลอก สำเนา ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ
    ตอน 1 Provisional Driving Licence
    ตอน 2 การเตรียมตัว
    ตอน 3 Theory Test
    ตอน 4 Practical Test


    เกริ่นก่อน ที่เขียน blog นี้มาเพราะก่อนหน้าที่ผมจะสอบใบขับขี่ของประเทศอังกฤษนี่แหละครับ ตอนนั้นภาษาอังกฤษก็อ่อนแอมาก ไม่อยากอ่านภาษาอังกฤษมาก ขี้เกียจเปิดดิกฯ แต่จะเริ่มต้นยังไงก็ไม่รู้ ลองหาข้อมูลใน Net ก็ไม่ค่อยมีใครเล่าขั้นตอนละเอียด ๆ ไว้เป็นภาษาไทย ตอนนี้สอบผ่านแล้ว เลยเอามาแนะนำเผื่อใครภาษาอังกฤษอ่อนแอ หรือเพิ่งไปถึงใหม่ๆ แต่จำเป็นต้องขับรถนะครับ จะได้รู้ขั้นตอน


    คนต่างชาติที่เดินมาเข้ามาในประเทศอังกฤษ และต้องการขับรถในอังกฤษนั้น สามารถใช้ใบขับขี่สากลที่ทำมาจากประเทศไทยได้ครับ

    โดยจะมีระยะเวลาในการใช้ได้ ไม่เกิน 1 ปีนับจากวันเดินทางเข้ามาพำนักอยู่ในอังกฤษ


    ในกรณีที่อยู่ยาวกว่านั้น ต้องใช้ใบขับขี่ของอังกฤษครับ ยกเว้นคนที่มีใบขับขี่ของประเทศในเครือสหภาพยุโรป หรือใบขับขี่ของบางประเทศ เช่นสิงคโปร์ สามารถ apply ใบขับขี่ของอังกฤษได้เลย แต่สำหรับคนชาติอื่นๆ ซึ่งต้องการอยู่ในอังกฤษเกินกว่า 1 ปี และต้องการขับรถอย่างถูกกฎหมาย ควรจะไปสอบใบขับขี่ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ


    ข้อดีอีกประการนอกจากถูกกฎหมายคือ ถ้าคิดจะซื้อรถที่นี่ รถทุกคันต้องมีประกันครับ แล้วถ้าเราไม่มีใบขับขี่ Full UK ค่าประกันรถจะแพงมาก ปีนึงไม่ต่ำกว่า หนึ่งพันปอนด์ครับ แต่ถ้าเรามีใบขับขี่ UK ค่าประกันจะถูกลงมากกว่าครึ่งเลย (แต่มีใบขับขี่ปีแรกก็ยังแพงครับ ประมาณ 800++ ปอนด์ แต่ถูกกว่าใบขับขี่อินเตอร์) และตามกฎหมายที่นี่ รถทุกคันต้องมีประกันครับ ไม่งั้นค่าปรับจะแพงมาก


    ขั้นตอนการสอบใบขับขี่ที่นี่จะยุ่งยากและซับซ้อนกว่าเมืองไทยครับ ต้องใช้ระยะเวลาและการสอบหลายอย่าง


    ขั้นตอนแรกในการเริ่มต้นสำหรับผู้ที่ต้องการใบขับขี่คือการสมัครขอใบขับขี่ชั่วคราว (Provisional Driving Licence) ครับ ใบขับขี่ชั่วคราวใช้ในการหัดขับรถ และต้องใช้ในการสมัครสอบใบขับขี่จริงด้วย สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่สากล หรือใบขับขี่จากเมืองไทยมาแล้ว จะสอบใบขับขี่ที่นี่ ก็ต้องขอใบขับขี่ชั่วคราวก่อนเช่นกันครับ

    link รายละเอียดครับ //www.direct.gov.uk/en/Motoring/DriverLicensing/NeedANewOrUpdatedLicence/DG_10012514


    การขอใบขับขี่ชั่วคราวทำไม่ยากครับ แค่ไปขอแบบฟอร์มที่ทำทำการไปรษณีย์ (Post Office) สามารถขอได้ฟรีครับ แล้วก็มากรอกรายละเอียดต่างๆ ของเรา เช่นวันเดือนปีเกิด เตรียมรูปถ่ายไว้ 1 ใบ ขนาดเดียวกับที่ใช้ขอ VISA นั่นแหละ เพราะต้องแปะเข้าไปในใบสมัครด้วย


    ผู้ที่จะขอใบขับขี่ชั่วคราว ต้องมีที่พักเป็นหลักแหล่งนะครับ เพราะเราต้องกรอกที่อยู่ที่เค้าจะส่งเอกสารมาให้ด้วย

    เมื่อกรอกรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเตรียมเอกสารประกอบการสมัคร ในที่นี่จะแนะนำสำหรับคนไทยนะครับ เอกสารที่ต้องใช้คือ Passport ตัวจริงครับ หรือใครที่ได้บัตรประจำตัวเป็นบัตรแข็งแบบใหม่ ก็ใช้บัตรนี้ได้ แต่ต้องใช้ตัวจริงเท่านั้น ส่วนสำเนาไม่ต้องครับ ดังนั้นใครที่มีความจำเป็นต้องใช้ Passport หรือบัตรประจำตัวภายใน 2 อาทิตย์ข้างหน้า อย่าเพิ่งสมัครครับ


    แต่ข้อดีของการทำเอกสารต่างๆ ที่นี่คือง่ายมาก เอกสารประกอบแทบไม่จำเป็น ไม่เหมือนบ้านเรา ต้องมีบัตรประชาชน สำเนา 2 ชุด สำเนาทะเบียนบ้าน 2 ชุด แต่ที่นี่ไม่ต้องเลยครับ แค่ใบสมัครที่กรอกเรียบร้อย รูปถ่าย 1 ใบ แปะในใบสมัคร เค้ามีช่องให้แปะ มีกาวพร้อม พร้อมกับ Passport ตัวจริง กำเงินอีก 50 ปอนด์ค่าสมัคร เดินไปที่ที่ทำการไปรษณีย์ได้เลยครับ ซื้อธนาณัติหรือตั๋วแลกเงินที่ที่ทำการไปรษณีย์ได้เลย


    เอาเอกสารทั้งหมดใส่ซอง จ่าหน้าซองให้ถูกต้องส่งไปที่ Driver and Vehicle Licensing Agency's (DVLA) แต่ต้องระวังตอนจ่าหน้าซองนิดนึงนะครับ เพราะมีหลายแบบ ถ้าเป็นคนอังกฤษเอง จ่าหน้าซองส่งไปที่นึง คนต่างชาติส่งไปอีกที่ คนละรหัสไปรษณีย์กัน อย่าส่งผิดนะครับ เพราะมันมีหน่วยงานย่อยหลายหน่วย


    จากนั้นก็นอนตีพุงปุๆ รอครับ ตามในเอกสารบอกว่า 2 สัปดาห์ แต่ผมรอประมาณ 5-6 วันก็ได้แล้วครับ Passport ส่งกลับมาให้ก่อน ใบขับขี่ชั่วคราวส่งมาให้วันต่อมา


    ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าธรรมเนียมขอ Provisional Licence 50 ปอนด์ ค่าตั๋วแลกเงินที่ไปรษณีย์ 5 ปอนด์ ค่าส่งแบบลงทะเบียน(เพราะกลัว Passport หาย) 4.95 ปอนด์ รวมแล้วประมาณ 60 ปอนด์ครับ นี่แค่ใบขับขี่ชั่วคราวเองนะครับ



    หลังจากนั่งๆ นอน ๆ รอใบขับขี่ชั่วคราวประมาณ 1 สัปดาห์ ใบขับขี่ก็ถูกส่งมาครับ ใบขับขี่ที่นี่จะเป็นบัตรพลาสติกแข็ง 1 ใบ แล้วก็แบบกระดาษอีก 1 ใบ เวลาใช้ต้องใช้คู่กัน ห้ามหายนะครับ เก็บไว้ให้ดี เพราะต้องใช้ทั้งสองใบสองแบบนี้ตอนสอบใบขับขี่จริง

    ตอบลบ